ฉันเหมือนรู้สึกไปทำเศษขนมปังตกไว้ที่ไหนอีกแล้ว (ทำตกกับโปรยความหมายไม่เหมือนกันสักหน่อย..)
เหมือนบางใครส่งเทียบมาเยือน กระตุกจิตสำนึก "หากต้องตายเพียงดายเดียว"
ความคิดสารพันของฉันเหมือนถูกจี้ด้วยกระแสไฟฟ้า ฉันอ่อนไหวเกินไปหรือเปล่า
หรือแค่พรั่นพรึงกับสิ่งที่สัมผัสไม่ได้ที่รออยู่เบื้องหน้า หรือแค่สัมผัสได้ถึงความดายเดียว
ความตายมีอะไรน่ากลัว ? ความตายเป็นสิ่งสวยงาม แต่จะตายอย่างไรให้สวยงาม
ฉันต้องคิดอย่างนี้ใช่มั้ย ? ในช่องว่างระหว่างโลกข้างนอกกับโลกข้างใน
แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน แค่ฉันเอาไว้โยงกับหนังที่น่าสนใจสักเรื่อง Dead Poets Society
แค่ฉันจะเอา ครูจอห์น คิตติ้ง และ นีล นูวันดา กับพลังเสรีภาพที่ซ่อนเร้นในทั้งสองคน
มาเชื่อมโยงเด็กอัจฉริยะในความรับผิดชอบนี่ต่างหาก ฉันจะทำสำเร็จไหมเล่า ?
ฉันกำลังค้นหาโลกของออทิสติค ฉันกำลังฝึกทักษะการใช้พลังชีวิตในอีกหนึ่งมุมมอง
ท่ามกลางความรีบเร่งฉันหยุดตัวเอง ฉันเข้ามุมตัวเองและอย่างเงียบเงียบ
ฉันกำลังทดลองดึงพลังสร้างสรรค์ภายใน ปล่อยพลังชีวิตที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเองของออทิสติค
ฉันจะหยุดโลกข้างนอกของเธอ ผลักดันโลกภายในให้ไปพร้อมๆกัน
ฉันจะใช้ธรรมชาติและบทกวีสร้างโลกใหม่ให้เธอ
ฉันจะทำได้ไหมเล่า หรือความคิดต้องตายเพียงดายเดียว?
ในทุกความตายมีอะไรน่ากลัวเสียที่ไหนกัน?
วันใดที่เผลอหลุดขั้วจากโลกหนึ่งสู่โลกหนึ่งทั้งที่ขาดภูมิคุ้มกัน
นั่นต่างหากมั้ยที่เป็นการตายก่อนตาย
ตายก่อนตายต่างหากมั้ยคือความตายที่น่ากลัว ?
โลกข้างในกับโลกข้างนอกคงทิ้งช่องว่างห่างกันไปทุกขณะจิต
โลกข้างในของฉันวิ่งตามโลกข้างนอกไม่ทันแล้วมัง
ขึ้นต้นเป็นมะลิซ้อนแตกใบอ่อนเลยเป็นมะลิลา
จบมันอย่างนี้เลย.อย่างงเลยนะ ฉันเองก็งงเหมือนกัน
ก็โลกข้างนอกมันไวงัย แล้วโลกข้างในมันก็ช้าซะ..
๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๒
วันใดที่เผลอหลุดขั้วจากโลกหนึ่งสู่โลกหนึ่งทั้งที่ขาดภูมิคุ้มกัน
นั่นต่างหากมั้ยที่เป็นการตายก่อนตาย
ตายก่อนตายต่างหากมั้ยคือความตายที่น่ากลัว ?