Bloggang.com : weblog for you and your gang
ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
ลานอโศก
ห้องบริหารจิต
รอยอินทร์
ศิลปวัฒนธรรมไทย
วิ่งตามนาย
ข้อคิดคำเขียน
มองผ่านเลนส์
เพลงภูต
ร่ำไปในใบเรียว
ปลายทางที่โค้งฟ้า..ฯ
เรื่องสั้นหลายวันจบ
มีสุขร่วมเสพ..ฯ
เก็บรักมาเก็บไว้ที่ในรัก
อโรคยาปรมาลาภา
คลีนิคกายภาพ
วิทยายุทธ
แสนรักษ์
เพลงเพื่อแผ่นดิน
Music Box
เพลงเพื่อคุณ
MV Romance XL
MV น่ารัก
เพลงประกอบ
ฟังเพลงออนไลน์
รวมเพลงขิม
รวมเพลงขลุ่ย
เพลงลูกทุ่งไทย
ห้องภาพ
คนแถวหน้า
แดนสนธยา
มุมเตือนภัย
ถนนดวงดาว
บ้านและสวน
ตกแต่งสวน
ท่องไปในโลกกว้าง
คู่สร้าง-คู่สม
มุมซ่อมสวย
หยุดก่อนโลก..ฉันจะลง
ทัศนา-จร
เวทีดาว
ตลาดนัดงาน
เก็บออมรอมจ่าย
ซ่อมได้
ครัวไทย
ไทยน้ำทิพย์
บ้านเล็กในป่าใหญ่
ย่อโลก
หน้าต่างโลก
แฟชั่น
ชีวิตต้องสู้
คนรักรถ
กระฉ่อนเว็บ
งานสร้าง
กฏ+หมาย
สินทรัพย์
ศาสตร์แห่งตัวเลข
สมุนไพรไทย
อัญมณี
เทคนิคการถ่ายภาพ
รวมโค้ดแต่งบล็อก
มุมกีฬา
เรือนจำกลาง
สาวเอยจะบอกให้
ระเบียงรุ้ง
Lab
<<
กุมภาพันธ์ 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
1 กุมภาพันธ์ 2553
ถนนสายนี้กลับบ้าน
ความนัย(ใจ)
อันเป็นรักนิรันดร
ปางบุญ(ก่อนจะเหลือนกเงือกตัวสุดท้าย)
All Blogs
:::ดอกไม้ในรอยเท้า..ที่ก้าวย่ำ:::
:::สายหมอก ดอกไม้บาน:::
:::ความหวังเจ้าโล้เลื่อน:::
:::คลื่นทะเล..ยังเห่ห้อม:::
:::ผืนทราย..ถึงปลายฟ้า:::
:::ดั่งน้ำเซาะทราย:::
:::ผลิ-หล่น..ร้อน-ฝน-หนาว:::
:::รอยอาลัย..สั่งโลกให้รั้งรอ:::
:::เทียนหนึ่ง:::
:::ร้อยดวงเป็นรวงดาว:::
:::เปลี่ยนทางไม่เปลี่ยนทิศ:::
:::ลอยเรือ...ให้เหลือรอย:::
:::อ้อมละมุน..นั้นอุ่นเอื้อ:::
:::อุ่นใจไว้บ่มรัก:::
:::ที่สุดของหัวใจ..คือเธอ:::
:::คือนิลนัยนา..หาดาย:::
:::ตามองดาว เท้าติดดิน :::
:::ดอกไม้ในใจเธอ:::
:::ทางสายใหม่:::
:::ภวังค์ไหว:::
:::ใต้ฟ้าตะวันเดียว:::
:::ลมหายใจใต้ตะวัน:::
:::ดาวดวงสุดท้ายที่ปลายฟ้า:::
:::หมื่นไมล์..แค่ใจเอื้อม:::
:::ลมหายใจและสายตา:::
::: ลมหนาวและดาวเดือน:::
ถนนสายนี้กลับบ้าน
ความนัย(ใจ)
อันเป็นรักนิรันดร
ปางบุญ(ก่อนจะเหลือนกเงือกตัวสุดท้าย)
โลกข้างนอกไว โลกข้างในช้า
พลังใจ พลังจิต พลังชีวิต พลังโลก
หาจนเจอยังหาไม่เจอ
กล้วยไม้ ก้อนหิน ดินหอม โคลน
บ่วงกรรมมมมมม
เชิงชาย ลายสิงห์ จิ้งจอก เต่าถุย
คนติดแบนด์
ต้นไม้ในหัวใจคน
พินัยกรรมรัก
ตามหาละม่อม
บ้านเรา
แค่คิดถึงคุณก็..อุ่นใจ
ขวัญเอยขวัญอ่อน..จะซ้อนขวัญ
โลกาวิวิ้ว.ว.ว.ว.ว.ว.ว.ว.ว.ว
เสียงเรียกที่ไม่ได้ยิน
อหังการ์ไส้เมี่ยง
รอยบุญ
ไม้ใกล้ฝั่ง
เถิดเทิงทัวร์
วันว่างที่ไม่ว่าง
ปลายทางที่สุดทาง
ภวังค์ไหว
ถนนสายนี้กลับบ้าน
"ในโอกาสหนึ่งที่ได้กลับไปรวมญาติอีกครั้งใต้แสงจันทร์ที่บ้านสวน
บรรยากาศเก่าเก่าในวัยเยาว์ถูกจำลองไว้ตรงนั้น..คิดถึงพ่อจับใจ..
พ่อเป็นต้นฉบับและถ่ายทอดสายเลือดอนุรักษ์ธรรมชาติ
ให้แก่ลูกเล็กเล็กของพ่อ ตราบจนเติบใหญ่..
ฉันไม่เคยลืมภาพที่ระเบียงบ้านยามดึกในคืนแสงจันทร์ส่องสว่าง
ลานกว้างกว้างจะเป็นที่ชุมนุมของลูกเล็กๆทั้งหกของพ่อ
ผลัดกันเล่านิทานที่ฟังมาบ้าง เล่าเรื่องจากโรงเรียนบ้าง ขัดแย้งกันบ้าง แซววาทีกัน..
และทะเลาะกันเสียงดังลั่นๆจนพ่อต้องขู่ว่า ถ้าเสียงดังจะให้เข้าบ้านนอน
จริงจริงนะ..ฉันนึกไม่ออกเลยว่าพ่อเคยดุพวกเราไหม เวลาดุพ่อจะทำหน้าอย่างไร..
ภาพติดตาคือภาพพ่อล้อเลียนเขี้ยวเล็กๆที่มุมปากฉันเวลาหัวเราะเสียงดังดัง
ซึ่งก้อจะหยุดอาการเซ่อซ่าร่าเริงของฉันได้ทุกครั้ง
เมื่อพวกเราต่างเติบโตแยกย้ายกันไปเรียนไกลไกล
ฉันก้อเพิ่งรู้เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของพ่อในวันนี้.. วันที่ฉันไม่มีใคร
รุ้ว่าพ่อแสนจะห่วงลูกกำพร้าเล็กเล็กของพ่อ แต่พ่อไม่เคยแสดงออก ไม่ปริปาก..
ในท่ามกลางแสงจันทร์ทอสว่างราวกับกลางวัน
พ่อนั่งเงียบเงียบบนเก้าอี้โยกหนุนแขนตัวเองต่างหมอน..
ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าพ่อคิดอะไร..จนวันเวลาล่วงผ่าน..
นิสัยสอดรู้สอดเห็นพาฉันไปเจอบันทึกเก่าเก่าของพ่อ
บันทึกเก่าเก่านั้น..เก่าจนกระดาษจับสีเหลืองและไม่อัพเดท
แต่ฉันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกทั้งมวลของพ่อ
ฉันไม่ลืมหน้ากลางที่มีริบบิ้นสีจางจางคั่นอยู่
ตัวอักษรเล็กเล็กหัวหางชัดเจนของพ่อกระจ่างอยู่ในใจ
และนั่นคือบันทึกของพ่อหลังจากแม่ "ไปสวรรค์" หลายปี..
คนเก่าเก่าเล่าให้ฟังว่า พ่อกับแม่รักกันนักหนา ร่วมชีวิตกันเพียง13 ปี
แล้วสัจจธรรมชีวิตก้อพรากแม่จากไป ..วางหกชีวิตเล็กเล็กไว้กับพ่อเพียงคนเดียว
คนเดียวจริงจริง พวกเรารู้ว่าพ่อเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอม รูปหล่อ
มีสาวแก่แม่ม่าย แวะเวียนมาให้พวกเราวิพากษ์วิจารณ์กันมันส์
เอ๊อ.อ..ไม่ใช่..แวะเวียนกันมาทำความรู้จักกับพวกเรา !!
แต่รอไปเถอะ ข้ออ้างของพ่อ. "..รอให้ลูกโตก่อน.."
เหอออ..ก้อลูกของพ่อไม่เคยโตเลยใน"อาณาจักร" ของเรา
คุณน้าเคยเปรยเปรยเย้าพวกเราว่าลูกหกคนนี้ พ่อรักใครที่สุดนะ?
ฉันได้ตอบไปแล้วด้วยใจทั้งหมด. " พ่อจะรักใครก้อช่าง ฉันรักพ่อที่สุด"
ในวัยเด็กฉันค่อนข้างจะขี้แย แต่ไม่เคยร้องไห้เพราะพ่อเลย
นอกจากวันสุดท้ายที่ใกล้ชิดพ่อที่สุด .. วันเก็บอัฐิ..
"ใครได้ฟันกรามของพ่อเก็บไว้แสดงว่าเป็นลูกที่พ่อรักมากที่สุด"
เสียงตัวแสบข้างๆอธิษฐาน น้ำตาฉันร่วงเผาะ จนรู้สึกว่ามันดังก้องไปทั้งใจ
ถึงแม้จะรู้แล้วจากเสียงพี่ใหญ่เอ็ด " เห็นแล้วซี..ถึงอฐิษฐาน "
หากเป็นวัยเด็กคงได้ต่อปากต่อคำกันอีกนาน
แต่ที่ทำคือเช็ดน้ำตาแล้วเถียงในใจ.."..ในชีวิต..ฉันภูมิใจแล้วที่ได้มี
โอกาสบอกว่า"รักพ่อ" ในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่.."
นวนิยายเรื่องยาวเหยียดของฉันด้วยความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวล
มันยังคงค้างคาไว้อย่างนั้น ไม่มีตอนจบ นวนิยายที่ยังไม่ถึงตอนจบ
ก็ตัวละครทุกตัวยังคงโลดเต้นอยู่บนถนนชีวิต ต่างไปเพียง แป้งนมและ "พ่อ"
พ่อ บรมครู ของลูกลูก บรมครูสร้างหลักสูตรด้วยชีวิตและจิตวิญญานครูอย่างแท้จริง
"วันครู" ผ่านมาบรรจบอีกเป็นรอบที่ 28 ของชีวิตการเป็นครู
ฉันกำลังระลึกถึงเส้นทางสายครูอีกครั้ง..ครู ประสบการณ์ตรงสำเร็จรูป
ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นวิถีทางที่ดี - เลว - ถูก -ผิด ที่สุดในสายทางที่มองต่างมุม
เทศกาลโยกย้ายมาอีกระลอก เจ้ากรมข่าวลือกระฉอกข่าวฉันได้ย้ายมาเขย่าเก้าอี้
ปกติก็ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้วมันจะพลิกคว่ำเอาง่ายๆน่ะเก้าอี้ฉัน
ไม่รู้อะไรกันหนักหนา นโยบายครูคืนถิ่นซ่อนเร้นอยู่หลืบไหนแล้ว
ในทุกปีใหม่ของเราพี่น้องจะสนุกสนานกันมาก
พี่ใหญ่พี่รองและน้องเล็กจะพากันไปหอบฟางจากทุ่งนาข้างบ้าน
พ่อเตรียมปิ๊บและพื้นที่สำหรับโชว์ฝีมือ ปีใหม่ปีนี้ไม่มีพ่อแต่ยังมีไก่อบฟางให้กิน
แต่ปีหน้าปีไหนจะยังมีฟางอบไก่อีกหรือเปล่า
ฉันจะได้กินไก่อบฟางอีกใช่ไหม ฉันกลัวไฟไหม้ฟาง จริงจริงนะ
หลังจากการประเมินโรงเรียนดีใกล้บ้านผ่านพ้นไป
ได้เวลาล้างสมองกลตัวใหม่ที่แสนจะบอบบาง นั่นไม่ได้ นี่ไม่รับ
ฉันไม่เอาไว้แล้ว ส่งเมล์บอกคนสุดทาง กว่าจะได้พบก็เกือบถอดใจ
"งานเยอะ" เธอบอก ฉันรู้.. งานของเธอมากจนลืมฉันได้ทั้งชีวิต
แต่หากย้อนเวลากลับได้ฉันก็จะไม่เปลี่ยนเส้นทางของเธอ
ฉันนึกถึงคนที่ทิ้งเวลาส่วนหนึ่งไปกับงาน จนลืมแม้กระทั่งตัวเอง
คนบางคนมุ่งเดินไปข้างหน้่าบุกเบิกอนาคต..กว่าจะคิดได้
หันกลับมามองเบื้องหลังอีกทีก็เหลือแต่ความว่างเปล่า
"จดทะเบียนกับใครหรือยัง"ฉันถามดุ่ยๆ เธอทำเสียงดุ "จะให้จดกับใคร"
ก็คนมากมายรอบข้างเธอนั่นเล่า ฉันเห็นหลายคนเป็นหน้าเดิม หลายคนไม่ซ้ำหน้า
ฉันรู้ว่าในสังคมปัจจุบัน ผู้ชายมีทางเลือกมากมาย ความเสื่อมโทรมของสังคมครอบครัว
ขับเคลื่อนให้เด็กสาวรุ่นใหม่บางกลุ่ม พลีตัวเป็นเครื่องเล่นแลกเงิน แลกความสะดวกสบาย
แต่ฉันรู้เธอไม่มีวันใช้ทางเลือกนี้.. เด็กดี ถนนของเธอไม่ใช่เส้นทางนี้
เธอ..คนของสังคมเล็กๆในเมืองใหญ่ที่ขยายกว้างขึ้นจนไม่ว่าเรื่องราวใดก็กลายเป็นของธรรมดา
รู้แก่ใจดี..เธอมีโลกของเธอ เธอมีข้อจำกัดของเธอ ฉันมีข้อจำกัดของฉัน..
"ภาษีคนโสดแพง เราจดทะเบียนกันไหม" ฉันโยนหินถามทาง เมื่อเธอบอกภาษีของฉันสูงผิดปกติ
เธอหน้าแดงไปถึงใบหู ฉันพูดผิดเหรอ ไม่ได้ขอแต่งงานสักหน่อย..แปลกแห่ะ..
แทงใจดำล่ะซิ นะ.. โอกาสของเธอมีมากมาย ก็อายุเริ่มต้นที่ห้าสิบงัย..เราต่างคนต่างเริ่มต้นใช่มั้ย
เธออ้อมแอ้ม "เดี๋ยวก็น้ำท่วมโลกแล้ว" โห..ไม่มีความมั่นคงในชีวิตเลยนะ..
ยังอยากแหย่ต่อ (นานๆมีคนซื่อหลวมตัวมาสักที)
"น้ำท่วมโลก ก็ได้เวลาเที่ยวรอบโลกเลยซี"
"จะได้มีเพิ่อนลอยเรือรอบโลกงัย..กาละมังคนละใบ"
เธอไม่รับมุข ก้มหน้างุดซ่อมโปรแกรมที่ฉันยำไว้เละ
"ถึงตอนนั้นมันก็เปลี่ยนไปหมดแล้ว" อ้าว..เธอจริงจังกว่าฉันเสียอีก
อยากให้มีความจริงใจสม่ำเสมอตลอดไป
วันที่เธอขอบคุณที่ฉันจุดประกายให้เธอบินขึ้นสูงฉันตอบว่าเธอดีด้วยตัวของเธอเอง
ความดีในข้อนี้เป็นคุณสมบัติข้อหนึ่งที่ผู้ชายไทยพึงมี
อ่านบทสัมภาษณ์คนดังคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการธุรกิจ
ถึงพนักงานที่จงรักภักดีกับบริษัท ทำงานกันเต็มศักยภาพ และได้ทั้งพระเดชพระคุณ
เจ้าของบริษัทเลือกเฟ้นพนักงานด้วยตัวเองคัดสรรจากจิตสาธารณพิ้นฐาน
ความกตัญญูรู้คุณ เป็นเครื่องบ่งบอกว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ทำเรื่องเลวร้าย
คนรักครอบครัวเป็นคนจิตใจสวยงาม เธอจิตใจสวยงาม
เธอนั่งฟังฉันเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้เหมือนวันเก่า
นานๆเมื่อรู้ว่าฉันอำหรือเวอร์ไปก็จะแย้งสักครั้ง
ขอบใจที่ยังมีความห่วงใยกัน ได้รู้ได้เห็นว่าเธอสบายดีก็พอใจแล้ว
ระหว่างเรายังมีความรู้สึกดีให้แก่กันเสมอ " มีความสุขกับการทำงานก็ดีแล้ว"
น้อยใจอยู่นิดเดียว เธอไม่ขอโทษฉันสักคำที่ปล่อยให้หลงทางอยู่นานเหลือเกิน
นานจนไม่ทันรถไฟขบวนสุดท้ายที่เคลื่อนจากไป
ทิ้งรางคู่ขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันไว้เบื้องหลัง
แต่ไม่เป็นไรนะ ที่ขอบฟ้าดวงตาวันดวงเดิมยังมีอยู่ให้เห็น..
ทุกชีวิตยังดำเนินต่อไป..ฉันก็ยังคงเป็นฉันคนเดิม..
ดอกนางแย้มส่งกลิ่นอ่อนมาไกลจัง
เหมือนซ่อนรอยเศร้าไว้กับกลีบละเอียดที่ซ้อนแน่น
ฤดูการย้ายมาถึงอีกครั้ง กลิ่นหอมของถนนเปียกฝนหลงฤดูโชยรวยริน
กลับเข้าบ้านแต่ละครั้งเหมือนใครผูกรั้งฉันไว้ด้วยเวทย์มนต์ของจินตนาการ
พื้นที่สวยงามที่ฉันเตรียมทำวิมานใสไว้มองพระอาทิตย์ดวงโตขึ้นยามเช้า
ฉันเล็งไว้ทุกวันตรงเสาสวยเหมือนหอไอเฟลนั่นท้องฟ้าสีชมพูเป็นฉากให้พระอาทิตย์ชักรถ
ฉันจะเนรมิตซุ้มไม้เลื้อยหลากสีสรรกลิ่นหอมขจรขจายยามค่ำ ..ราชาวดี
มีมุมส่วนตัวใต้ระเบียงโปร่งได้ชมพระอาทิตย์ตกหลังแนวเขาสีน้ำเงินกับฝูงนกสีขาวต้นฤดูหนาว
ฉันวางมุมขีดเขียนไว้ที่โน่นที่นี่ ที่ริมสระน้ำเล็กๆมีบัวบานสพรั่งดอก ที่ซุ้มกระดังงา
ทางเดินเล็กเชื่อมบ้านของพ่อ ฉันจะวางไม้สวยทุกต้นด้วยตัวเอง
ถึงเวลานับถอยหลังแล้ว ถึงเวลาฉันคืนถิ่น การเดินทางเริ่มต้น
ฉันจะให้การเดินทางเป็นลมหายใจและสายตา
เธอคนดีของฉันคนนั้น คนที่ยังเห็นเป็นเงาของกันและกัน
เธอยินดีจะไปเที่ยวรอบโลกกับฉันไหม ?
นะ..ฉันจะเตรียมกาละมังยางไว้ให้เธอ..
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 10:33:57 น.
0 comments
Counter : 892 Pageviews.
Share
Tweet
Peakroong
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
?
]
"หากต้องตัดสินใครสักคน
เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"
เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง
สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี
สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่
สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ
มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"
"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..
๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน
๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่
ขอบคุณ
https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล
๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ
'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553
Friends' blogs
Peakroong
Webmaster - BlogGang
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
ร้านค้าออนไลน์
สโมสรสร้างสรรค์ทางเลือก
ทางด่วน
Facebook
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.