BlogGang.com : : ผู้ชายในสายลมหนาว : ตามหานคราที่สาบสูญ : ลานช้าง (2)

ตามหานคราที่สาบสูญ : ลานช้าง (2)

ม้าห้าหัวคือรูปประติมากรรมสัตว์ที่แปลกที่สุดในกระบวนภาพทั้งหมด
แล้วก็มีผู้รู้มาคลี่คลายว่า มันคือม้าวลาหกในตอน วลาหกัสชาดก
หนึ่งในพระชาติของพระโพธิสัตว์ในการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือมนุษย์
ตามความเชื่อของพุทธศาสนาแบบมหายาน

เรื่องราวนั้นมีอยู่ว่า เมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร
ได้ตรัสสอนภิกษุรูปหนึ่งที่ได้เห็นหญิงสาวแต่งตัวงดงาม
เกิดกามราคะกระสัน จนจิตใจจึงตกอยู่ในอำนาจกิเลสตัณหาว่า

ดูก่อนภิกษุ ธรรมดาหญิงที่แต่งตัวงดงามเล้าโลมชาย
ด้วยรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสของมารยาหญิ งกระทำให้ชายตกอยู่ในอำนาจ
เช่นเดียวกับพวกนางยักษิณีในกาลก่อน ที่ได้ลวงฆ่าพวกพ่อค้าทั้งหลาย

เกาะตามพปัณณิ มีเมืองชื่อสิริสวัตถุเป็นเมืองของเหล่านางยักษิณี
ที่เลี้ยงชีวิตอยู่ด้วยการจับมนุษย์ที่มาเรือแตกอยู่ใกล้เกาะ
โดยพวกที่ถูกจับมาใหม่จะถูกลวงให้เป็นสามีของพวกตน
ส่วนพวกเก่าจะโดนล่ามโซ่คุมขังไว้เพื่อรอถูกกินเป็นอาหาร

อยู่มาวันหนึ่งมีพ่อค้า 500 คน นำเรือใหญ่บรรทุกสินค้าผ่านมา
เกิดพายุจัดเรือจึงอับปาง พวกพ่อค้าทั้งหมดพากันว่ายน้ำขึ้นเกาะ
พวกนางยักษิณีพอรู้ว่ามีเรือมาอับปาง ก็พากันตกแต่งร่างกายให้งดงาม
แล้วถือของกินมากมาย ทั้งยังอุ้มทารกน้อยไปด้วยเพื่อลวงพ่อค้าทั้งหลาย

บรรดาพ่อค้าทั้งก็พากันกินอาหารจนกระทั่งอิ่มหนำสำราญแล้ว
เหล่านางยักษิณีก็เข้าเล้าโลมด้วยมารยาสตรี พาเข้าไปพักในเมือง
โกหาว่าสามีเก่าของพวกตนเป็นพ่อค้า แต่หายสาบสูญไปกว่าสามเดือน
ทำให้พวกพ่อค้าทั้ง 500 เห็นใจ ยอมเป็นสามีนางยักษ์เหล่านั้น

เวลากลางคืนเมื่อพวกพ่อค้าหลับ นางยักษ์ก็จะลุกไปฆ่ามนุษย์ที่ขังไว้
พอกินเลือดเนื้อเสร็จก็กลับมานอน แต่ทุกครั้งที่ได้กินเนื้อมนุษย์แล้ว
ร่างกายของพวกนางจะเย็นผิดปกติ ทำให้หัวหน้าพ่อค้าได้รู้สึกเกิดสงสัย
จึงคอยเฝ้าสังเกตอยู่ จนมั่นใจว่าเป็นยักษิณีในตำนานที่เล่าขานกันมาแน่

จึงแอบบอกกับเพื่อนพ่อค้า ว่าทั้งหมดกำลังตกอยู่ในอันตราย
แต่พวกพ่อค้าประมาณครึ่งหนึ่ง ตอบว่าไม่เห็นว่าหญิงเหล่านี้จะดุร้ายอะไร
เราไม่อาจละทิ้งพวกนาง พวกท่านจงไปกันเถิด

หัวหน้าพ่อค้าจึงพาพรรคพวกอีกครึ่งหนึ่งที่เชื่อถือตนเองหลบหนี
แต่ก็ยังหาทางออกจากเกาะนั้นไม่ได้ ขณะนั้นเองมีม้าบินตัวหนึ่ง
เป็นม้าวลาหกสีขาวปลอด ศีรษะคล้ายกา มีผมเป็นปอย
สามารถบินในอากาศ กำลังก้มหน้าหาข้าวสาลีกินที่สระแห่งหนึ่ง

ขณะนั้นเป็นเวลากินอิ่ม กำลังบินกลับไปป่าหิมพานต์
แต่ก่อนหน้าที่จะบินไป มันจะแผ่เมตตาจิตด้วยการกล่าว 3 ครั้งว่า

จงมาเถิดผู้ปรารถนาจะไปสู่ฝั่งชนบท
จงมาเถิดผู้ปรารถนาจะไปสู่ฝั่งชนบท
จงมาเถิดผู้ปรารถนาจะไปสู่ฝั่งชนบท เราจะพาไป

พวกพ่อค้าได้ยินเสียง จึงพากันเข้าไปหายกมือขึ้นไหว้แล้วกล่าวว่า
พวกเราเชื่อถือในคำของท่าน และอยากที่จะไปสู่ชนบทฝั่งโน้น
ม้าวลาหกจึงกล่าวว่า จงขึ้นขี่บนหลังเถิดเราจะพาไปให้ถึงอย่างรวดเร็ว

พ่อค้าบางคนจึงขึ้นขี่บนหลัง บางคนก็จับหาง
บางคนก็ยืนประนมมือไหว้ รอให้ม้าวลาหกมารับในเที่ยวต่อไป
ในที่สุดม้าวลาหกก็พาพวกพ่อค้าทั้งหมดหนีมาสู่ฝั่งโดยปลอดภัย

พระพุทธเจ้าทรงจบธรรมเทศนานี้ว่า
พวกพ่อค้าที่เชื่อคำของม้าวลาหกในครั้งนั้น
ได้มาเป็นพุทธบริษัทของเราในบัดนี้
ส่วนม้าวลาหกตัวนั้น ก็คือตัวเราเอง

มนตราแห่งศิลาทราย : นครธม

มนตราแห่งศิลาทราย : ปราสาทตาพรม

มนตราแห่งศิลาทราย : ปราสาทบายน

Create Date : 09 ตุลาคม 2556

Last Update : 9 ตุลาคม 2556 17:01:29 น.

2 comments

Counter : 1209 Pageviews.

ม้าตัวเดียวกับกลางบึง นาคพัน Neak Pean ของเราจ้า

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:14:18:22 น.

เรื่องนี้สนุกค่ะ ไม่ว่าสมัยไหน หญิงงามก็ทำให้ผู้ชายใจอ่อนปวกเปียกได้...

ภาพสุดท้ายสิงโตด้านซ้าย เค้าทำขึ้นมาใหม่หรือเปล่าคะ เห็นคนละสี

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:20:45:47 น.