Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
1 ตุลาคม 2556

ตามหานคราที่สาบสูญ : นครวัด (2)


ผนังด้านทิศตะวันออก ฝั่งเหนือ การสงคราม

เป็นเรื่องราวทั่วไปกล่าวถึงการทำสงคราม
มีรูปแม่ทัพขี่ช้าง ขี่กิเลนแสดงถึงวัฒนธรรมของจีน
ส่วนที่น่าสนใจคือรูปสุดท้ายที่แสดงพระวิษณุทรงครุฑมา มีสี่กรหนึ่งหน้า
ซึ่งถูกต้องตามความเชื่อ ให้จำไว้เพราะภาพต่อไปมันจะแปลกๆ

IMG_8635

ผนังด้านทิศใต้ ฝั่งตะวันออก พระนารายณ์ปราบราพาณสูร

เป็นภาพที่แกะสมัยนักองค์จันเช่นเดียวกันกับภาพที่แล้ว
เป็นการรบกันระหว่างพระนารายณ์กับอสูรที่หลายแขน
โดยแบ่งเป็นการรบกันสามครั้ง และจบลงด้วยการเข้าเฝ้าพระอิศวร
เมื่อย้อนไปค้นหาที่รามยาณะต้นฉบับกลับไม่พบเรื่องราวตอนนี้

ที่ใกล้เคียงที่่สุดก็คือตอน ราวณะบุกยมโลก แต่เนื้อเรื่องนั้นต่างไปมาก
เพราะเป็นสงครามระหว่างทศกัณฑ์กับพระยมที่จบลงด้วยการขอชีวิต
ของพระพรหมที่ทรงให้เคยพรแก่ทศกัณฑ์ไว้ว่าจะมิมีผู้ใดฆ่ามันให้ตายได้
หากพระยมใช้กาลฑัณฑ์โลกก็ย่อมถึงวิบัติด้วยพระพรหมนั้นหาได้มีสัตย์ไม่

IMG_8637

IMG_8639

แต่เรื่องที่ใกล้เคียงที่สุดคืออนิรุทธิ์คำฉันท์ซึ่งเรื่องนั้นมีอยู่ว่า
พระอนิรุทธิ์ไปล่าสัตว์ในป่า ตกดึกพระไทรเห็นว่าเป็นเจ้าชายรูปงาม
จึงพาไปอุ้มสมกับนางอุษาธิดายักษ์แห่งโสนินคร รุ่งเช้าก็พากลับไปที่เดิม
ความทราบถึงท้าวราพณาสูร ผู้เป็นบิดาจึงสั่งให้ทหารมาล้อมจับ

ระหว่างทางนารทฤษีผ่านมาเห็นเข้า จึงไปแจ้งพระกฤษณะ
พระกฤษณะจึงพาเหล่าเทวดามารบกับพวกยักษ์
จนท้ายที่สุด พระกฤษณะก็สามารถแผลงศรตัดมือนับพันจนหมด
ขณะที่กำลังจะตัดศรีษะท้าวพาณาสูร พระอิศวรได้เข้ามาขอชีวิตไว้

แต่มีจุดที่ไม่เข้ากันคือรูปก่อนหน้าก็สลักภาพพระนารายณ์ได้อย่างถูกต้อง
สองคือพระกฤษณะซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาไม่น่าทรงครุฑ
นอกจากนี้บุคคลที่ทรงครุฑมายังปรากฏว่ามีหลายพักต์แปดกร
เดาว่าเป็นการชี้ว่า พระกฤษณะคือพระวิษณุอวตาร

รูปตรงกลางเป็นภาพบุคคล แต่มีสี่กรแล้วทรงแรด
ดูจากทิศแล้วน่าจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพระกฤษณะ
อาจเป็นพระอัคนี ที่อาจเป็นพวกกับท้าวพาณาสูรที่มาช่วยรบก็เป็นไปได้

IMG_8641

IMG_8645

ผนังด้านทิศใต้ ฝั่งตะวันตก เทวาเทวะสงคราม

เป็นภาพเทพต่างๆ ในศาสนาฮินดูโดยมีทั้งสิ้น 21 องค์
ดูจากลายเส้นเชื่อว่าแกะสลักมาตั้งแต่สมัยสุริยวรมันที่ 2
ที่ทราบพระนามที่แน่นอนนั้นมีทั้งสิ้น 10 องค์ ได้แก่
ท้าวกุเวนทรงยักษ์ พระอัคนีทรงแรด ท้าวสกันทะทรงนกยูง

พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระนารายณ์ทรงครุฑ
พระยมทรงรถม้าเทียมควาย พระศิวะทรงรถศึกเทียมม้าคู่
พระพรหมทรงหงษ์ พระอาทิตย์ทรงรถเทียมม้า 4 ตัว
และพระวรุณทรงนาคห้าเศียร

IMG_8650

เป็นภาพที่มีค่าเนื่องจากว่าเป็นเหมือนตำราภาพในศาสนาฮินดู
ที่แสดงให้เห็นว่าเทพต่างๆ นั้นถืออาวุธใด และทรงพาหนะใด
มันเป็นกุญแจที่ไขปริศนาถึงความเชื่อเรื่องของเทพเจ้าในสมัยนั้น
เช่นเดียวกับความเชื่อของไทยที่มีความเบี่ยงเบนไปจากของอินเดีย

คำถามสำคัญคือ แล้วภาพสลักที่เหลือนั้นเป็นเทพองค์ใด
หลังจากอ่านรามายณะจึงได้คำตอบว่าที่อินเดียมีประมาณ 10 องค์
เท่ากับจำนวนที่เราสามารถจะแยกเยะได้จากผนังชุดนี้นั่นเอง
ดังนั้นภาพที่เหลือคงเป็นการเติมเข้ามาให้เท่ากับขบวนทัพของผนังตรงข้ามนั่นเอง


IMG_8651



Create Date : 01 ตุลาคม 2556
Last Update : 11 มีนาคม 2561 20:32:09 น. 2 comments
Counter : 1492 Pageviews.  

 
แหมม มีคนบรรยายภาพ สนุกจริง ๆ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 2 ตุลาคม 2556 เวลา:13:41:52 น.  

 
เห็นด้วยกับพี่ตุ๊กค่ะ ให้ดูภาพก็คงบอกว่างามแท้... แต่ถ้ามีคนเล่าให้ฟังไปด้วย ยิ่งสนุกค่ะ

ภาพแกะสลักยังสมบูรณ์อยู่มากเลยค่ะ อยากไป


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 9 ตุลาคม 2556 เวลา:20:29:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]