Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
26 สิงหาคม 2554

Kamakura : Tsurugaoka Hachiman-ku shrine



เดินบนถนนเล็กๆ เลียบทางรถไฟจากวัดมาราว 300 เมตร
ก็จะมาถึงสีแยก เราต้องเดินต่อไปข้างๆ ถนนทีมีรถยนต์วิ่ง
มีป้ายบอกทางไปวัดเล็กๆ ที่ชื่อ meigetsu-in วัดขนาดเล็ก
ที่เล่าขานถึงสวนดอกไม้ที่งดงามตระการตา ถ้ามีเวลาก็น่าแวะ

ตรงจุดที่เชื่อมกับถนนใหญ่ ด้านซ้ายมือเต็มไปด้วยเครื่องขายของอัตโนมัติ
ที่ซุกซ่อนอยู่ในหลืบนั้นคือ ร้าน Kyoraian ที่ขายสตูว์เนื้อที่เปื่อยนุ่มแสนอร่อย
ราคาชุดละ 2650 เยน มีขายเพียง 100 ชุดต่อวัน ก่อน 11 โมงเช้า จะมีคนมารอแล้ว

จากตรงนี้ต้องเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ข้างทางมีคนเอาของมาขายหน้าบ้าน
ชิ้นละร้อย ดูท่าไม่ได้อยากได้เงิน เหมือนว่าไม่อยากให้มันเสียเปล่ามากกว่า
สองข้างทางบนกำแพงบางบ้าน ดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสีสันที่เราไม่รู้จัก
เป้าหมายต่อไปคือวัดขนาดใหญ่ที่ชื่อ Kensho-ji ที่ถึงตอนนี้เราแทบถอดใจ



ทำไมมันถึงไกลแบบนี้ ร่วมกิโลได้ไหมเนี่ย อากาศก็ร้อน ตอนนี้เหลือแต่เสื้อยืด
ก่อนจะถึงวัดเล็กน้อย พระเจ้าก็เมตตาส่งร้านไอศกรีมมาอยู่ตรงหน้า
แต่ละเมืองย่อมมีของขึ้นชื่อ มาเที่ยว Kamakura ก็ต้องสั่งไอศกรีมมันเทศสีม่วง
ราคามาตรฐาน 300 เยน แต่มันค่อนข้างเหลว รสชาติก็ไม่มีอะไรพิเศษ

เราเดินเลียบๆ เคียงๆ เข้าไปในวัดที่อยู่ในโปรแกรม Kensho-ji
หากเทียบกับวัดแรกที่นี่ใหญ่กว่าหลายเท่านัก ลึกไปถึงภูเขาที่อยู่ด้านหลัง
ถ้าอย่างนั้นมันคงเสียเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เวลาตอนนี้เกือบเที่ยงวันแล้ว
สายกว่ากำหนดการ ฉนั้นเราตัดสินใจเดินผ่านเลยไป

จากระยะทางที่เดินมาจากสถานีรถไฟ มาถึงวัดนี้ทำให้เหนื่อยสุดๆ
แต่วัด Kensho-ji นี่อยู่จุดสูงที่สุดของเส้นทาง และไม่เกิน 100 เมตร
ที่สบายๆ กับการเดินลงเนิน เราก็มาถึงศาลเจ้า Tsurugaoka shrine
หลังจากล้างมือล้างปากที่บ่อน้ำข้างศาลเจ้าแล้ว เราก็เดินผ่านเข้าไป



เนื่องจากวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง Kamakura นัก จึงมีคนพลุกพล่าน
เนื่องจากผมไม่แน่ใจว่า เทพเจ้าญี่ปุ่นจะฟังภาษาไทยออกหรือไม่
จึงไม่ได้ขอพร แต่เดินถ่ายรูปรอบๆ แทน ศาลเจ้านี้ใหญ่โตกว้างขวาง
แม้จะไม่เก็บเงินค่าเข้า แต่ก็มีพิพิธภัณฑ์ของเก่าที่ยินดีให้คุณเสียเงินชม

เดินสวนผู้คนลงจากบันไดด้านหน้า ซ้ายมือของบันไดหินมีคนรุมถ่ายตอไม้
ที่ศาลเจ้าเอาเชือกมาขึงล้อมไว้ พร้อมป้ายภาษาญี่ปุ่นที่เป็นรูปต้นไม้ใหญ่ๆ
มันต้นแป๊ะก๋วยอายุพันปี ที่โดนพายุทำลายไปเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2010 นั่นเอง
กำลังใจเริ่มมา เราผ่านเส้นทางยอดนิยมมาแล้ว เดินอีกหน่อยก็จะได้กินข้าว

ศาลเจ้านี้สร้างขึ้นในปี 1063 บริเวณใกล้ๆ กับชายหาดของเมือง Kamakura
โดยเป็นสาขาของ Iwashimizu shrine ที่เมืองเกียวโต เพื่ออุทิศให้จักพรรดิ์ Ojin
ปี 1191 หนึ่งปีก่อนการสถาปนาเมือง Kamakura เป็นศูนย์กลางการปกครอง
Minamoto no Yoritomo ได้ทำพิธีย้ายศาลเจ้านี้มาอยู่บริเวณที่อยู่ในปัจจุบัน
ศาลเจ้าถูกขยายให้มีขนาดใหญ่ และถูกยกระดับให้มีความสำคัญสูงที่สุด



12 ก.พ. 1219 ในวันที่หิมะตกหนักMinamoto no Sanetomo โชกุนคนที่ 3
ได้เดินทางมาเพื่อเฉลิมฉลองในพีธีแต่งตั้ง Udajin หรือ Ministry of Right
ในขณะที่ก้าวลงจากบันได Kugyo ที่เป็นหลานได้ลอบทำร้ายจนเค้าเสียชีวิต
มือสังหารถูกตัดศรีษะ และนำไปสู่การสิ้นสุดอำนาจของตระกูล Minamoto

ในปัจจุบัน Tsurugaoka Hachiman-ku shrine เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต
แต่เมื่อในอดีตกว่า 700 ปีที่ผ่านมามันเคยมีชื่อว่า Tsurugaoka Hachiman-ku-ji
นั่นแปลว่าที่นี่เคยมีทั้งศาลเจ้าและวัดตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน จนถึงปี 1868
รัฐบาลยุค Meiji ได้ออกคำสั่งให้มีการแยกกันระหว่างวัดและศาลเจ้าให้ชัดเจน
ส่วนที่เคยเป็นบริเวณวัด ศาสนสถาน และสัญลักษณ์ทั้งหมดจึงถูกรื้อทำลายลง

ตามหลักฮวงจุ้ยที่นี่ถือว่าทำเลนี้ถูกเลือกไว้อย่างเหมาะสม ด้วยทิศเหนือคือภูเขา
ทิศตะวันออกคือแม่น้ำ ทิศตะวันตกคือถนนใหญ่ และด้านทิศใต้คือทางเข้า
จาก Torri หน้าศาลเจ้าจะมีทางเดินยาว ที่ปัจจุบันคือถนน Wakamiya Oji
ที่สุดแสนจะงดงามในฤดูใบไม้ผลิ ด้วยมีต้นซากุระนับพันต้นอยู่บนถนนสายนี้



Create Date : 26 สิงหาคม 2554
Last Update : 26 สิงหาคม 2554 15:32:04 น. 1 comments
Counter : 2012 Pageviews.  

 
ตามมาต่อค่ะ

ป้ายมีเครื่องหมาย สวัสดิกะด้วย


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:17:16:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]