Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กันยายน 2554
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
12 กันยายน 2554

Kamakura : Kotoku-in



วัดที่ใครมาเมืองนี้แล้วไม่แวะผ่าน ก็เหมือนมาไม่ถึง Kamakura
ด้วยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญ หลวงพ่อโต Daibutsu

ปี 1233 ยุคที่ Kmakura ยังคงเป็นศูนย์กลางการปกครองประเทศญี่ปุ่น
Jōkō of Toutoumi นักบวชในพุทธศาสนาได้ริเริ่มในการสร้างพระพุทธรูป
ที่แกะสลักจากไม้ขนาดใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Inadano-Tsubone
สิบปีผ่านไปการแกะสลักพระ และตัวอาคารสำหรับประดิษฐานได้สำเร็จลง

ในปี 1248 ห้าปีหลังสร้างเสร็จได้เกิดลมพายุใหญ่ พัดทำลายองค์พระ
และอาคารจนเสียหายยับเยิน Jōkō of Toutoumi จึงได้มีแนวความคิด
ที่จะสร้างองค์พระจากโลหะผสม เพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง
โดยสร้างโครงพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หุ้มด้วยแผ่น Bronze แล้วปิดทองทับ

ปี 1252 องค์พระสำริดและตัวอาคารสำหรับประดิษฐานได้สำเร็จลง
Kamakura นั้นตั้งอยู่ริมทะเล หันหน้าออกสู่มหาสมุทรใหญ่
ไม่น่าแปลกใจที่ในปี 1334 จะเกิดพายุใหญ่พัดทำลายวัดนี้อีกครั้ง
Jōkō of Toutoumi คิดถูก องค์พระสำริดยังคงตั้งตระหง่านอยู่
สิ่งที่ต้องสร้างขึ้นใหม่คือ ตัวอาคารที่ประดิษฐานองค์พระ



ปี 1369 พายุมา องค์พระอยู่ อาคารปลิวหายสร้างอาคารใหม่ วงจรเดิมๆ
ปี 1923 เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเขตคันโต ฐานองค์พระเกิดความเสียหาย
20 ก.ย. 1948 เกิด tsunami ทำลายทุกอย่าง ยกเว้นแต่องค์หลวงพ่อโต
นับแต่นั้น Daibutsu ก็ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งแบบนั้นมาจนถึงปัจจุบัน

องค์พระใหญ่มีความสูง 13.35 เมตร คาดว่ามีน้ำหนัก 93 ตัน
สามารถเดินเข้าไปด้านในได้ โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 20 เยน
ความสวยงามขององค์พระไม่ใช่เพียงพระพักต์ที่สงบและเงียบขรึม
แต่ภาพองค์พระขนาดใหญ่ ตัดกับภูเขาสีเขียวและท้องฟ้าสีคราม

ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามยากเกินจะบรรยายจริงๆ

9 เม.ย. 2474 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า
รำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมายังวัดแห่งนี้
และได้ทรงปลูกต้นสนไว้เป็นที่ระลึก 1 ต้น ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็ยังคงอยู่
คนไทยทุกคนที่ไปเยี่ยมชม คงไม่พลาดที่จะไปหยุดยืนมองสนต้นนี้



ตอนนี้เวลา 15.30 น. พระอาทิตย์เริ่มบ่ายคล้อย ตามแผนเราจะนั่งรถต่อไป
จนถึงสถานี Enoshima แต่กว่าจะได้กลับคงดึกแน่นอน เราเลือกที่จะไม่ไปต่อ
บริเวณทางออกมีร้านขายของที่ระลึกและขนมไข่ Hatosabure
ที่มีสัญลักษณ์รูปนกพิราบสีเหลือง ของฝากขึ้นชื่อของ Kamakura

17.00 น.ยืนอยู่ที่สถานี Kamakura ขี้เกียจเดินไปดูตารางเวลา
เลยอาศัยถามคนแถวนั้นเอา เนื่องจากมีรถไฟสองสายที่วิ่งผ่านสถานีนี้
18.00 น. ถึงสถานี Tokyo หวังว่าจะได้ชอบปิ้งเสื้อผ้ายี่ห้อ Uniqlo
ที่เราเดินผ่านมาเมื่อเช้าซะหน่อย ปรากฏว่า ทางเดินเป็นคนละทางกับเมื่อเช้า

19.00 น. มาถึงสถานี Kaihimmakuhari ด้วยความหิวโหยจากการเดินทั้งวัน
แวะกินบะหมี่หยอดเหรียญชามละ 560 เยน ก่อนที่จะเดินไปซื้อขนมที่อาเขต
ฝั่งตรงข้ามสถานี ไกด์บอกว่าจะมีรถของโรงแรมมาจอดรับส่งที่นี่
แต่ตอนนี้ไม่มีแต่รถบัสของโรงแรมอื่น จำต้องเดินกลับอย่างไม่มีทางเลือก

20.30 น. มาถึงโรงแรมที่พักอย่างอิดโรย นึกชื่นชม backpacker
แค่วันเดียวเราก็เหนื่อยแทบใจขาด แล้วคนที่เที่ยว 7 วัน 14 วัน

เค้าทำได้อย่างไร ??



Create Date : 12 กันยายน 2554
Last Update : 21 กันยายน 2554 13:40:30 น. 4 comments
Counter : 1334 Pageviews.  

 
น่าไปเที่ยวจังเลย


โดย: devilmanb วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:14:53:26 น.  

 
ต้องฟิตร่างกายค่ะ

เพิ่งทราบว่าพระพุทธรูปนี้อยู่เมืองนี้ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:17:30:34 น.  

 
แหะๆ เราไปวัดนี้วัดสุดท้าย แล้วมีเวลาไม่เยอะค่ะ เลยไม่ได้ไปโบสถ์ ตัวศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากก็ไม่ได้ไปค่ะ เสียดายเหมือนกัน เอาไว้จะไปแก้ตัวอีกทีนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:8:13:51 น.  

 
สวัสดีค่ะ เพิ่งกลับถึงบ้านวันนี้ค่ะ

ไปซิ่งมามีความสุขมากกกกกก


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 21 กันยายน 2554 เวลา:22:42:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]