Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

 
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
26 พฤศจิกายน 2555

Japan 2001 : Kumamoto Castle (1)



จุดเริ่มต้นของความหลงใหลในประเทศญี่ปุ่นของผมนั้นเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อน
ยังเป็นหนุ่มวัยละอ่อนไม่ประสาที่โดนส่งไปดูงานแบบไม่ทันตั้งตัว
ต่างประเทศก็ไม่เคยไป สมัยนั้นเครื่องยังออกจากสนามบินดอนเมืองอยู่เลย
ตอนที่เครื่อง Boeing 747 ของ JAL เร่งเครื่องขึ้นผมหลับตาปี๋เลยทีเดียว

เป็นช่วงที่กล้อง Digital กำลังเข้ามาแทนที่ ว่าจะไปซื้อที่โน่น แต่ด้วยความงก
สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ ทริปนี้เลย ต้องใช้รูปประกอบจาก Internet แล้วกัน
ปลายกันยายนปี 2001 อากาศเริ่มหนาวเย็น ใบไม้ก็กำลังจะเปลี่ยนสี
ญี่ปุ่นเองตอนนั้นน่าจะเพิ่งเปิดใช้สนามบิน Narita ไม่นานนัก

เป็นธรรมเนียมของคนเอเชียกระมัง ที่มีคนไปรับถึงสนามบิน
พานั่งรถแวนจาก Chiba เข้ามาที่ Tokyo ก็มีแวะเที่ยวรายทาง
มีวัดญี่ปุ่นที่มีสวนหลังวัดแสนสวย หมู่บ้านย้อนยุคแบบโบราณ
ได้กินร้านเทมปุระที่แสนจะธรรมดา แต่มันอร่อยที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้

กำหนดการจะได้อยู่สองสัปดาห์ นั่นแปลว่าได้หยุดเที่ยวเสาร์-อาทิตย์
Staff ญี่ปุ่นก็บอกมาว่าจะพาไป Asakusa กับ Akibahara หนึงวัน
แต่ด้วยอะไรก็ไม่ทราบเซนเซผม มาถามตอนกลางสัปดาห์ว่าอยากไปเที่ยว
โดรงงานที่อยู่เกาะทางตอนใต้ไหม ด้วยอาการงงๆ ผมก็เลยตกลงไป



เช้าตรู่วันเสาร์ เซนเซก็ให้นั่งรถไฟจากที่พักไปอีกไม่กี่สถานี ก็เลยไม่หลง
เค้าก็พาเปลี่ยนขบวนต่อไปในที่สุดก็มาถึงสนามบิน Haneda
เซนเซควักตังค์ซื้อขนมที่สนามบินมาใส่มือ ซึ่งต่อมาผมจึงได้รู้ว่า
มันเป็นธรรมเนียมที่สำคัญของคนญี่ปุ่นที่จะไม่ไปพบใครมือเปล่า

ใจลุ้นระทึกอีกครั้งหลังจากผ่านมาแค่ 7 วัน ก็ต้องมาขึ้นเครื่องบินอีกครั้ง
เซนเซชี้ให้ดูภูเขาไฟฟูจิ มันช่างสวยงามมากมาย ไม่ต่างอะไรกับโปสการ์ด
เมื่อมาถึงสนามบิน Kumamoto อากาศอบอุ่นกว่า Tokyo มีฝนตกเล็กน้อย
การดูงานไม่มีอะไรมาก เย็นวันนั้นก่อนเข้าโรงแรมเซนเซก็พาไปดูปราสาท

ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่ามันสำคัญอย่างไร และกำลังอยู่ในช่วงบูรณะสนามข้างนอก
ทางเดินเข้าไปนั้นกว้างใหญ่ หักศอกไปมาและลาดชันพอสมควร มีป้อมอยู่เป็นจุดๆ
หลังจากซื้อตั๋วก็เข้าไปข้างใน มันก็เหมือนปราสาทยุคใหม่ในปัจจุบัน
ที่ไม่ได้เป็นห้องแบบโบราณที่เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยของไดเมียวอีกต่อไป

แต่ละชั้นนั้นกลายเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในอดีตที่รวบรวมมา
ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่ายเก่าๆ อาวุธโบราณ เสื้อเกราะ เสื้อผ้าอาภรณ์ ข้าวของเครื่องใช้
จำได้แบบลางๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าสมัยนั้นถ่ายรูปได้หรือเปล่า เมื่อขึ้นไปถึงชั้นบนสุด
ก็เป็นจุดชมวิวของเมือง Kumamoto และที่จำได้ติดตาก็คือปราสาทนี้ใหญ่มาก

สิบปีผ่านมา ผมจึงได้รู้ว่ามันคือหนึ่งในสามของปราสาทที่ได้รับการยกย่อง
ร่วมกันกับอีกสองปราสาท Humeji และ Matsumoto castle เลยทีเดียว



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2555 16:59:50 น. 3 comments
Counter : 2347 Pageviews.  

 
ไม่เคยไปญี่ปุ่นเลยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:43:13 น.  

 
เป็นปราสาทที่สวยมากค่ะ
จัดสัดส่วนดีมาก แม้พื้นที่จะน้อย

ฮอนมารุ ก็สวยงามมาก สีทองอร่าม ยังติดตาอยู่เลย ^-^


โดย: GoOnG_ChaN วันที่: 26 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:07:44 น.  

 
โคราชเพิ่งริ่มหนาวนิ๊ดดด นิด เมื่อคืนเองค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 28 พฤศจิกายน 2555 เวลา:10:43:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]