Meltdown : day of destruction

Meltdown : day of destruction
เขียนโดย Terran ( 4/2/2007 )



คิดว่าหลายๆท่านคงจะเคยชมหนังฝรั่งประเภทภัยพิบัติ อย่าง Deep impact,Armageddon,war of the world,The day after tomorrow,The core ฯลฯ มาบ้าง ไม่มากก็น้อย ซึ่งโทนของหนังแนวนี้ก็จะเหมือนๆกัน คือจะมีวิกฤตอะไรสักอย่างโผล่มา แล้วพวกพระเอกก็จะเป็นผู้กอบกู้วิกฤตนั้น ตามธรรมเนียม

ซึ่ง Meltdown : day of destruction ก็เช่นกันครับ ครั้งแรกที่ผมเหลือบเห็นชื่อเรื่องนี้เข้า ผมก็คิดว่า มันคงต้องออกแนวอุกกาบาตพุ่งชนโลกแน่ ดูจากชื่อเรื่องแล้ว ซึ่งความคาดเดาของผมก็ถูกต้อง ฉากแรกโผล่มามันก็เป็นเหตุการณ์อุกกาบาตใกล้จะพุ่งเข้าชนโลกเลย

ในหอสังเกตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ อะไรของมันเนี่ยแหละ .. กล่าวถึง โอลเซน นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งทํางานอยู่ ก็ร่วมมือกับหัวหน้าเขา ใช้อาวุธนิวเคลียร์ยิงออกไปทําลายอุกกาบาต ปรากฏว่า อุกกาบาตมันก็ไม่พุ่งชนโลกครับ เพราะจากการระเบิด ทิศทางอุกกาบาตก็เลยเพี้ยนไป ไม่พุ่งเข้าชนโลก ซึ่งก็ผิดคาด จากแนวหนังอยู่เหมือนกัน ที่ว่าจะมีเศษชิ้นส่วนตกมาบ้างก็ไม่มี ก็น่าหายห่วงอยู่หรอกครับ

ฉากตัดมาที่ ทอม ( วันนี้เขียนถึงชื่อนี้2 รอบแหละ) พระเอกของเรา เป็นตํารวจครับ แสดงโดย แคสเปอร์ แวน ดีน ( ไม่ใช่แคสเปอร์ที่เป็นผีนะ ) ก็ทํางานร่วมกับคู่หูของเขา ถ้าผมจําไม่ผิดชื่อ มิกนะ แต่บทบาทไม่เด่นเท่าไร ทอมเนี่ย เคยแต่งงานแล้ว ครั้งหนึ่ง มีลูกสาวคือ คิมเบอร์ลี่ แต่สุดท้ายก็แยกย้ายกันไป ตอนนี้คบใหม่อยู่กับ คาลี่ เป็นนักข่าว ซึ่งเป็นพี่สาวของโอลเซนที่ทํางานอยู่ที่หอสังเกตุดาราศาสตร์นั่นแหละครับ ตัวหนังช่วงแรกจึงพยายามปูพื้น อยู่ที่ตัวละครต่างๆ ว่ามีชีวิตอย่างไร ซึ่งช่วงนี้ดูไม่น่าเบื่อเหมือนบางเรื่อง ดําเนินไปได้เรื่อยๆ อย่างแฟนเก่าทอมทํางานที่โรงพยาบาล ยัยคิมเบอร์ลี่ก็คบกับแฟนหนุ่มอดีตโจร CJ ซึ่งแสดงตัวตนท่าทางของคิมเบอร์ลี่ เป็นแบบ BAD GIRL การปูพื้นตัวละครดําเนินไปไม่นานนักก็เข้าสู่จุดสําคัญของเรื่อง ครับ.. จากการยิงอุกกาบาต ผลในหนังไม่มีหลักอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ แต่กลับกลายเป็นว่า มีผลทําให้โลกร้อนขึ้น ร้อนขึ้นเรื่อยๆ หลายที่ไฟไหม้ หลายประเทศ น้ำหมด เกิดจราจลไปทั่วทั้งโลก...

ซึ่งขณะที่ทอมเองยังต้องสาละวนอยู่กับคู่หูในการไล่ล่าโจรตามหน้าที่ปกติของทอม เมื่อเวลาสะสางคดีเสร็จ คาลี่ แฟนสาวนักข่าวก็จะมาสัมภาษณ์ทําข่าวด้วยทุกครั้ง
โอลเซนพยายามติดต่อพี่สาวของเขา คาลี่ เพื่อบอกให้รู้ว่าวิกฤตกําลังจะเกิด เมื่อโลกร้อนขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในสหรัฐฯเองก็เริ่มมีการจราจล สําหรับหน้าที่ตํารวจอย่างทอมแล้ว เขาก็ยังทําหน้าที่ครับ ยังคงไปกับคู่หูช่วยดูแลพื้นที่ไฟไหม้ แต่สุดท้าย น้ำที่ไว้ใช้ดับเพลิงของนักดับเพลิงยังหมดเลย ทอมไล่ให้คู่หูกลับบ้านไป ส่วนตัวเองก็จะไปนัดพบรวมตัวกับคนในครอบครัว

สถานการณ์เริ่มพุ่งเข้าขีดสุด ผลของภัยพิบัติเกิดแล้วและจะดําเนินต่อไปเรื่อยๆตลอดเรื่อง แต่เหตุ หรือฉากที่ฉายถึงเหตุจบไปแล้ว ซึ่งปิดการดําเนินเรื่องส่วนนี้ได้เร็วมาก ใครที่จะอยากดูฉากภัยพิบัติอะไรไม่มีหรอกครับ อีกอย่างหนังเรื่องนี้ทุนค่อนข้างน้อย
สถานการณ์บีบเข้ามาที่ตัวบุคคล ตัวมนุษย์เอง หลายประเทศจราจล ผู้นําหนีหายหัวกันหมด เกิดการแย่งน้ำกันทั่วโลก คนที่รวยก็หนีไปทวีปแอนตาร์กติก ซึ่งตัวหนังไม่ได้ปรากฏภาพให้ดูแต่เป็นแค่บทสนทนาเท่านั้น
ทุกๆคนต่างกลับเข้าไปหาครอบครัวของตนเอง ทอมเองก็ไปสมทบกับคาลี่ และโอลเซน ขณะที่บอนนี่ ภรรยาเก่าทอมก็พยายามหนีออกจากโรงพยาบาล สถานการณ์วุ่นวาย คนไข้ที่ทนร้อนไม่ไหวตายจํานวนมาก และยังมีโจรบุกโรงพยาบาลอีก เมื่อทุกคนมาสมทบกันก็พยายามที่จะมาที่บ้าน ซึ่งมาช่วยคิมเบอร์ลี่กับ CJ ที่กําลังต่อสู้กับพวกหัวขโมยอยู่พอดี

ทอมรวบรวมคนในครอบครัวขึ้นรถขับออกไป โดยหวังว่าจะไปทางเหนือ แต่สภาพจราจรติดขัดมาก รถทุกคันคิดแต่จะออกนอกเมือง ข้างทางเต็มไปด้วยไฟไหม้ตามจุดต่างๆ มีการฆ่ากันเพื่อแย่งน้ำ ทอมขับรถพาทุกคนหนีออกนอกเส้นทางต่อไป สภาพข้างทางเริ่มแย่ลง ขณะที่ รถหลายคันระเบิด เพราะหม้อแปลงทนความร้อนไม่ไหว

ทอมได้ติดต่อให้เพื่อนของเขาเตรียมเครื่องบินเล็กไว้ที่สนามบินทางเหนือเพื่อเตรียมตัวหนีออกไปพร้อมครอบครัวเช่นกัน
จากสภาพอากาศ และรถข้างทางระเบิดขึ้นเรื่อยๆ
ทอมจึงได้ชวนทุกคนลงจากรถ ขณะที่องค์ประกอบของตัวหนังดําเนินมาด้วยบทสนทนาที่แทรกเรื่องของชีวิตตัวละครเอาไว้ เช่นว่า บอนนี่ยังแคร์ทอมอยู่ คาลี่ไม่ได้รังเกียจบอนนี่กับคิมเบอรรี่ คิมเบอรรี่คิดว่าทอมเป็นพ่อไม่ได้เรื่อง เป็นต้น
ทุกคนพากันเดินไปเรื่อยๆตามขอบถนน พลางมองไปที่สภาพเมืองที่มีแต่ศพนอนเรียงรายอยู่เต็มพรืดไปหมด อากาศเริ่มร้อนมากขึ้น จนคิมเบอรรี่เกือบเป็นลมหมดสติลงไป ทอมเริ่มคิดหาวิธีที่จะทําให้หลบแดดได้ เขาเปิดฝาท่อและพาทุกคนลงไปเดินใต้ท่อระบายน้ำ เพื่อหลบความร้อน สอดแทรกด้วยบทสนทนาการดําเนินชีวิตครอบครัวของทอม
ขณะที่ทั้ง 6 คน เดินเข้ามาเรื่อยๆจนถึงทางตัน ทอมกําลังพลางคิดว่าจะไปทางไหนต่อโดยโทษตัวเอง ขณะนั้นเอง โจร 2- 3คนก็พุ่งเข้ามา... มีการใช้อาวุธคือปืนและมีดเพื่อแย่งชิงเสบียง เกิดการต่อสู้กันขึ้น CJ อดีตเด็กมิจฉาชีพเก่าสามารถต้านทานพวกกลุ่มโจรไว้ได้ จู่ๆก็มีคนก็เข้ามาช่วย (ถ้าผมจําชื่อผิดก็โทษด้วยนะครับ) เขาแนะนําตัวว่าเขาชื่อ การ์เนอร์เป็นตํารวจเหมือนกันกับทอม ทอมสอบถามสถานการณ์ทั่วไป ไม่มีที่ไหนปลอดภัย การ์เนอร์อาสาว่าเขารู้ทางออกจากท่อระบายน้ำนี่ไปสู่บ่อน้ำพุที่สวนสาธารณะขณะที่ทุกคนอยู่ในสภาพแย่เต็มที น้ำขวดไม่เหลืออีกแล้ว

CJ กระซิบทอมว่าไม่ไว้ใจการ์เนอร์ เพราะเคยเห็นหมอนี่รับส่วยและตกลงกับพวกค้ายา แต่ทอมคิดว่าไม่เป็นไร

การ์เนอร์ได้พาทอมและทุกคนออกมาสู่ฝาท่อโลกภายนอกได้ ซึ่งตรงกับสวนสาธารณะพอดี สภาพศพเรียงรายเต็มไปทั่ว สภาพมันแปลกจนโอลเซนคิดว่ามันผิดปกติเกินไป ทอมสังเกตเห็นได้ชัด เขาพบว่าศพหลายศพไม่ได้ร้อนตาย แต่ถูกยิง ... เมื่อทุกคนเดินมาถึงบ่อน้ำก็ได้ดื่มแก้กระหายกันเต็มที่ ทันใดนั้นเอง รถลึกลับก็พุ่งออกมา จับตัวโอลเซนไป มือยิงกระสุนลึกลับยิงปะทะกับทอมทันที สภาพตอนนี้ ทอมเหมือนกับโดนรุมอยู่ใจกลางแสงสว่าง เพราะมือยิงเหล่านั้นหลบอยู่ในสวนรอบบ่อน้ำ
เมื่อรถลึกลับขับผ่านออกไป พร้อมรับตัวการ์เนอร์ไปด้วย ทําให้ทอมรู้ว่า เขากําลังโดนหลอก การ์เนอร์หมายจะล่อให้ทอมและทุกคนมาที่นี่เพื่อชิงเสบียง แต่เมื่อรู้ว่ามีเครื่องบินอยู่จึงจับโอลเซนไป เพราะเขาติดต่อกับนักบินได้
เมื่อโอลเซนถูกจับตัวไป ทอมได้พยายามที่จะกู้ตัวเขากลับมา CJ โวยวายที่ว่ารถลึกลับคันนั้นปลอดภัยจากความร้อนเพราะติดอุปกรณ์แช่แข็งเอาไว้ ( มันคืออะไรผมก็ไม่ทราบมันเหมือนกัน - -" )
ทอมพาครอบครัวไปที่สโตร์แห่งหนึ่ง เพื่อหาที่พักฟื้น ที่สโตร์แห่งนั้น มีเสบียงอยู่ในช่องฟรีสแช่เย็น แต่มันอาจจะถูกปล้นไปหมดแล้วก็ได้ เมื่อเข้าไปจึงพบว่า เสบียงแช่เย็นยังไม่ถูกปล้นไป เพราะมีคนเฝ้าเอาไว้ ไอ้คนที่เฝ้าดันขังตัวเองไว้ในตู้ฟรีส เลยแข็งตาย ... ไม่นานนัก กําลังวังชาทุกคนก็ได้กลับมาอีก เมื่อพักฟื้นจากเสบียง (ไอติม) เต็มที่
ทอมได้พา CJ มาช่วยกันติดตั้งอุปกรณ์แอร์แบบช่องฟริสให้กับรถขนส่งคันหนึ่ง เพื่อจะใช้มันขับไปให้ทันเครื่องบินที่ติดต่อไว้และไปถึงก่อนพวกการ์เนอร์ ขณะนั้นเอง พวกโจรแถวๆสโตร์ก็เริ่มเตรียมจะบุกเข้ามา

ทอมกับ CJ เตรียมรถเสร็จ ก็พาพวกครอบครัวตนขับบึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และการเดินทางก็ราบรื่น ท่อความเย็นที่ต่อไว้ช่วยดับความร้อนได้มาก อากาศภายนอกยังร้อนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทอมเคยถามโอลเซ่นว่า มันจะเป็นยังงี้ไปถึงเมื่อไร โอลเซ่นอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ว่า อากาศจะร้อนขึ้นเพราะแรงดึงดูดทําให้โลกเข้าใกล้ดสวงอาทิตย์ แต่ถ้ามันปรับตัวได้ โลกจะคืนสู่สภาพเดิมด้วยการแสดงอาการที่มีน้ำระเหยขึ้นไป ดังนั้น ฝนตกเมื่อไร คือเวลาที่โลกกลับคืนสู่สภาพเดิมนั่นเอง
แล้วในที่สุด ก็ดําเนินมาถึงฉากสุดท้ายซะที คนอ่านจะอ่านกันรู้เรื่องมั้ยครับนี่ ทอมและพวกขับมาถึงก่อนที่การ์เนอร์จะมา ทอมอาสาจะจัดการเองคนเดียว โดยจะให้ CJ ขับหนีออกไป ถ้าปะทะกันเกิน 5 นาทีแล้วทอมยังจัดการไม่ได้
ปรากฏว่าพวกการ์เนอร์มาถึง โอลเซ่นติดต่อเครื่องบิน ได้ แต่เครื่องบินก็ดันระเบิดเพราะสภาพอากาศร้อนอย่างรุนแรง ผิวหนังของทุกคนเริ่มไหม้ ทอมจึงยิงปะทะกับพวกการ์เนอร์ เด็ดชีพพวกหัวหน้า ส่วนลูกกระจ๊อกหนีไป CJ เข้ามาช่วย โอลเซ่นโดนยิง CJ โดนยิง ทั้งคู่บาดเจ็บแต่ปลอดภัย และแล้วฝนก็ตกลงมา ...ครับ เรื่องนี้มันรอดทุกคน ..สําหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นหนังเกรด B ครับ ทุนน้อย และเนื้อหา ความยาวแค่ 90 นาที แต่การแสดง บทบาท และคาแรกเตอร์ของตัวละครค่อนข้างดี หนังถูกจัดให้เป็น rate R และจะจําหน่ายในรูปแบบ DVD นอกจากเหนือจากที่ฉายทาง TV
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

Create Date : 22 มิถุนายน 2554		2 comments
Last Update : 22 มิถุนายน 2554 21:23:55 น.
Counter : 3277 Pageviews.
Share Tweet