การกลับมาเป็นปกติของใจได้เร็ว คือ การวัดผลการปฏิบัติ - มุมมือใหม่
เมื่อวานได้ไปพูดคุยกัยญาติธรรมเรื่องการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ มีคำถามทีน่าสนใจถามมาว่า จะรู้ได้อย่างไรว่า การปฏิบัติเดินมาถูกต้อง ถูกทางแล้ว ในขณะที่ท่านกำลังฝึกฝนการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์ ท่านสังเกตเห็นได้ไหมว่า จิตใจท่านจะเฉย ๆ ไม่มีอะไรภายใน นี่คือสภาพที่เป็นปกติของจิตใจ ท่านจะดูเหมือนว่า ท่านฝึกฝนมา 1 หรือ 2 ขั่วโมง ไม่เห็นได้อะไรเลย นี่คือความจริงครับ ที่ท่านจะรู้สึกแบบนั้นเสมอ ๆ เมื่อท่านลงมือฝึกฝน แต่ถ้าท่านได้กลับเข้าสู่โลกแห่งชีวิตของท่านจริง ๆเมื่อไร ขอให้ท่านคิดถึงอดีตซิครับ ท่านจะเห็นว่า ท่านมีเรื่องราว มีปัญหาปวดหัว ที่เข้ามาในชีวิตของท่านวันหนึ่ง ๆ เป็นสิบ ๆ เรื่อง ทีเดียว เวลาท่านมีปัญหาขึ้นมา จิตใจท่านจะไม่เป็นสุขเลย นี่คือความเป็นจริงของชีวิตทีท่านไม่อาจหลักเลี่ยงได้ที่ต้องพบ ทุกคนมีปัญหาชีวิตทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน ถึงต้องกลับมานอนอีกครั้ง ทีนี้ขอให้ท่านเทียบระหว่างตอนที่ท่านกำลังฝึกฝน ที่จิตใจปกติ เฉย ๆ ไม่มีอะไร กับ ตอนที่ท่านพบปัญหาชีวิตซิครับว่า ท่านว่าอย่างไรจะน่าเป็นมากกว่า ท่านคงตอบได้ดีกว่าใคร การฝึกฝนการปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์นั้น ในขณะที่ท่านฝึกอยู่ ท่านจะได้ผลแห่งจิตใจที่เป็นปกติ คือ ไม่สุข ไม่ทุกข์ ผลแห่งการฝึกนั้น เมื่อท่านฝึกจนชำนาญ จิตใจท่านจะมีความสามารถอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ ก็คือ ความสามารถในการหยุด แห่งสภาวะที่จิตใจที่กำลังแปรปรวนให้กลับมาเป็นปกติได้ ยิ่งท่านฝึกมายิ่งชำนาญ ท่านยิ่งหยุดได้เร็ว ท่านลองพิจารณาดูครับว่า ถ้าจิตใจท่านกลับมาปกติแบบตอนที่ท่านกำลังฝึกฝนได้เร็ว มันจะทำให้ท่านคลายทุกข์ได้เร็วและดีสำหรับท่านแค่ไหน เมื่อจิตใจท่านดี เป็นปกติ ท่านก็ทำงานทำหน้าทีของท่านได้ดี จริงไหมครับ นี่คือสิ่งที่ท่านจะได้ในการฝึกฝน เมื่อท่านฝึกใหม่ ๆ การคลายทุกข์ในจิตใจ จะยังไม่ได้ผล หรือ ได้ผลแต่น้อย นีเพราะกำลังแห่งสัมมาสติ ท่านยังไม่แข็งแกร่งพอ ท่านต้องหมั่นฝึกฝนต่อไป แล้ว จิตใจท่านจะยิ่งแข็งแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งฝึกยิ่งแข้งแกร่ง ฝึกจนวันหนึ่ง ท่านจะรู้ว่า ไม่มีอะไรที่จะมาทะลวงเข้าไปในจิตใจท่านได้อีก จิตใจท่านจะปกติอย่างนี้ตลอดไป นี่คือการวัดผลแห่งการปฏิบัติครับ ท่านจะเห็นว่า ในตำราได้กล่าวถึงระดับพระอริยบุคคลไว้ 4 ประเภท นั้นคือตำรา ผมไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ แต่สิ่งทีผมแสดงไว้ในการวัดผล ท่านสามารถประเมินศักยภาพ ประเมินประสิทธิผล แห่งการปฏิบัติของท่านได้เองด้วยตนเอง ไม่ต้องไปหาใครมาประเมินให้ท่านเลย เพราะท่านจะรู้ได้ด้วยตัวท่านเองครับ นี่คือ สิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนจริง ๆ ได้จริง เห็นจริง พิสูจน์ได้จริง ****************
Create Date : 18 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 10 กันยายน 2556 8:56:59 น.
Counter : 2319 Pageviews.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [? ]
หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน.... จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ... บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้ เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ ** ****** บทความต่าง ๆ ใน blog นี้ ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ****