เรื่องราวของชีวิตที่ผ่านมา และผ่านไป เพียงแค่อยากบันทึกไว้ ให้ลูกอ่านตอนโต
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
21 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
++ Unforgetable Puppy Love ++

สำหรับฉัน.. รักครั้งแรก ที่มันยังจำฝังใจ มันไม่ได้เกิดขึ้นแบบปุบปับ แต่มันคงค่อยๆ ก่อตัว.. เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้.. แต่ที่รู้..มันยังคงฝังตัวอยู่ในความทรงจำ.. แล้วก็ทำให้ฉันยิ้มได้ทุกครั้ง ที่นึกถึง.. มาสิ.. ฉันจะเล่าให้ฟัง..


ผู้ชายคนนั้น เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน.. เป็นหัวหน้าห้อง.. แล้วก็เป็นแฟนของเพื่อน..


ใช่..อ่านไม่ผิดหรอก.. “แฟนเพื่อน” ก็เพราะอย่างนี้แหละ.. ฉันถึงไม่เคยคิดว่า ตาคนนี้จะทำให้ใจฉันหวั่นไหว.. เอ้า.. เรียกแต่ตาคนนี้ เค้าชื่อ “ธี”


ธีเจอกับเพื่อนฉัน เพราะไปเรียนดนตรี ที่สยามกลการด้วยกัน.. แม้จะอยู่ต่างโรงเรียน.. แต่เขาก็เจอกันทุกอาทิตย์ มีครั้งนึง ที่เพื่อนฉันชวนให้ถีบจักรยานไปเป็นเพื่อน.. เพื่อเอาของไปให้ธี และนั่น..ก็เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นหน้ากัน


ครั้งแรกที่เจอหน้ากัน.. ฉันก็เขม่นหน้าตาคนนี้เหลือเกิน.. .. อีตาธีเนี่ย.. ความจริงหน้าตาก็ดูดี.. ตัวขาว..คิ้วเข้ม.. ปากแดงเชียว.. ตัวสูง.. ใส่แว่น.. แต่.. กวนตีน.. ท่าเดินก็... บอกไม่ถูก แค่เห็นก็ขัดลูกกะตาเหลือประมาณ.. แต่ไม่รู้ทำไม..ฉันต้องรู้สึกไม่ชอบธีก็ไม่รู้..ทั้งๆที่.. มันควรจะ.. เฉยๆ ไม่ใช่เหรอ. สำหรับคนที่เพิ่งเคยเจอกัน..


ตอนนั้นฉันไม่ได้เดินเข้าไปกับเพื่อนหรอก.. แค่จอดจักรยานแล้วนั่งรออยู่ห่างๆ แต่ก็เห็นว่า ตาคนนี้ มองมา ... หลังจากนั้น.. เพื่อนฉันมักชวนฉันไปเป็นเพื่อน .. เวลาจะไปหาธี แล้ว..ฉันก็ไม่ชอบขัดใจเพื่อนด้วยน่ะสิ.. ทุกครั้ง.. ฉันก็เห็นเค้ามองมา.. หรือฉัน..คิดไปเอง..


โชคชะตากลั่นแกล้งหรือเป็นใจก็ไม่รู้.... พอขึ้น ม.4 ฉันเรียนวิทย์-คณิต แต่เพื่อนฉันเรียน วิทย์-ศิลป์คำนวณ เลยแยกห้องกันไป.. แต่.. ธีสอบเข้ามาเรียนโรงเรียนเดียวกัน และ.. ดันมาอยู่ห้องเดียวกับฉัน.. แถมครึ่งห้อง.. เป็นเพื่อนของธีที่สอบเข้ามาด้วยกัน.. ตอนเลือกหัวหน้าห้อง.. ธีเลยได้คะแนนลอยลำเป็นหัวหน้าห้อง.. ฉันเลยยิ่งเหม็นขี้หน้าธีมากขึ้นไปอีก


ธีเองก็เหมือนจะรู้ว่า ฉันเกลียดหน้าเขา.. เขาเลยชอบมาแกล้งฉัน.. แกล้งให้โมโห.. ทะเลาะกันทุกวัน.. ถูกต้อง.. ทุกวัน.. เว้นเสาร์อาทิตย์ ที่โรงเรียนหยุด..


ทุกครั้งที่ทะเลาะ แล้วฉันโมโห.. ฉันเป็นต้องลงมือ ถึงเนื้อถึงตัวทุกที ทั้งทุบหลัง ตีแขน.. แล้วแรงที่ตีน่ะ.. ไม่เบาหรอก.. ก็ฉันเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลนี่นา.. แต่ธี ก็ยังชอบมาแกล้ง เพื่อให้ฉันไล่ตีอยู่ทุกวี่ทุกวัน.. สงสัยชอบให้ซาดิสต์ล่ะมัง..


หลังจากที่ทะเลาะกันทุกวัน จนเริ่มคุ้นเคย และเคยชิน...วันไหนที่ธีไม่สบาย..ฉันก็รู้สึกเหงาๆไปเหมือนกัน.. และนั่น.. ทำให้ฉัน..เริ่มรู้สึกบางอย่าง.. ที่แปลกไป.. ในใจ..


มีอยู่วันนึง.. ฉันอารมณ์ไม่ดี.. ธีก็มาแกล้งบ้าอะไรก็ไม่รู้.. จำไม่ได้แล้ว..แล้วก็วิ่งหนี.. แต่จำได้ว่า.. ฉันคว้ารองเท้าเพื่อนผู้ชายอีกคน..ขว้างตามหลังไปติดๆ.. ธีก็ไวปานวอก.. หลบวูบ.. รองเท้าลอยออกไปนอกหน้าต่าง..


ให้บังเอิญเหลือเกิน.. อาจารย์ปกครองเดินผ่านแถวนั้นพอดี.. ฉันเลยโดนสวดไป 3 ยก.. แต่พออาจารย์เดินคล้อยหลังไป.. ฉันโมโห.. ที่ธีหลบรองเท้า.. ฉันเลยโดนอาจารย์เฉ่ง.. (ยังไม่สำนึกตัวเองว่าผิดนะ) ฉันเลยคว้าแปรงลบกระดานขว้าง.. เข้าเป้ากลางหลังพอดิบพอดี .. แต่หลังจากนั้น. ฉันก็ได้คิด.. คิดว่า.. ทำไมตัวเอง ต้องโกรธธีมากมาย.. ทำไมต้องตีเขาแรงๆ ฉันทำเกินกว่าเหตุไปไหม...(ที่เริ่มคิดเนี่ย.. ทะเลาะกันมา ปีนึงแล้ว ตอนนี้ขึ้น ม.5 แล้วนะ..)


มีอยู่วันนึง พักเที่ยง.. ฉันไปกินข้าวกับเพื่อนสนิทของฉัน .. พร กับ นก... พอซื้อข้าวกลับมาที่โต๊ะ ฉันก็เปรยกับเพื่อนสนิทของฉัน 2 คนว่า.. “เฮ้ย.. แก.. ชั้นสงสัยว่า.. ชั้นชอบไอ้ธีมันหรือป่าววะ.. เพราะเพิ่งสังเกตตัวเองว่า เดี๋ยวนี้เวลาทำอะไร ไปไหน ชั้นก็จะต้อง มองหาว่า..มันนั่งตรงไหน.. ทำอะไร”.


เพื่อนสองคน.. ชะงักช้อนที่กำลังกินข้าว.. หันมามองหน้าฉัน.. แล้วก็ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า.. “แกเพิ่งจะรู้ตัวเหรอ.. เพื่อนรู้กันทั้งห้องแล้วล่ะ .. มันบอกว่าผัวเมียทะเลาะกันทุกวัน.. “


“อ้าว.. ไอ้เวรคนไหนพูดงี้วะ.. แม่ง.. พูดงี้ได้ไง.. ชั้นเสียหายนะเว้ย” เสียงพูดเหมือนจะโกรธ.. แต่ตอนนั้นน่ะ รู้สึกว่า ตัวเอง หน้าแดง หูแดง.. อายน่ะสิ..

“เออ.. แกไม่ต้องสนหรอก.. อีพวกผู้ชายมันเม้าท์กันนั่นแหละ.. กินๆข้าวไปเหอะ เดี๋ยวไปห้องสมุดกันดีกว่า”


ตั้งแต่นั้น.. ฉันก็ไม่ค่อยกล้าทะเลาะกับธี.. แต่ก็ไม่เคยพูดหวานด้วยหรอก.. ก็มันเขินนี่นา.. แล้วฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนหวาน อ่อนโยน พูดจาเพราะๆ ทำไม่เป็น.. ตอนนั้น ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่า.. ความรักคืออะไร.. ความรู้สึกอย่างนี้หรือปล่าวหนอ ที่เรียกว่า “รัก”


สมัยนั้น.. ที่บ้านยังไม่มีโทรศัพท์ ขอเบอร์ยังไม่ได้น่ะสิ.. แต่เลิกเรียน..ฉันก็ชอบโทรไปหาธี.. คุยอะไรก็ไม่รู้.. คุยได้ตั้งนาน.. เป็นครึ่งชั่วโมง.. แต่อยู่ที่โรงเรียน.. ฉันไม่กล้าโฉบไปใกล้เขาหรอก..


ฉันขอแค่นี้ มีความสุขในที่ของฉัน.. ฉันไม่เคยหวังว่า เขาจะมองฉันในฐานะอะไร.. เพราะฉันสำนึกเสมอว่า.. ธีเป็นแฟนเพื่อน.. เวลาที่ธีทะเลาะกับเพื่อนฉัน.. ก็เป็นฉันนี่แหละ.. ที่ทำให้เขาดีกัน.. แล้วก็แอบมานั่งเจ็บคนเดียว..


แค่ได้เห็นหน้า.. ได้เดินใกล้ๆ ในบางครั้ง.. ตัวฉันก็แทบจะลอยอยู่แล้ว.. ฉันเริ่มเขียนบันทึก.. ในทุกๆวัน.. จะต้องมีชื่อธี อยู่ในบันทึกของฉัน..


มีอยู่วันนึง.. ฉันขี่มอเตอร์ไซด์ล้ม.. ขาเป็นแผล.. แต่ธีก็ยังมาแกล้งฉัน.. วันนั้น.. ธีแกล้ง จนฉันตกเก้าอี้.. ฉันร้องไห้โฮ.. จริงๆ ตกเก้าอี้น่ะไม่เจ็บหรอก.. แต่ตอนตกน่ะ ดันเอาหัวเข่าลง.. ตรงที่เป็นแผลตอนรถล้มมันก็แตกน่ะสิ.. นั่นล่ะที่ทำให้ร้องไห้..


ธีดูตกใจมาก ที่เห็นฉันร้องไห้.. ฉันเลยแกล้งทำโกรธ.. ไม่พูดด้วย.. ธีจะได้ไม่กล้ามายุ่งกับฉัน.. รุ่งเช้า.. ฉันเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบหนังสือเรียน.. ฉันเจอกระดาษแผ่นเล็กๆ เขียนว่า “ขอโทษนะ” อยู่ในกระเป๋า.. ฉันแอบยิ้ม.. แล้วเอากระดาษแผ่นนั้น.. ไปติดเอาไว้ในบันทึก. จนถึงทุกวันนี้ กระดาษแผ่นนั้นก็ยังอยู่..


วันที่ธีไม่สบาย.. ฉันจดเล็คเชอร์เอาไปให้ที่บ้าน.. บอกว่า อาจารย์ให้ทำอะไรบ้าง.. แค่ฉันได้ทำอย่างนี้ ฉันก็มีความสุขแล้ว.. ที่ได้ทำอะไรให้เขา.. อย่างน้อย ช่วยกันเรียน..มันเป็นวิธีแสดงออกของฉัน..


มีอยู่วันนึง.. เป็นวันที่พวกผู้ชายต้องเรียน รด. ธีก็แกล้งฉันเป็นปรกติ แล้ว.. วิ่งหนีฉัน จนขากางเกงไปเกี่ยวโดนอะไรสักอย่าง.. กางเกงขาดกว้างเชียว.. ธีบ่น.. ขาดงี้ โดนครูฝึกจับซ่อมแน่เลย.. ฉันไม่พูดอะไร.. เดินไปที่สหกรณ์ ซื้อด้ายกับเข็มมา.. แล้วเดินกลับมาที่ห้อง..


“อีธี.. มานี่เลย.. นั่งบนโต๊ะ.. จะเย็บให้.. แล้วไม่ต้องยุกยิกล่ะ ไม่งั้นเอาเข็มทิ่มให้จริงๆด้วย”


ฉันก้มหน้าเย็บกางเกงให้ธี.. ใกล้แค่นั้น.. ใจฉันเต้นแรง.. รู้สึกตัวว่า หน้าแดงนะ.. แต่ทำเสียงแข็งไปงั้น.. เย็บไป มือก็สั่นด้วย.. แต่.. ก็เย็บจนเสร็จ.. แล้วก็บอกว่า “ชั้นเย็บไม่สวยหรอก.. ไว้เธอเอาไปให้ช่างเค้าเย็บอีกทีก็แล้วกัน.” “ไม่หรอก.. ดีแล้วล่ะ.. ขอบคุณนะ” “อืมม”


ฉัน.. เคยคิด.. ด้วยสติปัญญาน้อยๆตอนนั้น ว่า.. ฉันไม่คู่ควรกับเขาหรอก.. ครอบครัวเขา พ่อเป็นทหาร.. แม่รับราชการ.. ส่วนฉันล่ะ.. พ่อแม่เป็นแม่ค้า .. ฉันเลยอยู่อย่าง เจียมตัวเจียมใจ.. แม้ว่าจะรักเขา.. รักเหลือเกิน..อืมม.. ฉันเริ่มแน่ใจว่า..มันคือความรัก..


ฉันมานั่งคิด.. ฉันรักธีตรงไหนนะ..หน้าตา.ก็... อืมม.. หล่อใช้ได้.. พูดจา.. ไม่เคยเพราะเสนาะหู.. คำหวานไม่เคยได้ยิน.. แต่.. อืมม.. ไม่มีเหตุผลอ่ะ.. พอฉันเริ่มแน่ใจว่า รักเขามากเท่าไหร่.. ฉันก็เริ่มเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น.. ฉันมันบ้า.. ถึงขนาดหารูปเขา.. เอามาใส่กรอบ เก็บไว้ใต้หมอน.. จะได้หยิบมาดูก่อนนอน.. จะได้ตอกย้ำให้เจ็บปวดมากขึ้นล่ะมัง..


ฉันไม่เคยถามเขาว่า.. เขาคิดอย่างไรกับฉัน.. แต่.. ฉันเคยบอกเขา.. ทางโทรศัพท์..ว่า..
ฉัน.. “ธี.. เธอเคยรู้ไหมว่า.....”
ธี “รู้ว่าอะไร.. อ้าว..เงียบทำไมล่ะ.. ก็บอกมาดิ”
ฉัน “ก็..ก็…” (พลางคิดในใจ แกอย่าเร่งดิ.. ฉันพูดไม่ออกหง่ะ)

ฉันเงียบไปนาน ส่วนธีก็เร่งเร้าอยู่นั่นแหละ..ว่าฉันจะพูดอะไรก็พูดมา ทำไมต้องเงียบล่ะ.. ฉันเลยโพล่งออกไป
ฉัน “ก็รู้ว่า..ชั้นชอบเธอ”


... ก่อนพูดใจฉันเต้นระรัว.. กว่าคำพูดนี้จะหลุดปาก.. มันยากเย็นนัก.. นี่ขนาดไม่ได้อยู่ต่อหน้า..


แต่พอพูดไปแล้ว.. ปลายสายกลับเงียบ.. เงียบจนใจฉันแทบหยุดเต้น.. แล้วเสียงธีก็ตอบมาเบาๆว่า.. “รู้” แต่ก่อนที่ธีจะพูดอะไรต่อ.. ฉันก็ละล่ำละลัก แย่งพูด..บอกว่า.. “เมื่อกี้ อย่าใส่ใจเลย..ฉันล้อเล่น.. แค่นี้นะ ฉันจะเข้าบ้านแล้ว” แล้วฉันก็วางสายไป


ฉันไม่กล้าฟังคำตอบ.. แล้วคืนนั้นก็กลับไปนอนกระสับกระส่าย.. ว่าพรุ่งนี้เช้า.. จะกล้าสู้หน้าเขาหรือ.. อายว่ะ....พูดไปได้ไงฟระ...


รุ่งเช้า.. เหมือนธีอยากจะพูดอะไร.. แต่ฉันเองที่เป็นคนเดินหนีเขาตลอด.. ไม่กล้าสู้หน้า.. อย่ามาพูดอะไรกับฉันตอนนี้.. ฉันอาย...


หลังจากนั้น.. ฉันก็เริ่มไปกับคนที่เข้ามาจีบ.. เขาชวนไปกินขนม.. ขอไปส่งกลับบ้าน.. ขอมารับที่บ้าน.. ฉันไม่ปฏิเสธ.. ฉันรู้ว่า ธีมองฉันห่างๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร.. ก็ธีมีแฟนแล้วนี่นา.. เพื่อนฉันเอง.. ท่องไว้สิ.. ท่องไว้...


กลางวันที่เจอหน้ากันที่โรงเรียน.. ฉันทำเป็นไม่สนใจเขา.. แต่จริงๆก็แอบมอง.. ภายใต้สีหน้าที่เรียบเฉย..เหมือนไม่สนใจเขาอีกแล้ว..แต่ในใจน่ะ ....น้ำตาตก..


จนปิดเทอม ม.5 ฉันมาเรียนพิเศษที่กรุงเทพ.. ฉันเขียนจดหมายถึงพร เพื่อนสนิทของฉัน.. ในจดหมาย..พร่ำเพ้อรำพันว่า ฉันคิดถึงธีมากแค่ไหน.. ฉันจะหนีใจตัวเองได้ยังไงดี.. ฉันควรจะทำยังไงถึงจะเลิกคิดถึง เลิกรักธีได้.. มันเจ็บจริงๆนะ ที่ต้องบอกตัวเองให้เลิกรักเขา..


พอจดหมายตอบกลับจากพรมาถึง.. ฉันดีใจมาก รีบเปิดอ่าน.. แต่.. ฉันบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงหลังจากอ่านจบ.... พรบอกว่า..วันที่จดหมายฉันไปถึงที่บ้าน.. ธีมาหาพรที่บ้านพอดี.. แล้วก็เป็นจังหวะที่บุรุษไปรษณีย์ เอาจดหมายฉันไปส่ง.. ธีเห็นว่าเป็นจดหมายจากฉัน.. ธีเลยถือวิสาสะเปิดจดหมายอ่าน.. แล้ว.. ทั้งหมดที่ฉันพรั่งพรูกับพร.. ธีก็อ่านจนหมด..ทุกตัวอักษร..


ธีขอจดที่อยู่ของฉันที่กรุงเทพ.. เขียนจดหมายมาหาฉัน.. แต่เนื้อหาใจความ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ..คงจะเขียนมาหยั่งเชิงฉันก่อนละมัง.. แต่ฉันไม่ยอมตอบจดหมายธี.. ฉันกลัวตัวเองใจอ่อน..


จนเปิดเทอม.. ฉันไม่กล้าสู้หน้าธี.. หลบได้เป็นหลบ.. และฉันก็ยังพูดกับเขาน้อย..ไปออกเดทกับหนุ่มอื่นเหมือนเคย.. เข้าทำนอง หน้าชื่นอกตรม...


ฉันพยายามจะคบกับคนอื่น แต่ใจก็คิดสงสาร หากว่า ฉันไม่ได้รักเขา แต่คบด้วยเพียงเพราะอยากมีใครมายึดเหนี่ยวเพื่อให้ลืมธี..ฉันก็ใจร้ายเกินไป.. สุดท้าย..ฉันก็เลิกหมดทุกคน.. ไม่คบกับใครเลย..จนเรียนจบ ม.6.. พวกเราต่างแยกย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย ที่ตัวเองสอบได้.. ฉันไปอยู่ไกลกว่าเพื่อน.. ไกลเป็นพันกิโลเชียวล่ะ..


ตอนเรียนมหาวิทยาลัย..ฉันก็ได้ข่าวคราวว่า ธีเลิกกับเพื่อนฉันแล้ว.. แล้วก็มีแฟนใหม่ตั้งหลายคน.. ฉันได้แต่คิดคนเดียวว่า.. ฉันอยากเป็นคนสวย.. อยากให้เธอเสียดายที่ไม่ได้เลือกฉัน ตอนนั้น.. มีคนมาจีบฉันหลายคน.. แต่ไม่ว่าฉันจะคบกับใคร.. ฉันไม่เคยลืมธีได้เลย..


เวลาฉันเริ่มรู้สึกดีกับใคร.. แต่พอปิดเทอม กลับบ้านมาเจอธี.. ใจฉันก็ละลายทุกครั้งเลย.. ทำไมมันลืมยากอย่างนี้หนอ..


ทุกครั้งที่ปิดเทอม ฉันแวะที่กรุงเทพ นัดเจอพวกเพื่อนๆ ธีก็จะมาด้วย.. เรามองตากัน แต่ไม่เคยได้พูดอะไร.. การกระทำของธีหลายๆอย่าง.. ทำให้ฉันไม่แน่ใจว่า ตกลงเขาคิดอย่างไรกับฉันกันแน่.. แต่ฉันก็ไม่เคยมีความกล้า.. ที่จะถาม.. อีกอย่าง.. เวลาฉันมีแฟน เขาดันว่าง แต่เวลาฉันว่าง เขาดันมีแฟน..


จนวันนึง ที่ทั้งฉันและธีต่างก็มีครอบครัวแล้ว.. ฉันก็แค่อยากรู้คำตอบ.. ของตอนนั้น.. เลยนึกสนุก ถามธี.. ตอนที่ได้คุยกันสองคน..


ฉัน “นี่เธอ.. ตอนนั้น.. ชอบฉันบ้างไหม”
ธีมองหน้าฉัน.. แล้วตอบว่า.. “ก็ชอบสิ เธอไม่รู้เหรอ”
ฉัน “อ้าว.. แล้วทำไมไม่เคยบอกฉันล่ะ.. ฉันเองก็คิดว่าตัวเองเป็นแค่ลูกแม่ค้า.. ไม่คู่ควรกับเธอหรอก”
ธี “บ้า.. คิดอะไรแบบนั้น.. แล้วอีกอย่าง ตอนนั้นเธอก็ไปกับคนนู้นคนนี้.. ฉันจะไปรู้เหรอว่า.. เธอยังชอบฉันอยู่.. ใครจะกล้าพูด”
ฉัน (คิดในใจ..อ้าวไอ้นี่.. ไม่แมนเลย.. ทำไมไม่กล้าบอกวะ .. แล้วก็คิดต่อว่า.. เป็นความผิดใครดีล่ะเนี่ย.. ตัวฉันเอง..กล้าบอกเขาว่าชอบ แต่ดันไม่กล้าฟังคำตอบ..หึหึ.. จะโทษใครดีเนี่ย.. )


ฟังแล้ว..เหมือนตลกร้ายจริงๆ .. ไม่มีใครให้โทษ..นอกจากตัวเอง.. อยากหนีใจตัวเองดีนัก.. กล้าบอกว่าชอบ แต่ทำไมไม่กล้าคิดอยากไขว่คว้าไว้บ้างล่ะ.. นั่นเป็นเพราะว่า.. เราต่างไม่พูดกันตรงๆ... ต่างเขินอาย.. แต่.. ก็น่ารักดีนะ..


ถ้าจะมีใครถาม..ว่าความรักครั้งแรก.. กับความรักกับคนที่เราแต่งงานด้วย.. รักใครมากกว่า.. มันเปรียบเทียบไม่ได้หรอก.. มันไม่เหมือนกัน.. รักของธี.. มันเป็นความรู้สึกสุขที่ได้รัก.. ไม่เคยคิดถึงอนาคต หรืออื่นใด.. รักที่ได้เห็นเขามีความสุข.. รักที่ไม่คาดหวัง.. และมันคือ ความทรงจำ


.. รักครั้งแรกของฉัน.. มันเป็นความทรงจำที่งดงาม.. อยู่ในใจฉันเสมอมา..มันทำให้ฉันยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึง.... บางเสี้ยวก็รู้สึกว่า.. ทำไมตอนนั้น เรารักคนคนนี้ ได้มากมายขนาดนั้นเชียว.. แค่ฟังเพลงเศร้าก็น้ำตาไหล เจ็บปวดเหลือเกิน.. คิดแล้วก็ตลกดี.. แต่ตอนนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ปรารถนาดีต่อกัน..


แต่สำหรับชีวิตคู่.. มันเป็นรักที่คาดหวัง.. วาดหวัง.. และมองอนาคตร่วมกัน.. มันมีอะไรที่มากกว่าแค่ได้รัก.. แต่มันคือ.. ความฝัน ความหวัง.. และชีวิต..


เรื่องของธี .. มันก็เป็นบทเรียนที่ดีกับชีวิตของฉัน ..ว่า.. หากฉันมีเรื่องไม่เข้าใจกับคนรักของฉัน.. ฉันจะไม่เงียบอีกต่อไป.. เพราะเขาอาจไม่ได้คิดอย่างเรา.. อย่าคิดเอาเอง สรุปเอาเอง.. ไม่งั้น..จะเสียใจภายหลัง..


แล้วคุณล่ะ... บอกฉันบ้างสิ..ว่า.. ความรักครั้งแรกของคุณเป็นยังไง..





Create Date : 21 เมษายน 2552
Last Update : 13 มิถุนายน 2554 14:53:38 น. 15 comments
Counter : 316 Pageviews.

 
ยาวจังค่ะ



โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:32:56 น.  

 
อยากฟังจริงๆเหรอป้า รักครั้งแรกหน่ะ เศร้านะ ทุกวันนี้ยังเศร้าอยู่เลย หลานมีความคิดว่า เพื่อนก็คือเพื่อน เมื่อมันมากกว่านั้น ก็จะเสียเื่พื่อนไป หลานเสียเพื่อนที่ดีไป ก็เพราะมันมีความรู้สึกดีๆ..ที่อาจจะเพราะยังเด็กเกินกว่าจะมีวุฒิภาวะน้อยเกินกว่าจะรักษาความเป็นเพื่อน หรือเพราะมันจะไม่มีทางเหมือนเดิมรึเปล่า หลานไม่แน่ใจ และพอมาถึงวันนี้ ตอนนี้ หลานก็ไม่แน่ใจแล้ว ว่าความรู้สึกตอนนั้นคืออะไร หลานเลยย้อนกลับมาถามตัวเอง ว่ามันคุ้มกันมั้ยกับการต้องเสียเพื่อนที่คบกันมาตั้ง สิบกว่า ปี เอาเป็นว่าตั้งแต่จำความได้ ความรู้สึกที่เปลี่ยน คนก็เปลี่ยน


โดย: karnkraw วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:33:09 น.  

 
emo ซึ้งจัง อ่านไปลุ้นไปค่ะ..มีลุ้นให้จุ๊บกันด้วยอ่ะ รักครั้งแรกน่าประทับใจ ยากที่จะลืม แม้เป็นรักวัยเรียน เวลาสบตาร้อนวูบวาบ แค่นี้ก็สุขใจเหลือเกินค่ะ

ปล.อ่านแล้วทำให้คิดถึงอดีตหวานๆ และมองอนาคต ต้องเดินต่อไป สู้ๆค่ะemoemo


โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:9:49:16 น.  

 
เติมจุ๊บๆ...เขียนเป็นนิยาย ได้เลยนะคะ สนุกดี น่ารักมากค่ะ ทั้งพระเอก นางเอก คริ คริ ตบ จูบ ๆ ต้องมีจ๊วบๆกันแน่เลยemo


โดย: นางฟ้าในโลกไซเบอร์ วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:12:30:50 น.  

 
หนูยังสับสนเลยค่ะป้า ..
ไม่รู้ว่ายังไงเหมือนกัน แต่ตอนนี้มันเหมือนลอยๆ

จริงๆ เค้าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกค่ะ เป็นแฟนของหนูนี่หละ คบกันมาห้าีปี แต่เค้าอยู่นิวยอร์กตลอด เจอกันปีละครั้ง จนมาสองปีหลังที่เริ่มจะห่างๆ เลยถอยๆความสัมพันธ์กัน แต่ยังติดต่อ ถามไถ่กันตลอดค่ะ

มาเมื่อวานซืนที่เค้าบอกว่าจะย้ายกลับเมืองไทยแล้ว แต่งงานกันดีกว่า (เคยแพลนจะแต่งกันตั้งแต่คบแล้วค่ะ แต่เลิกกันก่อน)

แต่ถามว่ารักไหม ตอบได้ว่าไม่ค่ะ
คิดว่าเค้าคงดูแลเราได้ แล้วคงรักไปเองหละ


สงสารตัวเองไงไม่รู้


โดย: เทียนไขกับไฟแช็ก วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:14:34:13 น.  

 
อยากบอกว่าอ่านแล้วก็น้ำตาซึมไป เข้าใจความรู้สึกของป้าจัง อาจจะไม่ทั้งหมดเพราะเราคนละคนกัน แต่ก็เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องความทรงจำที่งดงาม ความรักที่ไม่คาดหวัง กับปัจจุบันที่เราต้องคาดหวัง ต้องมีอนาคตร่วมกัน

ป้า หนูขอโทษที่ทำให้น้ำตาท่วมบล้อกป้า แง้ๆๆๆๆๆๆ


ที่่บล้อกหนูน่ะ เหมือนจะจบแต่ยังไม่จบดีนะ ยังมีอะไรมาให้พร่ำเพ้อได้อีกสักสองบล้อก

เฮ้อออออ การที่เรารักใครสักคนแล้วเค้าก็รักเราตอบ แต่เราปล่อยเวลานั้นไปโดยที่ไม่ได้ทำความเข้าใจกัน มันคงจะเศร้ากว่าการที่รักใครข้างเดียวโดยที่เค้าไม่สนใจเราเป็นแน่ เส้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นั่นสิเนอะ ทุกเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตเรา ต่างก็ให้บทเรียนแก่เราเสมอ


.. หากฉันมีเรื่องไม่เข้าใจกับคนรักของฉัน.. ฉันจะไม่เงียบอีกต่อไป.. เพราะเขาอาจไม่ได้คิดอย่างเรา.. อย่าคิดเอาเอง สรุปเอาเอง.. ไม่งั้น..จะเสียใจภายหลัง.. จริงค่ะ

อย่างน้อยหลังจากได้อ่านเรื่องนี้ ก็จะบอกกับตัวเองไว้เสมอว่า ถ้าเราไม่เข้าใจกัน เราต้องคุยกัน ไม่คิดเอง ไม่สรุปเอาเอง ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง

อยากให้บอกเหรอคะ ว่าความรักครั้งแรกเป็นไง ตามไปอ่านเลยค่ะ

ความจริงปิดไว้แล้ว แต่จะเปิดไว้อีกห้าวันนะคะ แล้วจะตามไปปิด เหอๆ




โดย: พท สข (พื้นที่สีเขียว ) วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:15:06:13 น.  

 
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=myplaceisgreen&month=09-2007&date=03&group=2&gblog=11


ลืมลิงค์ซะงั้น


เขียนไว้นานแล้ว แต่ความรู้สึกยังมิเปลี่ยนนะคะ

ย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ ตะกี้ลืมบอกว่า ตอนที่นายธีเขียนโน๊ตขอโทษใส่กระเป๋านักเรียนให้ป้า แอบยิ้มเขินหัวใจพองโตไปด้วย ตอนที่ป้าเย็บชุดรด. ให้เค้าว้าย เขินหน้าแดงเชียวค่ะ อินสุดฤทธิ์


นึกถึงช่วงชีวิตวัยหวานที่ผ่านมาแล้วมีความสุขเนอะ

ทุกวันนี้ก็ใช่จะทุกข์มาก เพียงแต่สุขน้อยกว่าเมื่อก่อนเท่านั้นเอง


โดย: พื้นที่สีเขียว วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:15:17:47 น.  

 
บล็อกนี้ป้าเขียนดีนะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:16:04:11 น.  

 
โอ้โห เป็นความทรงจำอันแสนนานเลยนะค่ะเนี่ย
อ่านแล้วคิดตามไปด้วย และลุ้นด้วยแหละค่ะ ...
แต่ถึงแม้ว่าจะนานแต่ก็ยังจำได้ ทุกรายละเอียดเลยนะคะ
เพราะว่ามันเป็นความทรงจำที่ดีนะค่ะป้า


โดย: JewNid วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:16:37:17 น.  

 
อ่านแล้ว...อืม..ดีจัง
มีเรื่องราวให้จดจำ คิดถึง

...ของตัวเอง..มันนึกอะไรไม่ออกเอาซะเลยค่ะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:17:35:10 น.  

 
ตกลงฟามรักครั้งแรก ความทรงจำสีจางๆ ป้าอ่านแล้วใช่ป่ะ อีกห้าวันจะตามไปปิดตามสัญญา แหะๆ

ส่วนความรักครั้งที่สอง ถ้ามีตอนใหม่แย้วจะมาส่งสัญญาณรักแน่นอนค๊า





โดย: พื้นที่สีเขียว วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:17:53:24 น.  

 
emoemo
บอกแล้วไงคะ ด้านมืดค่ะด้านมืด ไม่ได้ภูมิใจกับมันหรอกค่ะ แต่มันก็มีดีอยู่หลายอย่างเหมือนกันน๊าemo


โดย: karnkraw วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:21:54:04 น.  

 
หวานซะ
ปู่นี่แหละเฟ้ย เจ้าของไร่ แห้ว ฟระ


โดย: naydin วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:22:46:27 น.  

 
ถูกแล้วครับ

ผมนี่แหล่ะ "อนันดา"


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:3:20:34 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่

















โดย: ชาติสยาม (กะว่าก๋า ) วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:8:15:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

elastigirl
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สาวเหนือ ที่บังเอิญสอบเอ็นสะท้านติด ไปเรียนที่ปักษ์ใต้ แล้วไปเจอหนุ่ม กทม. จับพลัดจับผลู เลยต้องอยู่ที่ กทม. ตอนนี้ เป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง และสุดท้าย..หม่าม๊า รักสมาร์ทที่สุดเลย...
ลิงจอมทะเล้น
หัวหอมจอมซ่า
กระต่ายจอมกวน
X
X
X
Friends' blogs
[Add elastigirl's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.