Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

ไดอารี่ “คนตกงาน” โดย “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอนที่ 6: สานฝันให้เป็นจริง (ภาค 1)…ฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เก่ง ๆ



ฉันเคยฝันเสมอว่าอยากจะพูดภาษาอังกฤษให้เก่งแบบที่สามารถคิดเป็นภาษาอังกฤษแล้วพูดได้เลย
แต่การทำงานหลายปีที่ผ่านมาฉันไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ทั้งภาษาพูดและเขียนมากนัก
จึงทำให้ทักษะทั้งการพูดและอ่านหายไปจนทำให้ขาดความมั่นใจไปมาก

วันที่ฉันตกงานในวันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ฉันจะกลับไปฝึกพูดใน Public Speaking Club อีกครั้งหนึ่ง
หลังจากที่เคยเป็นสมาชิกมาก่อนตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่นและหนีหายด้วยเหตุผลหลายประการ

ในช่วงที่กำลังศึกษาดูว่าฉันควรเลือกเป็นสมาชิกของ Club ใด
เนื่องจากในเมืองไทยโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ มี Speaking Club หลายแห่ง
ฉันจึงได้ไปสังเกตุการณ์การประชุม 2-3 แห่งเพื่อศึกษาที่ที่เหมาะสมสำหรับการเข้าไปเป็นสมาชิก
ในที่สุดก็คิดว่าจะปักหลักที่ที่สะดวกในการเดินทางและใกล้บ้านมากที่สุด

จากวันที่ตกงานจนถึงวันที่เขียนไดอารี่นี้ฉันได้เข้าไปฟังการประชุมทุกสัปดาห์
ฉันเข้าไปร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตุการณ์โดยเสียค่ากาแฟและอาหารว่างครั้งละ 180 บาท
เป็นค่าใช้จ่ายที่ดูเหมือนสูงแต่ถ้าเปรียบเทียบกับค่าเรียนภาษาอังกฤษในชั้นเรียนก็ไม่แพง
และผลที่ได้รับก็คุ้มค่าเกินกว่าที่จะนำมาคิดเปรียบเทียบกันเป็นตัวเงิน

ฉันกำลังคิดที่จะสมัครเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
เพื่อจะได้มีโอกาสในการฝึกพูดบ้างแทนที่จะเข้าไปนั่งฟังหรือสังเกตุการณ์เพียงอย่างเดียว
การสมัครเป็นสมาชิกครั้งแรกต้องเสียค่าสมาชิกเป็นเงิน 3,300 บาท
และจะต้องจ่ายค่าสมาชิกครั้งต่อไปครั้งละ 1,800 บาททุก ๆ ครึ่งปี

นอกจากนี้การประชุมในแต่ละครั้งจะต้องเสียค่ากาแฟและอาหารว่างคนละ 180 บาท
(บาง Club เสียเพียง 80 บาทก็มีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่และรายการอาหาร)
ถ้าต้องการประหยัดก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องเข้าร่วมรับประทานกาแฟและอาหารว่าง
แต่ก็ไม่เห็นมีใครเขาทำกัน

การได้ไปเข้าร่วมประชุมทำให้ฉันมีโอกาสได้ฟังคนเก่ง ๆ พูดภาษาอังกฤษพร้อม ๆ กับแนวคิด
และแนวทางบริหารจัดการที่หล่อหลอมให้สมาชิกเป็นผู้นำที่มีความรู้ความสามารถยิ่ง ๆ ขึ้น
ฉันได้ทราบมาว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพและมีชื่อเสียงอยู่ในวงการหลาย ๆ ท่าน
ก็เคยเป็นสมาชิกของ Club เหล่านี้มาก่อนเช่นกัน อาทิเช่นอดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช
อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
เจ้าของ Slogan: Doctor Dan Can Do นั่นเอง
และคนทำงานและผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จอีกมากมาย
ถ้าท่านผู้อ่านอยากเก่งภาษาอังกฤษและประสบความสำเร็จอย่างนี้บ้าง
ก็น่าจะลองพิจารณาเข้าร่วมกิจกรรมดูบ้าง

แม้การเป็นเพียงผู้สังเกตุการณ์ที่ยังไม่มีโอกาสได้พูดเนื่องจากยังไม่ได้เป็นสมาชิก
แต่การได้ฟังทำให้ฉันก็ได้เรียนรู้อย่างมากและรู้สึกเป็นการเปิดโลกทัศน์ที่ดีให้กับตนเองอีกด้วย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากสมาชิกหลาย ๆ คนที่มีความรู้ความสามารถอันน่าทึ่งนั้น
ก็เนื่องมาจากการที่เขาเหล่านั้นไม่เพียงแต่เป็นผู้รับแต่ต้องเป็นผู้ให้หรือผู้เสียสละ
โดยการทุ่มเทเวลาให้กับสิ่งที่ทำด้วยจึงจะสามารถประสบกับความสำเร็จตามที่ตั้งใจได้

หลาย ๆ คนแม้จะประสบความสำเร็จถึงขั้นเทพที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วแล้ว
พวกเขายังคงทุ่มเทเวลา ความรู้และปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสมาชิกและกรรมการชมรม
ที่ต่างมีหน้าที่ในการช่วยกันจัดช่วยกันดำเนินการประชุมให้ลุล่วงเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนาน
บางคนเป็นสมาชิกเกือบ 20 ปี บ้างก็ 10 ปี หรือหลาย ๆ ปี
ถึงแม้จะมีสมาชิกใหม่ ๆ ทยอยเข้ามาทำให้ Club คึกคักและมีสีสันอยู่ตลอดเวลาก็ตาม

นอกจากการประชุมประจำสัปดาห์ที่มีโปรแกรมการประชุมที่เป็นมาตรฐานแล้ว
ทุก ๆ ครึ่งปีก็จะมีการแข่งขันการพูดทั้งภายใน Club และข้าม Club
ทั้งนี้เพื่อคัดเลือกผู้ชนะไปเป็นตัวแทนในการแข่งขันในระดับเวทีโลกอีกด้วย
ช่วงนี้ฉันจึงมีโอกาสได้เข้าฟังการแข่งขันพูดโดยนักพูดชั้นเซียนจากหลาย ๆ คลับ
โดยการวนหรือสลับกันเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมแข่งขันการพูด

ฉันยังได้มีโอกาสเข้าร่วมรับฟังการแข่งขันการพูดรวม 2 โอกาสด้วยกัน
โอกาสแรกเป็นการแข่งขันการพูดเกี่ยวกับเรื่องที่สร้างอารมณ์ขันให้กับผู้ฟัง
และอีกการแข่งขันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเป็นนักวิจารณ์การพูดของผู้อื่น
ทั้งสองโอกาสทำให้ฉันได้รับความรู้ความบันเทิงมากมายและคุ้มค่ากับเวลาเป็นอย่างมาก

จำได้ว่าในการประชุมครั้งหนึ่งมีประธานชมรมนักพูดจากประเทศออสเตรียมาเยี่ยมคลับ
และได้เข้ามาร่วมพูดในหัวข้อเรื่อง “การเขียนที่มีประสิทธิภาพ”
นับเป็นหัวข้อที่อยู่ในความสนใจของฉันและมีประโยชน์เป็นอย่างมาก

อีกสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากกิจกรรมนี้ก็คือ
การเป็นสมาชิกของ Speaking Club ซึ่งมีสาขาในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
สมาชิกสามารถเข้าไปเยี่ยม Club เมื่อเดินทางไปเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ที่มีสาขา
และสามารถติดต่อขอพูดโครงการต่อเนื่องจากประเทศตนเอง
และนำผลหรือเครดิตกลับมาพูดต่อเนื่องในประเทศของตนเองได้
เช่นเดียวกับการโอนหน่วยกิตหรือเครดิตในการเรียนข้ามมหาวิทยาลัยอย่างนั้นเลยทีเดียว

เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา
ทาง Club ที่ฉันได้ไปปักหลักสังเกตุการณ์ได้มีโอกาสต้อนรับสมาชิกอีกหนึ่งคนจากต่าประเทศด้วย
Jasmin Heltch เป็นสมาชิกของ Public Speaking Club ในเยอรมันนี

สัปดาห์แรกเธอมาสังเกตุการณ์และได้ขึ้นไปบนเวทีกล่าวคำพูดทักทายสั้น ๆ
สัปดาห์ต่อมาเธอมาเยี่ยมอีกพร้อมกับเตรียมการพูดอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นโครงการการพูดที่ 9 ของเธอ
เธอพูดในหัวข้อที่เกี่ยวกับความสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี
ซึ่งก็หมายความว่าหากการพูดในครั้งนี้ของเธอผ่านการพิจาณาตัดสินโดยคณะกรรมการ
เมื่อเธอกลับไปประเทศเยอรมันนีเธอสามารถไปพูดโครงการ 10 ต่อได้เลย
เมื่อครบ 10 โครงการซึ่งเป็นหลักสูตรการพูดขั้นพื้นฐาน
เธอสามารถต่อโครงการการพูดขั้นสูงอีก 10 โครงการไปเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนดระยะเวลา

ครั้งแรกที่พบ Jasmin ฉันแค่ยิ้มทักทายเธอธรรมดาตามมารยาท
ครั้งต่อมาเธอเข้ามานั่งที่ติดกับฉันอีกเราจึงมีโอกาสได้พูดคุยกันมากขึ้น

Jasmin เข้ามาในช่วงที่ฉันกำลังตกงาน ห่างเหินจากเพื่อนฝูง เหงาและต้องการเพื่อนพอดี
ประจวบกับการพูดคุยที่ถูกคอไปในแนวทางเดียวกันพร้อมกับความน่ารักของเธอ
ทำให้ฉันรู้สึกประทับใจและอยากคบค้าสมาคมกับเธอ

Jasmin ซึ่งเกิดปีเดียวกับฉันเล่าว่าตอนนี้เธอยังเป็นโสดและไม่มีบุตร
เธอไม่ได้ทำงานแล้วเพราะเกษียณก่อนกำหนด (Oops…คุ้น ๆ!!)
ช่วงนี้เธออยู่ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วเข้า ๆ ออก ๆ เมืองไทย
จนกว่าจะกลับประเทศเยอรมันนีอีกครั้งหลังเดือนมีนาคม
เธอมีเพื่อนชาวเยอรมันที่เช่า Condo ระยะยาวในเมืองไทยซึ่งเธอใช้ต่อในช่วงที่เพื่อนไม่อยู่

ฉันถามว่าจะได้พบเธอใน Club นี้อีกหรือไม่
เธอบอกยังไม่แน่และบอกว่าเราอาจจะนัดพบดื่มกาแฟคุยกันก็ได้ซึ่งเธอจะว่างทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฉันบอกขอตรวจตารางเวลาตนเองก่อนแล้วจะโทรหาเธอเพื่อนัดหมาย

วันรุ่งขึ้นฉันเชิญเธอรับประทานอาหารเย็นพร้อมชวนเธอไปนวดแผนไทยด้วยกัน
เธอรับนัดและได้มาพบฉันตามวันและเวลานัดตอน 5 โมงเย็นของวันพุธที่ 26 พ.ย. 51
แถมยังมาก่อนเวลานัดซึ่งผิดคาดที่ฉันกลัวว่าเธออาจจะหลงทางและมาไม่ถูกเสียอีก

การพูดคุยกันในระหว่างรับประทานอาหารญี่ปุ่นด้วยกัน (ช่วงนี้รู้สึกเบื่ออาหารไทย ^_^)
ทำให้เราได้รู้จักซึ่งกันและกันมากขึ้นและฉันก็รู้สึกสนุกมีความสุขกับการได้พูดคุยกับเธอ
ฉันถามเธอว่าเคยมีใครบอกว่าหน้าตาของเธอโดยเฉพาะดวงตาเหมือนกับ Lady Diana ไหม
เธอหัวเราะบอกไม่เคย…

Jasmin บอกว่าเธอได้พยายามใช้เวลาว่างในการเขียนบทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว
และสิ่งที่เธอได้พบเห็นและส่งกลับไปบ้านเกิดเพื่อลงพิมพ์ในหนังสือและนิตยสารต่าง ๆ
แต่เป็นการตีพิมพ์ที่เธอไม่ได้ค่าตอบแทนแต่เป็นเหมือนอาสาสมัครที่ทำเป็นงานอดิเรกมากกว่า

จากนั้นฉันพาเธอไปนวดแผนไทยที่ Health Land ซึ่งเธอรู้สึกชื่นชอบมากเป็นพิเศษ
นวดเสร็จฉันพาเธอเดินกลับมาเยี่ยมบ้านของฉันซึ่งอยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้น
ฉันไม่รู้ว่า Jasmin คิดอย่างไรแต่ถ้าเป็นฉันเจอใครมาทำอะไรให้แบบนี้
ฉันคงจะต้องรู้สึกระแวงและนึกถึงความไม่ปลอดภัยเอาไว้ก่อนเป็นอย่างแรก
แต่ดูเหมือนเธอไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะมีความรู้สึกหรือคิดเช่นนั้นเลย
ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะพอไปถึงบ้านฉันก็ได้ตามลูก ๆ ออกมาพูดจาทักทายเธอและถ่ายรูปร่วมกันด้วย

เราคุยกันจนถึง 4 ทุ่มโดยรู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
ตลอดเวลา 5 ชั่วโมงที่อยู่กับ Jasmin โทรศัพท์มือถือของเธอดังตลอดเป็นระยะ ๆ
เป็นโทรศัพท์ทางไกลจากเพื่อนฝูงญาติพี่น้องจากเยอรมันนีที่โทรมาถามข่าวคราวด้วยความห่วงใย
เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่กำลังเกิดขึ้น
และการปิดสนามบินที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้
จากการได้พูดคุยกันฉันได้ให้ความเชื่อมั่นกับ Jasmin เรื่องความปลอดภัยภายใต้สถานการณ์การเมือง
แต่เรื่องความไม่สะดวกซึ่งเกิดจากการที่สนามบินถูกปิดนั้นน่าจะได้รับการแก้ไขในเร็ววันนี้

ฉันคิดว่าการที่ฉันได้ดูแลเทกแคร์และมอบมิตรภาพที่ดีให้กับเธอในวันนี้
จะมีส่วนช่วยทำให้เธอมีความรู้สึกที่ดี ๆ กับคนไทยและเมืองไทยบ้างไม่มากก็น้อย
ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยความรู้สึกติดลบที่อาจจะเกิดจากผลของการปิดสนามบินและความกังวลต่าง ๆ ได้

จากนั้นฉันได้เป็นเพื่อนพา Jasmin เดินออกจากบ้านไปเรียกรถ Taxi ด้วยกันหน้าซอย
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอส่ง SMS มาถึงฉันบอกว่าเธอกลับถึงที่พักอย่างปลอดภัยแล้ว

สรุปแล้วการไป Public Speaking Club ในช่วงนี้ฉันได้เพื่อนฝรั่งมาหนึ่งคน
นับเป็นปรากฏการณ์ที่ฉันไม่เคยทำกับใครแบบนี้มาก่อน
เพราะตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาแม้แต่เพื่อนคนไทยที่เป็นสมาชิกในชมรม
ฉันยังไม่ได้เข้าไปทำความรู้จักใครมากเท่า Jasmin เลยสักคน…ฮา

ถ้าท่านผู้อ่านสนใจการฝึกพูดเป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าสาธารณะเช่นที่เล่ามาข้างต้น
ลองโทรศัพท์ติดต่อสถาบันต่าง ๆ ที่เป็น Public Speaking Club
โดย Club เหล่านี้จะจัดกิจกรรมหลังเวลาเลิกงานระหว่าง 18.00-20.30 น. เป็นประจำทุกสัปดาห์
หากโชคดีเราอาจจะได้เจอกันและเข้ามาเป็นสมาชิกฝึกพูดภาษาอังกฤษในคลับเดียวกันก็เป็นได้…

ปัจจุบันในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจะมี English Public Speaking Club รวมทั้งสิ้น 24 แห่งดังนี้

o วันจันทร์

Bangkok Toastmasters Club
(โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ ติดต่อคุณอรุณ Tel. 08-9882-7427)

Thai Airways International Toastmasters Club
(การบินไทยสำนักงานใหญ่ อาคาร 6 ห้อง 201 ถนนวิภาวดีรังสิต
ติดต่อคุณนัฐพล โทร 08-6313-0907)

o วันอังคาร

The AACP Toastmasters Club
(เพลินจิตทาวเวอร์ชั้น 17 ติดต่อคุณ สุรินทร์ โทร 08-1751-9398
หรือคุณสมสุดดา โทร 08-9111-4035)

Capital Toastmasters Club
(Pacific City Club ชั้น 28 ถนนสุขุมวิท ติดต่อคุณ Tim Tel. 08-1834-8982)

Laemthong Toastmasters Club
(จามจุรีสแควร์ สามย่าน ติดต่อคุณวลีพร โทร 08-1484-9897)

o วันพุธ

The First Thai Toastmasters Club
(ร้านอาหารบ้านกล้วย ถนนสีลม ติดต่อคุณสุพิณ โทร 089-132-9099
หรือคุณเนาวรัตน์ โทร 08-1835-3895)

ABAC Toastmasters Club
(มหาวิทยาลัย ABAC ติดต่ออาจารย์ศิริพร โทร 086-974-0041)

o วันพฤหัสบดี

Seagate Teparuk Toastmasters Club
(ถนนเทพารักษ์ สมุทรปราการ ติดต่อคุณบังอร โทร 08-4470-3790
หรือคุณ รัตนกมล โทร 08-6661-7878)

Siam Toastmasters Club
(ร้านอาหารบ้านกล้วย ถนนสีลม ติดต่อคุณมยุรา โทร 08-1931-1916)

Seagate Korat Toastmasters Club
(นครราชสีมา ติดต่อคุณ K. Ramm โทร 08-4470-3790
หรือคุณ Munin โทร 08-1185-9415)

Standard Chartered Bank Toastmasters Club
(ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ ถนนสาทรเหนือ ติดต่อคุณปานแข โทร 08-1918-8089

o วันศุกร์

B&V Thailand Toastmasters Club
(บริษัท Black & Veatch Thailand, Rasa Tower, ชั้น 15 ถนนพหลโยธิน
ติดต่อคุณสุเทพ โทร 08-1909-0800 หรือคุณ Ketarat โทร 02-937-0113)

Dusit Toastmasters Club
(สถาบัน Goethe Institution ถนนสาทรใต้ ติดต่อคุณเด่นชัย โทร 08-9206-7121)

MEA Ploenchit Toastmasters Club
(การไฟฟ้านครหลวง ถนนเพลินจิต ติดต่อคุณบัณฑิต โทร 08-4700-4835)

MEA Wat Liab Toastmasters Club Club
(การไฟฟ้านครหลวง ถนนเพลินจิต ติดต่อคุณรุ่งนภา โทร . 08-9456-5732)

Suvarnabhumi Toastmasters Club
(สำนักงานการบินไทย สนามบินสุวรรณภูมิ อาคาร OPC ห้อง 1302
ติดต่อคุณดิลก โทร 08-1822-4474 หรือคุณนวลระมัย โทร 08-1801-3241)

o วันเสาร์

First Northern Thailand Toastmasters Club
(IC International Center, ถนนนิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่
ติดต่อคุณอัมพิกา โทร 08-9138-4757

Saturday Toastmasters Club
(สถาบัน Goethe Institution ถนนสาทรใต้ ติดต่อคุณอรวี โทร085-331-0989)

Genevieve Caulfield Thailand Toastmasters Club
(The First Blind Toastmasters Club) สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย
ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง ติดต่อคุณศิริณี 081-826-6310)

o วันอาทิตย์

Hatyai Songkhla Toastmasters Club
(โรงเรียนธรรมรงค์วัฒนา ถนนราชยินดี หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ติดต่อคุณพรทิพา โทร 08-1897-1398)

Wang Hin Toastmasters Club
(ศูนย์อบรมวังหิน ห้อง 101 ลาดพร้าววังหินซอย 75
อยู่ระหว่างห้าง Lotus และปั๊มน้ำมัน Esso ติดต่อคุณสมศักดิ์ 08-1359-3309)

ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถเลือกที่ที่สะดวกและใกล้บ้าน หรือที่ทำงาน
เพื่อเข้าร่วมชมรมนักพูดภาคภาษาอังกฤษตามรายชื่อข้างต้นได้ตามอัธยาศัย
และสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมตามชื่อและเบอร์โทรได้เลย
หรือหากต้องการเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Website ก่อนก็ได้
ที่ //www.toastmasters.org

ป.ล. ข้อมูลข้างต้น Update เมื่อเดือนพฤษภาคม 2551
รายละเอียดบางอย่างจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วได้
ล่าสุด (เดือนพ.ย. 51) ทราบมาว่ามีการตั้ง Club St. John และอีกหนึ่ง Club ที่จ. สุราษฏร์






 

Create Date : 11 ธันวาคม 2551
7 comments
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 13:23:09 น.
Counter : 6424 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมยามดึกค่ะ

เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากค่ะ ได้ประโยชน์ดีค่ะ แต่คนขี้อายจะไปร่วมกิจกรรมได้ไหมหนอ

 

โดย: กิ่งลีลาวดี 11 ธันวาคม 2551 23:50:30 น.  

 

ได้แน่นอน
เพราะ "เลขาฯ ตัวแสบ!" เองก็เป็นคนขี้อายเหมือนกัน

กิจกรรมในคลับจะช่วยฝึกให้เราเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

ถ้าคณกิ่งลีลาวดีมีเวลาไปร่วมกิจกรรมก็จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเองได้เป็นอย่างมาก

^_^

 

โดย: "เลขาฯ ตัวแสบ!" IP: 203.144.187.18 12 ธันวาคม 2551 13:27:51 น.  

 

เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจทีเดียวจ๊ะ เพิ่งทราบว่ามีการเรียนภาษาอังกฤษแบบนี้ด้วย

 

โดย: ดา ดา 13 ธันวาคม 2551 17:22:37 น.  

 

ขอเป็นเพื่อนด้วยคนนะคะ

 

โดย: panaejon (panaejon ) 19 ธันวาคม 2551 15:53:38 น.  

 

สวัสดีค่ะ ชื่อบ่วยนะคะ กำลังทำรายการให้ความรู้ และ ให้กำลังใจคนที่กำลังหางานทำอยู่ค่ะ จากช่อง ทีพีบีเอส สนใจอยากจะขอสัมภาษณ์ ถ้าสะดวกรบกวนฝากเบอร์โทรกลับที่ bouygoodgood@hotmail.com นะคะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: *โคนัน* 29 มีนาคม 2552 1:21:10 น.  

 

thankyou for you ok the toastmasters international company for you toastmasters experirnce you may be more comfort able communicating by electronic mail or tetelphone than in person to lare or even one to one may intimdate or frighten you yet good communication skill are vital if you want to be successful corpate leaders say that the ability to communicate well orally is one of the most import ant skills their recruiters look for in job candidates businesses want people who express themselver clearly and confidently and are persuasive and comfortble communicateing with a wide rane of people from top executives to assembly line workers evaluation guide for the ice breaker program note to the evaluator in this speech the new member is to introduce himself herself to the club and before an audience the speech should have a clear begining body and ending the speaker has been advised to use note if necessary and note to be concerned........thankyou for you ...[joe dusit-toastmasters club.]happy new year 2010.i love you ....joe....ok.....new....worlds class company name...............first....time....congutolation new company for you.......joe......

 

โดย: tm.montree-monkong.[joe divistion-t toastmasters international.08-76707775. IP: 61.90.193.98 9 มิถุนายน 2552 15:16:01 น.  

 

สวัสดีครับคุณ "เลขาตัวแสบ" :D
ผมก็เป็นสมาชิกของ Toastmasters เหมือนกัน อยู่ที่การบินไทยครับ
เป็นได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้วครับ
ทำไป 2 project แล้ว
ผมพื่งเรียนจบได้ไม่นานนัก (แต่ก็นานอยู่)
แต่ตั้งแต่จบ ยังไม่เคยมีงานประจำทำกับเค้าเลย -_-"
ผมอ่านสำนวนแล้วขำดีครับ
ชอบๆ สนุกๆ
จะขอติดตามเป็นขาประจำของ เลขาตัวแสบนะครับ
(แวบไปอ่านรายการความฝันมา ถ้าออก pocket book เมื่อไหร่จะตามไปซื้ออ่านนะครับ :D)
แล้วก็ชอบเรื่องที่ยกมาจาก chicken soup of the soul จัง :D

แต่ปัญหาคือ ผมไม่รู้ว่าผมมีความฝันอะไร -_-"
แต่ไม่เป็นไรครับ ไม่มีอะไรมาหยุดเราได้
ผมรู้เพียงแต่ว่า ผมจะทำสิ่งที่รับผิดชอบอยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดครับ :D

ขอบคุณมากๆ สำหรับบทความนะครับ

มีอันนึงที่อยากแนะนำ... เรียกว่าอะไรดี.. ไม่อยากบอกว่าแนะนำอ่ะครับ เพราะดูล่วงเกินยังไงไม่รู้ ประมาณว่าเล่าสู่กันฟังนะครับ
เคยมีคนถามผมว่า ///"รู้รึเปล่าว่าทำไมผมถึงยังตื่นขึ้นมา ทำสิ่งต่างๆ ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ โดยที่มันก็โดนใจบ้าง ไม่โดนใจบ้าง แต่ก็จะให้เหตุผลกับตัวเอง เพื่อทำให้มันเสร็จไป??"\\\\\\
แน่นอน ผมไม่รู้คำตอบ
เค้าบอกว่า
///เพราะผมยังไม่ตายไงหล่ะ!!!\\\\\\

ผมมาคิดแล้วก็จริงนะเนี่ย... -_-"
แต่... ผมพลิกมุมคิด ว่าให้ทุกๆ วันของผม เพื่อเติมเต็มเป้าหมายของตัวเอง (ซึ่งตอนนี้มีเพียงเป้าหมายระยะสั้น แล้วก็ยังสงสัยกับตัวเองว่า "เอาแน่หรอ")

เฮ่อออ...
คิดไม่ตก
ยังไงก็... ขอบคุณมากๆ ครับ :D

 

โดย: oholit IP: 58.9.32.253 25 สิงหาคม 2552 1:25:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"เลขาฯ ตัวแสบ!"
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add "เลขาฯ ตัวแสบ!"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.