Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
1 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
ไดอารี่ “คนตกงาน” โดย “เลขาฯ ตัวแสบ!” ตอนที่ 3: ความลับไม่มีในโลก


“อยากมี SOMEONE SOMEONE กุมมือฉันเวลาไปไหน
SOMEONE SOMEONE สักคนให้ฉันจับมือไว้
ให้ทุกก้าวที่เดินไม่สับสน ให้ถนนที่ดูกว้างไกล
แคบลงมา แคบลงมากกว่านี้

อยากมี SOMEONE SOMEONE กุมมือฉันไม่ว่าอยู่ไหน
SOMEONE SOMEONE สักคนให้ฉันอบอุ่นใจ

ให้อะไรเดิมๆเปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องเงียบงันอย่างนี้
I LOVE U BABY อยากพูดคำนี้จัง…”

ข้างต้นเป็นเสียงเพลง Ring Tone จากโทรศัพท์มือถือของฉันที่กำลังดัง
“สวัสดีค่ะ”
ฉันรีบรับสายทั้งที่อยากฟังเพลงต่อแต่กลัวสายหลุดและต้องโทรกลับเปลืองค่าโทร
เพราะในช่วงตกงานต้องประหยัดทุกบาททุกสตางค์แม้แต่ค่าโทรศัพท์…ฮา

เสียงปลายทางพูดแบบลากเสียง
“อยู่หนายยย?”
“หมายความว่ายังไง…อยู่ไหน?” ฉันถามด้วยน้ำเสียงขุ่นและคิ้วขมวดเหมือนผูกโบว์

“ก็หมายความว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ออฟฟิศแล้วอยู่ที่ไหนน่ะซิ?”

ฉันอึ้งก่อนที่เสียงปลายทางจะพูดต่อว่า
“เมื่อเช้าโทรไปที่ทำงานมีคนบอกว่าเธอไม่ได้มาทำงาน 2-3 วันแล้ว!”

เงียบ…ไม่มีเสียงตอบจากฉัน

สายจากปลายทางคงสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบที่เกิดขึ้น
จึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เบาลงแสดงความเข้าใจและเห็นใจ
“ถ้าไม่สบายใจมากออกมาก็ดีแล้ว…ไม่ต้องไปฝืนใจตนเอง”

ฉันแอบสะอื้นลึก ๆ ในใจแต่พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ปลายทางรู้
และตอบด้วยความรู้สึกถึงความยากลำบากในการเปล่งเสียงว่า…
“อย่าบอกเรื่องนี้ให้น้องเล็กหรือใคร ๆ รู้เป็นอันขาดนะ
ฉันอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและจะออกจากบ้านเหมือนมาทำงานทุกวัน”

น้องรองของฉันที่โทรมาบอกว่าเธอสังเกตอาการผิดปกติของฉันมา 2 วันแล้ว
เช้านี้จึงลองโทรเข้าไปที่ออฟฟิศซึ่งปกติเธอมักจะโทรมือถือมากกว่า
ปรากฏว่าผู้ช่วยที่ฉันได้ขอร้องก่อนออกว่า
หากมีใครโทรมาหาฉันให้ช่วยบอกว่าฉันไม่อยู่และให้โทรเข้ามือถือแทน
แต่เธอดูเหมือนเธอไม่ได้ให้ความร่วมมือและได้บอกน้องรองของฉันไปเรียบร้อยแล้ว

ดีที่ว่าน้องรองเป็นคนที่เก็บความลับเก่งเหมือนกับฉัน
นี่ถ้าเป็นน้องเล็กหรือญาติพี่น้องคนอื่นโทรมา
ป่านนี้คงรู้กันทั้งบางทำให้ฉันเสียความตั้งใจไปเรียบร้อยแล้ว

คิดแล้วรู้สึกเศร้าใจเหลือเกินสำหรับผู้ช่วยที่ฉันรักมากที่สุดคนนี้
พอมาวันนี้สิ่งที่ฉันได้รับตอบแทนจากเธอเป็นแบบนี้นี่เอง
เฮ้อออ…คนเราเมื่อหมดอำนาจวาสนาแล้วก็เป็นแบบนี้นี่เอง
ถ้ามองในแง่ดีก็คิดเสียว่าเธออาจจะเผลอหรือมีความจำเป็นบางอย่างที่ฉันไม่รู้ก็ได้
แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่โทรไปสอบถามเพราะไหน ๆ ก็บอกไปและแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว

วางสายจากน้องรองแล้วก็นั่งเหม่อทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสักพักก็นั่งพิมพ์โน่นนี่ต่อ
เอ้อ…ไป break เข้าห้องน้ำสักหน่อยดีกว่า
ว่าแล้วฉันก็ลุกจากโต๊ะเดินไปเข้าห้องน้ำและทิ้งสมบัติที่เป็นอุปกรณ์เครื่องเขียนที่เป็นสมบัติส่วนตัวไว้
คิดว่าไม่น่าจะมีใครบังอาจมาเก็บไปเป็นสมบัติของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต
เพราะตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้วมีผู้คนทยอยเข้ามากินอาหารกลางวันมากมาย
ทุกคนสามารถช่วยเป็นยามเฝ้าของให้ฉันได้เป็นอย่างดี

พอฉันเดินไปถึงห้องน้ำก็เปิดประตู
แต่ขณะที่กำลังก้าวเท้าเข้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดตะโกนกับแม่บ้านที่ยืนอยู่หน้าประตู
ฉันต้องหยุดชะงักทันทีเพราะเสียงนั้น…

Oops!
นี่ฉันเพี๊ยนขนาดเข้าห้องน้ำชายเลยหรือเนี่ย?
คิดไม่ทันจบชายผู้นั้นก็เปิดประตูออกจากห้องน้ำห้องหนึ่งสวนออกมา
“อุ๊ย…ขอโทษค่ะ…เข้าห้องผิด” ฉันพูดด้วยท่าทางตกใจ
และงง ๆ กับตัวเองพร้อมกับเตรียมเดินออกจากห้องน้ำ
“อ้อ...ไม่ผิดหรอกค่ะ…นี่เป็นห้องน้ำผู้หญิงฮ่ะ” ชายผู้นั้นตอบแล้วเดินออกไป

“ฟิ๊ว…อก e-แป้น…เอ๊ย “เลขาฯ ตัวแสบ!” เกือบแตกตาย
พับผ่าซิ…มีแต่เรื่องทำให้ฉันตกใจซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่า
แถมยังคิดว่าตัวเองท่าจะเครียดจนกลายเป็นบ้าไปแล้ว
ที่แท้คุณสาวประเภทสองท่านนี้เป็นเหตุนะเอง
(ใช้คำว่าท่านเพราะไม่รู้ว่าจะใช้นายหรือนางดี…ฮา)
เฮ้อ…โล่งอกไปที!!

พอกลับมานั่งที่โต๊ะก็มานั่งเขียนไดอารี่ “คนตกงาน” ต่อ
เพราะคิดว่าต้องจดบันทึกทุกบททุกตอนให้ละเอียดกันลืมเอาไว้ก่อน
เพราะถ้าทิ้งไว้อาจจะหลุดช็อตเด็ด ๆ อย่างเช่นเรื่องคุณสาวประเภทสองได้
แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ก็เป็นการคั่นบรรยากาศช่วยคลายเครียดได้บ้างไม่มากก็น้อย
จริงไหมล่ะท่านผู้อ่าน?

ที่จริงช่วงที่ฉันชักเข้าชักออกเรื่องที่จะลาออกหรือไม่เมื่อ 2-3 เดือนก่อน
จนกระทั่งก่อนตกงานจริงในวันนี้และได้เปลี่ยนใจไปครั้งหนึ่งแล้วนั้น
ฉันได้เล่าเรื่องให้น้อง ๆ ฟังหลังจากที่คิดว่าจะไม่ลาออกแล้ว
น้องเล็กของฉันได้เล่าเรื่องและยกประเด็นนี้ขึ้นมาคุยกับลูก ๆ ของฉัน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็ก ๆ หยุดความคิดเรื่องการลาออกของฉันให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เธอถามเด็ก ๆ ว่าถ้าฉันจะลาออกจากงานลูก ๆ จะว่าอย่างไร
เด็ก ๆ พากันคัดค้านไม่ให้ฉันลาออกขนาดอาสาจะไปคุยกับนายให้ด้วย
เพราะที่ผ่านมาเด็ก ๆ ได้รับการปลูกฝังว่าฉันไปทำงานเหนื่อยเพื่อหาเงินมาเป็นทุนการศึกษาให้พวกเขา
แต่ถ้าฉันต้องออกจากงานตอนนี้ก็จะไม่มีรายได้มาเป็นค่าเรียนของเด็ก ๆ
โอกาสหรือความฝันที่เด็ก ๆ จะได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยดี ๆ หรือแม้แต่ต่างประเทศก็คงไม่มี
นอกเสียจากพวกเขาจะตั้งใจเรียนให้เก่ง ๆ และสอบชิงทุนให้ได้เอง

นอกจากเสียงคัดค้านแล้วเด็ก ๆ ยังขอร้องไม่ให้ฉันลาออกและให้อดทน
น้องเล็กจึงจัดการให้เด็ก ๆ เขียนเหตุผลข้อดีข้อเสียในการที่ฉันจะต้องลาออกจากงาน
วันที่ตกงานฉันได้นำข้อความที่ลูก ๆ เขียนมาอ่านอีกครั้งหนึ่งจนถึงกับน้ำตาตกใน
ไม่คิดว่าวันนี้จะเกิดเหตุการณ์ที่ฉันไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

วันนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉัน
เป็นเพราะฉันมองโลกในแง่ดี ไว้ใจ และเห็นแก่คนอื่นมากเกินไปนั่นเอง

ฉันคิดแต่เพียงว่าเมื่อฉันจริงใจ เปิดเผย ให้เกียรติ และทำดีกับผู้อื่นแล้ว
ฉันก็จะได้รับสิ่งที่ดี ๆ ตอบแทนจากผู้อื่นเหมือนกับที่ฉันทำกับพวกเขา
ถ้าฉันรู้จักที่จะเห็นแก่ตัวและไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่นอีกสักนิด
เคราะห์ร้ายที่เกิดกับฉันในวันนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้

แต่ฉันก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการไม่ไว้ใจคนอื่น ๆ หรอกนะ
เพราะคงจะไม่เป็นการยุติธรรมสำหรับใครบางคนที่เขาหวังดีและมีความจริงใจกับเราจริง ๆ
แล้วต้องมาเจอกับการปฏิบัติตนของเราที่ใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุก ๆ คน

ฉันจึงจะยังคงเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ต่อไปเพียงแต่อาจจะเลือกวางใจกับคนบางคน
และต้องระมัดระวังเป็นพิเศษกับคนที่เรารู้หน้าแต่ไม่รู้ใจให้มากขึ้น

ก็ได้แต่หวังว่าเคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นกับฉันในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นทำให้มีสิ่งที่ดีกว่าเข้ามาในชีวิต
ฉันจะลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตและอยู่กับความเป็นจริงในวันนี้อย่างเข้าใจและมีความสุขให้ได้
อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันจะทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการประหยัด
เพื่อสามารถประคับประคองและส่งเสียการศึกษาของลูก ๆ ไปให้ถึงฝั่งให้จงได้

น้องรองซึ่งรู้เรื่องการตกงานของฉันแล้วยังคงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อหน้าสมาชิกคนอื่น ๆ
แต่วันหนึ่งเราได้คุยกันเธอขอให้ฉันบอกน้องเล็กด้วย
แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจในความเป็นคนชอบเอื้อเฟื้อของน้องเล็ก
เพราะบ่อยครั้งน้องเล็กมักจะอยากให้สมาชิกในบ้านได้รับรู้อะไร ๆ เหมือน ๆ กัน
อย่างเช่นเรื่องที่นำเรื่องจะลาออกจากงานในตอนแรกไปคุยกับเด็ก ๆ เป็นต้น

แต่จากคำแนะนำและขอร้องของน้องรองเรื่องความจำเป็นที่ต้องบอก
เรื่องการตกงานในครั้งนี้ของฉันให้น้องเล็กได้รับทราบด้วย
เพราะอย่างน้อยเธอจะได้เห็นใจและเข้าใจฉันและฉันก็ไม่ต้องคอยปกปิดให้รู้สึกเครียด

วันต่อมาฉันตั้งใจจะบอกน้องเล็ก
แต่ก่อนที่ฉันจะมีโอกาสได้คุยกับเธอตามคำแนะนำของน้องรอง
พี่ที่ทำงานคนหนึ่งโทรมาคุยด้วยทำให้ฉันเสียน้ำตาเป็นชั่วโมงในระหว่างการคุย
ที่ยิ่งคุยเหมือนยิ่งตอกย้ำความรู้สึกที่แย่ ๆ ที่ฉันพยายามจะลืมกลับขึ้นมาอีกครั้ง

ตอนกลับบ้านเย็นนั้นฉันจึงหลบหน้าน้องเล็กไม่ให้เห็นหน้าตาที่บวมฉึ่งของฉัน
แต่ฉันเลือกการเขียน mail เล่าเหตุการณ์ให้น้องเล็กได้รับทราบแทน
จากนั้นก็เข้านอนด้วยหัวใจที่ปวดร้าวกับเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตฉันอีกระลอกหนึ่ง….

ถึงแม้เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาไม่ค่อยสดชื่นเท่าไร
แต่หลังจากได้ให้น้องรองและน้องเล็กรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
ก็ทำให้ความเครียดที่ต้องคอยระมัดระวังไม่ให้มีพิรุธหายไป
และรู้สึกสบายใจขึ้นที่น้อง ๆ เข้าใจและให้กำลังใจกับฉันเป็นอย่างดี

หลายวันต่อมาน้องรองแอบเล่าเรื่องนี้ให้เด็ก ๆ รู้รวมทั้งน้องหมวยและน้องแจ๋วที่บ้าน
สรุปแล้วในวันที่กำลังเขียนบันทึก ไดอารี่ “คนตกงาน” เล่มนี้อยู่ในขณะนี้
สมาชิกทุกคนในบ้านรู้เรื่องกันหมดแล้วยกเว้นญาติพี่น้องที่ไม่ได้อยู่ในบ้านเดียวกัน

ใจจริงฉันไม่ค่อยสบายใจเท่าไรที่สมาชิกทุกคนในบ้านรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว
แต่อีกใจหนึ่งก็ทำให้คลายความกังวลในเรื่องที่จะต้องมาคอยปิดบัง
ถึงอย่างไรเรื่องนี้ฉันก็ยังไม่อยากให้ญาติพี่น้องคนอื่น ๆ รู้
ทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านต้องรับปากว่าจะช่วยฉันปิดเรื่องนี้เป็นความลับต่อไป

ถ้าจะถามถึงเหตุผลว่าทำไมต้องปิดบัง?
คำตอบก็คือ “ไม่รู้เหมือนกัน”

รู้แต่ว่าไม่อยากเปิดเผยและฉันก็จะรู้สึกสบายใจกว่าการที่จะไปป่าวประกาศ
ให้ทุกคนรู้ว่าฉันกลายเป็น “คนตกงาน” ที่ไม่มีคุณค่าแล้ว
ยกเว้นเพื่อน ๆ ในห้องสีลมที่ฉันคิดว่าเรื่องราวที่ฉันได้บันทึกไว้
น่าจะให้แนวคิดที่เป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนที่กำลังจะร่วมชะตากรรมเดียวกัน
เพราะไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะตกเป็นเหยื่อของวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก
และอาจจะลุกลามใหญ่โตมากยิ่งขึ้นในปีหน้าเมื่อไร

ว่าแล้วฉันจึงยังคงเดินหน้าแต่งตัวออกจากบ้านเหมือนไปทำงานตามปกติทุกวัน
พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้ฉันยุ่งจนไม่มีเวลามานั่งเป็นทุกข์และเศร้าใจ…






Create Date : 01 ธันวาคม 2551
Last Update : 2 ธันวาคม 2551 20:23:25 น. 2 comments
Counter : 1337 Pageviews.

 
ติดตามอ่านอยู่ค่ะ


โดย: cool2qoo IP: 58.64.92.99 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:13:18:31 น.  

 
มาตามอ่านครับ


โดย: Mega-Batt วันที่: 5 ธันวาคม 2551 เวลา:22:13:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"เลขาฯ ตัวแสบ!"
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add "เลขาฯ ตัวแสบ!"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.