++ โดนจีบ ตอนที่ 5........จดหมายแทนใจ ++
ขึ้นม.4 เริ่มเป็นสาวแล้ว.. ตอนนี้ เริ่มรู้จักอารมณ์อ่อนไหว แบบที่ผู้หญิงควรจะมี.. (เอ่อ..ที่ผ่านมา ไม่ใช่ผู้หญิง เลยไม่มีอารมณ์ไหวๆอ่ะ.. แหะๆๆ ) .. เอ้า..ขาประจำเชิญนั่งก่อน.. เปลี่ยนเป็นปูเสื่อมั่ง นั่งได้หลายคน มีน้ำให้กินด้วย อิอิ...
พอขึ้น ม.4 หม่าม๊าได้เรียนห้อง ม.4/2 เพื่อนเก่าที่เดินเข้า ได้อยู่ห้อง 1 กันหมด สมัยที่หม่าม๊าเรียน ที่โรงเรียนนี้ มีสายวิทย์-คณิตทั้งหมด 5 ห้อง ห้อง1-2 เรียนพื้นฐานอุตสาหกรรม ก็จะมีเรียนเขียนแบบ ช่างโลหะ อะไรประมาณนั้น ส่วนห้อง 3 พื้นฐานพาณิชย์ ก็มีเรียน บัญชี เรียนพิมพ์ดีด ส่วนห้อง 4 พื้นฐานเกษตร และห้อง 5 พื้นฐานศิลป
ต้องบอกว่า เด็กห้อง 2 มักจะเป็นพวกเด็กที่สอบมาจากโรงเรียนอื่น ซึ่งส่วนมาก มักเป็นเด็กจากอัสสัมชัญ และนั่นทำให้ทุกๆปี เด็กห้อง 1 จะเป็นเด็กเรียน และเรียบร้อย ส่วนเด็กห้อง 2 ก็เรียนบ้าง แต่ที่แน่ๆ ซ่าสุดๆ และหม่าม๊าก็เป็น 1 ในนั้น..
ด้วยบุคคลิกพูดมาก เสียงดัง และก๋ากั่นพอประมาณ ทำให้มีพวกชอบลองของแปลก มาลองวิชาหลายคน ทั้งรุ่นพี่ และเพื่อนของเพื่อนซึ่งอยู่ต่างโรงเรียน.. เล่ามาถึงตอนนี้ ขอบอกเลยว่า หม่าม๊าไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนสวย และไม่เคยเป็นด้วย.. แต่อาจเพราะเป็นคนง่ายๆ เป็นกันเอง คุยสนุก เลยทำให้ถูกชอบได้ง่ายกระมัง อาจเพราะเค้ารู้สึกเหมือนเราเป็นเพื่อนผุ้ชายอีกคนนึงก็เป็นได้นะ เพราะหม่าม๊า ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย อย่างที่ผู้หญิงควรเป็นน่ะ (ใครหนอ เป็นคนบัญญัติว่า ผู้หญิงควรเป็นคนเรียบร้อย.. เลยทำให้หม่าม๊าตก mean เลย)
อืมม.. เอาคนแรกก่อนละกันนะ คนนี้เป็นเพื่อนของเพื่อนในห้อง ชื่อเอ จบจากอัสสัมชัญ แล้วก็ไปเรียนต่อ ที่โรงเรียนในเชียงใหม่.. ขานี้ ฝากจดหมายกับเพื่อนในห้องมาให้.. ก็ไม่รู้ว่าเค้ามาเห็นหม่าม๊าตอนไหน มารู้จักเราได้ยังไง แต่เจ้าคนที่ทำตัวเป็นพ่อสื่อ บอกว่าเพื่อนเค้าชอบเรา แล้วก็โฆษณาชวนเชื่อเพื่อนมันสุดฤทธิ์ หม่าม๊าก็รับจดหมายมาอ่าน และ....โอ้ว... ลายมือสวยอีกแล้ว.. (หม่าม๊าแพ้คนลายมือสวย..แต่ลายมือป่ะป๊าน่ะ ยังกะลายมือเด็กป.1 อิอิ ) จดหมายแต่ละฉบับที่เขียนมา จะใช้กระดาษสีสวย พับกระดาษแบบมีศิลปะ เขียนด้วยปากกา Rotring หมึกสีขาว หรือสีอื่นๆ เอาเป็นว่าเขียนจดหมายแบบมีสไตล์เด็กศิลปอ่ะ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ หลังๆ พ่อหนุ่มเอ เริ่มมีของกำนัลมาในซอง เป็นสร้อยข้อมือ ทำด้วยเงินเส้นเล็กๆ น่ารักเชียว.. หม่าม๊าก็ใส่ไว้นะ (แต่ไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าตัวหรอก.. ) แล้วเราก็คุยกันทางจดหมายแบบนั้น ไม่เคยเจอตัวเห็นหน้ากันสักที (แต่เค้าหน่ะ รู้จักหน้าเราแล้วล่ะ) ทีนี้ มาเจอตัวจริงๆกัน ก็อีตอนช่วงปิดเทอม ที่อากงตกบันได แล้วกระดูกหลังเคลื่อนน่ะ เลยต้องไปนอนที่โรงพยาบาล ตอนนั้น หม่าม๊าต้องไปนอนเฝ้าอากงที่โรงพยาบาล แล้วแบบว่า วันที่ย้ายอากงไปนอนห้องพิเศษ (ตอนแรกได้ห้องรวมน่ะ) ก็มีเด็กสาวน่าตาน่ารักมาก ตัวเล็กๆ ชื่อน้องส้ม เดินมาหาหม่าม๊า ถามหม่าม๊าว่า ชื่อไก่ใช่ไหม.. หม่าม๊าก็งง ว่า .. เอ๊ะ.. รู้ชื่อได้ไง ไม่เคยรู้จักนี่นา.. แต่ก็ตอบไปว่า ค่ะ สาวน้อยคนนั้นพอได้ยินคำตอบรับ เธอก็ยิ้มกว้าง.. (ยิ้มน่ารักจริงๆนะ) แล้วบอกว่า ส้มเป็นน้องของพี่เอค่ะ พอดีพี่เอ.. เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ขาหัก นอนอยู่เตียงใกล้ๆคุณพ่อพี่แหละค่ะ ตอนนี้ก็รอห้องพิเศษอยู่เหมือนกัน.. พี่ไก่ว่างไหมคะ ไปเยี่ยมพี่เอหน่อยสิคะ พูดไม่พูดเปล่า.สาวน้อยคนสวยก็จับมือหม่าม๊าหมับ.. จูงไปทันที ไม่ยอมให้หม่าม๊าได้ทันปฏิเสธเลย..
ตอนที่เดินตามสาวน้อยไป ก็แอบคิดในใจ หูย.. น้องสาวยังน่ารักขนาดนี้ แล้วพี่ชายจะหล่อแค่ไหนเนี่ย.. และแล้ว.. พอไปถึงที่ห้องพักคนไข้.. พอน้องส้มชี้ไปที่เตียงๆหนึ่ง.. หม่าม๊าถึงกับ..อึ้ง... ก็คุณเอ.. ที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้น่ะ น้ำหนักน่าจะเฉียดๆ ร้อยกิโลล่ะมัง.. ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็เหมือนลูกชิ้นลูกโตๆ และหม่าม๊าเป็นไม้เสียบลูกชิ้นอ่ะนะ.. แล้วน้องส้มก็(ลาก)พาหม่าม๊าเดินเข้าไปที่เตียง.. หม่าม๊าเลยทักทาย แต่..เอ คนที่อยู่ตรงหน้า.. เป็นหนุ่มขี้อาย คุยไม่เห็นเก่งเหมือนในจดหมายเลย.. จนหม่าม๊าแอบคิดในใจว่า ใช่คนเดียวกับที่เขียนจดหมายหรือเปล่าเนี่ย..
อ้อ.. ลืมไป..ก่อนที่จะได้เจอตัวกันน่ะ สร้อยข้อมือที่เอเคยให้ไว้.. จู่ๆ มันก็ขาดซะเฉยๆ ตอนนั้น ก็ยังคิดในใจว่า อืมม.. มันจะเหมือนหนังไทยน้ำเน่าไหมนะ ที่สร้อยขาด แสดงว่าความสัมพันธ์ก็คงจะจบลง.. แล้วสุดท้าย..มันก็จบลงจริงๆแหละ.. คือด้วยความห่าง ก็เลย ต่างคนต่างเงียบหายกันไป.. (เอ..หรือว่าหม่าม๊าไม่ได้ตอบจดหมายก็ไม่รู้เหมือนกัน..จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ..)
เรื่องนี้ ไม่มีบทสรุปนะลูก อืมม. เอาเป็นว่า ระยะทาง เป็นอุปสรรคต่อความรักละกัน..
Create Date : 02 ธันวาคม 2551 |
|
11 comments |
Last Update : 2 ธันวาคม 2551 16:27:18 น. |
Counter : 292 Pageviews. |
|
|
|
55555555