|
วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ แต่ละคนจะมีปัญหาเฉพาะบุคคล |
|
วันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ แต่ละคนจะมีปัญหาเฉพาะบุคคล ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว พ่อก็ตื่นขึ้นมาบันทึกไดอารี่ คำที่ผุดขึ้นมาก็คือแต่ละคนจะมีปัญหาเฉพาะบุคคล แต่ละคนจะมีปัญหาที่แตกต่างกันออกไป อาจจะทุกข์ใจไปคนละแบบ .. อย่างช่วงนี้ คน ๆ หนึ่ง อาจกำลังทุกข์ใจในเรื่องของน้ำท่วมบ้าน แต่อีกคนอาจจะไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกทุกข์ใจในเรื่องนั้น แต่ก็อาจจะกำลังทุกข์ใจในอีกเรื่อง อีกคนอาจจะกำลังทุกข์ใจกับปัญหาเฉพาะกิจมาก ๆ เช่น การหาคริสตจักรที่เหมาะกับตัวเอง (พ่อเห็นโพสต์ของคน ๆ หนึ่งโพสต์ เป็นต้น) ส่วนอีกคนอาจจะกำลังทุกข์ใจในสุขภาพของตนเอง อาจจะหนักพอสมควร แต่ก็อาจไม่แสดงออกมา .. คน ๆ หนึ่งอาจกำลังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์กับเรื่องน้ำท่วม แต่ก็ไม่สามารถตัดสินใครใด ๆ ได้ เช่น ทำไมอีกคนไม่ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ใครใด ๆ เลย เป็นต้น เพราะแต่ละคน พอเกิดมา ก็จะเผชิญปัญหาเฉพาะกิจของตนเอง อยู่ ดูเหมือนว่าเวลาที่เขามีอยู่ อาจจะไม่เพียงพอ หรือเขาอาจต้องเลือก ที่จะทำ หรือไม่ทำอะไรอยู่ก็ได้ .. ขอบคุณพระเจ้ามาก ๆ ที่สอนเราหลายเรื่องมาก ๆ เรื่องหนึ่งที่สอนเราตลอดเวลา ก็คือ Do not judge , so you not to be judge อย่าตัดสินใคร อะไรใด ๆ เพราะเราจะถูกตัดสินใจแบบเดียวกัน .. หน้าที่ของการตัดสิน ลงโทษนั้น จริง ๆ ไม่ใช่ของเราเลย แม้แต่น้อย .. วันนี้พ่อถูกสอน ผ่านสิ่งต่าง ๆ หลายอย่างมากมาย อันหนึ่งที่กำลังคอนเฟิร์มเพิ่มก็คือ หน้าหนึ่งของหนังสือเล่มหนึ่ง ของ อาจารย์ท่านหนึ่ง ที่โพสต์ลงไลน์.... ก็เป็นการประจวบเหมาะพอดีเป๊ะ กับสิ่งที่เรากำลังคิด และยังตัดสินใจ หรือตั้งคำถามว่า ถูกต้องแล้วหรือยัง....การมีสิ่งต่าง ๆ คอนเฟิร์ม แล้วทำให้เรามีสันติสุขลึก ๆ ก็จะพอบอกได้ว่า ถูกทางแล้ว อย่างเช่น การช่วยเหลือผู้คน สิ่งที่ถูกคอนเฟิร์มก็คือ ให้ช่วยเหลือคนในครอบครัวก่อน แล้วช่วยเหลือคนที่อยู่ในครอบครัวพระคริสต์ แล้วจึงไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อไป .. เมื่อมีการจำกัดด้วยทรัพยากรส่วนตัวของเรา... การช่วยเหลือก็ควรอยู่เพียงในครอบครัวก่อน อย่าฟ้องผิดในใจ....สิ่งนี้ถูกพูดและบอกพ่อในใจแบบนั้น .. การช่วยเหลือ ไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปแบบของคำว่าเงิน แต่อาจจะช่วยเหลือในด้านกำลังใจ ในด้านการให้ความรู้ แบบนี้ก็เป็นไปได้ หรืออาจดีกว่าก็ได้ .. ที่ผ่านมา พ่ออาจทำให้พี่น้องคริสเตียนบางท่าน คิดว่าพ่อน่าจะรวย หรือพอมีเงิน (เช่นพ่อเคยยกรถกระบะให้คริสตจักร เคยให้เงินกับพี่น้องหลาย ๆ ท่านเป็นต้น) (แต่พระเจ้าให้เอากลับคืนในที่สุดสำหรับรถกระบะ) นี่คือ การให้ที่ถูก ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้น แต่เมื่อผ่านไปอีกช่วงเวลาหนึ่ง ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกก็ได้ .. เรื่องนี้ ก็โยงไปที่คำว่า จริง คือ ความจริง เป็นเพียงสิ่งชั่วคราว ความจริง ความถูก จะอยู่เพียงห้วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่มีอะไรที่จริงไปตลอดกาล ...นอกจากสิ่งนั้นที่เราได้เจอและเชื่อจริง ๆ .. ความจริง แปลว่า ความไม่จริง ความไม่จริง ก็แปลว่า จริง มันเป็นแบบนั้น เมื่อเราได้พบบางเรื่องที่เปิดตาเรา .. พิมพ์ได้ยาวกันเลยทีเดียว สะดุ้งตื่นมาพิมพ์ง คราวนี้ทบทวนชีวิต ที่เป็นจริงชั่วขณะเวลาในวันนี้กันหน่อย .. ตอนเช้า ย่าดา ทอดหมูให้รันยากิน พ่อบอกว่าข้าวเหนียวไม่มี ย่าดาเลยเดินออกไปซื้อให้ที่ร้านป้าต๋อม .. ส่วนพ่อยก โต๊ะ ยกพัดลม ลงมาตั้งบริเวณร้านตัดผมเก่าของปู่ชวน ที่อยู่ติดกับร้านกาแฟอาเก๋ เอาคอมพิวเตอร์มาตั้ง แล้วก็เอาคอมพิวเตอร์รันยามาตั้งไว้ เอาหมูทอด ข้าวเหนียวที่ย่าจัดเตรียมให้ หมูต้มอีกนิด พ่อปั้นข้าวเหนียวจิ้ม ๆ น้ำแกง แล้วบิดหมูทอด ใส่ช้อน แล้วก็ตัก รันยาอ้าปากรอ พ่อน่าจะป้อนรันยาไประมาณ ห้าคำ แล้วรันยาก็กินต่อเอง ระหว่างนั้น รู้สึกว่า ไอ้เอ๊าะ ก็คราง ๆ เห่า ๆ ก็เลยเอาข้าวเหนียวจิ้มน้ำแกง ป้อนมันไปด้วย รู้สึกว่า มันมาอ้อน เหมือนเป็นเด็กอยากให้คนกอด .. จริง ๆ ไอ้เอ๊าะ พ่อดูแล้วเห็นว่าเป็นหมาที่ฉลาด เสียดายที่เราอาจสอนหมาไม่ค่อยเป็น มันก็เลยชอบเห่าไล่รถ ก็ไม่รู้ว่ามีความหลังฝังใจกับรถมอเตอร์ไซต์หรือไม่อย่างไร ทำให้เวลามันหลุดจากประตูรั้วออกไป ก็จะวิ่ง ๆ ๆ ไปเห่าเขา แต่จริง ๆ ก็ไม่เคยกัดใคร เพราะเป็นหมาที่ไม่กัด แต่คงมีความทรงจำไม่ดี เพราะคนเคยคิดจะฆ่ามัน น่าจะสองครั้ง ถ้าพ่อจำไม่ผิด ครั้งที่สอง น่าจะมีคนเอามีดตัดเส้นเอ็นขาซ้ายของมัน ผลก็คือในที่สุด เน่า แล้วก็ต้องตัดขา...อาเก๋ ย่า คงเป็นคนพาไปรักษา เหมือนจะหมดเงินเป็นหมื่น .. โอเช พ่อถ่ายรูป รันยา พ่อ ถุงทอง ไอ้เอ๊าะ ย่าดา ตามลำดับ ย่าดา อารมณ์ดีบ่อย ๆ กว่าอารมณ์เสีย พ่อก็บอกรันยาให้ขอบคุณย่า เช่น ย่าทำกับข้าวให้ ย่าซักผ้าให้ เช้านี้ย่าดา มัดผมให้รันยา รันยาถามพ่อว่า...ย่าดามัดผมให้รันยาสวยไหม พ่อก็ตอบไปตามความจริงว่า สวยดี ก็มัดผมสไตล์ต่างออกไปจากอาเก๋ .. https://pbs.twimg.com/media/GYiPyDgaMAAtYwM?format=jpg&name=large https://pbs.twimg.com/media/GYiPzOhasAAwhZe?format=jpg&name=large https://pbs.twimg.com/media/GYiPzRiasAIoxMu?format=jpg&name=large https://pbs.twimg.com/media/GYiPzakasAI-YPK?format=jpg&name=large .. ภาพทรงจำวันนี้ ย่ามัดผมให้รันยา มีถุงทองขอร่วมเข้าเฟรมถ่ายรูปด้วย https://pbs.twimg.com/media/GYiYEhWa4AAlTxm?format=jpg&name=large พ่อถ่ายคลิปสั้น ๆ ไว้นิด รู้สึกเมมโมรี่มือถือพ่อเต็มอีกแล้ว https://x.com/i/status/1839887765132951752 .. ตอนเช้า ๆ ถึงค่ำ ๆ วันนี้ พ่อสบายใจตอนกลางคืน เพราะจบจริง ๆ ในตอนกลางคืนกับงานแก้แบบ อาคารคิว และอาคารอาร์ ก็แบบประมาณแปดชุด ก็แก้และปริ้นท์กันสนุกสนาน ก็ใช้ทั้งโปรแกรมออโต้แคด และเรวิท ในการทำงาน .. ตอนบ่าย ๆ พารันยาไปเปลี่ยนบรรยากาศ ที่ร้านกาแฟอเมซอน รันยาซื้อขนมปังหอยอันเล็ก ๆ ที่ขายในร้านฯ ตอนแรก กะจะซื้อมาฝากปู่ แต่รันยานั่งเล่น Roblox ก็เกือบ ๆ ชั่วโมง ผลก็คือขนมหอย หกอัน ก็กินครึ่งหนึ่ง แล้วยัดใส่ปากพ่อครึ่งหนึ่ง ก็ได้หมดลงไปในเวลาที่เหมาะสม หุๆ https://pbs.twimg.com/media/GYjLFFrbsAAIZ93?format=jpg&name=large https://pbs.twimg.com/media/GYjLFAoasAEFcbX?format=jpg&name=large https://pbs.twimg.com/media/GYjLFisbUAAB-y7?format=jpg&name=large .. เมื่อถึงเวลาอันควร เราก็เดินออกจากร้าน พอถึงที่รถทาทา ก็พบว่า ในรถร้อนมาก ๆ แดดจัดจริง ๆ ในตอนบ่าย ๆ .. พ่อพยายามสตาร์ทรถทาทา อยู่สามสี่ครั้ง ในที่สุด ก็เลยคิดไปว่า แบตเตอรี่รถทาทา งอแงอีกแล้ว รันยาดึงมือพ่อ แล้วจุงมือพ่อไปที่ลานของปั๊มปตท.. เดินไปหาเด็กปั๊ม รันยากล้าหาญมาก เมื่อถึงเวลาที่มีปัญหา ก็เดินไปถามเด็กปั๊มก่อนพ่อเลย พ่อมัวแต่คิด ๆ อยู่ หุๆ .. ในที่สุด พ่อก็เลยตามไปสมทบ บอกว่า รถอ้ายมีปัญหา สตาร์ทไม่ติด น้องพอมีสายชาร์ตไหม น้องผู้หญิงคนหนึ่งตอบ ทำให้พ่อยิ้มได้ในตอนนั้น เราได้สายชาร์ต แต่ก็ยังหวั่น ๆ คือกำลังมองหาเหยื่อ เอ๊ย หาคนใจดี พ่อก็มอง ๆ ว่า รถคันไหนหนอที่ดูจะใจดี ที่พอจะให้เราชาร์ตแบตจากรถเขาได้ .. สักพัก น้องเด็กปั๊มสองสามคน ก็เจอรถกระบะคนหนึ่ง ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากเขา พ่อก็เลยเดิน ๆ แบบยิ้ม ๆ ไปหา ก็ได้รับความช่วยเหลือ พ่อก็จั๊มแบตฯจากรถกระบะของหนุ่มคนนั้น แล้วก็พยายามสตาร์ท ปรากฎว่า ก็สตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม สักพักมีพี่ผู้ชายกับลูกขี่มอเตอร์ไซต์มาจอด ดูเขาไม่รีรอเลยที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย ก็เข้ามาลองสลับสายชาร์ตแบตฯ ให้พ่ออีกที แต่ก็ไม่ได้ .. พ่อขอบคุณทั้งสองท่านมาก ที่มีน้ำใจสุด ๆ ก็ทำให้มองถึงตัวเราเองว่า ถ้าเราเห็นใครมีปัญหา ก็ให้ช่วยเลย ถ้าไม่ได้เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ เราก็ไม่ต้องไปคิดมาก ให้ตัดสินใจแบบพี่คนขี่มอเตอร์ไซต์ ที่ไม่ได้ถูกร้องขอใด ๆ เพียงแค่เดิน ๆ ไปหาคนหรือสถานการณ์ที่มีปัญหา แล้วเข้าช่วยเหลือ แม้จะช่วยได้หรือไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร (จริง ๆ ขอบคุณพระเจ้า นึกถึงตัวเองเดือนก่อน เจอคนขี่มอเตอร์ไซต์ล้ม พ่อก็ถามพระเจ้าทันที พระเจ้าก็บอกให้จอดรถแล้วไปช่วย ตอนนั้นดีใจฝุด ๆ ที่ได้ไปช่วยผยุงเขา ออกจากลางถนน ) .. อืมม์... กรณีรถทาทาสตาร์ทไม่ติด แล้วก็เป็นช่วงกลางวันที่ร้อนมาก พ่อก็ถามพระเจ้าทันทีว่าจะทำยังไงดี หายใจลึก ๆ สิ่งที่ได้คำตอบก็คือ ชวนรันยาไปนั่งที่ร้านเคเอฟซีที่อยู่ในปั๊มก่อน หุๆ .. เราสั่งไก่ราคาสองร้อยนิด ๆ แบบสั่งกลับบ้าน (พ่อแอบกินไปหนึ่งชิ้นกว่า ๆ ) รันยาสั่งอะไรสักอย่างพ่อจำชื่อไม่ได้ ที่มีแป้งห่อไก่ทอดไว้ รันยาชอบกินมาก เราก็นั่ง ๆ กินน้ำ ให้ใจเย็น และสงบ พ่อเปิดคอมพิวเตอร์ แล้วบอกรักพระเยซูในใจไปเรื่อย ๆ คำที่ได้ก็คือ หาอู่ที่เคยถ่ายภาพป้ายร้านเขาไว้ เตรียมเบอร์โทรของรถยกที่ครูแขเคยให้ไว้ แล้วก็บอกลูกไปว่า เดี๋ยวเรานั่งตรงนี้ให้เย็น ๆ ก่อนเน้อะ รันยา เดี๋ยวลองรอให้รถทาทาฯมันเย็น ๆ ก่อน .. รันยาถามว่า...แล้วจะเอารถทาทาไปจอดไหน แดดมันร้อนอะพ่อ พ่อบอกว่า ก็ไม่ได้ย้ายไปไหน ก็จอดตรงนั้นแหละ แต่ความหมายพ่อก็คือ เรานั่งในร้านนี้ ให้แดดมันเริ่มจาง ๆ สงบ ๆ เย็น ๆ ก่อนเน้อะ รันยาบอกว่า แสดงว่าก็นั่งนานเลยสิ หุๆ .. พ่อโทรติดต่ออู่เรียบร้อย แล้วก็เตรียมเบอร์รถยกแล้ว แต่พ่อเห็นว่าแดดเริ่มสงบแล้ว ก็เลยอธิษฐานในใจไปเรื่อย ๆ ว่า ขอบคุณพระเจ้า ๆ ขอบคุณพระเยซู พร้อมกับนึกภาพว่า สตาร์ทติด ๆ .. ก็เลยบอกรันยาว่า รอพ่อในร้านแป๊บนะ เดี๋ยวก่อนที่พ่อจะตัดสินใจ พ่อขอไปที่รถทาทาฯ ลองอีกรอบนะ .. พ่อเดินไปที่รถทาทา พ่อสตาร์ทรถ....ปรากฎว่า รถสตาร์ทติดแล้ว พ่อเปิดประตูรถทาทาค้างไว้ แล้วรีบวิ่งไปหารันยาในร้านเคเอฟซี บอกรันยาว่า รถสตาร์ทติดแล้วรันยา ป๊ะ เรารีบไปกัน พ่อให้รันยาเดินไปที่รถก่อน ส่วนพ่อเก็บกวาดโต๊ะ เก็บของ เก็บคอพม์ก่อน .. แล้วก็ไม่ลืมที่จะแชทไปทางไลน์บอกย่ากับอาเก๋กันว่า รถสตาร์ทติดแล้วนะ..... แผนการที่เตรียมไว้ ก็เลยไม่ต้องใช้เลย เช่น ให้อาเก๋มารับ ให้รถยกมายกรถทาทาไปที่อู่ การคอนเฟิร์มกับอู่ว่าจะไปหรือไม่ไป ก็ไม่ต้องคอนเฟิร์มแล้วหละ .. สองสามแผนที่พ่อเตรียมไว้ ก็ไม่ต้องแล้ว เงินที่อาจจะต้องเสียไปกับเรื่องนี้อย่างน้อยๆ สามพัน ก็คงไม่ต้องเสียแล้ว .. พ่อก็บอกรันยาว่า ขอบคุณพระเจ้าเน้อะ แสดงว่า พระเจ้าคงอยากให้เราไปเที่ยวกันอยู่ เพราะถ้าต้องเสียเงินสามพันขึ้นไปจนถึงห้าพันจากเรื่องนี้ เราก็อาจไม่ได้ไปเที่ยวก็ได้ .. พ่อบอกรันยาเพิ่มเติมว่า ไม่ต้องห่วงนะ เงินพ่อเทรดได้ น่าจะมีงบประมาณหนึ่งหมื่นบาท เพราะเทรดฟอเร็กซ์ได้มา ก็ไม่ได้กระทบกับรายได้จากเงินเดือนเลย รันยาก็เลยยิ้ม ๆ .. ลูกโตมาก สามารถคิดเรื่องการประหยัดบางอย่าง เพื่อจะไปเที่ยวได้ ลูกโตมาก สามารถจะแสดงความกล้าหาญเมื่อเผชิญกับปัญหา ก็แทบจะจัดการแทนพ่อเลย ก็ไม่น่าเชื่อ คือเมื่อมีปัญหา ก็จะเห็นว่าลูกมันกล้ากว่าพ่อแฮะ .. ภาพที่เคยถ่ายไว้กับป้ายอู่ ที่ติดต่อไว้ ก็ไม่ต้องไปแล้วหละ https://x.com/loibustian/status/1839967256769638415/photo/1 .. แผนที่ของอู่ที่เตรียมไว้ ก็ไม่ต้องไปแล้วหละ https://x.com/loibustian/status/1839966947896897824 .. เราขับรถกลับแบบยิ้ม ๆ ก็สวนทางกับอาแนนกับอาเก๋ง ย่าบอกว่าคงไปตัดแว่น ถึงบ้านก็เจอหูฟังอันใหญ่เบ้อเริ่มวางบนโต๊ะ พ่อก็บอกรันยาว่า ให้ขอบคุณอาแนน กับอาเก๋นะ น่าจะของอาแนน ที่เอามาวางไว้ให้ (แต่ไม่แน่ใจขอบคุณแทนพ่อหรือยัง) รันยาตื่นเต้นในตอนนั้น ก็ทดสอบ ๆ หูฟัง เสียงค่อนข้างดี ก็นึกถึงภาพคนที่ไลฟ์เล่นเกมส์ หรือพวกยูทูปเปอร์เลย (ตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้ว พ่อก็เอามาสวมที่หัว ก็ลองฟังเพลงก่อน เสียงใช้ได้เลย) .. ก็ขอบคุณอาแนน อาเก๋ บ้านอาแนนน้ำท่วมถึงหลังคา แต่ตอนนี้น้ำลดแล้วหละ อาเก๋ก็ไปช่วยอาแนนที่บ้าน อาจจะมีคนช่วยอีกก็เป็นไปได้ พ่อก็ไม่รู้จะพูดหรือช่วยอะไรใด ๆ ก็คงได้แต่อธิษฐานเผื่อในใจ แต่ก็ต้องไม่รู้สึกผิดว่า ไม่ได้ช่วยใครใด ๆ ด้วย เพราะพระเจ้าไม่ได้อยากให้เราคิดแบบนั้น .. Live today only Live a day at a time Live day by day Die daily and Live daily. .. อ้อ ตอนค่ำ ได้ยินแว่ว ๆ จากปู่พัดว่าเขามีงานฟังเทศน์ที่วัดป่าบงหลวง มีของมาขายเพียบ ๆ พ่อก็เลยชวนรันยาไปซื้อก๋วยเตี๊่ยวผัด ไปถึงก็พบว่ามีจริง ๆ ด้วย ก็เลยซื้อมาสามกล่อง ฝากย่า ปู่ มีขนมปังอะไรนะ ตอนนี้ลืมชื่อสะแล้ว สองชิ้น ส่วนพ่อได้กล้วยทอดมากินเหมือนเคย .. ตอนค่ำรันยาอยากคุยกับไบรท์ แต่ดูเหมือนไบรท์กำลังคุยภาษาอังกฤษกับเพื่อนอีกคน พ่อก็เลยชวนรันยามาดูโดเรม่อนกับพ่อ รันยาจะเป็นคนซื่อ ๆ ไร้เดียงสาตามวัย ก็อาจจะไม่รู้ พ่อก็เลยชวนกับบอกว่า เพื่อนอาจจะไม่ว่างคุยกับเรานะ เพื่อนที่สนิทที่สุดจะอยู่ในช่วงมัธยมปลาย พ่อบอกแบบนั้น .. รันยากินก๋วยเตี๋ยวผัดรอบดึก ๆ น่าจะหิว ส่วนพ่อพอกินไวตามิลค์ในตุ้เย็น ปรากฎว่า เส้นประสาทตรงนิ้วนางนิ้วเท้าข้างซ้าย จี๊ด ๆ ขึ้นมาหลังจากกินไปครึ่งชั่วโมง ก็คอนเฟิร์มหลายต่อหลายครั้งว่า อย่ากินหวานมากอีก แต่ก็ยังกิน หุๆ ร่างกายเราเป็นตัวทดสอบดีจริง ๆ ว่าอะไรหวานมาก อะไรหวานน้อย ปลายประสาทอักเสบ เกี่ยวกับความหวานแบบตรงไปตรงมา สำหรับพ่อเก่ง .. จบข่าว
Create Date : 29 กันยายน 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2567 0:51:46 น. |
Counter : 190 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
|