|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ค ว า ม สุ ข
ไม่ได้อัพบล็อคมาสักระยะนึงแล้ว เนื่องจากไม่มีอะไรน่าสนใจในชีวิตมากพอที่จะเอามาเขียน วัน ๆ ก็ยังคงนั่ง ๆ นอน ๆ กิน ๆ ดูทีวีไปเรื่อย ๆ ชีวิตไร้แก่นสารไปวัน ๆ แต่วันนี้เข้าไปไดของแก้มมา แถมเพื่อนมันก็อยากให้อัพซะบ้าง เราก็เลยโอเค ให้เพื่อนมันมาระบายคอมเมนท์ฮา ๆ ให้บล็อคเรา เอาไว้ดูเวลาเหงา ฮาดี อิ อิ
การอยู่ว่าง ๆ เฉย ๆ นานมันน่าเบื่อนะ แต่มันก็มีข้อดีอยู่บ้างเหมือนกัน การที่เราอยู่กับตังเองนาน ๆ ถ้าไม่คิดอะไรฟุ้งซ่านมากจนจะเป็นบ้า มันก็จะทำให้เราหยุดคิดแล้วหันกลับมามองตัวเอง และชีวิตที่ผ่านมา ทำให้เราคิดอะไรได้ในหลาย ๆ อย่าง ทำให้เรารู้ว่า อะไรคือความสุข อะไรคือความสุขฉาบฉวย อะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ทำให้เราหันกลับมามองคนที่เราห่างเหินไปนาน นั่นคือครอบครัวของเรานั่นเอง ตลอดเวลาเกือบ 2 ปีที่ทำงานที่เก่า เรามีความสุขกับเพื่อนมากก็จริง แต่กับครอบครัวแล้ว เราแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมมากนัก ถ้ามีเวลาว่าง เราก็จะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ทำงาน มากกว่าที่จะไปเที่ยวกับที่บ้าน โดยเฉพาะกับคุณพ่อ จำได้ว่าบ่อย ๆ ที่ไม่ได้เจอพ่อเลยทั้งอาทิตย์ แม้จะอยู่บ้านเดียวกันก็ตาม ตอนเช้าเราตื่นไปทำงาน พ่อก็ยังไม่ตื่น ตอนดึกเรากลับจากทำโอ พ่อก็ขึ้นนอนแล้ว ตอนเช้าที่แม่ไปส่ง แม่จะเล่าให้ฟังว่า พ่อถามสารทุกข์สุขดิบของเราจากแม่เกือบทุกวัน แทนที่จะได้คุยกันที่บ้าน กลับกลายเป็นเราต้องโทรศัพท์ไปคุยกับพ่อแบบที่คนที่ไม่ได้อยู่กับพ่อเขาทำกัน
กับพี่เราก็ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นจากแต่ก่อนมาก ๆ พี่เราจะมีวันหยุดไม่ตรงกับเราเลย หยุดวันจันทร็บ้าง วันพุธบ้าง น้อยครั้งที่จะได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ตรงกับเรา เราก็เลยได้คุยกันสั้น ๆ ในช่วงเวลาที่เราได้เจอกัน พี่เราเองก็พลาดอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตของเราช่วงนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้น่ะเหรอ จากที่เราเคยเอาแต่อยู่บ้าน นอน ไม่ออกไปไหน กลับกลายเป็นว่า พี่ไปไหน เราไปด้วย แม้จะไปจตุจักรที่เราไม่ชอบมากนักแต่ก่อน เพราะคนมันเยอะ กลับกลายเป็นได้ ไปเลย จตุจักร 
เราคิดว่า เราเปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา แน่นอนว่าคนเราย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ทั้งดีขึ้นในบางอย่างและแย่ลงในบางมุม แต่ตอนนี้เราพยายามรวบรวมตัวเราเองกลับมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้รู้สีกว่า torn มาก ๆ มันบรรยายไม่ถูก รู้สึกว่า เราน่าจะมีความสุขได้แล้ว แต่ทำไมเราไม่มีความสุขล่ะ แต่ตอนนี้เรามีความสุขแล้ว ถึงจะเหงาบ้าง แต่ก็ยังโชคดีที่ได้ส้มมาช่วยคลายเหงา ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากจริง ๆ
ช่วงนี้เราฟังพระเทศน์บ่อย ๆ จนเรารู้สึกว่า จิตใจดีขึ้นเยอะ มันเหมือนมีคนมาตบกะโหลกให้เราหยุดและตรึกตรองให้ดี เรารู้แล้วว่า แต่ก่อนเราทุกข์มากเพราะเหตุใด ทำไมจิตใจเราถึงมัวหมองไม่ผ่องใส แม้ว่าเราจะมีผู้คนรายล้อมและก็มีความสุขในเวลาเดียวกัน เรายึดติดกับความสุขกับอารมณ์นั้นมากเกินไป ซึ่งมันเป็นบาปแหละ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าการมีจิตใจไม่ผ่องใส เศร้าหมองมันเป็นบาปอย่างนึงเหมือนกัน พอฟังแล้วก็คิดได้ แล้วจิตใจมันก็เริ่มดีขึ้น มองอะไรอีกแง่มุมนึงมากขึ้น พยายามที่จะเลิกยึดติดกับบุคคลและความรู้สึกแบบที่เคยทำ จะเรียกว่า เราโตขึ้นก็ว่าได้
อย่าตกใจว่าทำไมวันนี้มีสาระ เพราะที่ผ่านมาไร้สาระไปมาก เลยขอแทรกอะไรที่มันมีสาระบ้าง อยากทำตัวใหม่ ๆ รับปีใหม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าปณิธานที่ตั้งไว้จะโดนแหกตั้งแต่วันแรก แต่เราก็จะพยายามทำให้ตัวเองมีความสุขทุกวัน ตอนนี้เรารู้แล้วว่า เราต้องการมีความสุข และเป็นความสุขที่ไม่ได้ทำให้คนอื่นมีความทุกข์ ความสุข...คำที่ดูเหมือนว่าจะหาได้ง่าย แต่จริง ๆ แล้วคนมักจะลืมความสุข หมกมุ่นในทุกข์ของตนเองมากเกินไป เหมือนที่เราอ่านเจอประโยคนึงในหนังสือ The other side of the story ที่เราชอบมาก ๆ และก็เขียนไว้ตรงขวาของบล็อคว่า "Why do we have such a finite capacity for pleasure but an infinite one for pain ?" นั่นสินะ คนเราถึงคิดว่าตนเองมีความทุกข์มากกว่าความสุข ซึ่งเป็นเพราะเรายอมให้มันเป็นอย่างนั้นเองต่างหาก
เพราะฉะนั้น เราอยากให้ปีใหม่ปีนี้ของเรา มี theme ง่าย ๆ แค่คำว่า "ความสุข" สำหรับเรา หากเรามีความสุข หากเราสุขกายสบายใจ เราก็จะเป็นคนแข็งแรงและมีภูมิต้านทาน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ เราเลยอยากให้ทุกคนมาทำตัวเองให้มีความสุขมาก ๆ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน บางทีมันอาจจะสั้นมากจนเราคาดไม่ถึง งั้นเรามาทำทุกวันของเราให้มีความสุขกันเถอะ อะไรก็ได้ เล็ก ๆ น้อย ๆ สิ่งที่เคยทำให้เรามีความสุข เช่น เวลาเราได้กลิ่นน้ำคลองเราจะคิดถึงตอนเด็กที่บ้านอยู่ริมคลอง มันเป็นช่วงเวลาที่เราเคยมีความสุขมาก ๆ แค่ได้กลิ่นน้ำคลอง เราก็รู้สึกมีความสุขแล้ว เป็นต้น
ความสุขส่วนหนึ่งของเราตอนนี้ก็คือการอ่านหนังสือ ตอนนี้อ่านหนังสือนิยายเรื่อง Pride and Prejudice อยู่ เพราะวันก่อนดู VH1 แล้วเขาเอาตัวอย่างหนังเรื่องนี้มาฉาย เออ...น่าสนุกเนอะ ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ตอนอ่าน Bridget Jones คุณเจ๊ Helen Fielding เธอช้อบบบ ชอบอีตา Mr.Darcy จากเรื่องนี้มาก ๆ ก็อยากอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่ไม่มีปัญญาตามไปหาอ่าน แต่เจ๊แกชอบ Colin Firth โดยเฉพาะฉากที่ขึ้นจากน้ำ อยากดูฉบับรีเมคนี้ไว ๆ แต่เห็นหน้า Mr.Darcy คนนี้แล้วแอบถอนหายใจ แหม..ในนิยาย บอก tall, dark handsome ประมาณว่า คนทั้งห้องต้องหยุดหันมามอง มี noble mien เดี๋ยวต้องไปลองดูหนังก่อน แล้วจะมาบอกอีกทีว่า แกสอบผ่านมั้ย ว่าแล้วจะไปหาแผ่นที่คุณ Colin แกเล่นไว้มาดูดีกว่าเนอะ
อันนี้หน้าปกหนังสือที่กว่าจะไปหามาได้

ส่วนอีกเรื่องที่อยากดูมาก ๆ ก็ Brokeback mountain 555 หนังแนวเพศที่ 3 นี่ชอบมากกกกกกกกกกกกก แถมเป็นคาวบอยเกย์ถูกใจเจ๊มาก ๆ ได้ดูทั้งพี่ฮีธ ทั้งเจค สุดคุ้ม ถึงแม้ว่าสองหล่อจะฟาดฟันกันลิ้นพัลวันก็ตาม 
ปล. ขณะที่กำลังนั่งเขียนบล็อค ห้องยายก็กำลังดูรายการตะลุยกองถ่าย ขอบอกว่า ชอบเสียงเจ้ที่บรรยายสุด ๆ ฮามากว่ะ กร๊ากกกกกกกก มีความสุขจริง ๆ เวลาดูรายการของเจ้แก
Create Date : 23 มกราคม 2549 |
Last Update : 27 มกราคม 2549 13:19:44 น. |
|
11 comments
|
Counter : 710 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:23:27:03 น. |
|
|
|
โดย: ZAZaSassY วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:8:42:45 น. |
|
|
|
โดย: LittleLulu วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:21:49:19 น. |
|
|
|
โดย: lovelyberry วันที่: 25 มกราคม 2549 เวลา:15:42:38 น. |
|
|
|
โดย: bunny_risu วันที่: 25 มกราคม 2549 เวลา:17:28:10 น. |
|
|
|
โดย: LittleLulu วันที่: 26 มกราคม 2549 เวลา:11:20:05 น. |
|
|
|
โดย: nods วันที่: 26 มกราคม 2549 เวลา:12:44:20 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊ก เด็กบ้านนอก UK IP: 144.173.6.76 วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:5:21:38 น. |
|
|
|
|
|
|
"Why do we have such a finite capacity for pleasure but an infinite one for pain ?" - The other side of the story
|
|
|
|
|
|
|