ประสบการณ์ลดน้ำหนัก ตั้งแต่เด็กจนโต ตอนที่๙...สัปดาห์หฤโหด

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้อากาศที่กทม.ดีจริงๆ อยากให้เย็นแบบนี้ไปตลอดปี
เมื่อวานนี้แอบหนีไปเที่ยวพัทยามาค่ะ อากาศดี๊ดี ตอนเย็นไปกินข้าวริมทะเล ลมโกรกมากๆ อาหารมาตั้งไม่ถึงสามนาทีเย็นไปสนิทใจ เลยต้องรีบกิน แต่ถึงยังไงก็ได้กินอาหารทะเลสดๆ เย็นไปนิดแต่ก็อร่อยสะใจอยู่ดี

จบเรื่องกินๆมาเรื่องไดเอ็ทต่อ

มาถึงตอนที่๙ แล้วหรอเนี่ย อะไรมันจะยาวขนาดนี้ ...อย่างเพิ่งเบื่อกันนะคะ ก็แหมคนมันลดความอ้วนแบบมาราธอนนี่นา

ช่วง1 เดือนก่อนแข่ง น้ำหนักเมย์ลดเยอะมาก เราเองก็ไม่ได้ใส่ใจไม่ได้ชั่งน้ำหนักตั้งแต่หลังปีใหม่ แต่พอเทรนเนอร์บอกให้ไปชั่งเพราะเห็นเราเครียด พอขึ้นตาชั่งช็อกกันไปทั้งคู่ค่ะ เพราะน้ำหนักเหลือน้อยมากๆ ไม่ถึง 100 lbs หรือ 45 kg. พอยิ่งใกล้วันแข่งยิ่งผอมมากๆๆๆๆ ที่ลงไปต่ำสุดที่ยอมชั่งคือ 93 lbs หรือ 42 kg. ที่บอกว่าที่กล้าชั่งคือต่ำกว่านี้ไม่กล้าชั่งแล้ว กลัว แต่ก่อนกลัวอ้วน ตอนนี้กลัวผอมเกินไป อย่างที่บอกในตอนก่อนๆคือเมื่อเราออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อที่หนักกว่าไขมันจะทำให้น้ำหนักเรามากแต่ร่างกายเราเฟิร์ม แต่ถ้าน้ำหนักเราลดลงฮวบฮาบแบบนี้ แสดงว่าเราได้สูญเสียกล้ามเนื้อไป เศร้าแค่ไหนก็ต้องอดทน ทำให้ดีที่สุดค่ะ การแข่งขันใกล้เข้ามาทุกที...

สัปดาห์สุดท้ายก่อนการแข่งเป็นสัปดาห์ที่โหดมากในเรื่องของอาหาร แต่เรื่องการฝึกสำหรับเมย์ไม่หนักค่ะ เพราะต้องการให้กล้ามเนื้อพักและไม่ดูใหญ่หรือที่เรียกว่า Pump เกินไป จึงฝึกแบบเบาๆ จะไปหนักตรงเรื่องอาหารและการเตรียมตัวค่ะ
เรื่องอาหารปกติเมย์จะได้กินผักเยอะๆให้อยู่ท้อง ซึ่งผักนั้นมีกากใยสูงจะทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือบวม หน้าท้องไม่เฟิร์ม จึงต้องตัดผักออกจากเมนู แน่นอนค่ะหิวววววววววบ่อยขึ้น

นอกจากตัดผักแล้ว ยังต้องเปลี่ยนน้ำดื่ม มากินน้ำกลั่นหรือ Distilled Water แทน ที่ต้องกินน้ำกลั่นเพราะน้ำดื่มธรรมดาจะมีแร่ธาตุอยู่ ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้มีผลต่อการ บวมตัวของcell หรือกล้ามเนื้่อในร่างกายและการขังของน้ำในcell คล้ายๆกับอาการ water retention แต่ไม่มากมายเหมือนเวลาร่างกายมีโซเดียม(เกลือ)สูงๆนะคะ แต่พวกน้ำและแร่ธาตุที่ขังอยู่ในcell เหล่านี้ก็จะทำให้เห็นลายกล้ามเนื้อไม่ชัดเจน แม้จะเพาะกล้ามเนื้อมาสวยงาม ใหญ่ ชัดเจนแค่ไหน...น้ำเพียงเล็กน้อยก็อาจบดบังลายกล้ามเนื้อนั้นได้ ...พอพูดถึงตรงนี้สาวๆอย่าเพิ่งไปเหมาน้ำกลั่นมากินกันหมดนะคะ เพราะจริงๆแล้วการดิื่มน้ำกลั่นในระยะยาวจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เพราะร่างกายเราต้องการแร่ธาตุค่ะ และแร่ธาตุส่วนหนึ่งก็ได้มาจากการดื่มน้ำเปล่าธรรมดาๆ หากเอาแร่ธาตุออกไปจนหมด ร่างกายเราจะขาดแร่ธาตุที่จำเป็นไปค่ะ...แต่ที่นักกีฬายอมดื่มกันก็เพราะ...นี่คือการแข่งขันที่นอกจากจะต้องลงแรงกายอดทนฝึกซ้อมหลายๆเดือน และแรงใจต่อสู้กับการฝึกหนัก และตารางอาหารจำเจ หฤโหด ยังจะต้องลงแรงทรัพย์ด้วย ทั้งเรื่องค่าสมาชิกนักกีฬาเพาะกายของสมาคม ค่าลงทะเบียนแข่งแต่ละครั้ง ค่าชุด ค่าเครื่องประดับ ค่าแต่งหน้าทำผม ค่าทำผิวแทน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง เพราะหลายคนมามาจากต่างเมืองต่างรัฐ บางคนมาจากต่างประเทศ...ทุกคนต่างงัดทัุกแทคติกมาสู้ อดทนกันสุดๆเพื่อชัยชนะค่ะ...รางวัลนอกจากอันดับและโล่รางวัล...ก็ไม่มอย่างอื่นนอกจากความภาคภูมิใจ

ต่อกันเรื่องอาหารการกินที่นอกจากจะต้องเปลี่ยนน้ำเป็นน้ำกลั่นแล้ว สองสามวันก่อนแข่ง เมย์ถูกจำกัดปริมาณน้ำที่ดื่มได้ด้วยค่ะ จากที่เคยดื่มวันละ2-3 ลิตรเหลือวันละ 3 แก้ว 1 แก้ว และ 1/2 แก้ว ...คอแห้งสุดๆ ต้องเอาน้ำครึ่งแก้วไปทำเป็นน้ำแข็งแล้วมานั่งดูดจ๊วบๆ เห็นคุณค่าของน้ำขึ้นมาอย่าถนัดใจ...เมื่อเปลี่ยนน้ำและจำกัดน้ำ...สิ่งที่เห็นชัดๆเลยคือตัวเมย์ "ซูบ" ลงไปทันที อย่าถามเลยค่ะว่าน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะไม่กล้าชั่ง ที่แน่ๆมันน้อยกว่า 93 lbs แน่นอน และตัวเราซูบเร็วมากๆ เห็นก้าง(ไม่ใช่กล้ามแน่ๆ) เด่นมากๆเลยค่ะ

Create Date : 17 มกราคม 2554 Last Update : 18 มกราคม 2554 9:28:57 น. Counter : 749 Pageviews.		4 comments
Share Tweet