ปีนี้ . .
ใช่รักไม่รัก . . ใช่หลงไม่หลง ซ่อนในอารมณ์ในซอกหลืบ ในจิตในฝัน . . อยากอยู่อย่างนั้น ไม่แตะไม่ต้องสัมผัสเธอ . .
ขอเพียงเท่านี้ คงอยู่อย่างนี้ สิ่งดีก็ล้นจนเกินสุข อารมณ์มันลึก จะเก็บเธอไว้ให้ลึก . .
สุดใจ!! - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - วันนี้ มากับ 'สุดใจ' เวอร์ชั่น น้องเจฟ ร้องกับ พี่หนึ่ง ETC ฟังแล้วอารมณ์มันได้ แม้เนื้อร้องจะไม่เข้ากับชีวิตจริง แต่ฟิลอารมณ์นี่คือ ฟังแล้วสะท้อนให้นึกถึงชีวิตตัวเอง ในปีที่ผ่านมานี้มาก ฟิลแบบ . . มองไม่เห็นอนาคต ล้มเหลวมันทุกเรื่อง แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไปให้ได้ 55+ จริงนะ ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น สุดท้ายเราก็ยังต้องใช้ชีวิต มันต่อไปทุกวัน เรื่อยๆ เรื่อยๆ หยุดไม่ได้ หยุดคือตาย ใดใดคืออีน้องเจฟกับพี่หนึ่งแกรเปลี่ยนเพลงพี่ปูกลายมาเป็น ฟิลนี้ได้เนี่ยะ อิชั้นขอคารวะพวกนางเลย เสียงโซโล่กีตาร์คือดีย์ ท่อนเก็บให้ลึกของอีน้องเจฟ ก็ลึกถึงใจอีป้ามาก 55+ เอาหูฟังยัดใส่หู แล้วเปิดเพลงอัดไปดังๆ ฟังแล้วเหมือนได้ปลดปล่อย โคตรดีย์อู้ดองบล็อกมาได้พักนึงจนเพื่อนบอกบล็อกเริ่มจะเหม็นเปรี้ยวแล้ว 55+ วันนี้ เลยขอมาอัพเดทบล็อกหน่อยนะคะ . . พอดีฟังเสียงอีน้องเจฟแล้ว เกิดอยากเขียนบล็อก บวกกับนี่ก็เดือนธันวาแล้ว เลยอยากจะเล่าถึง ชีวิตในปีที่ผ่านมานี้สักหน่อย . . ปีนี้จะไม่เอา Timeline ในเฟส มาลงแล้วนะ เพราะถ้าลงนี่คงมีแต่รูปแมวกับอาหาร 55+[ ความรู้สึกหลังจากใช้ชีวิตผ่านมาตั้งแต่ต้นปี . . ]
เอาจริงๆ ปีนี้เป็นปีที่เรารู้สึกผิดหวังในหลายๆเรื่อง ทำให้ตั้งแต่ต้นปีมา เราเฟลมาก่อนเลย เฟลบ้าบอไปหมด บางเรื่องที่ไม่ควรจะเฟลก็เฟลซะงั้น เรามานั่งวิเคราะห์ตัวเองแล้วสรุปได้ว่า โดยรวมแล้วคือ เราคาดหวังมากเกินไป ทั้งกับตัวเอง และคนรอบข้าง พอคาดหวังก็ผิดหวัง พอผิดหวังก็เสียใจ พอเสียใจก็เฟล พากันดิ่ง เฟลหนักจิตตก พอมีอะไรมากระทบจิตใจ แค่นิดเดียวเองนะ แต่เรานี่ คิดไปไกลเลย 55+ หลังจากที่รู้สึกตัวว่า นี่มันน่าจะไม่เข้าท่าละแบบนี้
เราก็มานั่งคุยกับตัวเอง . . เราว่าปัญหาของเราหลักๆ แล้ว มันเกิดจากที่เรากดดันตัวเองมากเกินไป . .คาดหวังผลลัพธ์เยอะ ทั้งที่พยายามน้อย มีหลายจังหวะ ที่เราเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบเทียบ กับชีวิตคนอื่น จากนั้นก็กลับมานอย . . เราเลยค้นพบว่า ปัญหาที่เกิด มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับคนอื่นละ เราเองนี่แหละที่เป็นบ่อเกิดของปัญหา เพราะถ้า Mind set เราดี ไม่ว่าคนอื่นจะปฎิบัติกับเรายังไง จะ Toxic ใส่เราแค่ไหน ก็ทำอะไรเราไม่ได้ หลังจากคิดได้ ครึ่งปีหลัง เราเลยเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ โดยใช้แค่หลักการเดียวที่ว่าใครจะคิดกับเรายังไงหรือปฎิบัติกับเราแย่แค่ไหนก็ช่างเขา สิ่งที่เราต้องจำใส่สมองและทำให้ได้ คือ เราจะใจดีกับตัวเองให้มากๆ ในทุกเรื่อง . . สนใจชีวิตคนอื่นให้น้อย ใส่ใจกับการพัฒนาตัวเองให้มาก โดยเฉพาะเรื่องของจิตใจพอคิดอย่างนี้ มันก็ทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น ปล่อยผ่านกับเรื่องราวบางเรื่อง ได้ดีขึ้น . .เราคิดว่า สุขภาพจิตเราดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เยี่ยม!! [ การงาน ]
การงานในปีนี้ ผ่านไปด้วยดี ไม่มีงานที่สร้างความเดือนเนื้อร้อนใจให้ โดยรวมปีนี้นายค่อนข้างใจดี ไม่กดดัน ต้นปีโบนัสก็ดีผิดคาด ในส่วนของตัวเราเอง ถือว่า ภาพรวมทั้งปีอยู่ในเกณฑ์ดี ปีนี้เรามาสาย 16 ครั้ง รวม 50 นาที ++ ปีหน้าตั้งใจว่าจะมาสายไม่เกิน 5 ครั้ง ลางานไป 13 วัน 8 วันลาป่วยเนื่องจากหมอนัด Checkup, 3 วันลากิจ, 1 วันลาพักร้อน ถือว่ากลางๆ ไม่ได้สูงหรือต่ำกว่ามาตรฐานที่ตัวเองตั้งไว้ แต่ก็หวังว่าปีหน้าจะทำได้ดีกว่านี้ . . [ ความรัก ] เราน่าจะไม่เคยเล่าให้ฟังมัง เกี่ยวกับเรื่องดวง คือ สมัยสาวๆ มันจะมีช่วงนึงเราชอบดูดวงมาก ปีนึงจะต้องไปดู ครั้งนึงเป็นอย่างต่ำ แต่หลังๆ พอเริ่มแก่ ตั้งแต่อายุเลย 35 มา ก็เลิกดูดวงเฉยเลย นั่นแหละ . . สมัยชอบดูดวง มีหมอดูหลายคน ทักเราว่า ดวงความรักเราจะหมดหลังจากอายุ 42 เราก็คิดว่า มันจะเป็นไปได้ไง เราออกจะว้อน 55+ แต่พอถึงตอนนี้จริงๆ มันหมดจริงเว้ยยยย เหมือนความอยากมันไม่มีแล้ว แล้วเราก็รู้สึกว่า การที่เราเอาตัวเองไปผูกพันกับใครมากเกินไปมันดูจะเป็นการใช้ชีวิต ที่สุ้มเสี่ยงสูง รักมาก คาดหวังก็มาก ผิดหวังก็มากไปตามกัน กว่าจะจบเกมส์ได้ในแต่ละซีซันนี่จิตใจสะบักสะบอม หลังๆ มานี้ เราเลยระมัดระวังมาก ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใช้สมองให้มากกว่า อารมณ์และหัวใจ น่าจะปลอดภัยกว่า ใดใดก็ไม่ได้ปิดกันตัวเอง แค่รู้สึกว่าแบบนี้ก็สบายใจดี ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี อย่าพยายาม เอาตัวเองไปผูกกรรมกับใคร ให้ต้องตามไปชดใช้ต่อในชาติหน้าจะดีกว่า เอาเป็นว่ารักแม่รักแมว ก็เพียงพอสำหรับเราแล้วในช่วงนี้ 55+ [ สุขภาพ ] เอาจริงๆ ปีนี้ไม่ได้เป็นหวัดไอจาม จนต้องไปหาหมอ พ่นยา อะไรแบบนั้นเลย ไม่ได้เป็นหอบด้วย ผลเอ๊กเรย์ปอดปีนี้ ผลยังปกติดี ยาโรคหอบก็ยังไม่ต้องกินเหมือนเดิม แต่ยัง ต้องพ่นยาป้องกันเช้าเย็นเหมือนเดิม เคยลองลืมพ่นไป 2 วีค แรกๆ ก็ไม่เป็นไรนะ แต่หลังๆ ดูหายใจไม่โล่งเท่าตอนพ่นครบ ก็เลยเลิกเกเร 55+ ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ไม่เจ็บป่วยใดๆ เลย ไม่ติดโควิดด้วย ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ป้องกันอะไรมากมาย แต่การใส่แมสยังใส่ปกติเหมือนเดิม สองเดือนท้ายปีเพิ่งจะมี ถอดแมสเวลานั่งทำงาน กินข้าวนอกบ้านปกติ เพียงแต่เลี่ยง ไม่ไปในที่ที่คนเยอะๆ โดยรวมแล้วถือว่าดวงยังดีที่ไม่ติด ทั้งๆที่วัคซีนใดๆ ก็ไม่ได้ฉีดน่ะ . . แต่อย่างไรก็ตาม ยังแก้ไข ปัญหาโรคอ้วนของตัวเองไม่ได้ ความประพฤติแย่ โรคเบาหวาน ก็เหมือนกัน . . ไม่มีความสม่ำเสมอในการดูแลตัวเอง ตั้งใจว่าปีหน้าจะแก้ไขให้ดีกว่านี้ . .

ปัญหาสุขภาพหนักสุดของเราในปีนี้คือ ช่วงกินเจ เราปวดหัว ปวดบ่า ปวดคอมาก คือปวดแบบที่กินพอนแสตนแล้ว ไม่หายปวด จนเราคิดว่าหรือน้ำตาลกะไขมันเราสูงเกินจนเส้นเลือด สมองอุดตันอะไรแบบนั้นไหม . . 55+ มีคืนนึงเรานอนไม่ได้เพราะ ปวดหัวและคอ คือ นั่งแล้วไม่ปวด แต่นอนแล้วปวด เราก็เลยนั่งสมาธิซะเลย การนั่งสมาธิในช่วงนั้นทำให้เราค้นพบว่า . . เราเหมาะกับการนั่งสมาธิจริงๆ เพราะเมื่อเราพยายามนั่งกำหนดลมหายใจเข้าออก ยุบหนอพองหนอ ไปถึงจุดนึง สมองเราจะโล่งจากนั้น มันก็เหมือนมีแสงขาวๆ สว่างบริ๊ง กระจายออกมาจากตา . . ทั้งที่เราก็หลับตาอยู่ นั่นแหละ จังหวะนั้น มันเหมือนเราสมองโล่งมากๆ มันรู้สึกสบายจนลืมความเจ็บปวดไปเลย เรารู้สึกดีมาก เราตั้งใจว่าปีหน้าเราจะนั่งสมาธิให้มากขึ้น มันน่าจะทำให้เราฟุ้งซ่านน้อยลง หายใจได้ยาวขึ้น และระบบหมุนเวียนเลือดของเราน่าจะดีขึ้นด้วยมังนะ (คิดเอง) [ ครอบครัว ] กันยาที่ผ่านมา แม่อายุ ครบ 67 ปีแล้ว แต่สดใสโคตร โดยรวม สุขภาพนางยังดี ถ้าไม่นับค่าเลือดอ่ะนะ แรงนี่ดีไม่มีตก ยังตัดต้นขนุนที่สูงเท่าหลังคาบ้านให้เหลือครึ่งต้นได้ ยังตัดต้นกล้วยได้ ยังเดินจูงมอไซค์ไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่คำนวนระยะทางแล้วเกิน 3 โลได้ ยังๆ ยังไม่จบ ยังมีแอบปีนรั้วบ้านไปตัดต้นมะรุม ไม่บอกลูก จากนั้นลื่นตก ลงมาคล่อมรั้ว ได้แบบไม่เจ็บมาก(นางว่างั้นอะนะ) - -" โดยรวมแล้วความดื้อ+รั้น ยังคงที่ แต่ความโมโหของปีนี้ แทบไม่มีเลย ยิ่งแก่ยิ่งแสนดีเป็นที่สุด เลิฟนาง มีแค่ . . ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ซึ่งลูกก็นวดให้ก่อนนอนเป็นประจำ อันที่จริงก็สลับกันนวดแหละ เพราะลูกก็เริ่มแก่แล้วเหมือนกัน 55+
ส่วนเรื่องการงานของนางนางยังไม่เลิกสอนพิเศษ ที่คุยกันไว้คือ ถ้านางไม่มีเด็กมาเรียนแล้ว นางจะมาอยู่กับเราถาวร แต่ตอนนี้ยังมีอยู่ แม้ไม่เยอะ แต่ก็มีให้นางสอนแก้เซ็งชีวิตได้ นางก็เลยแพลนให้ตัวเอง อยู่กับเราสามเดือน กลับบ้านไปสอนพิเศษ สามเดือนเว้นสามเดือนแบบนี้ ไปก่อน ซึ่งเรา ใจนึงก็อยากให้แม่ มาอยู่กับเราตลอด แอบห่วง กลัวไปแอบไปทำอะไรวู่วามแบบปีนรั้วอีก แต่อีกใจก็กลัวนางเบื่อ เพราะความสุขในชีวิตของนาง 50% คือ การสอนหนังสือ เฮ้อ มันก็เลยต้องเป็นแบบนี้ไปก่อน . .


ในส่วนของลูกๆ สี่ขาของเรา ต้นปีเราเสียปองโย่ไป เสียใจหนักมาก รู้สึกผิดมาก เหตการณ์นี้ทำให้เรา รู้สึกหวาดกลัวความผูกพันมาก อย่างไรก็ตามยังเหลือ อีกห้าตัวในบ้าน ยังมีอีกห้าครั้งที่ต้องเจอ ไหนจะแม่เราอีก ก็ไม่รู้ ใครจะไปก่อนไปหลัง ได้แต่บอกให้ตัวเองอย่าไปคิดล่วงหน้า แค่มีสติในการใช้ชีวิตก็พอ ปีนี้ ลูกๆ สี่ตัวของเราไม่มีใครมีปัญหาใดๆ

มีแค่ตัวเดียวที่เราเป็นห่วงมากคือ ลูกชายเสือเหิมนี่แหละ เมื่อวาน เพิ่งพานางไปหาหมอมาเจาะเลือดเช็คตับไต กับฉีดวัคซีนโน่นนั่นนี่ หมดไปสองพันกว่าบาท ปีนี้ แค่อีเหิมตัวเดียวเนี่ยะเสียค่าหาหมอ ไปเป็นหมื่นๆ ละ . . 555+ แต่เรื่องเงินมันของนอกกาย ใจเราก็ยังอยาก ให้ลูกไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่ต้องโดนบังคับกินยา พ่นยาล้างปาก บางที บังคับนางมาก นางน้ำตาคลอร้องให้ เราก็ใจเสียเหมือนกัน แต่นี่ได้ฉีดวัคซีนประจำปีกับเขาแล้วนะ เมื่อวานนี้

เราก็ยังหวังว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นในปีหน้า และไม่ต้องพาลูกไปหาหมอติดๆกัน ทุกเดือนอีก

แต่ปีนี้มีเรื่องดีอยู่นะ คือพอเข้าปลายปีมา ลูกสาวเรากลับมา หน้ากลมอีกครั้งแล้วจร้า เพราะหลังจากที่เราเปลี่ยน ยี่ห้ออาหารเม็ดเป็นโรยอลคานินอินดอร์ เพื่อลดอ้วนลูกชายส้ม แต่ผลที่ได้คือลูกชายส้มไม่ผอม กลับกลายเป็นแมวสาวประจำบ้าน น้ำหนักลงๆ ผอมบักโกรก ขุนยังไงก็ไม่ขึ้น เราพยายาม ขุนมายาวนานตั้งแต่ต้นปี มาตอนนี้ เหมือนจะสำเร็จแล้วจร้าาาา . . มองดูมีเหนียงแย้ววววว เย้ๆ . . มีลูกกับเขาทั้งทีแสนลำบาก ตัวนึงก็เครียดเพราะอ้วน อีกตัวก็เครียดเพราะผอม ไม่มีพอดี เฮ้อ [ เพื่อน ] ปีนี้เรามีปัญหาเรื่องเพื่อนแหละ เป็นปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหาของเพื่อน แต่เป็นปัญหาของตัวเราเอง 55+ เพราะเหมือนเรา เจอคำพูด และการกระทำของเพื่อน แล้วเรารู้สึกแย่ . . เหตุมันเกิดจากที่ เพื่อนเตือนเรา เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของเรา ซึ่ง . . เค้าหวังดีต่อเราแหละเราเข้าใจและรับรู้ได้ แต่ . . พอได้ฟัง ที่เพื่อนพูดแล้ว มันเหมือนไปสะกิดปมเรา ทำให้เราเฟล จากนั้นเราก็เกร็ง จากนั้นก็เหมือนเราสร้างปมให้ตัวเอง กลายเป็นแผลใจบ้าๆ ซึ่งเพื่อนอ่ะพูดแค่ครั้งเดียว แต่ . . มันกลับกลายเป็นภาพจำในใจเราได้ไงก็ไม่รู้ ที่พอเรานอย กับเรื่องนี้ทีไร ประโยคของเพื่อนก็ลอยเข้าหัวมาทุกที . . ความจริงมันก็มีหลายเหตการณ์รวมกัน . .
แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่านี้ มันทำให้เราเป็นโรคหวาดระแวง เวลาไปไหน มาไหนกับเพื่อน ก็จะระแวงว่าเราจะทำอะไรผิดหรือเปล่า จะพูดอะไรผิดแบบไม่รู้ตัวหรือไม่ กลัวว่าจะสื่อสารกับเพื่อนไม่ได้ กลัวการจับผิดของเพื่อน แล้วก็คิดว่าเพื่อนจะหัวเราะเราอีกไหม แรกๆ มันก็ตลกดีหรอกแต่หลังๆ เยอะๆ เข้า เราก็รู้ไม่ค่อยตลก ไปกับเขาเลย การที่ต้องระวังในหลายๆ เรื่องมันทำให้เรารู้สึกว่า การไปไหนมาไหนกับเพื่อน ไม่ใช่ Save Zone อีกต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ การเที่ยวกับเพื่อน เป็นยังเป็นช่วงเวลาของการ ผ่อนคลายอยู่เลย . . ไม่รู้มันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง เรากลายเป็นคนชอบอยู่บ้านและรู้สึกว่า อยู่บ้านนี่สบายใจดีจังเลยน๊า บ้านคือ Save Zone อย่างแท้จริง . .

อย่างที่บอก . . ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เพื่อนหรอก ปัญหามันอยู่ที่เรานี่แหละ เราอ่อนไหวกับปมตัวเองมากเกินไป ซึ่งใครก็แก้ปัญหานี้ให้เราไม่ได้ นอกจากตัวเราเอง แต่จนถึงตอนนี้ เราก็ยังแก้ไม่ได้ 555+เราปล่อยเบลอ แล้วเอาตัวเองออกมา อยู่ในจุดที่เราสบายใจแทน . . นี่คือวิธีของคนที่ชอบหนีปัญหาใช่ไหม เหอๆ
แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ สอนให้เรารู้ว่า . . เราไม่ควรเอาเรื่องของตัวเอง ทุกเรื่องไปเล่าให้คนอื่นฟัง เพราะ . . บางครั้งเรื่องที่อ่อนไหวของเรา อาจเป็นเรื่องน่าหัวเราะของคนอื่นก็ได้ ซึ่งถ้าเราไม่เอาเรื่องพวกนี้ไปเล่า มันก็ไม่มีใครมาขยี้แผลเราได้ สรุปทำตัวเองทั้งนั้น . . แต่โดยรวมแล้วมันก็ผิดที่เราไปคาดหวังกับคนอื่นมากเกินไปแหละ มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะบางครั้ง เรายังไม่เข้าใจ การกระทำของตัวเราเองทุกอย่างเลย เพราะงั้น อย่าไปหวังว่าคนอื่นจะเข้าใจเราทุกเรื่อง
ทั้งนี้ทั้งนั้น . . โลกนี้ มันก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก เราเองก็เหมือนกัน จงเลือกมองแต่แง่ดีเถิด!! [ สรุป ] ปีนี้โดยรวมถือว่าผ่านไปด้วยดีแหละ สุขภาพไม่ได้ว่าดีแต่ก็ไม่แย่ อุบัติเหตุไม่มี การงานไม่สะดุด ถึงมีปัญหาก็แก้ไขผ่านไปได้ด้วยดีได้ สุขภาพจิตค่อยๆ ดีขึ้น เรื่องการเงินก็ไม่ได้เกิดสภาวะฝืดเคือง เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว แม้จะยังมีเงินเก็บไม่มาก แต่ต่อไปมันจะค่อยๆ ดีขึ้น เพราะเริ่มจะสะกดคำว่าประหยัด เป็นมากขึ้นแล้ว 55+
อีกการเปลี่ยนแปลงในปีนี้คือ ปีนี้ตัดผมสั้นในรอบหลายปี มาวันแรก สั้นเสมอหูเด๋อมาก แต่ตอนนี้เริ่มยาวนิดนึงแระ เริ่มคุ้นกับ ความหน้ากลมแบบเปิดเผยของตัวเองแล้ว แต่ผมสั้นอะไรก็ดี หวีก็ง่าย ไดรก็ง่าย แห้งก็ไว ยาสระผมก็ไม่เปลือง วงการผมสั้นเข้าแล้วออกไม่ได้จริงๆ . . บั น ทึ ก D i a r y โ ด ย ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ
Create Date : 18 ธันวาคม 2566 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2566 9:57:00 น. |
|
23 comments
|
Counter : 1034 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณThe Kop Civil, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtoor36, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณtanjira, คุณเนินน้ำ, คุณRain_sk, คุณจันทราน็อคเทิร์น |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ธันวาคม 2566 เวลา:5:46:47 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 19 ธันวาคม 2566 เวลา:7:27:14 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 ธันวาคม 2566 เวลา:10:14:03 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 19 ธันวาคม 2566 เวลา:22:21:32 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 21 ธันวาคม 2566 เวลา:11:53:46 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 21 ธันวาคม 2566 เวลา:17:47:39 น. |
|
|
|
โดย: Rain_sk วันที่: 21 ธันวาคม 2566 เวลา:22:33:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 ธันวาคม 2566 เวลา:5:51:39 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 ธันวาคม 2566 เวลา:22:02:54 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 28 ธันวาคม 2566 เวลา:7:09:11 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 8 มกราคม 2567 เวลา:11:38:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป เรียนรู้ด้วยตัวเองได้หลายอย่าง
รักตัวเองให้มาก ให้กำลังใจตัวเอง อะไรไม่โอเคก็ปล่อย ๆ ไป
สุดท้ายแล้วบ้านก็คือที่เซฟโซนที่สุด มีแม่มีแมวที่เป็นความรักที่แท้จริง
ไม่มีใครมาแย่ง ทุกอย่างมีคุณค่าในตัวของมันเอง
โดยเฉพาะแมว ๆ ทั้งหลาย มีค่าอย่างยิ่ง ไม่ว่าค่าอาหารเปียก อาหารเม็ด ค่าทรายแมว บล้า ๆ 555