ในวันที่แดดร้อนร้อน
16 / 02 / 24ไข่แตกแล้วจร้าาา . . ไข่แตกแล้ว อย่างไม่ทันตั้งตัว 55+ จริงๆใช่ ปลายปีที่แล้วเราเคยบอกว่า ปีหน้าจะตั้งใจ ไม่มาทำงานสาย คือแพลนไว้จะสายไม่เกินสี่ครั้ง แต่นี่ ยังไม่พ้นเดือนกุมภาพันธ์ก็ไข่แตกแล้วจร้าาา . . งืออออออ . . แต่มันคือ เหตุสุดวิสัยจริงๆ เนื่องจากรถพัง ขับไม่ได้ ขับๆ ไป มันมีเสียงเหมือน เอาลวดหวดที่ล้อ วืดๆๆๆ น่ากลัวมาก เหมือนล้อจะหลุด โชคดีว่าตอนเช้า แถวบ้านจะมีปั๊มๆ นึง ที่มีร้านซ่อมเปิดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เลยเอาไปให้ช่างดู

ช่างเอารถไปขับวนหนึ่งรอบก็บอกได้ทันทีว่า . . ลูกปืนแตกจร้าขับรถยังไงให้ลูกปืนแตก ช่างเลยต้อง ถอดล้อออกเปลี่ยนลูกปืนไปสองแผงอย่างที่เห็นในรูปนั่น

ก็เลยไปทำงานสายเลยจร้าาาา สายไป สิบสี่นาที เฮ้อออ . .

นึกไปนึกมาแล้วก็ต้องขอบคุณสกิลการขับขี่มอเตอร์ไซค์ ของตัวเองนะ การที่เรามองเรื่องที่ต้องแว้นไปทำงาน ไปกลับ สี่สิบกิโลเมตรในทุกๆ วัน เป็นเรื่องง่ายและไม่เหนือบ่ากว่าแรงเนี่ยะ มันทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงๆ เพราะถ้าเราเหนื่อยกับมัน เราก็คงต้อง เอารถยนต์ไปทำงานเหมือนก่อน และเราก็ต้องเสียทั้งค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าที่จอด รวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท เงินน้อยลง ชีวิตก็คงอยู่ยากขึ้น แถมต้องทรมานกับเรื่องรถติดด้วย แต่สิ่งที่ต้องแลกคือชีวิตเสี่ยงตายมาก แถมต้องทนกับ แดดและฝุ่นอีกด้วย ชีวิตต้องเลือก 555+

เช้าวันอาทิตย์ต้นเดือน กพ. ที่ผ่านมา ในซอยมีใส่บาตรประจำปี ปีนี้ ไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีเหมือนปีที่แล้ว พักบ้าง ได้น้องๆต้นซอย เป็นแม่งานแทน แต่ทุกคนในซอยก็ยังร่วมมือร่วมใจกันใส่ซองพระ เป็นอย่างดี เราร่วมทำบุญกับเขาด้วยห้าร้อยบาท ปีนี้เลื่อนไป ขึงผ้าใบห่างจากบ้านเราไปสองหลัง

เรามีเอาผ้าใบผืนเล็กไปร่วมด้วย เป็นการเติมให้เต็มสวยงามพอดี

เวลามีงานบุญแบบนี้จะคิดถึงแม่ มากเป็นพิเศษ คิดว่า ปีหน้าแม่มาอยู่ด้วยแบบ 100% แล้วคงจะได้จัดของทำบุญด้วยกัน

แต่ถึงแม่ไม่อยู่ ก็ยังมีผู้ช่วยเยอะเหมือนเดิม ยังตอบไม่ค่อยได้ว่าช่วยให้ง่ายขึ้นหรือช่วยให้ยุ่งกว่าเดิมกันแน่

เจ๋งเป้งนี่ตัวเรียกร้อง นางจะนั่งจ้องเราอยู่นั่นไม่ว่าเราทำอะไร ถ้าเราไม่สนใจนางก็จะกระโดดเกาะขา แล้วเอาตีนเขี่ยแขนเรา จนกว่าเราจะเลิกทำไอ้ที่เราทำอยู่ แล้วหันมาสนใจนางแทน

ส่วนอีตัวลายๆ สองตัวนี้ ก็อินไซด์สุดๆ เหมือนจะตั้งใจมาช่วยดี แต่ป๊าววว นางมาสืบดูว่า มีอะไรที่พวกนางพอจะกินได้ไหม

แต่มันกินไม่ได้ลูก มันคือข้าวสารไว้ใส่บาตรพระเฟร้ยยยย ปั๊ดดดดด . . จับมันห่อใส่ถุงถวายพระไปด้วยดีไม๊นะ

แต่ไม่ว่าตัวยุ่ง ตัววุ่นจะเยอะมากมายแค่ไหน สุดท้ายเราก็ห่อของเตรียมไว้ใส่บาตรเสร็จ

ข้าวสาร มาม่าคัพ ยา อาหารแห้ง ขนมที่ชอบ

เรายกพัดลมที่บ้านมาร่วมด้วยสองตัว เผื่อร้อน

บ้านอื่นๆ ยกเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวมาร่วมด้วย

เก้าอี้ก็จะเด่นๆ หน่อยเพราะลายไม่เหมือนกัน

ปีนี้สงสารพระมาก เพราะเลื่อนตำแหน่งมาใกล้หน้าซอยมากขึ้น แดดเลยส่องหน้าพระพอดีเลย ร้อนทั้งแถบ แถมรอบนี้พระมาช้า กว่าปีที่แล้วด้วย แดดมันเลยแรงมากกว่าเดิม

ของร่วมทำบุญของเราก็ยกมาตั้งแต่พระยังไม่มา

บ้านตรงข้ามยกกาแฟสดมาแจก อยากได้น้ำแข็งมาก จะได้ฟิลกินอเมริกาโน่เย็นไม่หวาน เหมือนคัลเลนกับพี่จอง 55+

ปีนี้รู้สึกว่าคนในซอยมาร่วมไม่เยอะเท่าปีที่แล้ว แต่บรรยากาศก็ยังดูอบอุ่นไม่ต่างจากเดิม หรือว่าอุ่นเพราะแดดมันร้อนก็ไม่รู้ 55+

มีคนซอยอื่นมาร่วมทำบุญด้วยสามสี่ครอบครัว มีเด็กเล็กๆ มาร่วมด้วยหลายคน น่ารักมากกก ไม่มีใครงอแงกันเลย นั่งฟังพระสวดอย่างสงบ

เด็กๆ ชอบตึ๊ดตื๋อ ก็จะพากันเดินมาเล่นกับตึ๊ดตื๋อกันหมด

ส่วนแมวบ้านฉัน ก็ยังน่าสงสารเหมือนเดิม เพราะมันมีตัวนึง มันออกจากบ้านทีไรเจอคนแล้วภูมิตกป่วย ก็เลยทำให้ ตัวอื่นพลอยลำบาก ไม่ได้ออกจากบ้านไปด้วย

ใส่บาตรเสร็จ หลวงพ่อก็เดินพรมน้ำมนต์ทุกบ้านในซอย เป็นอันเสร็จพิธีใส่บาตรประจำปีแต่เพียงเท่านี้ อิ่มบุญกันทั่วหน้า

ปกติจบงานบุญในซอยเรากับเืพื่อนบ้านก็จะแยกย้ายกันกลับ ไปนอนอีกสักรอบ แต่ปีนี้ไม่ได้นอน เพราะว่า ริชชี่ มาจากบ้านนางแถวบางบ่อ เพื่อลากพวกเราออกมาไหว้พระ นัดเจอกันที่วัดระฆัง แล้วจะข้ามไปวัดพระแก้ว วัดโพธ์ วัดสุทัศน์

ตั้งแต่ย้ายออกจากคอนโดฯ ไปอยู่บ้านแถวนนท์ ก็ไม่ได้ มาวัดระฆังเลย เหมือนจะบูรณะเพิ่มจนเกือบจำโบสถ์เก่าไม่ได้

เข้าไปสวดมนต์ด้านใน เจอกลุ่มหญิงชายด้านข้าง เม้ากันเสียงดัง เรื่องให้ส่งรูปมาเพื่ออัพเฟสบุ๊ค อยากจะหันไปด่ามาก พยายามระงับจิตใจ เพื่อท่องชินบัญชร ทีละบรรทัด แต่ก็แอบขุ่นสุดๆ ใดๆ คือคนเค้ามานั่งสมาธิกันเยอะแยะ พวกนี้ มาถ่ายรูปอัพเฟสบุ๊ค บ้าบอ . . แต่ไม่ได้ โมโหไม่ได้ เข้าวัดจะต้องใจเย็นเข้าไว้ . . เจ้ากรรมนายเวรทุกวันนี้ ก็มีเยอะอยู่แล้ว อย่าพยายามหาเพิ่ม 55+

เพื่อนๆ พากันออกไปถวายสังฆทาน และกรวดน้ำอีกรอบ

สุดยอดเพื่อนบ้านชวนไปตีระฆังท่ามกลางแดดร้อน ว่าแต่แดดมันจะร้อนไปไหน . . ไขมันละลายไปทั้งตัวแล้ว

ออกจากวัดระฆังขับรถไปหาที่จอดเพื่อไปวัดพระแก้ว แต่ไม่มีที่จอดเลย วนหาอยู่นานมาก สุดท้ายเลยไปจอดข้างวัดสุทัศน์ แล้วนั่งตุ๊กๆ อัดห้ามาสนามหลวง ตุ๊กๆ ก็ช่างกล้า คนขับบอกว่า ถ้าอัดไหวทุกคนก็ขึ้นมาพร้อมกันเลยครับ แล้วคิดภาพตามสิ เราก็ตัวยักษ์มากแล้ว ยังมีเพื่อนผู้ชายที่สูงร้อยแปดสิบกว่าอีกสอง แล้วยังมีตั๊กกรี้อีก สุดยอดเพื่อนบ้านนั่งอัดอยู่ที่พื้น 55+ ก็ยังมากันได้นะ

ใดใด คือ สนามหลวงร้อนมว๊ากกกก โอ๊ยยยยย . . ดูพระอาทิตย์สิ ฉันใกล้จะไม่ไหว แล้ว ตั้งแต่เช้า ยังไม่ได้กินอะไรเลย แต่เพื่อนบอกว่า อยากทำให้ครบก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรกินทีเดียว . . พระเจ้า ฉันจะรอดไหม

ฮึบๆ เดินตามเขาไป คิดซะว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวท่านหนึ่ง

ในวัดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมาย 80% คือคนจีน ฉันได้แต่คิดว่า . . พวกหล่อน ทำไมถึงอยากมาเที่ยว ในเมืองที่ร้อนขนาดนี้กันนะ . .

แล้วนะ ที่เห็นเนี่ยะ มีคนไทยไม่ถึง 10%

ความจริงที่เพื่อนถ่อมาจากบางบ่อ เพราะนางอยากจะ มาเช่าพระแก้วมรกตที่วัดพระแก้ว แต่สรุปว่าไม่ได้ เหมือนว่าที่วัดเค้ายกเลิกการเช่าวัตุมงคลแบบนี้ไปหลายปีแล้ว ถ้าอยากได้ต้องไปหาร้านข้างนอก แต่นางก็ไม่เอา นางบอกว่า กลัวได้อย่างอื่นตามมาด้วย ..

พวกเราเข้าไปไหว้พระเสร็จในเวลารวดเร็ว

แล้วก็เดินออกจากวัดพระแก้วมา ประหนึ่งหนีซอมบี้ (นักท่องเที่ยว)

ร้อนมาก มาก มาก มาก มาก ถึงมากที่สุด มากขนาดว่าดูรูปปั้นในวัด เหมือนจะยิ้มอ่อน แล้วบอกเราว่า . . "ช่วยด้วย!! กางร่มให้ฉันที ฉันร้อนมั๊กๆ " 55+

ออกมาจากวัด ทุกคนลงความเห็นว่าไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ได้น้ำ หรืออะไรสักอย่างใส่ท้องตอนนี้ อาจฮีทสโตรกตายได้ เดินออกถนน เจอคาเฟ่ ซ้ายมือ เลยดิ่งเข้าไปทันที . . พระเจ้า . . ในร้านมีแต่ฝรั่ง!! มีโต๊ะเราโต๊ะเดียวที่เป็นคนไทย อาหารก็ราคาใช้ได้เลย แต่ . . เหมือนเราเจอโอเอซีสแรกในทะเลทราย เมื่อเจอน้ำอ้อยใส่กาแฟเข้าไป จากนั้นก็สั่งไม่ยั้ง

ยำส้มโออร่อยมาก สั่งเบิ้ลจร้าา น้ำอ้อยฟินมาก เหมือนชีวิตได้คืนชีพ อ่าาา . . เบิ้ลอีกแก้วจร้าา ไม่มีใครห้ามใคร เอาล่ะ ฉันจะไม่พูดเรื่องการประหยัดกับพวกเธอเพราะวันนี้ฉันเหนื่อยมาก

สั่งพิซซ่า หน้าอะไรไม่รู้มาสองถาด เพื่อนที่นั่งตรงข้ามก็พูดขึ้นมาว่า เธอๆ พิซช่าาา ดูดีมากกก ขาวมากกก น่ากินสุดๆ นั่นนี่ . .
ก็ยัง งง ว่า พิซว่าขาวคือไรวะ พอหันหลังไปเท่านั้นแหละ เธอเอร้ยย โต๊ะหลังเยื้องๆ ที่ สิบสี่นาฬิกา มีฝรั่งงานดี นั่งกินพิซซ่าคนเดียวอยู่ หล่อมากทุกคน โอ๊ยยย หล่อวัวตายความล้ม . .
ตั๊กกรี้ บอกว่า . . เขาจะเหงาไหม นั่งกินพิซซ่า ทั้งถาดคนเดียว หรือเราจะเสนอตัวไปนั่งกินกับเขาดี มาคนเดียวถือว่าโสด แต่ยังไม่ทันที่ตั๊กกรี้จะทำไร สุดยอดเพื่อนบ้านก็พูดขึ้นแทรกว่า ดูจากหน้งหน้าแล้ว . . คาดว่าเมียต้องอยู่ในวัดพระแก้วแน่ๆ นางน่าจะหนีร้อนมาหลบในคาเฟ่ ปล่อยเมียไหว้อยู่ในวัด 55+

นั่งแช่กันจนได้เวลาอันสมควร ได้ไปวัดโพธ์ต่อ เจอคนขาย กางเกงช้างกันเยอะมาก นักท่องเที่ยว 50% ไม่ใส่เสื้อช้าง ก็กางเกงช้าง กางเกงช้างตัว 99 บาท มองก็รู้ว่าอิมพอทมาจากจีน คนจีนขายไทยมาขายคนจีนต่อ 555+

แล้วนะ มาวัดนนี้ได้แผล โดนแขกขาวชนเท้าไปกระแทกกับ ป้ายไม้ในวัด เจ็บมากทุกคน เดินกระเผกออกจากวัด บ้าบอ ทำไมถึงเซ่อซ่าได้ขนาดนี้ . .

เย็นย่ำ . . นั่งตุ๊กๆ อัดห้ามาพิกัดสุดท้ายคือ วัดสุทัศน์

ขาป่วย พลังหมด ต้องเสพน้ำหวานอีกแล้ว (เกี่ยวไหม) วันนี้วันเดียว ไม่รู้ น้ำตาลพุ่งไปเท่าไรแล้วเนี่ยะ

แม้จะเหนื่อยแต่การได้เข้าวัดไปไหว้พระก็รู้สึกดีมากนะ

ไหว้พระแล้วผลบุญที่ได้คือสบายใจทันตาเห็น

ครบห้าวัดตามเป้าหมายของเพื่อนริช . . แล้ว ก็มานั่งคุยกันว่า จะไปกินอะไรกันดี นั่งอยู่จนรากงอก ก็ยังคิดไม่ออก พิกัดเปลี่ยนไปแบบแต่ละที่ห่างกันสิบกิโลเมตร

คิดกันไม่ออก เลือกกันไม่ได้ สุดท้ายเพื่อนริช ก็พามากิน ร้านอาหารไทยริมน้ำเลยจร้า หลังจากูเกิลแมพพาไม่หลงหนึ่งรอบ โทรถามร้านอาหารบอกโต๊ะเต็ม แต่สุดยอดเพื่อนบ้านยังไม่ยอม วอร์คอินเข้ามาสุดท้ายก็ได้โต๊ะจนได้ โซนห้องแอร์ไม่ได้สัมผัส บรรยากาศพระอาทิตย์ตก . .

แต่ . . . ใครอยากจะได้พระอาทิตย์ตกกัน ถ่ายรูปสองรูปก็พอแล้ว ตอนนี้ ตู ร้อนนนน ห้องแอร์เถิดนะ

อาหารใช้ได้เลย มีเมนูที่ไม่เคยกินมาก่อนคือ ลาบย่าง เค้าเอาลาบมาห่อด้วยใบตองแล้วเอาไปย่าง หอมมาก รู้สึกคลีนๆ ด้วยน่าลอกเมนู เอาไปลองทำกินที่บ้านมาก

สั่งอาหารกันเหมือนไม่ได้กินอีมื้อก่อนหน้ามาก่อน แค่สุดยอดเพื่อนบ้านก็สั่งไปสี่เมนูแล้ว ..

แต่ผักสามเหม็นไม่ค่อยเหม็นเท่าไร ชอบร้านแถวที่ทำงานมากกว่า

แต่คางกุ้งกับน้ำพริกอร่อยมาก . .

มีเรื่องตลกคือ ในห้องแอร์ที่ร้าน ตอนเราไปถึงโต๊ะยังว่างเยอะ เราเลยเลือกนั่งโต๊ะที่ติดมุมระเบียง ถูกคั่นด้วยกระจกบานใหญ่ แต่ด้วยพระอาทิตย์กำลังตก แดดแรงพนักงานเลยปิดม่านไว้ พวกเราก็กินๆ กันไป พอแดดหมด . . พนักงานเปิดม่านบุ๊ป
ทุกคนนี่ กลั้นขำกันไม่ไหว . . เพราะอีโต๊ะด้านนอก เป็นคู่หนุ่มสาว เหมือนมาตั้งใจมาสวีทกันสองคน แล้วนะ พอม่านเปิดเค้า เค้าดูตกใจ ที่เจอพวกเราสี่ตัว และโต๊ะติดกัน แค่กระจกกั้นอ่ะเท้ออ เหมือนเรานั่งดูตู้ปลาไงงั้น . . คู่สวีทมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ตกดิน สงสารเค้าสุดๆ หวีทแทบไม่ออก 55+

อิ่มท้องแตก เดินออกมาจากร้าน อ่าวเพิ่งรู้ว่าร้านนี้มันร้านดัง

มันก็จะรู้สึกแปลกๆ หน่อยๆ ที่มากินร้านอาหารที่ต้องจอดรถในวัด แต่วัดนี้ เราเคยพาแม่มา เมื่อนานมากแล้ว ตอนนี้พานางนั่งเรือ ไหว้พระเก้าวัด จำได้ว่ายังเอาแบ้งค์ร้อยมาเจิมอยู่เลย . .กลับถึงบ้านเกือบสามทุ่ม ลูกบ่นระงม หายไปไหวมาทั้งวัน เอาจริงๆ นี่แค่หน้าวัด ถ้าแดดเมืองไทยมันจะร้อนขนาดนี้ แทบสู้ไม่ไหว เหนื่อยมาก ดังนั้นไม่ต้องไปพูดถึงไหว้พระเก้าวัดเลย
โดยรวมวันนี้ . .ร้อนมาก หิวมาก เมาคนมาก แต่ก็สนุกมากจริงๆ อาจจะ ไม่ใช่ว่าไปที่ไหน แต่อยู่ที่ว่า ไปกับใครมากกว่าละมัง ในวันที่แดดร้อนร้อน แต่ก็ยังสู้นะ!! ^ ^บั น ทึ ก D i a r y โ ด ย ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2567 |
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2567 16:27:45 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1076 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณทนายอ้วน, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSleepless Sea, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณกะว่าก๋า, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณTurtle Came to See Me |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:16:53:38 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:17:59:02 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:22:23:26 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:7:24:31 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:7:38:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:9:20:43 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:10:27:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:34:47 น. |
|
|
|
โดย: ศาสนาอิสลาม IP: 51.81.85.242 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:5:27:47 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|