BlogGang.com : : flymom : ตุหรัดตุเหร่ตุรกี ตอนที่ 2-ของสวยของงามที่อิสตันบูล

ตุหรัดตุเหร่ตุรกี ตอนที่ 2-ของสวยของงามที่อิสตันบูล

ยังค่ะยัง อิสตันบูลมีอะไรตั้งมากมาย ยังจบแค่ตอนแรกไม่ได้ เรามาต่อตอนที่สองกันเหอะ

วันที่สอง เราสามคนพ่อแม่ลูกไปเที่ยวพระราชวังท็อปกะปิ-Topkapi Palace กันค่ะ

เคยมีคนมารีวิวในพันทิปหรือเทรคกิ้งไทยก็ไม่รู้จำไม่ได้ว่า ท็อปกะปิไม่ค่อยมีอะไรดู สองชั่วโมงก็ดูจบ เราไปดูมาแล้วก็ออกจะสงสัยว่าคนดูนั้นดูยังไงหว่าสองชั่วโมงเสร็จ เพราะมันมีรายละเอียดมากมายให้ดูกัน พวกเราสามคนดูกันตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงสามโมงเย็นยังดูไม่จบนะคะ แต่พอดีเจ้าไทมันฟาดหัวฟาดหางอาละวาด มันเหนื่อย มันร้อน มันหิว มันจะกลับโรงแรมก็ต้องตามใจมัน

ค่าผ่านประตู 10 ลีร่า แต่ถ้าเข้าไปดูในฮาเร็ม ต้องเสียต่างหากอีก 10 ลีร่า ไทไม่เสีย ที่จริงมันควรจะเสียแต่นังแม่อมว่านสาลิกาลิ้นทองก่อนต่อรองกับเจ้าพนักงาน ปรากฏว่ามันไม่เคยเสียค่าเข้าเลยไม่ว่าจะดูอะไรก็ตาม ประหยัดไปได้หลายตังค์อยู่หนา ใครมีลูกเล็กลองใช้วิธีนี้ดูค่ะ คนตุรกีน่ารักพูดง่าย

ประวัติของพระราชวังท็อปกะปิคร่าวๆนะคะก็คือ ผู้ที่สร้างท็อปกะปิคือสุลต่านมาร์เม็ตที่สอง หรือที่ฝรั่งขนานนามว่า Mehmed the Conqueror เพราะว่าท่านสามารถตีเมืองคอนสแตนติโนเปิลของอาณาจักรโรมันตะวันออกได้และทำลายจนราบเป็นหน้ากลอง

เมื่อปี 1459 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชวังท็อปกะปิขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นราชวังของกรุงคอนสแตนติโนเปิลมาก่อน ท็อปกะปิการเป็นศูนย์กลางการปกครองและการเมืองของอาณาจักรอ็อตโตมานหลายร้อยปีจน เมื่อถึงปี 1856 เมื่อมีการย้ายพระราชวังไปที่พระราชวังใหม่ติดกับช่องแคบบอสฟอรัส

ในฮาเร็มจะเต็มไปด้วยของสวยงาม โดยเฉพาะกระเบื้องเขียนลายด้วยมือ สวยมากจนหยุดหายใจกันไปเลยเชียวล่ะค่ะ

อุแม่เจ้า ที่รัก ที่ร้ากกกกกจ๋า ดูผนังนี้สิจ๊ะ สวยเหมือนชะลอลงมาจากสวรรค์ไหม

มาเล่าเรื่องของฮาเร็มดีกว่า คำว่า Harem มันแสนจะเอ็กซอติก แต่ที่จริงแล้วคำว่า ฮาเร็ม แปลตรงตัวได้ว่า Women's private quarter คือที่ส่วนตัวของผู้หญิง

สุลต่านทุกพระองค์จะมีฮาเร็มเป็นของตัวเอง คนไหนได้ขึ้นครองราชย์ในราชวงศ์อ็อตโตมาน ก็จะย้ายฮาเร็มของตัวเองมาที่ท็อปกะปิ โดยที่ผู้หญิงในฮาเร็มของสุลต่านองค์ก่อนหน้าก็ย้ายออกไป ใครมีลูกไปอยู่กับตัวลูกเอง ใครไม่มีลูกต้องไปอยู่ที่เมืองที่จัดไว้ให้

ผู้หญิงในฮาเร็มนั้น ไม่มีใครเป็นชาวอ็อตโตมานแท้ๆสักคน เพราะว่าศาสนาอิสลามมีข้อห้ามไม่ให้เอาคนที่เป็นมุสลิมด้วยกันมาเป็นทาส เพราะฉะนั้น หญิงในฮาเร็มนั้นต้อง "อิมพอร์ต" มาทั้งหมด

อันนี้ดูตั้งนานว่ามันคืออีหยัง ปรากฏว่ามันคือเตาผิงค่ะ หน้าหนาวอิสตันบูลหนาวใช่ย่อย (แต่หนาวไม่นาน)

แล้ว "อิมพอร์ต" มาจากไหน ก็จากประเทศราชที่อยู่ในอำนาจของอาณาจักรอ็อตโตมาน เช่นแคว้นยูเครนในรัสเซียปัจจุบัน บางคนก็โดนเอามาขายตั้งแต่ยังเด็กๆ บางคนก็มีเอเจ้นต์ไปเลือกซื้อจากพ่อแม่มาโดยตรง

ดูประตูนะคะ ประตูอะไรก็ไม่รู้ สวยไปถึงสามโลก ดูไกลๆเห็นเป็นประตูมุกบนบานไม้นะคะ

แต่ดูใกล้ๆแล้วถึงจะดูออกว่า ไอ้ที่เป็นสีน้ำตาลที่เรานึกว่าเป็นเนื้อไม้นั้น มันเป็นกระดองของกระ (เต่าทะเลชนิดหนึ่ง) กริ๊ดดดดดด จะต้องตายไปวันนี้จะไม่เสียดายเลยเพราะได้เห็นประตูสวยๆอย่างนี้

สาวๆในฮาเร็มบางคนก็โดนจับมาเป็นทาสเพราะแคว้นตัวเองแพ้สงคราม บางคนก็มีธุระล่องเรือจะไปที่ต่างๆแต่โดนโจรสลัดจับมาขาย

ใครที่เป็นที่ต้องตาต้องใจของสุลต่านจะมีการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นยศต่างๆลดหลั่นกันไป นางในฮาเร็มที่มียศศักดิ์เท่านั้นถึงมีสิทธิให้กำเนิดโอรสธิดาได้ นอกนั้นไม่มีสิทธิที่จะตั้งท้อง

สุลต่านในอาณาจักรอ็อตโตมาน สามารถมีพระมเหสีได้ 4 องค์ตามหลักศาสนาอิสลาม แต่ปรากฏว่าไม่มีสุลต่านองค์ไหนเสกสมรสสักองค์เดียว (ภายหลังสุลต่านองค์แรกที่มีการอภิเสกสมรสคือ สุลิมานมหาราชที่ยกนางโรซาลิน่าขึ้นเป็นพระมเหสี แล้วจะเล่าให้ฟังที่หลังนะ) แต่จะใช้วิธีเลื่อนขั้นนางในฮาเร์มที่ถูกใจหรือมีลูกชาย

วิธีนี้มีผลเสียก็คือ ไม่มีการแต่งตั้งผู้สืบทอดราชวงศ์เป็นทางการ ถึงเวลาผลัดแผ่นดินจึงมีการเข่าฆ่ากันมากมาย

มาท็อปกะปิ อย่าลืมไปดูห้องเก็บมหาสมบัติของอาณาจักรอ็อตโตมาน ดูแล้วจะหนาวเพราะว่าเพชรเป็นเพชร มรกตก้อนเท่ากำปั้นเด็ก แต่ถ่ายรูปไม่ได้ค่ะ

ถ้าจะเที่ยวท็อปกะปิให้สนุก ขอแนะนำให้เช่า audio tape เอามาคล้องคอเป็นไกด์ด้วย ค่าเช่า 5 ยูโร พ่อมันเช่าให้ไท มันจะได้เที่ยวสนุก ปรากฏว่าได้ผลจริงๆ แม่มันต้องขอฟังด้วยเพราะว่าดูโน่นดูนี่แต่ไม่มีคำอธิบายบางทีมันก็ไม่ออกอรรถรสค่ะ

ไทฟังออดิโอไปดูฮาเร็มไป มาสะดุดอยู่ที่คำว่า ยูนุค-Eunuch หรือว่าขัณฑี มันหันมาถามแม่ว่า แม่ๆ what are eunuchs?

เรานั้นนิ่งไปนานเพื่อเรียบเรียงประโยคให้เหมาะสมกับเด็กอายุ 11ซึ่งมองตาแป๋วรอคำตอบอยู่

They are very special men who served the Sultans and his harem

What do you mean by "special"?

ขอเรียบเรียงประโยคอีกหน่อย เราพยายามตอบคำถามของลูกไม่โกหก (เพราะอีกหน่อยมันก็ต้องรู้ความจริงอยู่ดี รู้เสียจากปากพ่อแม่ดีกว่า) แต่จะพยายามเรียบเรียงให้เหมาะสมกับอายุของไท

They've gone through a very special " procedure

คราวนี้เจ้าไทงงหนักจนเราต้องเล่าคร่าวๆถึงกระบวนการ เล่าแล้วกลับทำหน้าไม่เชื่อต้องหันไปถามพ่ออีกที จนพ่อยืนยันว่ามันเรื่องจริง ไทถึงกับเงียบกริบไม่ถามอะไรอีกนาน แต่อย่างว่าล่ะค่ะ มันเป็นคนช่างถาม อีกทั้งเห็นของแปลกๆใหม่ๆยิ่งถาม แถมไอ้ออดิโอที่เช่ามาก็เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้จนมันหันไปถามพ่อมันว่า

The sultans had many, many women. Why do you have just her?

แล้วก็บุ้ยหน้ามาทางแม่มัน โหย ทีแรกเรานึกว่ามันกวนติงเราเล่น แต่เห็นหน้าแล้วมันจริงจังมาก ไอ้ฮาเร็มนี่เป็นคอนเซ็ปลึกล้ำเหลือเกินสำหรับเด็กอายุ 11 ซึ่งเติบโตมากับสังคมแบบผัวเดียวเมียเดียวแบบฝรั่งตะวันตกส่วนมาก พอมารับรู้เรื่องใหม่ๆในวันเดียวกันแบบฮาเร็มและขัณฑี สมองมันทำงานหนักมากพื่อรับข้อมูล

Because I ain't a Sultan. พี่ท่านตอบแบบละเหี่ยใจ

จบจากท็อปกะปิเหนื่อยโคตร แต่ยังไม่ได้กินอะไรเลยบ่ายสามเข้าไปแล้ว ร้านอาหารที่ท็อปกะปิมีร้านเดียว แพงดั่งว่าเอาเอาเพชรเอาพลอยมายำให้กิน เลยซื้อให้ไทกินคนเดียว แนะนำว่าถ้าจะเข้าท็อปกะปิ ห่อแซนวิชไปหาที่นั่งกินก็จะเป็นการดีมาก ไม่งั้นดีไม่ดีอาจจะหมดตัว

พี่ท่านเลยบอกว่า เรานั่งรถไฟฟ้าไปหาแซนวิชปลากินดีกว่า แซนวิชปลาที่อิสตันบูลนี่มีชื่อมากๆ ใครมาก็ต้องไปที่อีสะพานนี้เพื่อกินแซนวิชปลา

จากท็อปกะปิ เดินมาที่สถานีรถไฟฟ้า Sultanamet หรือสถานีที่ใกล้ที่สุด ขึ้นรถไฟฟ้าที่จะไปสุดสายที่ Kabatas นั่งมาสองสามป้ายแล้วลงที่สถานี Eminonu

Can't miss it ค่ะ เพราะว่าจะเห็นคนล้นหลามเพราะว่าคนจะมาต่อรถหรือต่อเรือข้ามฟากที่สถานีนี้ ลงรถแล้วเดินเข้าไปใต้สะพานเลย ร้านอาหารเยอะแยะมากๆ แซนวิชปลาอันละ 4 ลีร่าเอง แต่พอมาถึงเราสามคนกลับกินไม่ลงเพราะมันมีแต่ขนมปังประกบปลาทอดหนึ่งชิ้นและผักอีกเล็กน้อย

น่าจะมีโยเกิร์ตซอสหรืออะไรให้จิ้มเนอะ ไทบอกพ่อ

ผู้ชายสองคนในชีวิตของเรานี้ชินกับการกินอยู่แบบไทยไปแล้ว จะกินอะไรต้องมีน้ำจิ้ม กินข้าวผัดต้องมีน้ำปลามะนาว มีความสุขกับการไปเมืองไทยแล้วชี้ชวนกันชิมน้ำจิ้มเวลาไปกินข้าวนอกบ้านมากโดยเฉพาะร้านอาหารทะเลและร้านจีนซึ่งโต๊ะกินข้าวจะเต็มไปด้วยน้ำจิ้ม

พอมาเจอแซนวิชแห้งๆยังงี้ถึงกับกระเดือกไม่ลงเอาทีเดuยว ต้องร้องขอโยเกิร์ตซอสมาจิ้มกินพอประทังไปได้มั่ง

ตัดตอนมาถึงวันรุ่งขึ้นที่เราไป Istanbul Archaeology Museum ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับพระราชวังท็อปกะปินั่นเอง

ค่าผ่านประตูคนละ 10 ลีร่า ไทไม่ต้องเสียตังค์

เราว่าถ้าคนเราได้ไปเที่ยวประเทศต่างๆแล้วอยากจะรู้จักกับประเทศนั้นๆได้ในเวลาอันน้อยนิด ต้องเข้าพิพิทธภัณฑ์ค่ะ เราจะได้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาว่ามันรุ่งเรืองขนาดไหน ยิ่งใหญ่ขนาดไหน

อย่าได้เสียดมเสียดายกะอีเงินแค่ 10 ลีร่า (7 เหรียญยูเอส) ไหนๆก็จะมาเที่ยวแล้ว อยู่เมืองไทยกินเหล้าหนเดียวยังมากกว่านี้อีก

ไททำท่าตื่นเต้นได้ถ่ายรูปกับอัสลาน

เห็นรูปอ่างหินข้างบนไหมคะท่านผู้อ่านทีแรกก้ดูเฉยๆล่ะค่ะ มันก็คืออ่างโบราณใบหนึ่ง แต่ไทสะกิดบอกว่าแม่ๆมาดูตรงนี้ มาอ่านตรงนี้ว่ามันสร้างขึ้นมาเมื่อไร

ปล. พี่ท่านเพิ่งสอนไทเกี่ยวกับ BC. กับ AD. ว่ามันต่างกันยังไง

ให้พระแก้วหักคอพระกาฬ แม่เจ้ามันสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 2144-2124 BC.

พี่ท่านถามไทว่า ไหนไทลองบอกแดดดี้สิว่าไอ้อ่างใบนี้มันอายุกี่ปีแล้ว

ไทนิ่งคิดไปหนึ่งนาทีแล้วตอบพ่อว่า ประมาณ 4000 ปี ใช่ไหมแดดดี้

4000 ปี ฝรั่งยุโรปยังไม่รู้จักเลยมั้งว่า วิธีจุดไฟนั้นจุดยังไง แต่คนแถวนี้สร้างอ่างหินนี้ขึ้นมาแล้ว

Istanbul Archaeology Museum นี่ใหญ่โตมาก ผู้คนเข้าชมมีมากพอสมควรแต่ไม่มีการเบียดเสียด มีคอลเลคชั่นต่างๆมากมายเรื่มตั้งแต่เมโสโปเตเมียโน่นเลย อลังการมากๆ

ดูไปดูมา ไทเริ่มคุยกับพ่อเรื่อง British Musuem ที่เราเคยพามันไปสักห้าหกปีที่แล้ว (พ่อมันเฝ้าบ้าน) เล่าให้พ่อฟังว่าที่นั่นนะมีคอลเลคชั่นเมโสโปเตเมียใหญ่มว๊ากกกกก

พ่อมันเลยบอกว่า Those Brits are nothing but thieves and robbers (อีนี่เริ่มด่าฝรั่งด้วยกันเอง)

ตัวเองถือว่าใหญ่ ไปที่ไหนก็ขโมยของเขาเข้ามิวเซียมตัวเอง เลวเป็นที่สุด เอาไปแล้วก็ไม่คืนไม่ว่าประเทศไหนๆเขาจะทวงยังไง ของอย่างนี้จะดูให้ขลัง ต้องอยู่ในประเทศของตัวเองยูรู้ไหม

ที่ Istanbul Archaeology Museum มีคอลเลคชั่นโลงศพหิน (Sarcophagus) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยนะคะ ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ Alexander the Great's sarcophagus ไม่ใช่โลงพระศพของอเล็กซานเดอร์จริงๆหรอกค่ะ แต่เป็นโลงที่มีการแกะสลักเรื่องราวของอเล็กซานเดอร์ออกศึก

ที่พิพิทธภัณฑ์นี้ ยังมีส่วนหนึ่งที่จัดไว้ให้เด็กโดยเฉพาะ ที่ไทชอบมากที่สุดคือ Trojan horse ที่เด็กสามารถปีนขึ้นไปได้จริงๆ

เราตั้งท่าจะเล่าเรื่องว่า Trojan war นี่มีสาเหตุมาจากอะไร ใครเป็นต้นเรื่อง ไทมันยกมือห้ามทันที บอกว่า แม่ๆ พอๆ ไทเรียนเรื่องนี้แล้วที่โรงเรียน

ที่เหลือต่อตอนที่สามดีกว่านะคะ ไม่งั้นกระทู้มันจะยาวเยิ่นเย้อไป

รูปสุดท้ายนี้อย่างฮา ไทเห็นไหยักษ์วางอยู่ บอกแม่ๆเตรียมตัวนะ พอน้องไทเอาหัวมุดเข้าไปแม่ถ่ายเลยนะ (มันอายชาวบ้านจะมาเห็น)

พอถ่ายเสร็จหัวเราะฮากันทั้งแม่ทั้งลูก พ่อมันเดินไปดูป้ายรายละเอียดไหยักษ์อย่างเงียบๆแล้วบอกเราสองคนแม่ลูกว่า ทีหลังยูสองคนอย่าเล่นพิเรนทร์อย่างนี้อีก ไอใจหาย เพราะว่าไอ้ไหใบนี้มันตั้ง 800 ปีแล้วคงจะหลายตังค์อยู่ เกิดทำมันแตกขึ้นมา สงสัยต้องขายบ้านขายรถแล้วเอาตัวเองมาขัดดอกอยู่ในฮาเร็มอีกต่างหาก!

Create Date : 19 ตุลาคม 2553

Last Update : 20 พฤศจิกายน 2553 8:40:52 น.

0 comments

Counter : 3269 Pageviews.