|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แสนสเน่ห์..กัวเตมาลา ตอนที่ 2-สเน่ห์แสนแอนติกัว
ทุลักทุเลทัวร์ของบ้านดิฉันครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นอย่างทุลักทุเลด้วยการขึ้นเครื่องจากมินิอาโพลิสไปแอตแลนต้า แล้วต่อเครื่องจากแอตแลนต้าไปกัวเตมาลาซิตี้ เมืองหลวงของกัวเตมาลา
ตอนที่ขึ้นเครื่องมาแอตแลนต้านั้น นึกว่าจะไม่ได้ขึ้นเสียแล้ว เพราะว่าเป็นช่วง springbreak คนเดินทางช่วงนี้เยอะมากกก เครื่องเต็มมากแบบ overbook 50 ที่ ยังสแตนบายได้ขึ้นเลย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
สำหรับใครที่จะมาเที่ยวกัวเตมาลาจากอเมริกา ขอบอกว่าง่ายมากค่ะ เพราะมีเครื่องจากเมืองใหญ่ๆแบบ non-stopอยู่หลายสายการบินเลย จากแอลเอมี United จากชิคาโกมี Taca(สายการบินแห่งชาติของกัวเตมาลา) จากไมอามี่และดัลลัสมี American จากฮุสตันมี Continental จากแอตแลนต้ามี Delta
เนื่องจากนั่งเครื่องของสายการบินที่ทำงานอยู่ ค่าเครื่องบินจึงไม่ต้องเสีย เสียแต่ภาษีสนามบินของอเมริกา(ขาเข้า)และภาษีขาออกจากกัวเตมาลา รวมแล้วคนละ 52.30 เหรียญยูเอส ภาษีอะไรก็ไม่รู้ แพงโคตร
บุญพาวาสนาส่ง ที่นั่งเฟิร์สคลาสไม่เต็มจึงได้อัพเกรด (สายการบินที่ดิฉันทำงานอยู่นั้น ถ้าชั้นหนึ่งไม่เต็ม พนักงานจะได้อัพเกรดมานั่งชั้นหนึ่งโดยที่ไม่ต้องเสียอะไรเพิ่มเติม ตามseniority ของพนักงานค่ะ ใครมีอายุทำงานมากได้อัพเกรดก่อน)
ดูเจ้าไทนั่งหน้าแฉล้ม ตามธรรมดาแล้วเด็กๆลูกพนักงานจะได้นั่งชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจเมื่ออายุครบ 8 ขวบแล้ว ไทเลยเพิ่งได้นั่งเมื่อเกือบสองปีที่แล้วนี่เอง พอมันนั่งหนแรก(มินิอาโพลิสถึงเมืองไทย) มันบอกว่า I don't wanna sit back there again. เรียกว่าครั้งแรกก็เคยตัวเสียแล้ว ดิฉันต้องบอกกับลูกเสมอว่า อย่างเรานะลูก สแตนบายเนี่ยนะ ขึ้นได้ก็บุญแล้ว เรียกว่า Any seat is a good seat ดีกว่า
ได้นั่งเรียงหน้ากันสามคนพ่อแม่ลูก เที่ยวบินใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้นจากแอตแลนต้าไปกัวเตมาลาซิตี้
แต่ต้องเรียกว่า It's only three-hour flight, but a world away ค่ะ เพราะลงเครื่องแล้ว สิ่งแรกที่แสดงถึงประเทศยากจนเล็กๆ เป็นประเทศที่กำลังพัฒนาคือ.... ไม่มีกระดาษเช็ดก้นในห้องน้ำค่ะ เจ้าไทผู้ซึ่งต้องทำภารกิจซึ่งต้องการกระดาษเช็ดก้นบ่นกระปอดกระแปด
ดิฉันผู้เตรียมพร้อมอยู่เสมอยื่นให้มันทั้งม้วนแล้วบอกให้มันเงียบๆหน่อย เอ็งเป็นworld traveler ทำตัวให้เรื่องน้อยๆ บ่นน้อยๆ จะดีมาก
**หมายเหตุ**จะมาเที่ยวกัวเตมาลา ถ้าไม่เป็นภาษาสเปนเลย ลองเรียนมาแบบประโยคง่ายๆ หรือเรียนนับเลขแบบ 1-50 มาก็จะดีมาก เพราะคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก คือมีค่ะคนพูดภาษาอังกฤษ แต่น้อย เพราะคนที่มาเที่ยวกัวเตมาลานั้น ส่วนมากพูดภาษาสเปนได้ไม่มากก็น้อยกันทั้งนั้น คนกัวเตมาลาเลยไม่ได้ความจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากนัก
พี่ท่านของดิฉันพูดภาษาสเปนได้ค่ะ พี่ท่านบอกว่าถ้าเธอรู้อังกฤษแล้ว สเปนนี่ไม่ยาก (ดิฉันว่าไม่จริง) เจ้าไทก็ฟังออก อ่านได้ พูดได้แต่ไม่เยอะ เพราะมันเรียนที่โรงเรียนมาตั้งแต่อนุบาล (อาทิตย์ละ 4 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง) พ่อมันบอกว่ามันพูดสเปนสำเนียงดีกว่าชั้นอีกเธอ เพราะว่ามันเรียนตั้งแต่ยังเล็กๆ
จากสนามบินกัวเตมาลาซิตี้ พวกเราสามคนซื้อที่นั่งบน tourist shuttle bus ตรงไปที่หมายทันที
ต้องบอกว่า กัวเตมาลาซิตี้เป็นเมืองหลวงที่ค่อนข้างจะอันตรายถ้าเดินไปไหนมาไหนกลางคืน โจรผู้ร้ายชุกชุมมากค่ะ ไม่มีอะไรดูด้วย เป็นที่อโคจรค่ะ ถ้าไม่มีความจำเป็นออกจากเมืองทันทีดีกว่า
ที่หมายของเราคือ เมืองเก่าแก่แสนสวยที่ชื่อว่า แอนติกัว ชื่อเต็มๆคือ La Antigua Guatemala อย่าสับสนกับหมู่เกาะแอนติกัวในทะเลคาริบเบียนนะคะ คนละแห่งกันค่ะ
สวยไหมคะ
แอนติกัวเป็นเมืองที่เคยมีความสำคัญมาก เป็นถึงเมืองหลวงของอเมริกากลางทั้งหมดใต้การปกครองของราชสำนักสเปนเริ่มตั้งแต่ปีคศ. 1541 เมืองใหญ่กว่ามากอย่างเม็กซิโกซิตี้ ยังไม่ได้รับเกียรติถึงเพียงนี้
จตุรัสกลางเมืองที่ภาษาสเปนเรียกว่า Zocalo ไปเมืองไหนที่มีโซคาโล่ ไม่มีหลง เดินไปไหนๆ เดี๋ยวมันก็มาโผล่ที่นี่
แต่แอนติกัวนั้น ตั้งอยู่ตีนภูเขาไฟที่ยังแอคทีฟอยู่ เพราะฉะนั้นมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวหลายครั้งหลายครา แต่เมื่อประมาณปี 1753 มีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาก บ้านเรือนที่แอนติกัวพังลงมาเกินเยียวยา ถึงต้องมีการย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่กัวเตมาลาซิตี้แทน
คนขายน้ำแข็งใส คนที่นี่ชอบกินมากันมาก
ในปี 1979 ยูเนสโก ได้ประกาศให้แอนติกัวได้เป็น World's heritage site for humanity อีกด้วย เป็นการอนุรักษ์แอนติกัวไปในตัว มีการออกกฏหมายห้ามการสร้างอาคารก่อสร้างเพิ่ม แค่ไหนแค่นั้น มีการควบคุมจำนวนรถเข้า-ออกแอนติกัวอีกด้วย
ทางเข้าร้านอาหารร้านโปรดของดิฉัน ไม่ได้กินบ่อยนะคะ มันแพง
ลืมบอกไปว่า แอนติกัวนั้น นั่งรถเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงจากกัวเตมาลาซิตี้ค่ะ
ตอนนี้คงนึกออกแล้วนะคะว่าแอนติกัวจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญขนาดไหนของกัวเตมาลา
ค่ารถชัทเทิ้ลจากกัวเตมาลาซิตี้ไปแอนติกัว คนละ 10 เหรียญยูเอส แต่สามีต่อได้ 3 คน 20 เหรียญ
พอมาถึงก็ออกเดินหาโรงแรมทันที บ้านดิฉันนั้นเลือดนักสู้บูชิโดค่ะ ไปไหนไม่เคยจองโรงแรม ไปถึงแล้วค่อยเดินหา โรงแรมนึงก็ดูมันหลายๆห้องไปเลย เอาให้ได้ที่ถูกใจ
พี่ท่านของดิฉันเคยบอกว่า การจองโรงแรมล่วงหน้านี่มันก็เหมือนการแต่งงานแบบคลุมถุงชนนะเธอ สินสอดทองหมั้นก็จ่ายไปแล้ว ขันหมากก็แห่แหนไปแล้ว แต่ยังไม่ได้เห็นหน้าเจ้าสาวจริงๆเลย ได้แต่เห็นจากในรูป เกิดเจ้าสาวหน้าเหมือนนางแก้วหน้าม้าอีตอนเข้าหอล่ะ มิต้องหวานอมขมกลืนจนตายหรือไง
เพราะฉะนั้น ไม่เคยจองค่ะโรงแรม หาไม่ได้ต้องนอนข้างถนนให้มันรู้ไป
คราวนี้หาไม่นานก็เจอของดี ชื่อโรงแรม Posada de San Pedro อยู่ในโลนลี่แพลเน็ตด้วยค่ะ โรงแรมน่ารักมาก ที่สำคัญ ราคาไม่แพง เตียงใหญ่ 1 เตียง เตียงเดี่ยวอีกหนึ่งเตียง แต่ไม่รวมอาหารเช้าราคา 40 เหรียญต่อคืน เลยรีบเอาโรงแรมนี่เลย
ดูข้างนอกโรงแรม ดูธรรมด๊าธรรมดา ตามแบบฉบับของสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล
พอเดินเข้ามาข้างใน สวยมากกกกก
โรงแรมที่กัวเตมาลานี่แปลกมาก แพงแค่ไหนก็ไม่มีรวมอาหารเช้า บ้าไหม นอกจากแบบห้าดาวหกดาวคืนละสามสี่ร้อยเหรียญประมาณนั้นถึงมีอาหารเช้า เมืองไทยทำอย่างนี้อยู่ไม่ได้นะเนี่ย
รูปโรงแรมอีกค่ะ ห้องที่ดิฉันนอนต้องเดินผ่านประตูที่เห็นลึกเข้าไปอีก
เพราะว่ากันตามความสัตย์แล้ว แอนติกัวนี่ค่าครองชีพแพงกว่าที่อื่นค่ะ โรงแรมเลยค่อนข้างแพง แบบ 50-60 เหรียญนี่บางทีดูไม่ได้เลย มืดทึบและอับมากๆ ราคานี้ สวยแบบนี้ โอเคสุดๆแล้ว นอนที่โรงแรมนี้ 4 คืนค่ะ
**ใครจะจองโรงแรมที่แอนติกัว เวลาจองต้องบอกเขานะคะว่า ไม่เอาห้องชั้นล่าง เอาห้องชั้นสองค่ะ เพราะว่าตึกสองร้อยสามร้อยปีอย่างนี้ ห้องข้างล่างจะชื้นและมืดมาก เหมือนนอนในถ้ำอย่างไงอย่างงั้นเลย
**บอกก่อนนะว่า คนกลัวผีมากๆนี่ไม่ต้องมาเที่ยวแอนติกัว เพราะโรงแรมที่นี่มีอายุสามร้อยปีขึ้นไปทั้งนั้น คนตายในโรงแรมนี่ต้องมีแน่ๆ เพราะมีแผ่นดินไหวหลายครั้งหลายครา เดี๋ยวเจอมายืนปลายเตียงแล้วจะหาว่าดิฉันไม่เตือน**
ตัวดิฉันนั้นเป็นคนไม่กลัวผีเลยค่ะ ประเภทไม่เชื่อแล้วยังลบหลู่ด้วย เลยนอนหลับสบายทุกคืนไม่เจออะไร
เจอแต่เท้าเจ้าไทถีบถองแม่มันทั้งคืน ศอกแหลมๆของมันนี่ถองทีเจ็บเหลือเชื่อ แล้วมันเป็นอะไรของมันก็สุดจะหยั่งรู้ ดิฉันนอนตรงไหนมันจะต้องมาเบียด เบียด และเบียด บางทีโมโหตื่นขึ้นมาถีบมันกลับไปริมเตียงด้านมันมั่ง
กลับมาบ้าน มันติด อยากนอนกับแม่อีก บอกแม่ๆ คืนนี้นอนเตียงเดียวกันได้ไหม ให้พ่อไปนอนห้องมันแทน แต่ดิฉันมิได้หลงกลมันแต่อย่างใดค่ะ กลัวลูกถีบมากกว่ากลัวสามีนอนกรน
บ้าไหม ดิฉันไม่ได้ถ่ายรูปในห้องมาเลยค่ะ ลืมสนิท
ภูเขาไฟ ถ่ายบนดาดฟ้าของโรงแรม
รูปนี้ถ่ายจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ
**หมายเหตุ**เนื่องจากแอนติกัวอยู่บนที่ราบสูง อากาศเย็นและความชื้นต่ำตลอดปี แบบเช้ามาต้องใส่สเว็ตเตอร์ พอแดดออกก็ถอดเหลือแต่เสื้อตัวเดียวกางเกงขาสั้นกำลังดีเลย แต่พอแดดร่มลมตกนี่ต้องคว้าเสื้อมาใส่ทันทีเลยค่ะ
แอนติกัวนี่ถ้าคนถ่ายรูปเก่งๆ มีกล้องดีๆแล้วจะต้องชอบมาก เพราะมีมุมสวยๆสำหรับถ่ายรูปร้อยล้านมุมได้ เดินไปไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ของดิฉันที่แอนติกัว เลยไม่ได้ถ่ายรูปมามากค่ะ เห็นสีสันของกำแพงบ้านไหมคะ คนกัวเตมาลาเป็นคนที่กล้าในการใช้สีสันมากๆค่ะ เหลืองตัดแดง ฟ้าตัดม่วง ดิฉันว่ามันมีสเน่ห์มากๆ
ไม่รู้เป็นอะไร ประตูบ้านชาวบ้านที่แอนติกัวนี่ สวยหยาดหยดมันทุกบ้าน ดิฉันชอบอะไรที่มันเป็นไม้ค่ะ มันเหมือนมีชีวิต มันละเอียดอ่อน มันมีอารมณ์ของมันเอง ไม่เหมือนประตูเหล็กอัลลอยย์ลายหลุยส์แบบบ้านคนรวยเมืองไทยค่ะ
ดูประตูบ้านนี้นะคะ
โปรดสังเกต knocker น่ารักโฮก
นี่ก็สวย
ดิฉันสามารถนอนเล่นที่แอนติกัว 2 อาทิตย์ได้โดยไม่เบื่อเลย มีของสวยของงามให้ชมทั้งเมือง
ดูประตูต่อ
บ้านแบบแอนติกัวจะเป็นอย่างนี้ล่ะค่ะ คือเขตรั้วสูงมาก ข้างนอกปิดทึบ แต่พอเปิดประตูเข้าไปจะเห็นสวนเล็กใหญ่ตามฐานะอยู่ตรงกลาง รอบๆจะเป็นห้องต่างๆ
ประตูของร้านขายยา คลาสิกสุดๆ
ร้านอาหารก็สวย
โบสถ์คาทอลิคกลางเมือง ขอเล่าหน่อยว่าตอนนี้สถาบันคาทอลิคในอเมริกากลางกำลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง หลังจากเป็นสถาบันที่มีอำนาจมากที่สุดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี เนื่องจากชาวบ้านร้านตลาดคนยากคนจนชาวพื้นเมือง เปลี่ยนศาสนาจากนิกายคาทอลิค ไปนับถือนิกายอีแวนเจลิคัล (Evangelical) กันมากเหลือเกิน เพราะว่านิกายคาทอลิคมีบทบังคับที่เคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการห้ามมีการคุมกำเนิด ในขณะที่พวกอิแวนเจลิคัลให้มีการคุมกำเนิดได้ คนจนนะคะ เลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองยังยาก แถมมีลูกอีกครอบครัวละ 7-8คน เรียกว่าจนไม่ต้องลืมตาอ้าปากกันเลยเชียวค่ะ ในกัวเตมาลา ถ้ามีโบสถ์ 10 โบสถ์ใน 1 เมือง จะเป็นโบสถ์คาทอลิค 6 แห่ง อิแวนเจลิคัลอีก 4 แห่ง
เก้าอี้ในโรงแรมค่ะ สวยจังเลย อยากซื้อกลับบ้านแต่หอบไม่ไหว
นี่ก็สวย ใจละลายเหลวเป๋วไปกองรวมกันที่พื้น
ร้านขายของในแอนติกัว
ของขายล่อทัวร์ริส(อย่างอิช้าน) ดูสีสันเสียก่อน เริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมดิฉันถึงหลงสเน่ห์กัวเตมาลานัก ติดตามชมตอนต่อไปค่ะ
Create Date : 29 เมษายน 2552 |
Last Update : 29 เมษายน 2552 2:44:37 น. |
|
5 comments
|
Counter : 3829 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Offita IP: 65.82.240.14 วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:21:07:55 น. |
|
|
|
โดย: micky IP: 58.8.211.23 วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:26:02 น. |
|
|
|
โดย: bite25 วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:16:55:07 น. |
|
|
|
โดย: เล่าเรื่องได้สนุกมากค่ะ IP: 223.207.186.79 วันที่: 5 เมษายน 2554 เวลา:19:53:08 น. |
|
|
|
โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:24:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|