|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แสนสเน่ห์..กัวเตมาลา ตอนที่ 3-โลกนี้ช่างไม่มีความพอดี
อยู่แอนติกัวสี่วันสี่คืนนี่ พวกดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเดินเล่น กิน นอน พักผ่อน ไปตลาดหาของกิน นั่งดูชาวบ้านแต่งตัวชุดพื้นเมืองสวยๆ มีความสุขเป็นที่สุด
วันที่สองพี่ท่านกับเจ้าไทไปปีนภูเขาไฟลูกที่เห็นนี่ล่ะค่ะ งานนี้ดิฉันขอลา บอกสองคนนั่นว่าชั้นจะนอนรออยู่โรงแรมละกัน พอลับตาไปดิฉันรีบแต่งตัวไปช้อปปิ้ง ก๊ากกกก
สองคนกลับมาก็บ่ายแก่ๆมาแล้ว กลับมาแบบหมดสภาพ ป้อแป้กลับมาเลยเชียว บอกเหนื่อยมากแต่สวยมากและหนาวมากข้างบนนั่น
ลืมบอกไปว่าแอนติกัวนี้ มีอากาศเย็นสบายตลอดปีค่ะ เพราะอยู่บนที่ราบสูง ตอนกลางคืนนี่จะเย็นประมาณ 8-10องศาเซลเซียส ต้องห่มผ้าสองผืนเพราะโรงแรมไหนๆก็ไม่มีฮีทเตอร์ กลางวันพอแดดออกแล้วเสื้อยืดตัวเดียวกำลังสบาย
วันที่สามเลยหาอะไรทำนอกเหนือจากนั้น ด้วยการไปเที่ยวไร่กาแฟค่ะ กัวเตมาลาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ส่งออกกาแฟมากเป็น 1 ในสามของโลก อีกสองประเทศคือ บราซิลและเวียดนาม
รถที่เรานั่งไปไร่กาแฟ มาจอดรอที่จตุรัสกลางเมืองแอนติกัว
น้ำพุที่จตุรัส
ตอนที่ดิฉันไปเป็นปลายเดือนมีนาคน ดอกไม้สีม่วงๆฟ้าๆอย่างนี้เต็มเมืองไปหมด สวยมาก
ที่นี่เรียกว่าต้น Periwinkle ที่เมืองไทยคือต้นอะไรคะ ศรีตรังหรือเปล่า
กาแฟของกัวเตมาลาเป็นกาแฟมีคุณภาพสูงมาก โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์อะราบิก้าที่มีชื่อว่า Genuine Antigua ซึ่งผลิตจากแอนติกัว กัวเตมาลาเท่านั้น ราคาขายนั้นสูงถึง 17 เหรียญยูเอสต่อ 1 ปอนด์ (ประมาณครึ่งกิโลกรัม)
ไร่กาแฟ เพิ่งรู้ว่าเวลาปลูกกาแฟนี่ต้องปลูกพืชอื่นเป็นร่มให้ต้นกาแฟด้วย กาแฟชอบแดดแบบรำไร
ทีแรกนั้น ดิฉันนึกว่าเขาจะพาไปดูไร่กาแฟชาวบ้านค่ะ แบบที่เรียกว่า Fair trade coffee คือเป็นไร่กาแฟของชาวบ้าน ชาวบ้านปลูกเอง ขายเอง
คนรับซื้อต้องรับซื้อมาด้วยราคาที่ยุติธรรม ไม่ใช่กดราคาคนปลูก ต้องมี certification ด้วยว่าเป็น fair trade coffee ด้วยจริงๆ กาแฟของสตาบัคส์ ส่วนมากเป็น fair trade coffee
แต่ที่ไหนได้ นั่งรถออกนอกเมืองแอนติกัวมาสัก 20 นาที คนขับก็เลี้ยวปรู๊ดผ่านกำแพงสูงๆซึ่งมีคนเฝ้าถือปืนยาวเฝ้าอยู่ มันกลายเป็นคล้ายๆกับ country club ของคนรวยไปได้ มีคอกม้าและลูกคนรวยจากกัวเตมาลาซิตี้มาเรียนขี่ม้า มีสนามกอฟสวยงาม มีโรงแรมแบบสิบห้าดาวคืนละแปดร้อยเหรียญและมีอยู่แค่ 15 ห้องเท่านั้น
ต้นกล้าของกาแฟ
สามีหันมาบอกว่า ไหนล่ะไร่กาแฟแบบ fair trade อ่ะ
คนรวยกับคนจนที่กัวเตมาลานี่ ดูจากสีผิวค่ะ คนรวยที่นี่จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆกับชาวยุโรปทางใต้ แบบคนสเปนหรือคนอิตาเลี่ยน มีผมสีอ่อน ตาสีฟ้า แบบสั่งตรงมาจากยุโรปเลย ไม่มีเลือดผสมคนพื้นเมืองเลย
ส่วนคนจนหรือชาวบ้านนั้น ผิวจะเข้ม หน้าตาจะเข้มคมเหมือนชาวมายาที่เป็นบรรพบุรุษเปี๊ยบเลย แล้วจะแต่งตัวด้วยชุดพื้นเมือง
บอกแล้วว่าความแตกต่างของคนที่นี่มันมีมากเหลือเกิน
ลงจากรถ สามีเลยถามไกด์ว่า ไอ้ที่นี่นี่ใครเป็นเจ้าของ ได้ความมาว่า เจ้าของเป็นคนรวยมากของกัวเตมาลา เป็น 1 ใน 66 ตระกูลที่สืบทอดมาจากคองคิสตาดอร์โดยตรง (Conquistador = the conquerer = ผู้พิชิต หมายถึงพวกสเปนที่ยึดครองอเมริกากลางได้)
พี่ท่านหันมากระซิบอีกว่า These people are not just super rich. They are FILTHY rich!
เอาเถอะ ไหนๆก็มาแล้ว อย่าบ่นเลย ไปดูเสียหน่อยว่าเขาปลูกกาแฟกันยังไง
อีสาวคนพื้นเมืองที่มารับจ้างเก็บกาแฟ เห็นกล้องแล้วหลบวูบ
บริเวณไร่กาแฟ
**สำคัญมาก** ที่แถบอเมริกากลางนี่ เวลามาเที่ยวจะถ่ายรูปใครหรืออะไร ระวังตัวหน่อยค่ะ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเนี่ย
โดยเฉพาะถ้าคุณจะถ่ายรูปชาวพื้นเมือง (Indigeneous people) ในชุดพื้นเมืองแสนสวย
เพราะคนพวกนี้ไม่ค่อยไว้ใจใคร ไม่ชอบคนแปลกหน้ารวมทั้งพวกนักท่องเที่ยว ต้องเข้าใจเขาเพราะพวกเขาถูกปฏบัติอย่างเลวร้ายตลอดเวลา300-400ปีที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันก็เช่นกัน
คิดดูสิคะ อย่างพม่า อย่างเวียดนาม เป็นเมืองขึ้นอังกฤษฝรั่งเศสไม่กี่สิบปียังอกไหม้ไส้ขม ขมขื่นต่างๆนานา
จะให้พวกเขาเฟรนลี่อย่างเวลาเราไปเที่ยวเอเชียไม่ได้หรอกค่ะ
จะถ่ายรูปคนที่นี่ ควรจะขออนุญาตเขาก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะในสถานที่ท่องเที่ยว ในเมือง ในตลาด ที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะเวลาคุณอยากจะถ่ายภาพเด็กเล็ก
สังเกตได้ว่า รูปถ่ายชาวบ้านทั้งหมดที่ดิฉันถ่ายมา เป็นภาพถ่ายจากไกลๆแล้วซูมเอาทั้งนั้น ไม่มีที่ถ่ายใกล้ๆ
เมื่อปี 2001 มีนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นกับไกด์ชาวกัวเตมาลา โดนชาวบ้านรุมตีตายทั้งคู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากเมือง Chichicastenango เพราะว่าชาวญี่ปุ่นคนนั้นถ่ายรูปเด็กเล็กๆคนหนึ่งแบบประชิดตัวโดยไม่ได้ขออนุญาตใครก่อน
ทั้งตอนนั้นมีข่าวลือว่านักเท่องเที่ยวต่างชาติลักพาเด็กๆไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม
บอกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
คนนี้หลบจัง นี่ขนาดขอแม่ของอีสาวคนนี้แล้วนะคะว่าถ่ายรูปได้ไหม
ลานตากกาแฟ เห็นตึกใหญ่นั่นไหมคะ นั่นคือGuest house ของเจ้าของไร่ค่ะ ตัวบ้านใหญ่ที่เจ้าของนอนมองยังไงก็ไม่เห็น
ดูกาแฟที่ตากแล้วว่าแห้งได้ที่หรือยัง ถ้าแห้งยังไม่ได้ที่แล้วเอาไปอบ จะได้กาแฟคุณภาพไม่ดีเพราะยังมีความชื้นอยู่
ท่อล้างกาแฟก่อนเอามาตาก
ส่วนหนึ่งของ Guest house
จบทัวร์แล้วเขาชงกาแฟพันธุ์ดีที่สุดให้ดื่มคนละแก้ว ดิฉันดื่มแล้วก็งั้นๆ ถามสามีว่าอร่อยไหม(นังนี่กินกาแฟวันละ 5 เหยือกได้) สามีบอกก็เหมือนๆนี่ชั้นกินที่บ้าน ไม่เห็นแตกต่างกันมากเลย
สรุปว่าสองคนผัวเมียเป็นคอกาแฟที่รสนิยมต่ำมาก เหมือนกินเหล้านั่นแหละค่ะ ดิฉันกลับเมืองไทย เพื่อนซื้อจอห์นนี่ วอคเกอร์ป้ายเขียว หรือไม่ก็แบบที่เขาเรียกว่า สวิง ที่ขวดมันแกว่งๆได้ มันบอกแพงนะแก
กินเข้าไปก็งั้นๆ เมาเหมือนกันเป็นพอ ทีหลังไม่ต้องเอามาให้ชั้นกินนะแก เปลือง เหล้าอะไรชั้นกินได้ทั้งนั้น
กลับมาจากเที่ยวไร่กาแฟแบบหิวซ่ก ต้องแวะตลาดกินทาโก้คนละอัน รูปนี้ถ่ายตอนกำลังรอเขาย่างเนื้อใส่ทาโก้อยู่
กรุณาสังเกตดูมือลูกดิฉันนะคะ เพิ่งเห็นที่แหละว่ามือมันสกปรกมากกก ดำปี๋เลย แล้วมันก็เอามือนั่นแหละถือทาโก้ยัดเข้าปาก
ต่อด้วยถนนหนทางในแอนติกัว
จบตอนที่สามค่ะ
ตอนหน้าสนุกกว่านี้เยอะค่ะ เพราะจะเคลื่อนขบวนไปเที่ยวที่ติกัล ที่ติกัลมีอะไรน่าดูติดตามพรุ่งนี้ค่ะ
Create Date : 29 เมษายน 2552 |
Last Update : 29 เมษายน 2552 21:07:11 น. |
|
7 comments
|
Counter : 4978 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Off IP: 65.82.240.14 วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:21:19:41 น. |
|
|
|
โดย: Off IP: 65.82.240.14 วันที่: 29 เมษายน 2552 เวลา:21:22:29 น. |
|
|
|
โดย: แม่ลูกแฝด วันที่: 30 เมษายน 2552 เวลา:0:42:54 น. |
|
|
|
โดย: micky IP: 58.8.211.23 วันที่: 1 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:17:00 น. |
|
|
|
โดย: bite25 วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:17:17:03 น. |
|
|
|
โดย: lovetraveling IP: 125.24.58.19 วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:16:55:38 น. |
|
|
|
โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2557 เวลา:13:33:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ตามพี่แอนไปเที่ยวอีกนะ สนุกดี