1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
ไปชมนิทรรศการ The World of Studio Ghibli's Animation Exhibition Bangkok 2023 ที่เซ็นทรัลเวิลด์
Go See The World of Studio Ghibli's Animation Exhibition Bangkok 2023 at CTW Bangkok [ca-01] The World of Studio Ghibli's Animation Exhibition Bangkok 2023 (poster) (see TAGs Studio Ghibli .. TaPaab ) คำเตือน . . . ขออนุญาตแจ้งว่าบล๊อกนี้ยาวมากกกกก ยาวที่สุดตั้งแต่ จขบ. เขียนบล๊อกมาเลย ถ้าท่านใดไม่มีความสนใจหัวข้อนี้เลยแม้ซักนิด จขบ. แนะนำว่าให้ข้ามบล๊อกนี้ไปดีกว่าเพราะมันยาวจริง ๆ (แค่เลื่อนจอเฉย ๆ ยังเมื่อยนิ้วเลยมั้ง ^^") แต่ถ้าท่านใดชื่นชอบหรือมีความสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับสตูดิโอจิบลิแล้วล่ะก็...คุณมาถูกทางแล้ว! บล๊อกนี้น่าจะเหมาะกับคุณนะ จขบ. เชื่อว่าผู้ชมทั่วไปไม่น่าจะมีใคร "เผือก" กับตัวนิทรรศการเลเวลเดียวกับ จขบ. แน่ ๆ . . . แต่ไม่ว่าคุณจะสนใจหรือไม่สนใจ ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะลองเลื่อนลงไปดูบล๊อกนี้หน่อยก็ได้ ก็ตามไปเผือก เอ้ย! ตามไปอ่านเรื่องราวการชมนิทรรศการแบบเผือก ๆ ของ จขบ. กัน
. . . . .
(English section) . . . "Hello ธันวา" สวัสดีเดือนสุดท้ายของปี และสวัสดีบล๊อกสุดท้ายของปีเช่นกัน (วันที่เหลือของปีคงไม่ได้เขียนแล้วล่ะ ไม่ว่างจริง ๆ T^T) ปี 2023 นี้น่าจะเป็นปีที่ดีปีหนึ่งสำหรับแฟน ๆ สตูดิโอจิบลิเมืองไทยนะ เมื่อปีก่อน (2022) เพิ่งมีนิทรรศการ "My Style, My Ghibli" จัดที่ "เซ็นทรัลเวิลด์" แยกราชประสงค์ (จขบ. เคยรีวิวไว้ที่นี่ ) พอมาปีนี้มีนิทรรศการจิบลิจัดบ้านเราอีกแล้ว แถมจัดที่เดิมห้างเดิมอีก (จะบอกว่า ที่เก่า
เกือบเวลาเดิม ก็พอได้) แต่คราวนี้มาแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิมเพราะเป็น นิทรรศการแบบเต็มรูปแบบ (และเก็บตังค์ด้วย :D) กับงานที่มีชื่อเต็มย้าว~ยาวว่า The World of Studio Ghibli's Animation Exhibition Bangkok 2023 หรือแปลชื่อเป็นไทยแบบตรง ๆ ว่า นิทรรศการโลกของแอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิ กรุงเทพฯ 2023 . . . *Note : บล๊อกนี้เป็นหนึ่งในโครงการถนนสายนี้..มีตะพาบ #341 กับโจทย์ที่มีชื่อว่า ที่เก่าเวลาเดิม โจทย์โดยคุณ จันทราน็อคเทิร์น
[ca-02] Central World, Bangkok ที่เก่า
เกือบเวลาเดิม (English section) . . . เริ่มแรกนิทรรศการนี้มีระยะเวลาการแสดงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2023 ราคาตั๋วแบบซื้อหน้างาน 650 บาท งานนี้ได้รับความสนใจอย่างมากมาย (ผู้จัดบอกว่ามีผู้ชมแตะหลักแสนคนแน่ะ) ช่วงปลายเดือนกันยาเลยมีข่าวดีประกาศขยายเวลาจัดงานนิทรรศการต่อ ไม่ใช่แค่ขยายเวลาอย่างเดียวแต่มีการเพิ่มส่วนจัดแสดงด้วย โดยงานเฟสสองนี้เปิดให้เข้าชมรอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 - 2 มกราคม 2024 ดูกันยาว ๆ ข้ามปีเลย ถ้านับเวลาการจัดนิทรรศการแบบต่อเนื่องยาวตั้ง 6 เดือนแน่ะ! ช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้ถ้าใครไม่รู้จะเที่ยวไหน ถ้าอยู่แถวเซ็นทรัลเวิลด์ก็แวะไปชมนิทรรศการนี้ได้นะ ดูรายละเอียดหรือซื้อบัตรได้ที่ thaiticketmajor.com หรือจะเดินไปซื้อบัตรหน้างานเลยก็ได้
[ca-03] The Studio Ghibli exhibition at CTW, BKK has been extended to January 2, 2024 . . . . . . . . . . นิทรรศการสตูดิโอจิบลิ นอกประเทศญี่ปุ่น The Studio Ghibli Exhibition Outside Japan
(English section) . . . นิทรรศการใหญ่ของสตูดิโอจิบลิ "แบบเต็มรูปแบบ" เคยจัดนอกประเทศญี่ปุ่นหลายครั้งเหมือนกัน อย่างที่ใกล้บ้านเราสุดอย่างอินโดนีเซียก็เคยจัดเมื่อปี 2017 แต่รูปแบบและของที่นำมาแสดงในงานนั้นแตกต่างกับนิทรรศการที่จัดในบ้านเราอย่างสิ้นเชิงเลย . . . ด้วยความสงสัย จขบ. เลยทำการรีเสิร์ชว่านิทรรศการจิบลิที่มี รูปแบบการจัดแบบเดียวกับบ้านเราครั้งนี้ เคยจัดที่ไหนบ้าง จขบ. พบว่ามีหลายครั้งจากหลายที่เหมือนกัน (ไม่รู้มีมากกว่านี้เปล่านะแต่หาได้เท่านี้ ^^) ลองเอาไปดูเล่น ๆ ว่าเคยมีการจัดที่ไหนและมีรายละเอียดยังไงบ้าง
นิทรรศการลักษณะเดียวกันที่จัดนอกประเทศญี่ปุ่น [cb-01] The same kind of exhibitions outside Japan Seoul, South Korea --- Location : On the 6th floor of the IPark Mall at Yongsan Station --- Date : September 3, 2014 - March 4, 2015 (6 months) --- Ticket : 15,000 KR-Won (406 TH-Baht approx.) --- Review by : Krista Rogers === Taipei, Taiwan --- Location : Huashan 1914 Creative Park --- Date : June 18 - September 18, 2016 (3 months) --- Ticket : 350 TW-Dollar (400 TH-Baht approx.) --- Review by : ไต้หวันปะ - Best Qiu Taichung, Taiwan --- Location : The Greater Taichung International Expo Center --- Date : January 7 - April 16, 2017 (3 months) --- Ticket : 350 TW-Dollar (400 TH-Baht approx.) --- Review by : 派大熊 Kaohsiung, Taiwan --- Location : Special Exhibition Halls 1-3, the National Museum of Science and Technology --- Date : June 17 - September 17, 2017 (3 months) --- Ticket : 350 TW-Dollar (400 TH-Baht approx.) --- Review by : migachan === Hong Kong --- Location : Portal 6311, Kowloon Bay --- Date : August 3 - November 3, 2019 (3 months) --- Ticket : 208 HK-Dollar (980 TH-Baht approx.) --- Review by : William Chan Design === Bangkok, Thailand --- Location : Central World, Bangkok --- Date : July 1 - September 30, 2023 and October 7, 2023 January 2, 2024 (6 months) --- Ticket : 650 TH-Baht --- Review by : (ก็บล๊อกนี้ไง ^^)
(English section) . . . จากข้อมูลที่ จขบ. ค้นมา นิทรรศการจิบลิรูปแบบนี้มักกำหนดระยะเวลาไว้ครั้งละ 3 เดือน + ที่ไต้หวันจัดครั้งละ 3 เดือนก็จริงแต่ได้รับความนิยมมากเลยจัด 3 ครั้ง 3 สถานที่แน่ะ + ที่เกาหลีใต้นี่จัดก่อนใครเพื่อนและยาวกว่าใครเพื่อนด้วย จัดยาวข้ามปีนาน 6 เดือน + ส่วนที่ไทยก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกันได้รับความนิยมมาก รวมระยะเวลาทั้งหมดก็นาน 6 เดือนด้วย ส่วนราคาค่าตั๋วถ้าต่างสถานที่และต่างปีคงเปรียบเทียบกันไม่ได้เพราะมีปัจจัยที่แตกต่างกันหลายอย่าง . . . จขบ. ดูรีวิวนิทรรศการที่ต่าง ๆ เรียงตามไทม์ไลน์ สังเกตว่าการจัดแสดงมีพัฒนาการ อัพเกรด เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (*แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของแต่ละสถานที่) อย่างของไทยจัดทีหลังสุด สถานดูแล้วน่าจะกว้างขวางโอ่โถงสุด(นะ) ก็น่าจะเป็นนิทรรศการจิบลิที่จัดต่างประเทศ "ในรูปแบบนี้" ที่มีการอัพเกรดขั้นสุดในปัจจุบันตามไปด้วย เดี๋ยวตามไปดูรีวิวกันว่านิทรรศการที่จัดที่เซ็นทรัลเวิลด์เป็นยังไง
. . . . . . . . . . นิทรรศการที่เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ 2023 The Exhibition at Central World, Bangkok 2023
[cc-01] Escalator-UP (จขบ. มาเช้ามากยังไม่มีคนเลย ^^) (English section) . . . ก่อนมางานนี้ จขบ. ดูรีวิว Youtube หลายช่อง ไม่ว่าช่องไหน ๆ ก็มีคนมาชมงานเยอะทั้งนั้น จุดจัดแสดงบางจุดที่ต้องต่อคิวแอ๊คท่าถ่ายรูปคู่กับฉาก ถึงจะไม่กี่วิฯ แต่ จขบ. อายคนข้างหลังอะ ^^ ไม่ได้การ! ถ้าเจอคนเยอะอย่างนี้คงดูอะไรไม่ถนัดหรือไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำแน่ ๆ จขบ. ก็เลยวางแผนไปชมงานวันธรรมดา และต้องไปตั้งแต่เช้าด้วย . . . พอถึงวันงาน จขบ. ไปรอตั้งแต่ห้างยังไม่เปิด และก็ได้เข้าชมงานคนแรกของวันสมใจจริง ๆ แต่เช้าวันนั้นก็ จขบ. ก็ไม่ได้เป็นผู้ชมคนเดียวในงานหรอกนะ เพราะมีคนอื่นตามมาติด ๆ เหมือนกัน แต่ก็'โอล่ะ น่าจะได้ทำอะไรอย่างที่อยากทำแล้ว
(English section) . . . ตอนเขียนบล๊อกนี้ จขบ. ก็นึกถึงเพื่อนบล๊อก "คุณแมวน้อย" (Kisshoneyz) เหมือนกัน หลายเดือนก่อนคุณแมวน้อยเคยเม้นต์ในบล๊อกว่าคาดหวังจะได้เจอพี่ทุเรียนในนิทรรศการนี้ เสียดายตอนนั้น จขบ. ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะไปวันไหนเลยไม่สามารถนัดแนะกันได้ ถ้าเจอกันในงานน่าจะสนุกนะ แต่กลัวว่าถ้าคุณแมวน้อยเจอพี่ทุเรียนตัวเป็น ๆ หน้าตาน่ากลั๊ว~น่ากลัว แบบนี้ แล้วจะวิ่งหนีน่ะสิ . . . สำหรับเรื่องการรีวิว จขบ. เป็นคนที่มีทักษะการถ่ายรูปและวิดีโอน้อยนิดมาก ถ่ายอะไรมาถ้าไม่มืดก็เบลอ หารูปที่ดี ๆ น้อยมากอะ เอาเป็นว่าดูรีวิวจากคนอื่น ๆ น่าจะดีกว่าเนอะ จขบ. คัดคลิป Youtube ที่คิดว่าดูแล้วเข้าใจง่ายมาบางคลิป มีทั้งแบบสั้น 1 นาที, 6 นาที จนถึงยาว 30 นาที ถ้าใครสนใจนิทรรศการนี้เชิญชมได้
(English section) . . . ถ้าดูคลิปจบก็จบการรีวิวนิทรรศการนี้แต่เพียงเท่านี้ OK! แยกย้ายได้ . . . . . อะ! ล้อเล่น แต่ก็พูดจริงนะ จบการรีวิวนิทรรศการแบบคนดูทั่ว ๆ ไปแล้ว จขบ. คงไม่สามารถถือกล้องถ่ายทำได้ดีกว่าคลิปตัวอย่างที่ยกมาแน่ ๆ แต่ถ้าใครรู้สึกว่ายังไม่พอหรือเป็นคนดูประเภท ฮาร์ดคอร์ คือสนใจอะไรที่ชาวบ้านไม่สนใจ (เว้าซื่อ ๆ คือชอบเผือก :D) ก็ตาม จขบ. มา
[cc-04a] the exhibition entrance hall (English section) . . . โดยปกตินิทรรศการทุกที่ ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี นำเสนอความพร้อมที่สุดเพื่อให้ผู้ชมได้ชื่มชมนิทรรศการและถ่ายรูปในมุมที่สวยที่สุด ซึ่งปกติก็ควรเป็นอย่างนั้นแหละ แต่ก็มีผู้ชมบางคนเหมือนกัน ไม่ได้หยุดความพอใจแค่การได้ชื่นชมนิทรรศการ แต่ยังสนอกสนใจ (อย่างยิ่ง) ต่อไปอีกว่า เขาคิดได้ไง อีกด้วย ซึ่ง จขบ. ก็เป็นหนึ่งในผู้ชมจำนวนน้อยนิดอันนั้นแหละ . . . หัวข้อต่อไปนี้เป็นการเล่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ (แต่ไม่น้อยแฮะ ^^) ของ จขบ. ที่มีระหว่างการชมนิทรรศการ บอกไว้ก่อนเลยว่าเนื้อหายาวมาก รูปก็โหลดหนักมาก ถ้าใครสนใจจริง ๆ (และไม่กลัวเมื่อยนิ้ว) ก็ตามมาโลด
. . . . . . . . . . เดินไปเผือกไปสไตล์ทุเรียนกวน My (Very) Special Interests
[cd-00a] Route (English section) . . . นิทรรศการมีเส้นทางส่วนจัดแสดงเรียงตามลำดับตามภาพ แต่เอาเข้าจริง จขบ. ไม่ได้ดูตามลำดับแบบนี้หรอกนะ (แหะ ๆ ^^") อย่างที่เคยบอกไว้ จขบ. สนใจอะไรที่ชาวบ้านไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เวลาดูอะไรที่ตัวเองสงสัยต้องใช้เวลาสำรวจนาน ๆ ก็รู้สึกเกรงใจคนอื่นที่จะมาดูต่อ ต้องผละไปก่อนแล้วย้อนกลับมาดูใหม่ตอนไม่มีคนแล้วอยู่บ่อย ๆ ก็เลยต้องเดินวนไปวนมาตลอดงานนี่แหละ แต่เพื่อความสะดวกสำหรับการอ่าน จขบ. ขอเขียนรีวิวเรียงลำดับตามเส้นทางที่ผู้จัดนิทรรศการจัดไว้แล้วกัน . . . นิทรรศการนี้ถึงจะบอกว่ามีการนำของจากภาพยนตร์สตูดิโอจิบลิมาจัดแสดง 10 เรื่อง แต่ตัวนิทรรศการหลักจริงจัดแสดงใน "Arena" ของ Central World Live ซึ่งมีทั้งหมด 8 เรื่อง ดูจากด้านหลังแผ่นพับ ลำดับการจัดแสดงไม่ได้เรียงตามปีที่ฉายภาพยนตร์แน่ ๆ แล้วเค้าใช้หลักในการจัดลำดับใน Arena ยังไงกันล่ะ? น่าสนใจนะ จขบ. เลยลองตั้งสมมติฐานแล้วหาคำตอบดูเล่น ๆ
[cd-00b] Route zoning analysis (English section) . . . จากที่ จขบ. สังเกตเอาเองนะ + ฉากในภาพยนตร์เรื่องที่ 2, 3, 4, 5 มีที่มาหรือแรงบันดาลใจจากสถานที่ที่มีอยู่จริงใน ทวีปยุโรป และบางส่วนของโลกตะวันตก + ฉากในภาพยนตร์เรื่องที่ 6, 7, 8, 9 มีที่มาหรือแรงบันดาลใจจากสถานที่ที่มีอยู่จริงใน ประเทศญี่ปุ่น และบางส่วนในทวีปเอเชีย คิดว่าเค้าน่าจะเรียงลำดับโซนแบ่งธีม (theme) ตามทวีปนั่นแหละ ความรู้สึกคนดูที่เดินตามเส้นทางจะได้ไม่กระโดดไปมา อะไรทำนองนี้ . . . ส่วนลำดับการเลือกภาพยนตร์เปิด-ปิดนิทรรศการก็คิดมาอย่างดีเหมือนกัน โดยเลือกภาพยนตร์ระดับ "blockbuster" หรือได้รับความนิยมสูงดูแล้วว้าวอย่าง "Howl's Moving Castle" (2) มาเป็นเรื่องแรกใน Arena และเลือกเรื่องที่พีคสุดของค่ายอย่าง "Spirited Away" (9) มาเป็นลำดับสุดท้าย . . . เดี๋ยวไปดูรายละเอียดนิทรรศการแต่ละโซน แต่เอาเฉพาะสิ่งที่ จขบ. สนใจและไม่ซ้ำใคร (ไม่น่าจะมีใครเผือกแบบนี้นะ 55) เนื่องจากจุดจัดแสดงในงานมีเยอะมาก จขบ. ขอยกมาโซนละจุด-สองจุดแล้วกัน . . .Note : ถึง จขบ. ถ่ายรูปไม่ค่อยสวยเท่าไหร่แต่อยากจะใช้รูปหรือคลิปที่ถ่ายเองให้มากที่สุด แต่ก็มีบางอันไม่ไหวจริง ๆ คงต้องขออนุญาตแคปวิดีโอจากที่อื่นมาโดยจะใส่เครดิตไว้ที่ใต้ภาพ ขอขอบคุณเจ้าของภาพ/วิดีโอที่ จขบ. นำมาใช้ในบล๊อกนี้ด้วย
. . . . . 01 Nausicaä of the Valley of the Wind (1984) มหาสงครามหุบเขาแห่งสายลม
[cd-01a] Nausicaa-Welcome (English section) . . . หลังจากผ่านจุดเช็คอินเดินเข้ามาเรื่อย ๆ ถึงโซนแรกจะเจอ "นาอุชิก้า" กำลังบินต้อนรับผู้ชมและมีข้อความภาษาญี่ปุ่นด้านล่าง ข้อความนี้กล่าวถึงบุคคลที่ถูกเล่าขานในตำนานสืบต่อกันมาในเนื้อเรื่อง (สุดท้ายก็คือนางเอกของเรานี่แหละ ^^) แปลเป็นไทยประมาณว่า
ปรากฏกายในชุดสีน้ำเงิน เหินลงมายังทุ่งสีทอง เชื่อมครรลองแผ่นดินที่สูญหาย ในตอนท้ายนำผู้คนสู่ดินแดนบริสุทธิ์ . . . จริง ๆ นี่ยังไม่เข้า "arena" ซึ่งเป็นสถานที่จัดนิทรรศการหลักนะ แต่การนำเสนอนาอุชิก้าที่จุดนี้ จขบ. คิดว่าน่าจะมีความหมายแฝงอยู่ คือแม้ว่าภาพยนตร์ Nausicaa of the Valley of the Wind ถูกนับรวมเป็นหนังของสตูดิโอจิบลิด้วย แต่จริง ๆ เรื่องนี้ถูกสร้างในนามสตูดิโอ Topcraft และออกฉายก่อนสตูดิโอจิบลิเปิดตัวหนึ่งปี ถ้าภาพยนตร์ Nausicaa... เป็น "จุดเริ่มต้น" ก่อนการก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ การนำเสนอนาอุชิก้าไว้ที่จุดนี้ก็น่าจะเหมือนเป็น "จุดเริ่มต้น" ก่อนการเข้านิทรรศการหลักสตูดิโอจิบลิได้เหมือนกันนะ
. . . . . 02 Howl's Moving Castle (2004) ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์
[cd-02a] The Moving Castle (English section) . . . หลังจากดูวิดีโอเล่าถึงที่มาของสตูดิโอจิบลิ (ยาวประมาณ 5 นาที) พอเข้าส่วนจัดแสดงหลักใน Arena ก็จะเจอผนังสีดำมีข้อความภาษาญี่ปุ่นมีใจความว่า
"ยินดีต้อนรับสู่โลกของสตูดิโอจิบลิ!" . . . เข้าสู่นิทรรศการหลักจริงสิ่งที่เจออย่างแรกของโซนที่ 2 (แต่เป็นโซนแรกใน Arena) ก็คือ ปราสาทของฮาวส์ ตั้งเด่นสง่าเลย จขบ. สังเกตว่าการจัดลำดับจุดแสดงต่าง ๆ เค้าเรียงตามเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ คือพอเจอปราสาท ต่อไปก็เข้าไปในปราสาท แล้วถึงจะเจอเหตุการณ์อื่น ๆ อะไรทำนองนี้ จขบ. ไปยืนจ้องดูจุดจัดแสดงต่าง ๆ ทีมงานมีความละเอียดลออมากนะ มีการจำลองแม้กระทั่ง "ฝุ่นบนกองหนังสือ" ที่อยู่บนโต๊ะของฮาวส์ด้วย แลดูสกปรกเหมือนในหนังเลย 55
. . . . . 03 Laputa: Castle in the Sky (1986) ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา
[cd-03a] Catching (English section) . . . โซนนี้น่าจะเป็นโซนที่มีธีม เดือด ที่สุดในงานแล้วล่ะ ในอนิเมะ Laputa ถ้าไม่มีฉากบินก็วิ่งกันเกือบตลอดทั้งเรื่อง นิทรรศการก็จัดธีมตามอนิเมะประมาณนี้เลย แถมเพลงแบ็คกราวด์มิวสิค (BGM) ที่เลือกมาก็ให้อารมณ์ประมาณอีก เลยดูเดือดกว่าโซนอื่น . . . แต่โซนนี้ไม่ใช่มีดีแค่ความเดือดอย่างเดียวนะ "ความว้าว" ก็มีเหมือนกันแถมมีมากด้วย คือมีจุดจัดแสดงอันนึงที่ จขบ. ยกให้ในความว้าวที่สุดในนิทรรศการนี้เลย
. . . . . 04 Kiki's Delivery Service (1989) แม่มดน้อยกิกิ
[cd-04a] Kiki on a boring day (English section) . . . Kiki's Delivery Service น่าจะเป็นหนึ่งในโซนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในงาน เพราะมีอะไรให้เล่นเยอะเลย โดยเฉพาะมีการให้ผู้ชมถ่ายรูปกับ "ฉากจำลองสามมิติ" ที่เซ็ตไว้ตั้ง 2 ฉากแน่ะ จริง ๆ จขบ. เป็นคนขี้อาย ปกติไม่เล่นอะไรแบบนี้ให้ใครเห็นหรอกนะ แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครมาเลยขอให้ทีมงานถ่ายรูปให้ซะหน่อย อืม
ไม่หน่อยอะ แอ๊คเต็มที่เล้ยยยยยย 55 (ที่จงใจไปเช้าสุดเพราะงี้ไง ) . . . นอกจากฉากสามมิติแล้ว โซน Kiki นี้ยังมีการจำลองฉากสวย ๆ ในเรื่องอีกหลายฉาก ซึ่งฉากที่ จขบ คิดว่าผู้ชมชอบมากและใช้เวลาดูนานมากที่สุดก็คือฉากที่ "กิกินั่งเฝ้าร้านขนมปัง" นี่แหละ เซ็ตฉากเหมือนจริง ๆ จขบ. ก็ชอบมากเหมือนกัน
. . . . . 05 Porco Rosso (1992) พอร์โค รอสโซ สลัดอากาศประจัญบาน
[cd-05a] Porco in a spare time (English section) . . . มาถึงธีมยุโรปโซนสุดท้าย "Porco Rosso" โซนนี้ไม่มีอะไรให้ผู้ชมเล่นใกล้ชิดแบบโซนที่แล้วนะ เพราะพี่หมูแดง "พอร์โค" แกเป็นคนรักสันโดษ ชอบอยู่กับเครื่องบินมากกว่าอยู่กับคน (แกเลยเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองให้เป็นหมูไง ^^) เพราะฉะนั้นโซนนี้จึงเต็มไปด้วยเครื่องบิน! . . . ถ้าใครดูภาพยนตร์แล้วติดใจเครื่องบินในเรื่องน่าจะชอบโซนนี้นะ เพราะเค้าจำลองฉาก "Savoia S.21F" สีแดงสดของพี่หมูแดงตอนขึ้นทะยานจากท้องน้ำมาให้ดูด้วยทั้งแบบที่เห็นในกรอบเล็ก ๆ และแบบโมเดลโต ๆ เหมือนในหนังเลย
. . . . . 06 My Neighbor Totoro (1988) โทโทโร่เพื่อนรัก
[cd-06a] A memorable scene at a bus stop (English section) . . . ประเดิม ธีมเจแปนนีส โซนแรกกับ "My Neighbor Totoro" ภาพยนตร์อันเป็นสัญลักษณ์ของค่ายสตูดิโอจิบลิ เค้าจัดแสดงเรียงตามลำดับเหตุการณ์ในหนังนั่นแหละ คือมีการเซ็ตฉากสามมิติ สองพี่น้อง "ซัทสึกิกับเม" กำลังวิ่งไปที่บ้าน แล้วเหตุการณ์ที่ น่าประทับใจ ก็เริ่มขึ้นหลังจากนั้น
ที่ จขบ. บอกว่าน่าประทับใจไม่ใช่แค่ในหนังนะ แต่ประทับใจการจัดแสดงนิทรรศการโซนนี้ด้วย เค้ามีการทำทางเดินจำลองฉากอุโมงค์โพรงไม้ที่เมเดินผ่านไปหาโทโทโร่ตัวใหญ่ เวลาเราเดินผ่านทางเดินนี้มีแสงระยิบระยับลอดผ่านกิ่งไม้ใบไม้ที่ทำเป็นโพรงสวยงามมาก . . . โซนโทโทโร่นี้เป็นโซนที่จัดได้สวยจริง ๆ เสียดายที่ จขบ. ถ่ายรูปและถ่ายคลิปออกมาไม่ได้ฟีลเลย เลยขอไม่แปะอะไรดีกว่า แหะ ๆ ถ้าใครสนใจ หาดูคลิปจากผู้ชมท่านอื่น ๆ ที่ถ่ายมาแล้วกัน แต่อยากจะกระซิบบอกว่าไปดูของจริงในงานสวยกว่าดูในจออีกนะ
. . . . . 07 Pom Poko (1994) ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก
[cd-07a] The Tanuki Den (English section) . . . - "Pom Poko" เป็นโซนเดียวในนิทรรศการนี้ที่มาจากภาพยนตร์ของผู้กำกับ "Isao Takahata" ผู้ชมบางคนที่แม้ไม่ทราบข้อมูลมาก่อนก็อาจพอสัมผัสได้ว่าโซนนี้แตกต่างจากโซนอื่น ๆ พอสมควร คือในขณะที่การจัดแสดงโซนอื่นเป็นแนวแฟนตาซี แต่โซนนี้จัดสถานที่ "แบบเรียล ๆ" ตามยุคสมัย เพราะเนื้อหาภาพยนตร์เป็นการเสียดสีสังคม "แบบเรียล ๆ" ตามยุคสมัยนั่นเอง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวในนิทรรศการที่ไม่ใช่ผลงานของ ผกก. ฮายาโอะ มิยาซากิ เลยอาจเป็นที่รู้จักน้อยกว่าเรื่องอื่น ๆ จขบ. เลยขอเล่าเนื้อเรื่องคร่าว ๆ เล็กน้อย ทานูกิกลุ่มสุดท้ายในผืนป่าเนินเขาทามะอันสงบสุข กำลังโดนความเจริญของบ้านเมืองมนุษย์รุกล้ำจนทำให้สูญสิ้นที่อยู่อาศัย ทำให้ต้องสุมหัวกันครั้งใหญ่ ว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เผ่าพันธุ์รอดจากวิกฤตินี้ . . . นิทรรศการหลัก ๆ ของโซนนี้คือการจัดแสดง "ฐานที่มั่นสุดท้าย" ของทานูกิกลุ่มนี้นั่นแหละ มีทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทานุกิเก็บมาเพื่อศึกษาพฤติกรรมความเป็นอยู่ของมนุษย์ ดูเผิน ๆ มีแต่พวกข้าวของเครื่องใช้ธรรมดา ๆ แต่ถ้าใครตาดีหน่อยอาจเจอก็ได้ว่าทีมงานซ่อนอะไรไว้ด้วยนะ
. . . . . 08 Princess Mononoke (1997) เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร
[cd-08a] The KODAMAs (English section) . . . มาต่อกันด้วยโซนภาพยนตร์ blockbuster อย่าง "Princess Mononoke" จะบอกว่า จขบ. ชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากนะเลยแอบผิดหวังกับโซนนี้นิดหน่อย คือพื้นที่จัดแสดงค่อนข้างน้อย (เมื่อเทียบกับศักดิ์ศรีภาพยนตร์) การจัดแสดงดูจะห่างเหินกับคนดูมาก...น่าจะมากสุดในนิทรรศการเลยมั้ง คือเค้าล้อมรั้วการจัดแสดงพวกฉากจำลองค่อนข้างห่าง ทำให้เราต้องดูโมเดลแบบห่าง ๆ เมื่อเทียบกับโซนอื่น แถมการจัดแสงก็น้อย ทำให้มุมดี ๆ สำหรับการชมและถ่ายภาพถูกจำกัดตามไปด้วย พวกฉากจำลองให้ดูห่าง ๆ อันนี้เข้าใจได้ แต่พวก "โคดามะ" (ภูตป่าสีขาว) นี่สิ เล่นทำแต่ตัวจิ๋วแบบดูห่าง ๆ หมดเลยอะ อย่างน้อยน่าจะทำแบบเรียลไซส์ให้เราได้ถ่ายรูปคู่หน่อยได้มั้ย ตัวเนี้ยขวัญใจคนดูเลยนะขอบอก! . . . มาถึงเรื่องเซอร์ไพรซ์บ้าง คือ จขบ. เป็นคนที่มีวิธีการดูนิทรรศการไม่เหมือนชาวบ้านเท่าไหร่ พอเข้างานปุ๊บก็จะเดินลิ่วไปสุดทางออกเลย ทำเพื่อสำรวจระยะทาง, ประเมินเวลาและเช็คคร่าว ๆ ว่าในงานมีอะไรบ้าง แล้วค่อยย้อนกลับมาดูนิทรรศการแบบจริงจังตั้งแต่แรกอีกที ทีนี้ตอน จขบ. เดินผ่านโซนนี้ครั้งแรกเนี่ยจำได้ว่าเห็น "ชิชิกามิ" อยู่นะแต่พอเดินกลับมา...อ้าว! ชิชิกามิหายไปแล้ว! ตกใจ ตอนแรกนึกว่าโดนทีมงานแกล้ง พยายามมองหาใหญ่เลย อีก 1 นาทีต่อมาถึงได้กระจ่าง อ๋อ~มันเป็นอย่างนี้นี่เอง "You got me!" โดนเข้าซะแล้วเรา แต่ก็แสดงเค้าว่าจัดงานได้ดีนะ
. . . . . 09 Spirited Away (2001) มิติวิญญาณมหัศจรรย์
[cd-09a] Inside the train (English section) . . . มาถึงโซนสุดท้ายของนิทรรศการหลักใน Arena กับภาพยนตร์ของที่พีคสุดของค่าย ทำรายได้มากสุด, ดังที่สุดและคนรู้จักมากที่สุด ก็คือ "Spirited Away" นั่นเอง จากสรรพคุณที่กล่าวมา ทำให้โซนนี้ได้รับพื้นที่จัดแสดงมากที่สุดในงานโดยไม่ต้องสงสัย . . . โซนนี้ไม่ได้มีดีแค่มีพื้นที่มากนะ แต่จุดจัดแสดงก็มาก ไม่ใช่แค่เรื่องปริมาณแต่มากเรื่อง ความสร้างสรรค์ ด้วย งานทุกชิ้นในโซนนี้สวยหมดแหละ แต่ จขบ. สนใจมากกว่านั้นคือสนใจเรื่องที่มาของแนวคิดด้วย อย่างงานบางชิ้นทำ จขบ. ทึ่งมาก ถึงกับต้องเพ่งแล้วเพ่งอีกถึงจะดูออกว่าเค้าคิดได้ยังไง คือถ้าไม่ได้มาดูด้วยตาตัวเองคงดูไม่ออกแน่เลย
[cd-09c] The exit (English section) . . . มาถึงปลายทางแล้ว การที่ได้นั่งรถไฟกับคาโอนาชิก็เหมือนเป็นสัญญาณว่าเค้ามาส่งเราถึงสถานีปลายทางนั่นแหละ ถ้าเดินต่อไปผ่านม่านอุโมงค์สีดำเราก็จะออกจากฮอล์ซึ่งเป็นส่วนของนิทรรศการหลัก เมื่อเดินออกไปเราก็หันหลังกลับมาไม่ได้แล้ว... นี่เป็นไอเดียที่ดีมากนะ เหมือนกับการที่ชิฮิโระเดินผ่านอุโมงค์กลับสู่โลกความจริงในเรื่อง Spirited Away เลย เสียดายที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตที่มาของไอเดียนี้เท่าไหร่ (สงสัยมัวแต่จ้องคำว่า つづく ที่ติดที่ผนังกันหมด ^^") แต่ไม่ว่าจะทราบหรือไม่ทราบ คนดูก็น่าจะได้รับความประทับใจกลับออกไปเหมือนกันเนอะ . . . ตอนเข้าชมงาน จขบ. ถามสตาฟว่ามีการจำกัดเวลาเข้าชมในส่วนที่ซื้อตั๋วเข้าชมงานมั้ย เค้าตอบมาว่า "ถ้าพี่ไม่หิวน้ำและไม่จำเป็นต้องเข้าห้องน้ำเลย จะอยู่ข้างในนานแค่ไหนก็ได้ครับ" แหม~ ได้ยินอย่างนี้ก็เข้าทางเลย รู้มั้ยว่า จขบ. ใช้เวลาในการชมงานส่วนนี้นานแค่ไหน ตีตั๋วเข้างาน 10 โมงเช้ากว่า ๆ ออกมาก็ 4 โมงเย็น รวม ๆ ก็ประมาณ 6 ชั่วโมง เอ๊งงงงงง (ทำเสียงสูง) นี่น่าจะเป็นหนี่งในผู้ชมที่ดูนิทรรศการคุ้มค่าตั๋วที่สุดแล้วมั้ง . . . *Note : เนื่องจาก จขบ. ไปชมงานเดือนกันยายน ตอนนั้นนิทรรศการหลักจบลงตรงนี้ แต่ว่าตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 - 2 มกราคม 2024 เค้ามีการขยาย "นิทรรศการเฟส 2" เพิ่มเติมให้ชมต่อจากนี้ด้วย ถ้าใครสนใจดูตัวอย่างได้ที่ภาคผนวกนะ ^^
. . . . . SPECIAL กิจกรรมล่าแสตมป์ 10 เรื่อง 10 ดวง Stamp Hunt Activity
[ce-01a] A Stamp Hunt check point (English section) . . . นอกจากการชมนิทรรศการแล้ว งานนี้ยังมี "กิจกรรมล่าแสตมป์" ให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกด้วย มีแสตมป์ให้สะสมทั้งหมด 10 ดวงจากภาพยนตร์ 10 เรื่อง ข้างในส่วนนิทรรศการหลักในอารีนามีให้ปั๊ม 4 ดวง ออกมาข้างนอกอีก 6 ดวง แต่ถึงปั๊มแสตมป์ครบก็ไม่มีของรางวัลให้หรอกนะ เค้าให้สะสมเป็นที่ระลึกเฉย ๆ แต่ไม่ว่ามีของรางวัลหรือไม่ก็ตาม ยังไง จขบ. ก็ไม่พลาดอยู่แล้วล่ะ เอ้อ! อย่าลืมวางแผนดี ๆ ก่อนปั๊มด้วยนะ ปั๊มแล้วปั๊มเลย ปั๊มกลับหัวแก้ไม่ได้นะ 55
[ce-02a] My stamp collection - Before and After . . . . . โซนสุดท้าย
ภายนอกห้าง Go See THE LAST ZONE
Outside the Building [ce-04a] escalator-down (English section) . . . ชมนิทรรศการในฮอล์แล้ว สะสมแสดมป์ก็ครบแล้ว แต่ภารกิจยังไม่จบนะ ยังเหลือส่วนจัดแสดงอีก 1 โซนที่ยังไม่ได้ดู โซนนี้ไม่ได้อยู่แถวนี้...แต่อยู่ไกลนอกตัวห้างเซ็นทรัลเวิลด์แน่ะ อยากทำภารกิจให้สำเร็จก็ต้องออกแรงกันหน่อยเนอะ ปะ! เราลงบันไดเลื่อนแล้วไปตามหาโซนสุดท้ายของนิทรรศการนี้กัน
. . . . 10 Ponyo on the Cliff by the Sea (2008) โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย
[cd-10a] Ponyo outdoor exhibition (English section) . . . โซนสุดท้ายตั้งอยู่นอกห้างริมถนนพระราม 1 นี่เอง เป็นประติมากรรม "โปเนียว" (Ponyo) วิ่งบนคลื่นปลาซึนามิ ความสูงประมาณ 5 เมตร ฐานกว้างประมาณ 4 เมตร การเอามาตั้งโชว์แบบเอาท์ดอร์นอกห้างเป็นไอเดียที่ดีมากนะ เหมือนโปเนียวกำลังโบกมือทักทายเชิญชวนคนที่ผ่านไปผ่านมาเลย แถมยังเป็นการประชาสัมพันธ์นิทรรศการนี้ที่จัดในห้างด้วย . . . หลังจากดูนิทรรศการหนำใจครบทุกอย่างแล้ว ตอนแรก จขบ. ว่าจะกลับแล้วล่ะ แต่เห็นมีการติดตั้งไฟเพื่อส่องประติมากรรมด้วย ไหน ๆ ก็มาแล้ว อยู่ต่อรอเค้าเปิดไฟตอนค่ำด้วยดีกว่า ท่าทางน่าจะสวยนะ จขบ. ขอส่งท้ายโซนนี้ด้วยภาพ "โปเนียวยามเย็น
วิ่งเล่นยามค่ำ" แล้วกัน
[cd-10b] Ponyo afternoon and evening . . . . . . . . . . นำความอิ่มใจกลับไปบ้าน Went Home with the Joyous Experiences
[cg-01] SaenSaeb commuted boat (English section) . . . ภารกิจเสร็จสิ้น ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้วล่ะ คงไม่ต้องบอกว่า จขบ. ประทับใจกับงานนิทรรศการนี้มากแค่ไหน บล๊อก (ที่สุดแสนจะยาวเหยียด) นี้คงบรรยายความในใจไปหมดแล้วเนอะ เรื่องของที่ระลึก จขบ. ซื้อของติดไม้ติดมือแค่ชิ้นเดียว (ไม่มีตังค์ด้วยแหละ :P) แต่สำหรับ "ความอิ่มอกอิ่มใจ" ที่พกกลับไปนี่มากมายล้นคลองแสนแสบเลย
[cg-02] My stuff (English section) . . . นี่เป็นบล๊อกสุดท้ายของปี 2023 แล้ว ปีนี้ถึงจะอัพน้อยแต่ก็อัพนะ (ปีหน้าก็น่าจะน้อยแบบนี้แหละ ^^") จขบ. ขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาเยี่ยมมาทักทายตลอดปีแล้วกัน ขอส่งท้ายด้วยข้อความในป้ายตรงทางออกนิทรรศการ จขบ. อ่านแล้วชอบ ขอเอามาใช้กับบล๊อกนี้ด้วยแล้วกัน พบกันอีกทีปีหน้า บ๊าย~บาย
. . . . 『また、あそびにきてね』 (mata asobi ni kitene) แล้วกลับมาเล่นกันใหม่นะ (Please Come and Play with Me Again.) [ch-01] The message on the signboard at the exit hall . . . . . . . . . .