วังวน "ธุรกิจผู้หญิง-นางงาม-นู้ด" เวทีสินค้าทางเพศ เขาว่าการ “ประกวดนางงาม” ในเมืองไทยยุคนี้พัฒนาไปไกลแล้ว เขาว่าการประกวดนางงามในเมืองไทยยุคนี้มิใช่แค่เอาผู้หญิงสาวมา “แข่งขันความสวยความงาม-ประชันขาอ่อนทรวดทรงองค์เอว” เหมือนแต่ก่อน เขาว่าการประกวดนางงามยุคนี้มีเรื่องของ “สมอง” เข้ามาเกี่ยวค่อนข้างมาก เขาว่านางงามยุคนี้ทั้ง “สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ-ทำ ประโยชน์ให้สังคม” และเขาว่าอะไรต่อมิอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง... แต่พลันที่นางงามชื่อ “แองจี้” ออกมาแถลงข่าวรอบสอง... อะไรต่อมิอะไรที่ “เขาว่า” ก็กลายเป็นเรื่อง “ขาดน้ำหนัก” กรณีการสละมงกุฎของ แองจี้-อัจฉรา แมคคาย มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2005 ซึ่งตามมาด้วยการ “ตีแผ่แฉ” มีภาพแฟชั่น “นู้ด” ของแองจี้ปรากฏเกลื่อนอินเทอร์เน็ต และชัดเจนขึ้นในประเด็นการตกลง “ผลประโยชน์” ที่ไม่ลงตัวระหว่างผู้ได้ตำแหน่งมิสกับกองประกวดนั้น เป็นปัจจัยทำให้วงการประกวดนางงาม-ประชันขาอ่อนถูกจับจ้องในภาพลบอีกครั้ง อีกทั้งยังเกิดกรณีมองต่างมุมในเรื่อง “นู้ดนางงาม” ทั้งนี้ จากกรณีของ “แองจี้” ไม่ว่าใครผิด-ใครถูก เมื่อยึดโยงสู่ภาพรวมวงการนางงามเมืองไทยในปัจจุบัน จากมุมมองของ “ผู้หญิงแถวหน้า” หลาย ๆ คน ถือว่ามีการสะท้อนออกมาได้อย่างน่าขบคิด... ทิชา ณ นคร เครือข่ายผู้หญิงกับรัฐธรรมนูญ สะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ว่า... แม้จะมีการประกาศแทบจะทุกเวทีประกวดว่าไม่ได้เลือกเรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ถึงบทสรุปแล้วทั้งหมดก็เป็นเรื่องการ “สร้างภาพ” สร้างความชอบธรรม ทำให้เห็นว่าเวทีประกวดนางงามมีคุณค่า “พยายามทำให้สังคมคิดว่าการเปลื้องผ้าและเปิดเผยเนื้อตัวนั้นเป็นเรื่องมีคุณค่า แต่กับกรณีที่เกิดขึ้นก็ทำให้เราเห็นภาพกันชัดเจนแล้วว่าทั้งหมดก็เป็นเพียงเปลือกที่ห่อหุ้มอยู่ และทุกครั้งผลประโยชน์ก็เข้ามามีส่วนโน้มน้าวให้ผู้หญิงยอมตัดสินใจเดินเข้ามาสู่เส้นทางนี้” อย่างไรก็ตาม ทิชาก็มองเห็นข้อดีของกรณีอื้อฉาวล่าสุด โดยบอกว่า... ไม่ว่าเหตุผลลึก ๆ หรือเบื้องหลังจะเป็นอย่างไร แต่ก็สะท้อนให้เห็นพัฒนาการใหม่ของผู้หญิงยุคใหม่ที่กล้าลุกขึ้นมาเปิดเผยข้อมูลกับสังคม ทำให้สังคมเห็นข้อมูลสองด้าน ซึ่งก็น่าคิดว่าหากไม่ใช่นางงามลูกครึ่งเมื่อเกิดกรณีแบบนี้จะกล้าออกมาพูดหรือไม่ ? “เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นก็อาจจะเป็นผลดี อาจทำให้สามารถลดความกระเหี้ยนกระหือรือเกี่ยวกับการหาประโยชน์จากเรือนร่างผู้หญิงลงไปได้บ้าง จะเรียกว่าเหตุการณ์นี้เป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดจุดแข็งของผู้หญิงก็ว่าได้” ...นักวิชาการเครือข่ายผู้หญิงกล่าว ด้านผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง ธนวดี ท่าจีน ร่วมสะท้อน มุมมองว่า... องค์กรผู้หญิงโดยรวมไม่เห็นด้วยกับการประกวดนางงามมาโดยตลอด เพราะถือเป็นการส่งเสริมให้สังคมมอง “ผู้หญิงเป็นสินค้าทางเพศ” มากขึ้น และที่สำคัญยังเหมือนเป็นการกระตุ้นให้ผู้หญิงเองมองว่าการปรุงแต่ง การประกวดเรื่องรูปร่างหน้าตาเป็นเรื่องของผู้หญิงที่มีคุณค่า เป็นผู้หญิงเก่ง ซึ่งเป็น “ทัศนคติที่ผิดพลาด” “ลักษณะแบบนี้ไม่สามารถมาบอกได้ว่ามีคุณค่า ยิ่งประโยคที่บอกกันว่านางงามยุคปัจจุบันสวยด้วย มีมันสมองด้วย อยากรู้ว่าวัดกันตรงไหน เพราะแค่คำถามเดียวจะใช้วัดได้เลยหรือ แน่นอนมันไม่ใช่ศักยภาพที่แท้จริงของผู้หญิงที่จะใช้คำว่ามีคุณค่าได้กับคำถามในซอง” และเมื่อมองไปที่ “นู้ดนางงาม-นางงามนู้ด” ธนวดีก็ระบุว่า... ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะลำพังการประกวดนางงามก็มีภาพลักษณ์ไม่ต่างอะไรกับการถ่ายภาพนู้ดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโชว์เนื้อหนังมังสา การถ่ายภาพเพื่อเผยแพร่สู่สายตาประชาชน ซึ่งกับกรณีนางงามที่เป็นข่าวล่าสุดก็คิดว่าไม่ ใช่ความผิดของเธอ ซึ่งไม่ว่าจะในฐานะนางแบบหรือนางงามก็ล้วนแต่มีจุดประสงค์เดียวกัน...คือ “เป็นเรื่องของธุรกิจ” “ที่สำคัญไม่ว่าจะเวทีไหนระดับชาติหรือระดับโลก ก็ล้วนแต่มีจุดประสงค์เดียวกันในภาพรวม คือเป็นเพียงเครื่องมือทางธุรกิจเพื่อสร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับสินค้าเท่านั้น” ...ผอ.มูลนิธิเพื่อนหญิงกล่าว ขณะที่ ระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ส.ว.ขอนแก่น ซึ่งเคยเป็นกรรมการตัดสินการประกวดความงามหลายเวที แสดงความเห็นว่า... เมื่อเป็นเวทีนางงามก็ต้องเลือกคนที่งาม เรื่องนี้ต้องยอมรับ ซึ่งก็ไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดการประกวดมากไปกว่านี้ แต่เมื่อได้ชื่อว่าเวทีประกวดนางงามก็ต้องเลือกคุณสมบัติด้านนี้เป็นอันดับแรก เพราะถึงจะเก่ง-จะฉลาด...พอตัดสินแล้วคนร้องยี้ก็คงไม่ได้ แต่ “ถ้าเก่งด้วย-สวยด้วยก็ถือว่าสมบูรณ์แบบ” ส.ว.ระเบียบรัตน์บอกอีกว่า...กับกรณีที่นางงามเคยผ่านการถ่ายแบบเซ็กซี่หรือถ่ายนู้ด ก็คงต้องมองเป็นกรณีไป แต่กับกรณี “แองจี้” นั้นส่วนตัวมองว่าไม่ผิด เพราะเป็นลูกครึ่ง โตมากับวัฒนธรรมแบบนั้น ที่สำคัญมีอาชีพเป็นนางแบบจึงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา และสังคมเดิมของเขา แต่ไม่ใช่กับที่ประเทศไทย “การถ่ายแบบวาบหวิว แฟชั่นเซ็กซี่ หากเป็นดารานางแบบสังคมก็อาจจะมองเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับนางงามกลับสวนทางกัน เพราะสังคมไทยยังติดภาพลักษณ์เดิม ๆ ทั้งที่เวทีการประกวดเองก็ต้องการผลักดันให้นางงามมุ่งสู่เวทีอินเตอร์ ก็เลยดูเป็นเรื่องที่แปลก ๆ และพิลึก ๆ อยู่เหมือนกัน” ...ส.ว.ระเบียบรัตน์ว่าอย่างนี้ เป็นอีกครั้งกับมุมมองเรื่อง “นางงาม” และคาบเกี่ยวถึง “นู้ด” เป็นวังวนที่บางคนบอกว่าก็แค่ “ธุรกิจจากเรือนร่างผู้หญิง” เป็นเวทีแสดง “สินค้าทางเพศ” ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น ?!?!?. ที่มา : นสพ.เดลินิวส์ กันยายน 2548   Create Date : 23 สิงหาคม 2551 2 comments Last Update : 23 สิงหาคม 2551 2:35:28 น. Counter : 1620 Pageviews. Share Tweet

สมัยนี้ผู้หญิงมีวิธีหาเงินแล้ว หาง่ายด้วยนะวิธีการ เอาตัวเองตัวมาแลก นี้เหรอผู้หญิงไทยวันๆๆไม่ต้องทำอะไรเลยว่าไง ผมเชื่อว่าผู้หญิงไทยทุกมีความฝันที่อยากเป็น นางงามกัน นางแบบ หรือ ดารา กันแต่มีข้อจำกัด เชื่อไหมว่ามันคืออะไร คือการเอาตัวหรือเรือนร่างตัวเองมีแลก เรียกง่ายๆว่า อยากเป็น ไหม ถ้าอยากเป็น เธอต้องหลับนอนกับฉัน แต่ว่าถ้าเธอทำ ให้ฉันถูกใจฉันจะให้งานเธอแน่นอน เท่านี้แหละเธอยอมพลี กายให้กับผู้ชายที่เธอที่ไม่รัก เพื่ออนาคตตัวเองไปได้สวยแต่ หารู้ไม่ถ้าเธอคิดจะไปจากเขาเขาจะผูกเธอเลยเมื่อถ้าเธอดังมาก ผมจะเรียกผู้หญิงแบบนี้ว่า คนใจง่าย ไอหน้าไง่   โดย: คนดีบอกสังคม IP: 125.24.100.217 12 เมษายน 2554 16:52:32 น.

สมัยนี้ผู้หญิงมีวิธีหาเงินแล้ว หาง่ายด้วยนะวิธีการ เอาตัวเองตัวมาแลก นี้เหรอผู้หญิงไทยวันๆๆไม่ต้องทำอะไรเลยว่าไง ผมเชื่อว่าผู้หญิงไทยทุกมีความฝันที่อยากเป็น นางงามกัน นางแบบ หรือ ดารา กันแต่มีข้อจำกัด เชื่อไหมว่ามันคืออะไร คือการเอาตัวหรือเรือนร่างตัวเองมีแลก เรียกง่ายๆว่า อยากเป็น ไหม ถ้าอยากเป็น เธอต้องหลับนอนกับฉัน แต่ว่าถ้าเธอทำ ให้ฉันถูกใจฉันจะให้งานเธอแน่นอน เท่านี้แหละเธอยอมพลี กายให้กับผู้ชายที่เธอที่ไม่รัก เพื่ออนาคตตัวเองไปได้สวยแต่ หารู้ไม่ถ้าเธอคิดจะไปจากเขาเขาจะผูกเธอเลยเมื่อถ้าเธอดังมาก ผมจะเรียกผู้หญิงแบบนี้ว่า คนใจง่าย ไอหน้าไง่   โดย: คนดีบอกสังคม IP: 125.24.100.217 12 เมษายน 2554 16:52:45 น.