ที่ดินผืนนั้น ภาคกลาง บทที่ ๔๒
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10092453/W10092453.html หากมิเพราะงานเขียนบทกวีในหน้าพันทิปแล้วไซร้ข้าพเจ้าก็คงยังมิอยากจะแตะต้องงานเขียนบทนี้สักเท่าไหร่แต่บัดนี้ ด้วยทุกข์นั้น ได้ผลักดันให้ข้าพเจ้า ปลดปล่อยแรงสร้่างสรรค์นั้นออกมาอีกครั้งหลังจากกาลเวลาได้ผ่านไปกว่า สามปี จนวันนี้ ขึ้นปีใหม่พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ผ่านมาถึงแล้ว ข้าพเจ้าจึงจะรวบรวมสมาธิเขียนอีกครั้ง... บทคั่นก่อนจะเข้าเรื่อง๏ นี่คือถิ่นเคยเนาเคยเข้าอยู่สงบรู้ ครองกุศล ชั้นบนสุดครั้งเจ็บป่วย พักพิง อิงวิมุติโรครุกรุด กลับหาย สบายทรวง ๚๏ เป็นคอนโด เย็นสบาย กายสงบจิตนั้นพบ ติดสุข ราวแดนสรวงไกลน้ำท่วม ไกลยุง ยุ่งทั้งปวงจิตนั้นหน่วง ยึดมั่น วันเงียบเย็น ๚//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10092453/W10092453.html#15-------------------------------------------------------------------- ที่ได้รับคือวิบาก ที่กระทำคือกรรม ถ้อยคำสั่งสอนอบรมของหลวงพ่อเสือ(พระวิรุณหผล วัดไผ่สามกอ ปราจีนบุรี ) ผู้ล่วงลับไปแล้วแต่ผ่านถ้อยทางร่างทรง ซึ่งเคยทรงผ่านได้ในกาลก่อน ตอนลูกยังเล็ก ๆ อยู่ เข้ามาแทรกจิตใจ ให้ข้าพเจ้ามีสติ รู้สำนึก และ สำเหนียกในชีวิต ว่า ชีวิตของเรา ที่ผ่านไป หลงวนอยู่ใน กิเลส โลภะ โมหะ โทสะ อยู่ตลอดเวลา ชอบ-หลงในชอบไม่ชอบ-ลุ่มหลงผลักไสตัวเองจากความไม่ชอบ ต่อเนื่องเป็นสันตติ มิรู้จักหยุดจักหย่อน--------------------------------------------------------------%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%ชีวิตซึ่งกำลังจะบันทึกในช่วงต่อไป อาจมองดูน่าสมเพชบางครั้ง อาจมองดูน่าทุเรศในบางช่วง แต่ก็หลายหน ซึ่งมีความสุขปะปน และ เป็นเสมือนยาสมานใจหรืออาจจะเป็น วัคซีน ให้ข้าพเจ้าสู้โรคแพ้ หรือ ต่อสู้โลก มาจนถึงวันนี้ และวันนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า มีความทรหดอดทนพอที่จะเรียบเรียงมันกลับมาสู่บรรณโลก อีกครั้ง แม้นว่าม้นจะบีบคั้นหัวใจนักบันทึกไว้ ณ เพลา ๒๐: ๕๐ นาฬิกา เรือนนนทบุรี สยาม ประเทศไทยพระอาทิตย์ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑tiki_ทิกิภาคกลาง แห่ง ชีวิตสู้ชีวิต ----> " " ที่ดินผืนนั้น " " - ภาคกลาง-->บท ๔๒%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@" " ที่ดินผืนนั้น " " - ภาค กลาง -->บท ๔๒ลงไปคลุกให้ถึงที่สุดเวลาคนเรามัวเมาหลงใหลจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้นนั้น ก็เหมือนข้าพเจ้าในเวลานั้น ต่อให้นำพระอภิธรรมมาตีแผ่ให้ฟังเช้ายันดึก ว่าชีวิตนี้มันไม่เที่ยง มีแต่ รูป กับ นาม อะไรก็ตาม เวลา โทสะ คือความโมโหเกรี้ยวโกรธ ขัดเคือง รำคาญใจ ทุกข์ โทมนัสใจ อันมีเหตุ ด้วย โมหะคือความหลงพลาดไปจากสำคัญแห่งชีวิต มาครอบงำผสมผสานกับโทสะนั้น มันพาไปลงเหวลงพงลงนรกที่ไหนก็ได้ไม่รู้ตัวช่วงนั้น ข้าพเจ้าได้อัญเชิญเทวรูปพระพิฆเณศวร์ เข้าไปตั้งที่ร้านแล้วจึงบวงสรวงบูชาด้วยเครื่องหอมอันประกอบด้วยธูปกลิ่นกำยานตรลบอบอวลไปทั่วบริเวณ อยู่ทุกเที่ยง เมื่อเปิดร้าน หรือ เย็น ๆ เวลาคนเงียบเหงาซบเซา ดึก ๆ ใกล้กลับก็จุดถวายอีกรอบ ผู้คนเขาไม่ทราบกันดอกว่าองค์สีเนื้อ สีชมพูซึ่งยืนอยู่เหนือตู้ใบสูงที่สุดของร้านด้านใน นั้นเป็นโลหะทาสีอย่างแพง มองไปอาจคิดว่าเป็นเรซิ่นธรรมดา แต่คิดไปก็ดีแล้วมิฉะนั้น ช่วงนั้น องค์ท่านคงจะถูกอุ้มหายไปยามวิกาลไปเสียแล้วก็ได้นอกจากจะไหว้ที่ร้าน แล้ว ยังมีภาระกิจอันต้องกระทำอยู่บ่อย ๆแทบเป็นกิจวัตร คือ ต้องเดินไปกราบ 'พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ' หรือ กรมหลวงชุมพร ซึ่งท่านยืนประทับอยู่ในศาลสี่แยกถนนวิทยุ ต่อ กับถนนพระรามสี่แห่งนั้น วันไหนไปไหว้ท่านขอให้ท่านให้พรให้ขายดี วันนั้นก็มีแขกเข้าร้านไม่สร่างซาเหมือนกัน ใครไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ แต่ข้าพเจ้าพิสูจน์ การขายได้ ขายไม่ได้ ของร้านมาหลายครั้งหลายครา ระยะหลัง ซึ่งเขาไม่กำหนดให้เปิดเที่ยงวัน ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายความร้อน และ ไม่มีคนเดินกลางวัน มาเปิดตอนเย็นแทน ข้าพเจ้าก็ไปสายบ่อย ๆ ศาลก็ปิดไปแล้ว ไม่ค่อยได้ไหว้ท่าน ยอดขายก็ตกฮวบฮาบ ไปด้วยเหมือนกัน หรือ อาจจะเพราะเหตุอื่น ก็จะได้วิเคราะห์สถานะการณ์การค้าแบบตามใจฉัน ที่นั่น ต่อไปช่วงแรก ๆ ร้านเรา หนักไปทาง บริการห่อของขวัญวันคริสต์มาส และ ปีใหม่ ต่อมา ก็หาของกระจุกกระจิก อย่างเซรามิคส์ บางอย่างมาประกอบการขาย ซึ่งก็ค่อนข้างต้องเชียร์แขกกันจนคอแหบคอแห้งเพราะเจ้าใหญ่ ๆ แถวสวนจตุจักร เขาก็พากันมานำลงเป็นเอเย่นต์ใหญ่กันที่นั่นอยู่หลายเจ้า อาศัยข้าพเจ้ามีแบบแปลก ๆ จาก โรงงาน 'คิตตี้เซรามิคส์'ซึ่งมักเป็นตัวรูปสัตว์ มีลูกเต๋าบอกวันที่ ราคา ร้อยกว่าบาท ถึงสามร้อยกว่าบาทต่อตัวมาเสนอลูกค้า ให้เขา ซื้อไปเป็นของขวัญกันบ่อย ๆ ยอดขายประจำวันของข้าพเจ้า ก็ถัวเฉลี่ย สัก ห้าร้อยบาท ถึงพันกว่าบาทอยู่พักหนึ่งต่อมาก็นำของเก่า ที่ทิ้ง ๆ ไว้ตามบ้านคุณแม่บ้าง ที่ตึกปทุม ฯบ้าง มาเทขายที่นั่น ก็พอขายได้เป็นที่อัศจรรย์ ยิ่งนักอีกพักหนึ่งก็มีเด็กเฝ้าร้านเครื่องประดับหินและมุก ของแขกขาวพวกปากีสถานและอิรัก แถบนั้น มาส่งมุก และ หินสีให้ข้าพเจ้าไว้ร้อยทำสร้อยขาย ก็ลองดูอยู่สักพัก แต่ตอนหลัง ผู้คนเห็นข้าพเจ้า ร้อยมุกได้ ทำต่างหูตุ้งติ้งมุกได้ ก็มักมาให้ทำ จึงแย่งเวลาขาย หรือ การกระตุ้นคนซื้อลงไปเยอะแต่ก็มีครั้งหนึ่ง มีเศรษฐีสาวเมืองระยอง หรือจันทบุรี แถบนั้นคนหนึ่ง มาแวะร้านข้าพเจ้า มาเหมาเอา มุกสีเหลือบรูปร่างบิดเบี้ยวตามธรรมชาติ .ซึ่งคัดออกจากมุกนับร้อยเส้นที่เด็กมาส่งไว้ นำมาร้อยเป็นเส้นยาวให้สวมตระหลบพันคอได้สามเส้นหรือ ผูกเป็นห่วง เก๋ไก๋เวลาสวมเสื้อเขิร์ต เธอมาเหมาคืนนั้น หมื่นกว่าบาท พร้อมด้วย กระจกเจียรปลีในกรอบไม้สักโบราณของข้าพเจ้าซึ่งไปยกมาจากตึกปทุม ฯ เธอเห็นก็ขอซื้อไปเลยข้าพเจ้ากำเงินหมื่นกว่าบาท ครั้งแรก และ ครั้งเดียวในการขายที่นั่น ด้วยความปลื้มปิติใจ ทำให้ร้านแถวนั้น ตาเหลือกด้วยความริษยาหาเหตุว่า เพราะร้านข้าพเจ้า เปิดเพลงเพราะเกินไปบ้าง เล่นของบ้าง ไปนั่นเลย~~~~~~~~~~~~~~๐๐๐๐๐๐๐๐๐~~~~~~~~~~~~~~~ โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 16 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:48:00 น. (ภาค กลาง ตอนที่ ๔๑ อยู่ ที่นี่ค่ะ )//www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=13-07-2008&group=7&gblog=36 -------------------------------------------------------------------31 กรกฎาคม พ.ศ.2554 เวลา 12:25 นาฬิกาวันนี้ เข้ามาโน้ตไว้ว่า ได้นำเรื่องของตัวเอง ไปลง ที่เฟซบุ๊ค ในชื่อ นามปากกา ซึ่งตั้งไว้เพื่อจะใช้ในงานเขียนต่อไป ค่ะ //www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=154273034649661
ที่ดินผืนนั้น...ภาคคืนสังเวียน 1(อีกครั้ง)
สู่ภาคกลาง ของ นิยาย ชีวิตสู้ชีวิต "ที่ดินผืนนั้น " อารัมภบทและ บท เริ่ม ๔๑ ไปอวสานภาคแรก ♡ ♡ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๔๐. ♡♡ สู้ !!♡ ♡ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๓๙. ♡♡ ผ่าทางตัน♡ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๓๘ ♡ ♡ บท ๓๗ นิยาย Vs เรื่องจริง " " - ภาค แปด บท ๓๖บทที่ ๓๕ ขุดกรรม ! *** บท ๓๔ *ดิ้นรนขวนขวาย *บท ๓๓ บท ๓๒บท ๓๑...บท ๓๐บท ๒๙ ---บท ๒๘ *** บท ๒๗บท ๒๖ บท ๒๕ ภาค หก บท ๒๔ ..**บท ๒๓ บทที่ - ๒๒ บท ๒๐ ภาคห้า บท ๒๑ บท ๑๙ บท ๑๘ ภาคสี่ บท ๑๗.. บทที่ ๑๖ (ต่อ) ....บท๑๖ ....... ... ๐๐๐ ภาคสี่ บท ๑๕. .. ... บท ๑๔. .. ... บท ๑๓. ... ♡ ♡ ♡.. Novel . Myland หน้านี้มีไว้ให้ ตอบความ นิยาย " ที่ดินผืนนั้น" .... ♡ ♡ ♡ ♡... ๐๐๐ ภาคสาม บท ๑๒ ... ... ภาคส อง, บท ๙-๑๑ ... .... ภาค สอง ## บท ๖-๘ ... .... ..ชุด สอง (เริ่มบทสี่ ).. ... Novel ..My land ที่ดินผืนนั้น . .................................................พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่ผ่านไป งานเขียนในเว็บ ๔๐ ตอน ยังอยู่ที่บล็อกนี้ขอบคุณพันทิป ภาคกลาง * แห่ง " ที่ดินผืนนั้น " " เริ่ม ชุดสอง แห่งนิยาย ชีวิตสู้ชีวิต ของข้าพเจ้าอารัมภบท%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@๔๐ บท ซึ่งผ่านไปใน ภาคแรก ของ "ที่ดินผืนนั้น " ผู้เขียน หมดแรง หมดพลัง อยู่หลายวัน เพราะความเครียดของมนุษย์ผู้ต้องต่อสู้ เวลาอันผ่านไปประดุจล้อกรรมหมุนไปตามวาระ มันอาจสร้างความเครียดจัดตามวิบากกันแค่ช่วงนั้น แล้วได้น้ำทิพย์ชโลมใจให้หายทุกข์หายโศกไปด้วยอาการต่าง ๆ ได้ แต่สำหรับ การรวบยอด กว่ายี่สิบปี มาลงในเวลา สามเดือนนั้น( ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑ -๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑ มันบีบคั้นหัวใจให้รู้สึกเหลือจะทานทน มันแทบจะไม่อยากอ่านสิ่งซึ่งได้บันทึกย้อนไปเอาในเวลาที่ได้พิมพ์หน้ารวมมาอ่าน เพื่อแก้ไข อักขระตัวอักษร การสะกด และ แก้ไขเนื้อหาสาระ รวมทั้งสำนวนให้ต่อเนื่องเลื่อนไหลไปนั้นด้วยหากเปรียบเทียบภาพของข้าพเจ้า ว่าหากหวนไปถึงวันเก่า ๆ อันเสมือนช่วงเวลาอับเฉาชีวิต นั้น ช่วงเวลาเหล่านั้น มันทุกข์ทรมาณยิ่งนัก ภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งชอบเข้าไปซุกใต้โต๊ะ หลบไม้เรียวคุณแม่ โลกใต้โต๊ะของข้าพเจ้าในวันนั้น ช่วยทำให้หลบทุกข์ไปได้บ้าง แต่ ในโลกจริง เมื่อเจริญวัย สูงวัย เลือกทางชีวิตทั้งหมดมาเองดังที่ผ่านไปนั้น ไม่มีที่ไหนในโลก จะให้ข้าพเจ้าไปนั่งแอบซุกใต้โต๊ะ เหมือนเมื่อวัยเยาว์นับจากวันที่จบ บทที่ ๔๐ วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเขียนอะไรไม่ออก และไม่อยากอ่านหรือแก้ไขต้นฉบับเดิมมาเป็นเวลาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านไป หากจะมีอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย ป่านนี้ ท่านบรรณาธิการคงจะเตรียมคัดชื่อออกจากวงการหนังสือไปแล้วข้าพเจ้าไม่ได้หมดเรื่องที่จะเขียนแต่อย่างใด แต่ความหนักอึ้ง สองบ่าอันแบกไว้จนไหล่ลู่นี้ ทำให้แทบจะทำตัวเหมือนเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๒-๒๕๒๓ ในช่วงที่ช้าพเจ้าไปพักพิงที่ห้องชุดซึ่งน้องชายมีสิทธิ์พักอาศัย ในช่วงนั้น ข้าพเจ้านอนหงายไปบนพื้นห้อง อันเยียบเย็นนั้น สองแขนสอดเข้าไปที่ต้นคอ มองไปบนเพดานอันว่างเปล่า และ ห้องอันโล่งโถง ซึ่งไม่ค่อยมีสมบัติอะไรในวาระนั้น ไร้บุคคลที่ข้าพเจ้าจะโผหรือซุกเข้าหา เพื่อจะซุกหน้าร้องไห้ ไร้ตักนุ่ม ๆ ของแม่ หรือ คุณย่า ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยปรานีต่อข้าพเจ้า อาจจะมีอีกตักหนึ่ง คือ ตักของคุณยายผู้อารีผู้เคยขอคุณแม่ ให้ส่งข้าพเจ้าไปให้ท่านเลี้ยง หากว่า คุณแม่ไม่รัก ไม่เอ็นดูข้าพเจ้าเลยอย่างนั้น !!แต่ก็ไม่มีใคร !มีแต่ห้องอันว่างเปล่า ในเวลาแทบจะสิ้นแล้วซึ่งลมหายใจของข้าพเจ้า มีชีวิตอยู่เสมือนซากอะไรอย่างหนึ่ง แต่อยู่ และ ต่อสู้เพื่อลูกสาวคนเดียวของตนเท่านั้น แล้ว ร้องถาม "เจ้ากรรมนายเวร ที่มองไม่เห็น" ว่า"มีอีกไหม กรรม... ดาหน้ากันเข้ามาเลย มาให้หมดสิ้น มาให้ใช้กันให้หมดในชาตินี้เลย !!"ชีวิตซึ่งกำลังจะบันทึกในช่วงต่อไป อาจมองดูน่าสมเพชบางครั้ง อาจมองดูน่าทุเรศในบางช่วง แต่ก็หลายหน ซึ่งมีความสุขปะปน และ เป็นเสมือนยาสมานใจหรืออาจจะเป็น วัคซีน ให้ข้าพเจ้าสู้โรคแพ้ หรือ ต่อสู้โลก มาจนถึงวันนี้ และวันนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า มีความทรหดอดทนพอที่จะเรียบเรียงมันกลับมาสู่บรรณโลก อีกครั้ง แม้นว่าม้นจะบีบคั้นหัวใจนักบันทึกไว้ ณ เพลา ๒๐: ๕๐ นาฬิกา เรือนนนทบุรี สยาม ประเทศไทยพระอาทิตย์ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑tiki_ทิกิ ---------------------------------------------------------------------
สู่ภาคกลาง ของ นิยาย ชีวิตสู้ชีวิต "ที่ดินผืนนั้น " อารัมภบทและ บท เริ่ม ๔๑ ไป
สู่ภาคกลาง ของ นิยาย ชีวิตสู้ชีวิต "ที่ดินผืนนั้น " อารัมภบทและ บท เริ่ม ๔๑ ไป %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%% * ภาคกลาง * แห่ง " ที่ดินผืนนั้น " " เริ่ม ชุดสอง แห่งนิยาย ชีวิตสู้ชีวิต ของข้าพเจ้า %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@ที่ดินผืนนั้นภาค แรก บทที่ผ่านไปบท๑-๘ //topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2008/03/W6423525/W6423525.htmlบทที่ ๓๙-๔๐ //www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6759529/W6759529.html %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%% * ภาคกลาง * แห่ง " ที่ดินผืนนั้น " " เริ่ม ชุดสอง แห่งนิยาย ชีวิตสู้ชีวิต ของข้าพเจ้า อารัมภบท%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@ ๔๐ บท ซึ่งผ่านไปใน ภาคแรก ของ "ที่ดินผืนนั้น " ผู้เขียน หมดแรง หมดพลัง อยู่หลายวัน เพราะความเครียดของมนุษย์ผู้ต้องต่อสู้ เวลาอันผ่านไปประดุจล้อกรรมหมุนไปตามวาระ มันอาจสร้างความเครียดจัดตามวิบากกันแค่ช่วงนั้น แล้วได้น้ำทิพย์ชโลมใจให้หายทุกข์หายโศกไปด้วยอาการต่าง ๆ ได้ แต่สำหรับ การรวบยอด กว่ายี่สิบปี มาลงในเวลา สามเดือนนั้น( ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑ -๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑ มันบีบคั้นหัวใจให้รู้สึกเหลือจะทานทน มันแทบจะไม่อยากอ่านสิ่งซึ่งได้บันทึกย้อนไปเอาในเวลาที่ได้พิมพ์หน้ารวมมาอ่าน เพื่อแก้ไข อักขระตัวอักษร การสะกด และ แก้ไขเนื้อหาสาระ รวมทั้งสำนวนให้ต่อเนื่องเลื่อนไหลไปนั้นด้วย หากเปรียบเทียบภาพของข้าพเจ้า ว่าหากหวนไปถึงวันเก่า ๆ อันเสมือนช่วงเวลาอับเฉาชีวิต นั้น ช่วงเวลาเหล่านั้น มันทุกข์ทรมาณยิ่งนัก ภาพเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งชอบเข้าไปซุกใต้โต๊ะ หลบไม้เรียวคุณแม่ โลกใต้โต๊ะของข้าพเจ้าในวันนั้น ช่วยทำให้หลบทุกข์ไปได้บ้าง แต่ ในโลกจริง เมื่อเจริญวัย สูงวัย เลือกทางชีวิตทั้งหมดมาเองดังที่ผ่านไปนั้น ไม่มีที่ไหนในโลก จะให้ข้าพเจ้าไปนั่งแอบซุกใต้โต๊ะ เหมือนเมื่อวัยเยาว์ นับจากวันที่จบ บทที่ ๔๐ วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเขียนอะไรไม่ออก และไม่อยากอ่านหรือแก้ไขต้นฉบับเดิมมาเป็นเวลาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านไป หากจะมีอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย ป่านนี้ ท่านบรรณาธิการคงจะเตรียมคัดชื่อออกจากวงการหนังสือไปแล้ว ข้าพเจ้าไม่ได้หมดเรื่องที่จะเขียนแต่อย่างใด แต่ความหนักอึ้ง สองบ่าอันแบกไว้จนไหล่ลู่นี้ ทำให้แทบจะทำตัวเหมือนเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๒-๒๕๒๓ ในช่วงที่ช้าพเจ้าไปพักพิงที่ห้องชุดซึ่งน้องชายมีสิทธิ์พักอาศัย ในช่วงนั้น ข้าพเจ้านอนหงายไปบนพื้นห้อง อันเยียบเย็นนั้น สองแขนสอดเข้าไปที่ต้นคอ มองไปบนเพดานอันว่างเปล่า และ ห้องอันโล่งโถง ซึ่งไม่ค่อยมีสมบัติอะไรในวาระนั้น ไร้บุคคลที่ข้าพเจ้าจะโผหรือซุกเข้าหา เพื่อจะซุกหน้าร้องไห้ ไร้ตักนุ่ม ๆ ของแม่ หรือ คุณย่า ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยปรานีต่อข้าพเจ้า อาจจะมีอีกตักหนึ่ง คือ ตักของคุณยายผู้อารีผู้เคยขอคุณแม่ ให้ส่งข้าพเจ้าไปให้ท่านเลี้ยง หากว่า คุณแม่ไม่รัก ไม่เอ็นดูข้าพเจ้าเลยอย่างนั้น !! แต่ก็ไม่มีใคร ! มีแต่ห้องอันว่างเปล่า ในเวลาแทบจะสิ้นแล้วซึ่งลมหายใจของข้าพเจ้า มีชีวิตอยู่เสมือนซากอะไรอย่างหนึ่ง แต่อยู่ และ ต่อสู้เพื่อลูกสาวคนเดียวของตนเท่านั้น แล้ว ร้องถาม "เจ้ากรรมนายเวร ที่มองไม่เห็น" ว่า "มีอีกไหม กรรม... ดาหน้ากันเข้ามาเลย มาให้หมดสิ้น มาให้ใช้กันให้หมดในชาตินี้เลย !!" ชีวิตซึ่งกำลังจะบันทึกในช่วงต่อไป อาจมองดูน่าสมเพชบางครั้ง อาจมองดูน่าทุเรศในบางช่วง แต่ก็หลายหน ซึ่งมีความสุขปะปน และ เป็นเสมือนยาสมานใจหรืออาจจะเป็น วัคซีน ให้ข้าพเจ้าสู้โรคแพ้ หรือ ต่อสู้โลก มาจนถึงวันนี้ และวันนี้ ข้าพเจ้าคิดว่า มีความทรหดอดทนพอที่จะเรียบเรียงมันกลับมาสู่บรรณโลก อีกครั้ง แม้นว่าม้นจะบีบคั้นหัวใจนัก บันทึกไว้ ณ เพลา ๒๐: ๕๐ นาฬิกา เรือนนนทบุรี สยาม ประเทศไทย พระอาทิตย์ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑ tiki_ทิกิ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~(มีต่อ )~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~วันนี้ เข้ามาดูบล็อกเก่าของเรานี้ และลองโพสรูปดูค่ะเรื่องยัง อยู่ในระหว่างเรียบเรียง เดี๋ยวจะสับสนมากค่ะ ตอนนี้ Merry X'mas graphics
อวสานภาคแรก ♡ ♡ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๔๐. ♡♡ สู้ !!
ที่ดินผืนนั้น บทที่ผ่านไป(ภาคหนึ่ง) บท๑-๘ //topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2008/03/W6423525/W6423525.htmlบทที่ ๓๙และบทจบบทนี้ที่พันทิป บทที่ ๔๐//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6759529/W6759529.html ขอบคุณทุกน้ำใจที่ได้มาติดตามอ่านค่ะ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
♡ ♡ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๓๙. ♡♡ ผ่าทางตัน
ที่ดินผืนนั้น บทที่ผ่านไป(ภาคหนึ่ง) บท๑-๘ //topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2008/03/W6423525/W6423525.htmlบทที่ ๓๘//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6746820/W6746820.html%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%% " " ที่ดินผืนนั้น " " - ภาค แปด%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@♡ ♡ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๓๙. ♡♡ ผ่าทางตัน%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%