ข่าวด่วน บทกวี เรื่องจากใจ tiki_ทิกิ ที่นี่ค่ะ บันทึก ummm My Novel too.(In Thai).
 
บท ๒๕

ภาค ๖ บทที่ ๒๔ อยู่ที่นี่ค่ะ
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=03-05-2008&group=7&gblog=19


%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%


Create Date : 04 พฤษภาคม 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 19:07:54 น. 5 comments
Counter : 379 Pageviews.  
 
 
 
 
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

" " ที่ดินผืนนั้น " " - ภาค หก

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
@@@@@ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@
บทที่ ๒๕

ชีวิตในบ้านเช่า.
...หน้าที่แม่..

เวลากลางวันช่วงที่ฝนตกจัด ๆ และฟ้าครึ้มข้าพเจ้าจะ
นำ เครื่องตากผ้าที่ขึงไว้มุมหนึ่งของบ้าน ดึงออกมาไปเกี่ยวอีกฟาก
ของผนัง เป็นเครื่องตากผ้าที่มีราคาแพงพอสมควร ซื้อจากห้างร้าน
สุรวี แถวถนนวิทยุ ซึ่งเป็นผู้มีคุณแก่ชีวิตครอบครัวของเรา ข้าพเจ้า
จะนำผ้าเฉพาะที่เป็นเสื้อของเราทั้งสี่คน ซึ่งบิดหมาดแล้วจากเครื่อง
ขึ้นตากราวบน ส่วนพวกกางเกงกระโปรงก็ตากราวมีขาธรรมดา
ด้านล่าง การณ์เป็นอย่างนั้นอยู่ประจำ

วันหนึ่งซึ่งเป็นวันเสาร์ วันหยุดอันสดชื่น นิคกี้ทำงาน
ครึ่งวันที่บริษัทฯ ข้าพเจ้าก็อยู่บ้านกับลูกสาว มีความสุขมาก
ส่วนลูกชายนั้น ตื่นขึ้นมาก็รบเร้าให้ข้าพเจ้าพาข้ามฝั่งถนนไป
เล่นกับหลานชายสี่ห้าคนที่บ้านคุณแม่ ข้าพเจ้าให้ลูกแซนดี้
ลูกสาววิ่งเล่นอยู่ข้างบนข้างล่าง แล้วก็ลงไปดูเก็บผ้าที่ตากไว้
นำทะยอยขึ้นมาข้างบนในห้องนอนใหญ่ โดยที่ ประมาทจน
ลืม เก็บสายเข้ารอกของมัน สายตากเสื้อนั้นจึงทิ้งอยู่ที่พื้น



สักพัก มีเสียงปัง โครม เกิดขึ้น
แล้วอีกสักสองสามนาทีก็มีเสียงลูกสาวร้องไห้จ้า
ข้าพเจ้าทิ้งทุกอย่างลง วิ่งลงกระไดแทบไม่ทัน ภาพที่เห็นคือ
ลูกสาวนอนอยู่กับพื้นกำลังโงหัวขึ้นมา ส่วน ราวแขวนเสื้อ ซึ่ง
มีเหล็กอยู่ตรงปลายนั้น มันเด้งกลับที่เข้าส่วนของมันไปเรียบร้อย
ผลที่ได้รับคือ ภาพหน้าส่วนปากคางจมูกของลูกที่เป็นแผลมี
เลือดออก บวมออกมา แล้ว ข้าพเจ้านั้นใจหายยิ่งกว่าหาย
ครั้งใด กอดลูกไว้แน่น ใจนี้ เสียใจในความประมาทเลินเล่อ
ของตัวเองขนาดหนัก


สำรวจแผลลูกที่เป็นรอย เหล็กฟาดคางกับปาก โอ้ ลูก
เอ๋ย เจ้าคงเจ็บนักหนา ถึงแก่นิ่งอั้นไปร้องไม่ออกสักพักอย่างที่
ได้ยินเสียงตอนแรกทีเดียว

ตอนนั้นที่ทำได้คือรีบเอาสำลีกับผ้าก๊อซ ซับเลือดบริเวณ
ปากและคางอย่างเร็ว ใส่ยาใส่แผลเบตาดีน ที่มีอยู่ ปิดผ้าก๊อซ
ปิดพลาสเตอร์บริเวณแผลที่แตก แล้วหายาเมนโธลาตั้ม วิคส์
แก้หวัด อะไรที่มี รวมทั้ง ยาหม่อง ยาเขียวน้ำอะไร มาทาส่วนนอกจากรอยแผลทั้งหมด ซึ่งลูกก็หายสะอึกสะอื้น
นอนให้แม่รักษาพยาบาลให้อย่างเร่งด่วน รีบไปหาผ้าขนหนูชุบ
น้ำร้อนมาประคบเช็ดหน้าและให้ลูกกินยาแก้ปวด กับยาแก้อักเสบ
เดี๋ยวนั้น ให้แกนอนนิ่ง ๆ อยู่ก่อน

เป็นสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าน้ำตาซึม และ ไม่อภัยให้ตัว
เองในความประมาทเลินเล่อครั้งนั้นเลย เฝ้าดูอาการจนลูกค่อย ๆ
หลับตาลงไป ... ในใจนั้นกล่าวพึมพำกราบขออภัยองค์พรหมธาดา
ที่ไม่ได้ดูแลลูกอย่างดี แล้วก็นึกในใจว่า ดีนะ ที่เธอโดนแค่นี้
โชคดีที่เหล็กนั้นมันไม่ตีเอานัยน์ตาลูกจนอาจตาบอดไปเลยก็ได้
ข้าพเจ้านึกแล้วสยองขวัญ เอาสองมือปิดหน้าตัวเอง แล้วนั่ง
ซึมอยู่ปลายเตียงลูกสักพัก ก็ลุกขึ้นไปทำงานต่อ



ข้าพเจ้ารักษาอาการเจ็บที่คางที่ปากจมูกของลูกอยู่
หลายวันจนอาการบวมเขียวต่าง ๆ หาย ไป หน้าที่แม่ นอกจาก
จะต้องเป็นแม่ เป็นพี่เลี้ยง เป็นครู ก็ยังต้องเป็นหมอ เป็นพยาบาล
อยู่หลายสิบ จนจะเป็นร้อยครั้งได้กระมังกว่าลูกจะโต

........ ... .........
~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~
: tiki_ทิกิ - [ 4 พ.ค. 51 20:42:41 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:40:37 น.  

 
 
 
บทที่ ๒๕
ชีวิตในบ้านเช่า.
แม่บ้านเต็มตัว
(ต่อ ) ๒


ช่วงนั้น รถยนต์ที่เราใช้ ยังคงเป็น รถกระบะสองตอน
สีน้ำเงินยี่หอ้อีซูซุ ที่เราซื้อ ใหม่เอี่ยมไว้ ตั้งแต่อยู่บ้านคุณแม่สามี
นิคก็มักจะขับไปทำงานอยู่เป็นประจำ และ เป็นรถที่เราทะยอยขน
ของออกจากบ้านนั้นมาที่บ้านนี้บ่อยครั้ง

แต่ของใหญ่ ๆ อย่างเตียงนอนใหญ่ ตู้ใบใหญ่นั้น นิคได้ว่า
จ้างรถกระบะบรรทุกที่เขาใช้บริการกันอยู่ ขนมาที่บ้านนี้ ทำให้เรา
นำมาทำเป็นชั้นวางหนังสือด้านล่างและอื่น ๆ แทน
เตียงซึ่งอยู่ที่บ้านคุณแม่ ฝั่งตรงข้าม ที่มีลิ้นชักข้างใต้สอง
ลิ้นชักเหมือนตู้ ซึ่งข้าพเจ้าสั่งทำไว้ให้ไว้สำหรับลูกสาวของข้าพเจ้า
นั้น ก็ได้ยกมาไว้ที่ห้องนอนใหญ่มาเป็นเตียงของเราและ ได้นำ
ที่นอนเก่าที่พี่ชายพี่สะไภ้ทำพิธีส่งตัวเราเข้าหอนั้นมาไว้ที่บ้านเช่านี้แทน
เราได้เตียงเล็กขนาดเด็กโตจากบ้านพี่ชาย ยกมาให้ลูกสาวเธอแยก
นอนในห้องนอนเล็กนั้นคนเดียว ซึ่งเมื่อเปิดประตูไปด้านหลังบ้านจะมี
ระเบียงน้อยๆ ที่ข้าพเจ้าจะวางกระป๋องนมผงเก่า เอาหญ้าฟางอะไรไปวางไว้
และจะมี นกตัวน้อยบินมาออกไข่ กกลูกให้เด็กสองคนได้เห็นเสมอ

ลูก ๆ ชอบนกพวกนี้มาก และตื่นเต้นกับนกน้อย ๆ ซึ่งแต่
เดิมได้แต่แหงนคอมองในรังของมันตามต้นไม้บ้านคุณแม่ แต่บัดนั้น
พวกเขาได้มีโอกาสมองใกล้ ๆ ได้เห็นความเจริญเติบโตของมัน
ซึ่งเวลาไม่ช้า แม่นกก็มักจะพาลูกบินไปอยู่ที่อื่น แต่เราก็ได้อาศัย
การเจริญเติบโตของพวกมันสอนให้เด็ก ๆ รู้จักวงจรชีวิต รู้ว่าพวก
เขาก่อนเกิดมาก็เป็นตัวเล็ก ๆ ในท้องแม่ เหมือนพวกลูกสัตว์เหล่า
นี้ และได้ออกมาจากก้นแม่เหมือนกับลูกสัตว์เหล่านี้ แต่ออกมาเป็น
ตัว ๆ เหมือนพวกลูกหมา ลูกแมว ไม่ได้ออกมาเป็นไข่เหมือนนก
เด็ก ๆ ก็เข้าใจความเจริญเติบโตของชีวิตของเขาอย่างดี
............. ........ ................

ลูกสองคนนับแต่ย้ายมาอยู่บ้านคุณแม่ จนถึงมาอยู่บ้านเช่า
เป็นสัดส่วน และไม่มีใครกวนอารมณ์ ต่างก็ดูรักกันขึ้นมาก ไม่มี
แง่งอนต่างน้อยอกน้อยใจมากเหมือนเก่า อย่างลูกชายที่เคยน้อยใจ
ว่าแม่ มาพร้อมพี่สาว มาถึงก็อุ้มแต่พี่ไม่รักเขา ก็รู้สึกดูดีขึ้น ส่วน
ลูกสาวที่คิดน้อยอกน้อยใจว่าทั้งบ้านไม่รักตน ก็กลับรู้สึกว่าต่างเป็น
ส่วนสำคัญของกันและกัน และ สองคนก็นั่งเล่านิทานให้กัน พี่สาว
อ่านนิทานให้น้องชายฟังตาแป๋ว ซึ่งนายแชมป์จะตามพี่สาวยิก ๆ
ไปทุกที่ และ ชอบฟังพี่สาวเล่านิทานให้ฟังเรื่อย ๆ

ยกเว้นเวลาจะนอนนั้น นายลูกชายตัวดี นั้น หวงพ่อหวงแม่
มาก ไม่ค่อยยอมให้พี่สาวมานอนบนเตียงของเรา ตัวเขาจะยึดพื้นที่
นอนอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อแม่อย่างนั้นทุกคืน
และ ก็เป็นอย่างนี้มาตลอดหลายปีกว่าจะโต

เตียงนอนใหญ่นั้น ข้าพเจ้าตั้งให้หัวเตียงหันไปทางทิศใต้
คือหน้าประตูบ้านใหญ่ ปลายเท้าหันไปทางทิศเหนือเป็นท้ายบ้าน
ทางปลายเท้าคือท้ายบ้านที่มองเห็นตู้เสื้อผ้าขนาดประตูสามบาน
ของเรา แล้ว ก็จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งท้ายเตียงด้วย
เวลานอน ก็จะต้องพานายแชมป์เข้านอนก่อนใคร

........ ... .........
~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~

: tiki_ทิกิ - [ 4 พ.ค. 51 20:50:45 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:41:28 น.  

 
 
 
บทที่ ๒๕
ชีวิตในบ้านเช่า.
(ต่อ ) ๓

ดึก ๆ แล้ว ข้าพเจ้าก็มักไปนั่งสวดมนต์ในห้องพระ ทำ
สมาธิบ้าง จากนั้นก็จะสวดแผ่เมตตาให้แก่ ผู้คุ้มครอง บิดามารดา
ครูบาอาจารย์ ทวยเทพ พระมหากษัตริยาธิราช พระบรมราชวงศ์
พระยายมราช อะไรต่าง ๆ ไปถึง ผีบ้านผีเรือน เจ้าที่เจ้าทาง เจ้า
กรรมนายเวรอะไรทั้งหลาย ไปทั่วแสนโกฎิจักรวาลอะไรมากมาย
ตามแต่จะส่งถ้อยคำไปถึง จบการสวดมนต์ยาว ๆ เหล่านั้นแล้ว
ข้าพเจ้า จะโผล่หน้าดูลูกสาวแก้วตาดวงใจ ที่นอนหลับสนิท หอม
แก้มยุ้ย ๆ นั้น งับประตูแล้ว เดินมาคล้องกุญแจทางขึ้นลงบันได
ชั้นบน แล้วก็เข้าห้องนอนของตัวเอง

ข้าพเจ้าเปิดวิทยุฟังรายการศาสนาอยู่บ่อย ๆ ยิ่งตอนดึก
ซึ่งชอบนั่งทำงานแล้วยิ่งฟัง สถานีวิทยุนั้น ก็มักจะเชิญชวน
ผู้ฟังบริจาคเงินร่วมทำบุญ จากศาสนาพุทธ สักชั่วโมง สอง
ชั่วโมง สักตีสี่ ตีห้า ก็จะกลายเป็น บรรยาย มะหะหมัดนาบี
อะไรเหล่านั้น ข้าพเจ้าก็ฟัง เป็นความรู้ และ ก็เพลิดเพลินการ
ฟัง มีศรัทธาในคำสอนที่สอนให้คนเป็นคนดี ถึงแก่ก็ได้เคย
ส่งเงินไปช่วยทำบุญให้แก่ศาสนาอิสลาม ให้แก่ชาวมุสลิม และ
อธิษฐานให้แก่วิญญานเจ้าที่เจ้าทางแถบนั้น เหล่านั้นด้วย


คืนหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ฝันเห็นแสงสว่างที่ลุกโพลงขึ้นนอก
ชายคา เป็นแสงสีเทา ๆ ดำ ๆ มีชายคนหนึ่งอยู่ในแสงนั้น และ
แสงนั้นค่อย ๆ ลุกสว่างจ้าขึ้นเป็นแสงสีเหลือง ชายคนนั้น ยัง
คงมองมาที่เตียงข้าพเจ้าอยู่อย่างนั้น ไม่ได้บอกว่าพอใจ ไม่ได้
บอกว่า เกลียดชัง แต่เป็นการมองอย่างเพ่งพินิจ ...คุกคาม
เล็กน้อย...เหมือนเตือนอะไรสักอย่าง และเหมือนแสดงพลัง
ด้วยแสงนั้นสว่างจ้า มาก ขึ้น มากขึ้น จนข้าพเจ้าต้องลืมตาตื่น
ขึ้นมา แต่มันเพียงความมืดในห้องเท่านั้น .. เสียงสวดจาก
สุเหร่าแถวบางตลาด อำเภอปากเกร็ด โหยหวนมาในความมืด
ช่วงตีสี่ตีห้าทุกเช้า กำลังส่งคลื่นมาเข้าหูข้าพเจ้าผู้กำลังนอน
นิ่ง ๆ คำนึงถึงภาพที่เห็น และ เฝ้าครุ่นคิดว่าเขาต้องการอะไร

~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~
: tiki_ทิกิ - [ 4 พ.ค. 51 20:52:12 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:43:02 น.  

 
 
 
บทที่ ๒๕
ชีวิตในบ้านเช่า.
(ต่อ ) ๔

คนที่มีความสุขมาก ๆ นอกจาก ลูกสาวแล้ว น่าจะเป็น
ลูกชายคนดีของข้าพเจ้า ซึ่งในวาระนั้น มีความสุขอิ่มเอิบใจอย่าง
ยิ่ง อาการไข้ อาการหอบ ก็ทุเลาลงไปอย่างมาก

นอกจากจะได้อยู่ในบ้านที่อากาศปลอดโปร่ง มีอากาศ
ดี มีต้นไม้ร่มรื่นอย่างสภาพในบ้านเช่าเรา ซึ่งทุกประตูระเบียงห้อง
นอนใหญ่ และ ชั้นบนทุกห้องมีระเบียงรับลม ซ้ำหน้าต่างด้านข้าง
สองช่อง ก็เป็นหน้าต่างบานเกร็ดอย่างฝรั่งเศส คือ ยาวถึงพื้นรับลม
ใต้เต็มที่ ทำให้อากาศในบ้านนั้น สดชื่นไหลไปมาอย่างถูกสุข
ลักษณะที่สุด นับเป็นบ้านตึกใหญ่หลังแรกที่ดีที่สุดที่ข้าพเจ้าเคย
ได้อยู่ได้อาศัย แม้นว่าดูภายนอกจะขะมุกขะมอม แก่เก๋าเสียเหลือเกิน
ด้วยสีเหลืองไข่ไก่ของมันหลุดลอกเป็นแผ่นอย่างนั้น แต่สุขภาพ
ลูกชายก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่ได้ไปออกกำลังว่ายน้ำที่ YMCA
วันเสาร์ หรือภายหลังต่อมา เขาก็ได้ไปตามสระว่ายน้ำในหมู่บ้าน
แถบนั้นหลายหมู่บ้านในภายหลัง ทำให้เขาดูมีอาการดีขึ้น

วัน ๆ ลูกชายนั้นมิได้เคยอยู่บ้าน แต่มักขอข้ามไป
เล่นบ้านคุณยาย ออกวิ่งเล่นกับพี่น้องหลาน ๆ ของข้าพเจ้าบริเวณ
หลังบ้านสนามด้านหลัง ที่พี่ชายน้องชายได้ซื้อต่อออกไปทำเป็น
สนามยื่นออกไปอีกสักสองร้อยวา ทำให้บ้านคุณแม่และ บ้านพี่ชาย
ข้าพเจ้ามองไปเป็นน้อง ๆ คฤหาสน์คหบดีเศรษฐีไปกันแล้ว

เพียงไม่กี่เดือน ที่เราได้อยู่ที่บ้านเช่า แต่เป็นช่วงที่สิทธิ
มนุษยสตรีชนของข้าพเจ้า ได้ รับการบรรจุเพิ่มขึ้นประดับตัว ประดับ
ชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกมีศักดิ์ศรี มีสถานะภาพมีความมั่นคงในจิตใจ
เพิ่มขึ้นอย่างมาก ความรู้สึกอย่าง "ประเทศราช" อย่างที่เคยได้
รับในการเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านคุณแม่สามี ค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ
จิตใจได้รับการเยียวยาขึ้นมาทีละนิด คืนสู่สภาพเดิมของข้าพเจ้า
ไม่มากก็น้อย ระหว่างนั้น แม้นว่า อาการของคุณสามีจะมีแปลก ๆ
ขึ้นทุกวัน ข้าพเจ้าเคยไปที่บริษัทใหม่ของเขา บ่อย ๆ ไปรับบ้าง
ไปส่งบ้าง แล้วแต่สถานะการณ์ที่ข้าพเจ้าต้องการจะใช้รถ บางที
ข้าพเจ้าก็ไปส่งลูกชาย ที่บัดนั้น ได้ย้ายออกเข้าโรงเรียนเอกชนใหม่
ที่ถนนแจ้งวัฒนะ มีรถนักเรียนรับส่ง ยังมารับลูกทั้งสองที่นั่น และ
นำส่งตอนเย็นเหมือนเดิม และ หลายครั้งข้าพเจ้าก็ได้ไปรับ ไปส่ง
ลูกเองเหมือนกัน
ข้าพเจ้าดูพวกเขามีความสุขมาก อย่างที่ไม่เคยได้เห็น
มาก่อน

หลายครั้งที่ลูกดื้อดึงและ ไม่ยอมพูดจา ข้าพเจ้าก็ต้อง
สอนให้ลูกรู้จักพูดจาบอกอารมณ์ตัวเอง ให้พยายามพูดความจริง
ในใจออกมา และเราก็เป็นฝ่ายฟัง แล้วก็เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อแม่รู้ว่า
ลูกคิดอะไรอยู่

และ คืนหนึ่งเมื่อข้าพเจ้าเข้าไป ดูลูกสาวก่อนนอนเหมือน
เคย เด็กน้อย ส่งเสียงออกมาว่า
"แม่...แม่ไม่ได้กอดแซนดี้มานานแล้ว"

ข้าพเจ้าชะงักกึกทันที รู้สึกว่าหัวใจวูบหล่นลงปลายเท้า
เพราะตระหนักย้อนภาพไปได้ทันทีว่าเป็นความจริง ความที่ลูกชาย
ป่วยอยู่เป็นประจำ ความที่ยุ่งเหยิงเรื่องบ้านเรื่องช่องมาตลอด ความ
ที่คิดว่า ลูกได้ห้องพอที่จะอยู่เองได้แล้ว เตียงน้อย ๆ ของเธอน่าจะ
ทำให้เธอมีความสุขได้...แต่ไม่ใช่เลย อ้อมกอดนี้ของแม่ต่างหาก
ที่ลูกเฝ้ารอ

ข้าพเจ้ากอดลูกไว้แนบแน่น หอมแก้มน้อย ๆ นั้น แทบ
กลั้นน้ำตาที่คลอคลองดวงตามาไว้ไม่ได้ หากลูกไม่เรียบเรียง
คำพูดนั้นออกมา ข้าพเจ้าจะไม่รู้เลยว่า ได้ปล่อยให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุด
ของชีวิตนั้น ให้ว่างเปล่าไร้ความหมาย ไร้ความอบอุ่นไปอย่างที่จะ
เรียกกลับคืนมาไม่ได้ !!

(จบบทที่ ๒๕)

จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 4 พ.ค. 51 20:55:26 ]
>

ที่มา พันทิป ถนนนักเขียน นิยาย
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6576289/W6576289.html#4
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:51:11 น.  

 
 
 
แวะมาแก้ไข link ค่ะ
บท ๓๔
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=08-06-2008&group=7&gblog=29
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:1:46:30 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

tiki_ทิกิ
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์งานเขียนในบล็อกนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
H e L L o
free counters
[Add tiki_ทิกิ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com