ข่าวด่วน บทกวี เรื่องจากใจ tiki_ทิกิ ที่นี่ค่ะ บันทึก ummm My Novel too.(In Thai).
 
บท ๑๙

//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6524946/W6524946.html


พอลงที่พันทิปเสร็จก็ง่วงและเพลียแล้วค่ะ ขอลาไปนอนก่อนนะคะ
ติดตามได้ที่นั่นนะคะ สวัสดีทุกท่านค่ะ


Create Date : 18 เมษายน 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 19:11:04 น. 15 comments
Counter : 743 Pageviews.  
 
 
 
 
ตามไปอ่านที่พันทิปแล้ว ชักติดใจค่ะ แต่ก็เห็นใจด้วย ชีวิตก็ต้องสู้กันต่อไปนะคะ เอาใจช่วยค่ะ
 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:17:58:40 น.  

 
 
 
คุณ ส้มแช่อิ่มคะ ขอบคุณที่มาติดตามนิยายนะคะ ขอบคุณ
Glitter Graphics

Flower Glitters


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:20:48:28 น.  

 
 
 

เชิญติดตามนิยายบทที่ ๑๘ ที่ดินผืนนั้น ได้ ค่ะ

ฝากไว้ที่พันทิป ด้วยนะคะ

W6509777 *** นิยาย ๐๐๐ที่ดินผืนนั้น ๐๐๐๐ ภาคสี่ ****** บทที่ ๑๘ กรรม ! [นิยาย] tiki_ทิกิ (13 - 18 เม.ย.

สำหรับเรื่องตอนเก่า ติดตามอ่านที่นี่ได้ค่ะ

ตอนหนึ่ง My Novel...My Land ;-from pantip dot com

#2 My Novel - My land (in Thai) form pantip dot com

#3 MY Novel : My land ที่ดินผืนนั้น ภาคต่อ 3

#4 My Novel , My land ที่ดินผืนนั้น ภาคสอง บทต่อ บท เก้า

# 5 My Novel , My land ที่ดินผืนนั้น ภาคสอง บทต่อ บท เก้า

#6 นิยาย My Novel , My land ที่ดินผืนนั้น ภาคสอง บท๑๑

# 7 นิยาย My Novel,My land ที่ดินผืนนั้น ภาคสาม บทที่ ๑๒

#8 My Land นิยาย ที่ดินผืนนั้น ภาคสาม บทที่ ๑๓

# 9.♣..♥ Novel ..My land ๐ นิยาย..ที่ดินผืนนั้น ๐ ภาคสาม บท ๑๔.♥ ♣..

# 11.♣..♥ My Novel ..My land ๐ นิยาย..ที่ดินผืนนั้น ๐ ภาคสี่ บท ๑๕.♥ ♣..

#12.. ภาคสี่ ที่ดินผืนนั้น...บทที่ ๑๖ ...๐๐๐...♣..♥ มาใหม่ค่ะ

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:21:23:00 น.  

 
 
 
 
 

โดย: tiki_ทิกิ unlogged in IP: 125.25.53.147 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:1:02:53 น.  

 
 
 
ขอบคุณ...ไม้ดอกช่องาม...นำไปฝาก
น้ำใจจาก...มิตรกวี...มิหน่ายแหนง
ขอรับใว้...ด้วยใจ...คลายระแวง
มิ่งมิตรแห่ง...กวีใจ...น้ำใจงาม

มาวันนี้...มิมีของ...สิ่งใดนำมาฝาก
นอกจากความ...ห่วงใย...ส่งใจถาม
สบายดี...อยู่ไหม...ใคร่รู้ความ
ขอให้สุข...ทุกยาม...งามนิรันดร์/....



คลิ๊ก..สร้าง Glitter ด้วยตัวคุณเอง<br></div><!-- End Comment 5--></td>
                    </tr></table></td>
                    <td width= 
 

โดย: สุนันยา IP: 125.24.76.211 วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:8:37:54 น.  

 
 
 
ขอขอบคุณ สุนันยา พาใจชื่น

ถึงดึกดื่น มาพบ ประสบเห็น

นึกน้ำใจ นวลน้อง แม่เนื้อเย็น

อุตส่าห์เข็น กลอนหนัก ..พักเอาแรง


สวัสดีค่ะ
Glitter Graphics

Flower Glitters


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:23:35:42 น.  

 
 
 
ผ่านทิวา ราตรี..มิมีหลับ

เหลือระงับ..เจ็บร้าว..คราวนึกหวน

ผ่านทุกครั้ง ทุกครา ค่าทบทวน

คือกระบวน ปลงใจ ให้เจ็บ..จำ


Glitter Graphics

Flower Glitters


 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:0:21:08 น.  

 
 
 
สวัสดี...ยามเช้า...เข้ามาหา
พี่ ทิกิ...ขวัญตา...มารศรี
ขอบคุณ...น้ำใจ...ที่พี่มี
ขอบคุณที่...ปราณี...สุนันยา/...



ขอบคุณนะคะ ที่แวะไปหา




glitter-graphics.com
 
 

โดย: สุนันยา วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:7:40:39 น.  

 
 
 



 
 

โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:17:01:52 น.  

 
 
 

คลิ๊ก..สร้าง Glitter ด้วยตัวคุณเอง


 
 

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:22:53:12 น.  

 
 
 
%%บทที่ ๑๙ ++บุญยังมี + นิยายชีวิต ๐๐ ที่ดินผืนนั้น ++%% ภาค สี่

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ @@@@@@@

นิยาย ที่ดินผืนนั้น ภาคสี่ บทที่ ๑๙
บุญยังมี
๑ บารมีลูกชาย

พี่น้องของข้าพเจ้า นาน ๆ ที ก็หมุนเวียนกันมา
เยี่ยม ในวันเกิดลูกชายครบ หนึ่งขวบ คุณพ่อมาแวะเยี่ยม
ที่บ้านเรือนชั้นเดียวหลังนั้น นำสร้อยทองคำพร้อมพระมา
หนึ่งองค์ มาสวมคอให้ลูกชายด้วย
ลูกชายหัดพูดยากไม่เหมือนลูกสาว นับขวบกว่าเกือบ
สองขวบที่เขาไม่ยอมพูดอะไร เหมือนเด็กคนอื่น แต่พอ
อายุได้สองขวบ เขาก็พูดออกเป็นประโยคยาว ๆ อย่าง
เรียบเรียงความสามารถในการพูดได้อย่างน่าทึ่ง

พอลูกชายโตขึ้นพูดได้ เป็นขวัญใจของบ้าน ก็
ถึงเวลาฝึกให้เขา รู้จักสังคม และระเบียบวินัยอะไรนิด
หน่อย บางช่วงข้าพเจ้าก็ให้เขา ไป "เข้าคอร์ส" กินนอน
เล่นกับพวกเด็กวัยเดียวกัน ที่เนิร์สเซอรี่ตรงข้ามบ้านอยู่ใน
ซอยเดียวกัน ที่ใช้หลัก "มอนเตสเซอรี่"ดูเขาก็อาการดีขึ้น

แต่ต่อมา เมื่อจะนำเขาไปฝากเลี้ยงที่เนิร์สเซอรี่ที่
เพื่อนของสามีเป็นเจ้าของอยู่ เพื่อให้เขารู้จัก "สังคม" ซึ่ง
อาจต้องมีระเบียบอะไรบ้างในชีวิต เช้าแรกที่เพื่อน
ข้าพเจ้ามารับที่บ้าน คุณแม่สามีท่านออกไป ต่อสู้ ดึงขา
ลูกชายข้าพเจ้าลงมาจากรถเอาทีเดียว ร้อนถึงข้าพเจ้า
ต้องออกไปช่วยเขานำตัวส่งขึ้นรถไป ซึ่งพ่อเจ้าประคุณ
ตัวดี นั้น ร้องไห้ขี้มูกโป่งออกจากบ้านไป ทำเอาคุณแม่
เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับข้าพเจ้า ราวกับพรากเอาของรัก
ของหวงไปจากอก

การไปอยู่เนิร์สเซอรี่ไกลบ้าน ทำให้เขาเริ่มรู้จัก
การปรับตัวในการใช้ชีวิตขึ้นบ้าง ต่อมาก็นำเขาไปฝาก
เรียนอีกช่วง ที่ " ผึ้งน้อย" โรงเรียนมีชื่อทางการแสดงใน
ซอยวัดบัวขวัญ ทางที่จะไปยังบ้านคุณแม่ของข้าพเจ้านั่น
เอง

ขณะนั้นข้าพเจ้าก็ถึงเวลาจะต้องเคลียเงินค่าที่ดินที่
ทำขายฝากไว้กับเจ้าหนี้รายสำคัญที่สนิทกับที่ทำงาน
ข้าพเจ้า ยังเหลือเป็นแสนกว่า เมื่อ บ่นเรื่องนี้กับสามีว่า
จะทำอย่างไร เขาก็เอ่ยถึง คุณแม่เขาขึ้นมา ว่า น่าจะไป
คุยกับท่าน
คุณแม่สามีนั้น เห็นท่าน สวมผ้าถุง เสื้อคอกระ
เช้าอยู่บ้าน ตวาดหมา ตวาดแมว ก้มหน้าก้มตาทำกับข้าว
งก ๆ นั้น อย่าไปหมิ่นท่านเชียว
แม่บ้านธรรมดา ธรรมดา คนหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าชอบ
นึกดูถูกว่า 'บ้านน้อก บ้านนอก' นั้นเป็นปึกแผ่นมั่นคง
เหนียวแน่นเป็นหลักของบ้านของเขาจริง ๆ
ไม่นับเงิน "ดอกเบี้ย" ที่ได้รับแล้วเบิกมาเป็น
ก้อน ๆ ฝากประจำไว้บ้าง ฝากเผื่อเรียกไว้บ้างตามธนา-
คารที่มีอยู่ ท่านมีเงินเก็บกับ "แบ๊งค์ชาติ" เป็นพันธบัตร
อยู่หลายใบ !!

นายแช้มป์ เจ้าลูกชายตัวน้อยนั้น .. เขาจะมาฟังแม่
คุยกับพ่อเมื่อไหร่ ข้าพเจ้าไม่ได้สังเกตเลย แต่เมื่อได้ยิน
แม่พูดกับพ่อเรื่องจำเป็นเช่นนั้น พ่อเจ้าประคุณ เขาทำ
อีท่าไหนข้าพเจ้าจำไม่ได้ เห็นแต่พ่อที่อุ้มไปนั่งตัก
คุณย่าของเขา แล้วสักพัก เจ้าตัวดี ก็เขย่าตัวคุณย่าเขา
พูดอ้อนวอนเซ้าซี้ขอคุณย่าให้ จ่ายเงินให้แม่

" ชวยแม่หน่อยนะ ย่านะ " !

ข้าพเจ้าเห็นหน้าตาหล่อ ๆ ของเด็กน้อยที่กำลังทำตา
แป๋วใส่ย่า เขย่าตัวย่าอยู่นั้น เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ลืมไม่ลง
ว่า เขาทำได้อย่างไร ?
พอถูกเซ้าซี้อยู่หลายหน คุณย่าใจอ่อน ตอบตกลง
ว่าจะช่วยก็ได้ แต่ยังไม่วาย สะบัดเล็กน้อยว่า

"นี่ชั้นช่วยเพราะเห็นแก่หลานชั้นหรอกนะ "

อืมม์ เอากับเขาซี่ บารมีเจ้าตัวเล็กนั้นไม่เบาเลย
ไปขอเงินคุณย่ามาให้ข้าพเจ้าไถ่ถอนโฉนดออกมาได้
หากให้ข้าพเจ้าเอ่ยปากกับท่านเอง เห็นจะไม่มีวัน !


เมื่อคุณสามีนำเงินสด แสนกว่าบาทมาให้นั้น ข้าพเจ้า
ก็ไปทำการ ไถ่ถอนโฉนดนั้นที่กรมที่ดิน นำโฉนด ที่ผ่าน
มือไปมาหลายครั้งหลายหน แต่ไม่ได้เก็บไว้กับตัวมานาน
แล้ว ไปให้คุณย่าเจ้าลูกชายท่านเก็บไว้ เขียนบันทึกใส่
กระดาษไว้ว่า เป็นหนี้ท่านอยู่สักแสนบาท ตั้งใจให้เงินค่า
ดอกเบี้ยท่านแทนเจ้าหนี้อยู่...

เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นราย
เดือนเพิ่มขึ้น เวลาที่ข้าพเจ้านำเงิน "ค่าดอกเบี้ย" ใส่ซอง
ไปให้ท่านช่วงนั้น จึงดูเป็นเวลาที่รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมาก..

~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~

: tiki_ทิกิ - [ 18 เม.ย. 51 01:06:21 ]

 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:12:32:49 น.  

 
 
 


๑๙ บทที่ สิบเก้า (ต่อ) ๑
บุญยังมี ..ที่ยังได้เรียนต่อ

ระหว่างที่ทำงานเกือบแปดปีที่บริษัทโฆษณา
ที่ถนนคอนแวนต์นั้น นับว่า..ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยทำที่
ใดมา มีทั้งสิ่งที่ดี ที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นแหล่งที่ข้าพเจ้า
นั่งทำงานทำเงินใช้หนี้ไถ่ตัวเองจากการเป็นหนี้ก้อนใหญ่
ได้ในเวลาไม่กี่ปี และ เป็นที่ที่ข้าพเจ้ายังมีเวลา ได้ศึกษา
ต่อ ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียน การตัดเย็บ Haute couture
รวมทั้งวิชา Design การออกแบบเสื้อผ้า ที่สถาบันสอน
ภาษาฝรั่งเศส อาลิยงซ์ ที่ถนนสาธร ได้เรียนกับอาจารย์
ดวงดาว ท่ามตระกูลที่นั่น.. รวมไปถึงการไปย้อนเรียน
ภาษาฝรั่งเศสในบางหน..
และ อีกช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าไปลงเรียนวิชาคอมพิว-
เตอร์ ตามสถาบันข้างถนน อย่าง แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ก็ดี ก็นับเป็น "ความรู้เพิ่ม" ที่ทำให้ การใช้คอมพิวเตอร์
ชำนาญขึ้นเรื่อย ๆ เท่าที่ความสามารถข้าพเจ้าจะมี แต่
การเรียนคอมพิวเตอร์ในสมัยนั้น มักต้องเรียนพวก "โปร
แกรมภาษา" อย่างเบสิค ต่าง ๆ ไม่ใช่พวก โปรแกรม
ที่พัฒนาแล้วอย่างสมัยปัจจุบัน ข้าพเจ้าเรียนไปนาน ๆ ก็
ชักเบื่อ ๆ เหมือนกันที่ต้องทำ loop ทำ แบบอะไรที่ ทำ
แล้วก็เพี้ยนไป ไม่ค่อยเข้าสมองของข้าพเจ้าสักเท่าไหร่

~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~
อีกสถาบันการเรียนหนึ่งอันยาวนาน คือได้สมัครเข้า
เรียนในมหาวิทยาลัยเปิด มหาวิทยาลัยที่สองของ
ประเทศนั้นคือ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คุณพ่อ
เป็นผู้ซื้อใบสมัครมาให้ข้าพเจ้าชุดหนึ่ง ทั้งขอร้องให้
ข้าพเจ้าลงเรียน " เพื่อพ่อสักครั้ง " ให้เลือกคณะที่น่าจะ
เรียนได้


อันที่จริง หลายปีก่อนหน้านั้น คุณพ่อก็เคย ขอ
ร้องให้ลงเรียนที่มหาวิทยาลัย เปิดอีกแห่งหนึ่ง มาครั้ง
หนึ่งแล้ว ข้าพเจ้าไปลงทะเบียนเรียนตามที่ท่านขอร้อง
แต่พอเห็นท่าทางเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่รับสมัคร มอง "นัก
ศึกษา" ด้วยสายตาหมิ่นหยามพิกลอยู่ ข้าพเจ้าก็ไม่ไป
เรียนเลย

ครั้นคุณพ่อนำใบสมัครมาให้และขอร้องอย่างนั้น
ข้าพเจ้าก็ตั้งใจว่าจะทำให้คุณพ่อเห็นสักครั้งดังที่ท่านหวัง
ให้ลูกของท่านเรียนจบอย่างน้อยปริญญาตรีทุกคน เพราะ
เหลือแต่ข้าพเจ้าที่ยังไม่ยอมจบให้ดู

ข้าพเจ้านำ Transcript จากคณะบัญชีฯ จุฬา ไป
ให้ทางมหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช ตรวจสอบดูว่าจะสามารถ ถ่ายโอนวิชามาเรียนที่นั่นได้บ้างไหม เจ้า
หน้าที่ทางมหาวิทยาลัยก็บอกว่า นานเกินไปไม่อาจจะ
ช่วย "สานต่อ" วิชาใด ๆ ได้ ข้าพเจ้าจะต้องเรียนแบบเริ่ม
ต้นตั้งแต่ปี ๑ ใหม่ทั้งหมด โดยต้องมีข้าราชการช่วยเซ็น
รับรองใบสำเนาการศึกษาที่ผ่านมาทั้งหมดให้ด้วย

มีข้าราชการอยู่คนหนึ่ง ซึ่งอยู่บ้านเดียวกับข้าพเจ้า
ในวันนั้น คือ พี่สาวของคุณสามีเธอเป็นถึงผู้ช่วยศาสตรา-
จารย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ และสอนระดับปริญญา
โทด้วย เพราะ เธอนั้น จบปริญญาโทมาจากอเมริกา กลับ
มาทำงานก่อนหน้าคุณสามีข้าพเจ้าเดินทางกลับมาหลาย
ปี

เมื่อถือเอกสารไปขอให้เธอช่วยเซ็นให้ เธอก็
เซ็นชื่อรับรองเอกสารทั้งหมดให้ข้าพเจ้า นับว่าเป็นกรุณา
มาก มิฉะนั้นข้าพเจ้าก็คงเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเปิดนั้นมิ
ได้

การเรียนนั้นคือการอ่านหนังสือตำราเล่มหนา
หลายเล่มแต่ละวิชา และ ทำแบบฝึกหัดก่อนเรียนและ
หลังเรียนท้ายบทให้แม่น

วันไหนที่ต้องสอบ ก็จะต้องเดินทางไปยังโรงเรียน
ที่ทางมหาวิทยาลัย กำหนดไว้ให้ไปสอบในเขตจังหวัด
ของตน ไม่จำเป็นต้องไปเข้าห้องเรียนเหมือมหาวิทยาลัย
อื่น

(หมายเหตุ แก้ไข Haute couture ตามที่คุณ Scottie ท้วงติงแล้วค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 51 23:01:38

: tiki_ทิกิ - [ 18 เม.ย. 51 01:11:24 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:12:43:59 น.  

 
 
 
บทที่ ๑๙
บุญยังมี (ต่อ) ๒

ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน แต่เวลานึกย้อนไปช่วงที่อยู่บ้านหลังเล็กนั้นทีไร มัน
เหมือนฝันร้ายของชีวิต ที่ผ่านไปแล้ว และไม่อยากจะเอ่ยถึงมันเลยสักนิด มัน
ล้วนแต่เรื่องทุกข์ทรมาณ เรื่องของการขัดแย้งกัน และ ความโหดร้าย เหมือน
ไม่ได้อยู่กับมนุษย์ !!!

ต้องระมัดระวังตัว ต้องเดินแต้ม ต้องทำคะแนน ต้องรักษาภาพลักษณ์
ล้วนแล้วแต่ทำให้ ชีวิตเหมือนกำลังทำศึกสงคราม ต้องเปิดตำราพิชัยสงคราม
"ซุนวู" อ่านอยู่บ่อย ๆ เรื่องที่คิดวา จิ๊บจ้อยทั้งหลาย ทำให้ "หายใจไม่ออก รู้สึก
อึดอัด " หลายครั้ง

ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าต้องไปทำงานดึก ๆ ในภายหลังจะพาเด็กรับใช้คนหนึ่ง
ไปทำงานด้วยเช่น อาจต้องไปคุมรายการ "จับฉลากชิงโชค" สินค้าลูกค้าที่ จัดสด
ในทีวีสีช่องเจ็ด หากกลับก็ดึก ข้าพเจ้าไม่อยากจะถูกหาว่า "แอบหนีเที่ยวไปมี
อะไรกับใคร " จึงให้เด็กรับใช้ไปนั่งแกร่วรอคอยที่สถานีในห้องส่งรายการด้วยกัน

หรือ บางที ก็มีการอัดเสียงเพลงโฆษณา--จิงเกิ้ล-Jingle ก็ต้องพาเธอไปด้วย
ให้เธอไปนั่งดูข้าพเจ้า สั่งมิกซ์เสียง สั่งนักร้องร้องเพลงตามใจข้าพเจ้า ฯลฯ


ทำไม ผู้หญิงที่เป็นแม่คนอย่างข้าพเจ้า ยังต้องระวังตัวอะไรขนาดนั้น
.. แน่ละซี การหายไปจากบ้านค่ำมืด หากถูกใส่ร้ายป้ายสี มันอันตรายต่อชีวิต
คู่ มีเด็กรับใช้ นั่งรถไปกับข้าพเจ้าด้วยนั้นปลอดภัยที่สุด

ช่วงนั้น ข้าพเจ้าได้เปลี่ยนรถจาก แลนเซอร์ไฟซีของนิคกี้ ไปเป็น ซิกม่า
ไฟกลมสีน้ำเงิน และ ใช้ต่อมาสักเกือบปี ก็ไปเปลี่ยนซื้อ รถกระบะสองตอนอีซูซุ
ป้ายแดงใหม่เอี่ยม มาคันหนึ่ง เพื่อให้เราพาลูกที่กำลังเริ่มโตไปไหนต่อไหนได้
สะดวกกว่ารถเก๋งธรรมดา

จะว่าไป คุณแม่สามี ท่านก็พยายามทำดีกับข้าพเจ้าอยู่เหมือนกัน
อย่างเช่น เวลาที่ข้าพเจ้าลืมซักผ้าไว้ในเครื่องซักผ้า บางทีท่านก็มา นำไปตาก
ให้ โดยที่ข้าพเจ้าไม่รู้ รู้ตอนที่ท่านบ่นรำพันน้อยใจ ภายหลังว่าทำดีกับ
ข้าพเจ้าขนาดนั้น ยังไม่มีดี

สิ่งดี ๆ ของท่านมีหลายอย่าง อย่างน้อย ความประหยัดมัธยัสถ์
ของท่านนั้น ได้สอนให้ข้าพเจ้าจากที่เคยรู้สึกว่าตัวเองเลิศสะแมนแตน ก็ลด
ลงไปมาก รู้จักทำอะไรประหยัดกว่าเดิมได้มากขึ้น

ยังจำได้ว่า ข้าพเจ้ามันคน "สุรุ่ยสุร่าย"ไม่รู้จักการประหยัดอะไร
ทั้งนั้น เพราะชีวิตสังคมของคุณพ่อคุณแม่ ที่ได้เห็นมาตลอดคือการเข้าสมาคม
เข้าสังคม การต้องจ่ายเงินในการเข้าสมาคมทำโน่นทำนี่ มันเป็นภาระหน้าที่
ทางสังคม ซึ่งทำให้การเห็นค่าของเงินไม่เป็นสาระสำคัญเท่าไหร่

ผิดกับชีวิตคุณแม่สามี ที่ข้าพเจ้ารู้สึก "ดูถูกดูแคลน" อยู่ในใจ
ว่า "บ้านน้อก บ้านนอก " มาตลอดเวลา ครั้นเข้าไปอยู่เห็นวิถีชีวิต ที่
ท่านเก็บผักหญ้าต้นไม้ในบ้านมาทำอาหารอยู่เป็นประจำ..ใบยอท่านก็มาทำ
ห่อหมก ใบตองเอามาจากต้นกล้วยที่ขึ้นรอบบ้าน ทำกระทงทำ ใบห่อข้าว
ต้มมัด มะพร้าวก็ให้นำมาจากที่ตกมาโคนต้นหรือไม่ก็เอาไม้ติดมีดตรงปลาย
ตัดทะลายลงมา เอามาผ่าออกนำน้ำมะพร้าวมากินถ้าลูกมะพร้าวยังอ่อน
แต่ถ้าแก่แล้ว นำมาผ่าซีก ขูดมะพร้าวดังครืด ๆ อยู่กับ กระต่ายขูดมะพร้าว
หน้าตาเป็นม้านั่งไม้ที่มีหัวเป็นเหล็กแหลม ๆ พริกก็เก็บเอาในบ้าน ต้นมะกรูด
มะนาว อะไรมีหมด !!

แถมสมัยก่อนหน้านั้น ท่านยัง " เชือดไก่" เอามาทำแกงเสียด้วย
ซึ่งสมัยต่อมาเมื่อไปสำนักอาจารย์และถูกข้าพเจ้าบ่นให้สามีห้ามไว้ ต่อมา
ไก่เหล่านั้นก็หมดไปจากบ้าน

เอาเป็นว่า อาหารไทยทุกชนิดรสเลิศนั้นท่านมีฝืมืออย่างหาตัว
จับยาก ขนมจืนท่านก็ทำเป็น มีโม่แป้งมีอุปกรณ์ทำครัวขนานใหญ่ในบ้าน
ข้าพเจ้าได้ เห็นแม้สิ่งที่ไม่เคยเห็นไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ท่านไป
เก็บหัวมันสำปะหลังที่ปลูกไว้ในที่ดินข้างที่จอดรถนั้น ท่านนำมา ปอกเปลือก
ขูดออก แล้วทำเป็นอาหารมัน ขนม แถมสามารถทำแป้งมันอย่างที่เขาขาย
กันได้ด้วย !! ทำเอาข้าพเจ้าแอบทึ่งเล็กน้อย และ จำใส่ไว้ในชีวิตว่า นั่น
แหละเป็นวิถีคนไทยที่เขาดำเนินกันมาอย่างเนิ่นนาน ให้มีชีวิต พออยู่พอกิน
ไม่อดหยากปากแห้ง แบบคนเมืองอย่างข้าพเจ้าที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง !!

หลายครั้ง ที่ท่านเก็บกักน้ำฝนไว้ในโอ่งในแท้งค์รอบบ้านไปหมด
ข้าพเจ้าก็ "บ่น" อีกแล้วว่า "Primitive" จะไม่ให้บ่นได้อย่างไร เพราะเวลา
น้ำฝนตกมาก ๆ มันล้น ท่านก็"สั่ง" ให้ข้าพเจ้านั้น ไปรองน้ำฝนใส่กระป๋อง
ไปเทลงใน เครื่องซักผ้า ที่ทำให้ข้าพเจ้าฉุนใส่ท่านอย่างยิ่ง ก็ในเมื่อเรา
มีเครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติที่ข้าพเจ้าอุตส่าห์ไปผ่อนมาราคาตั้งสองหมื่น
กว่าบาทเพื่อผ่อนแรงและเพื่อประหยัดเวลาที่ข้าพเจ้าในฐานะ "ผู้หญิง
ทำงาน" บนถนนสีลม ชั้นแนวหน้าของวงการธุรกิจไทย นั้น แต่กลับต้อง
ไป หิ้วถังใส่น้ำฝนเพื่อยกขึ้นเทใส่เครื่อง ? อะไรที่ทุ่นแรง ทุ่นเวลาของ
ข้าพเจ้า ดูจะถูกท่านต่อต้าน อะไรจะ"หลังเขา" อย่างนั้น ละ ถึงจะมาสั่ง
ให้ข้าพเจ้าทำ !!

ส่วนการ ต้มน้ำกิน นั้นก็เช่นกัน ท่านชอบจุดไฟเผาเศษไม้ทั้ง
หลายในบ้านควันไฟโขมง เพื่อต้มน้ำในกาที่ก้นหม้อดำปิ๊ดปี๋ ในขณะที่
ข้าพเจ้านั้น เสียบหม้อต้มน้ำร้อนไฟฟ้า พักเดียวเดี๋ยวก็ได้น้ำร้อนสะอาด
ดื่มร้อนได้ คุณแม่ข้าพเจ้าท่านก็สอนให้ต้มน้ำแล้วรินใส่ขวดแก้ว
ให้เย็นไว้ดื่มด้วยเหมือนกัน ท่านถือนักว่า น้ำมีเชื้อโรคอะไรที่ไม่สะอาด
ต้องต้มดื่ม ข้าพเจ้าก็ยังเคร่งครัดทำเช่นนั้นมาจนทุกวันนี้

ภายหลังที่ออกมาจากบ้านนั้นแล้ว ข้าพเจ้ามีบ้านใหม่หลังใหญ่
ริมถนน ข้าพเจ้าไปซื้อเตาเศรษฐกิจมาจากตลาด และเลย นำไปฝาก
ท่านเตาหนึ่ง เพื่อว่า ท่านอยากจะเผาขยะต้มอะไรต่อมิอะไร ก็เรื่องของ
ท่าน..ผู้คนต้องทนดมกลิ่นควันนั้นกันไปนาน เตานั้นเพิ่งพังสักสองปี
ก่อนหน้านี้เอง

: tiki_ทิกิ - [ 18 เม.ย. 51 01:16:47 ]
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:12:52:56 น.  

 
 
 
บทที่ ๑๙
บุญยังมี...แต่อกุศลก็มา
(ต่อ) ๓

แต่เหตุการณ์ที่ท่าน ถือท้าย "คุณน้อง"นั้นข้าพเจ้าไม่พอใจ
มาก ๆ และ ถือเป็นเรื่อง"คอขาดบาดตาย" ที่ยอมไม่ได้เด็ดขาด ถึง
แก่ออกปากยื่นคำขาดกับสามีให้รู้กันไปเลยว่า ที่คุณพ่อคุณมีเมีย
น้อยได้ คุณแม่คุณห้ามไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แต่กับฉันไม่ได้ เพราะ
ฉันไม่ได้ใจดีอย่างแม่คุณนะ ฉันมันโหดนะ อาจจะลุกมาจัดการ
" คุณน้อง" นี่เสียเมื่อไหร่ด้วยวิธีใดก็ไม่
ทราบได้

และข้าพเจ้าก็มักชอบ เอารถออกไป เช้าวันหยุด ที่ถึงแม้
บางทีจะไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่วัดโพธิ์ แต่ก็ชอบมาทำท่าเดินตาขวาง
กร่าง ๆ เข้าบ้าน ประกาศคำโหด ๆ ไปเขย่าขวัญผู้คนแถวนั้นซะอย่าง
นั้น ว่า

" ไปฝึกยยิงปืนที่ ร.ด. มา เผื่อวันไหนใครวุ่นนัก จะได้เอาปืนยิงหัว
มันซะบ้าง "

ก็เขาไม่ได้ด้วยเล่ห์ ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์เขาต้องเอา
ด้วยคาถา ข้าพเจ้าก็ต้องเล่นบทโหด ๆ ให้ดูกันมั่งละ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ความรู้สึกที่เจ็บปวดที่ต้อง "ต่อสู้" กับมันก็เช่นในครั้งหนึ่ง
ที่ นิคกี้ นั่งอยู่บนบ้านใหญ่ มีหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่มาติดพัน "คุณน้อง"
นั้นโทรศัพท์เข้ามา คุณแม่เขาต่อปากต่อคำกับไอ้หนุ่มคนนั้น คือ
ไม่ให้พูดกับหลานสาว สักพักหนึ่งนิคก็วิ่งมาที่เครื่องโทรศัพท์บ้าน
ข้างล่าง ได้ยินเสียงท้าว่า

"มรึงมาเลย กรูจะเอาเรื่องมรึง มาต่อยกับกรูเลยมา"

ข้าพเจ้าซึ่งกกลูกนอนจนหลับแล้ว เดินออกมาแล้วได้ยิน
ทุกประการ จึงฉวยหูโทรศัพท์นั้นมา เพราะรู้ว่า มีใครอีกคน
กำลัง ฟังสายอยู่ที่บ้านหลังใหญ่

"คุณจะพูดกับใครคะ "

เสียงผู้ชายหนุ่ม ๆ ตอบมา แบบโมโหโทโส ว่าต้องการ
พูดกับ "คุณน้อง" ข้าพเจ้า ตอบไปว่า

" นี่ดึกแล้วนะคะ ลูกเราก็นอนแล้วคุณโทรฯ มากวนไม่ดี
นะคะ "

" อ่อ คุณต้องเข้าใจสิคะ ว่าเด็กคนนั้นก็เหมือนคนรับใช้
ในบ้านนี้ค่ะ คุณโทร ฯ มาดึก ๆ อย่างนี้ แล้วคุณไปขอพูด
ผู้ใหญ่เขาลำบากใจจะต้องไปตาม ไม่ให้พูด คุณก็ไม่น่าไป
ต่อล้อต่อเถียงเขานี่คะ "

" พี่ผู้ชายเขาไม่ได้พูดอย่างคุณนี่ "...นายคนนั้นฟ้อง

" ถ้าพูดกับผมดี ๆ อย่างนี้ ผมก็ไม่โกรธหรอกครับ แต่
พี่ผู้ชายเขาพูดกับผมแบบไม่ให้ผมพูดด้วยเลย แย่มาก นี่ครับ "

ข้าพเจ้าต้องอดทน ต้องอดทน บอกตัวเองแล้วก็ผ่อนลม
หายใจทำเสียงเนิบนาบอารมณ์ดี พูดดี ๆ เพื่อให้เรื่องสงบต่อ

"ได้ยินว่าคุณไปพูดไม่ดี ว่าคุณแม่เขามังคะ เขาเลยไม่
พอใจ ทีหลังคุณก็อย่าโทรฯ มาสิคะ เขาไม่ชอบให้โทรฯมาหา
คุณก็อย่าโทรฯเลยนะคะ ดึกแล้วเรากำลังเอาลูกเล็กเข้านอนกัน
อยู่ค่ะ "

แล้วข้าพเจ้าก็วางหูไป
"เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง เอากระดูกไปแขวนคอ"
คือสภาพของข้าพเจ้าในช่วงนั้น ต้องใช้กลยุทธ์เผด็จศึก ตัดไม้
ข่มนาม ไว้ก่อน เพราะได้ผล ได้ " แอบด่าฟรี " ลดตำแหน่งคุณ
หลานสาวเจ้าของบ้านไปเป็น "เด็กรับใช้" เอาในเวลานั้นด้วย

เหตุการณ์ดังนั้น มันทำให้ข้าพเจ้าเจ็บจี๊ดในหัวใจ นึก
ภาพสามี ที่ ลงมาล้งเล้ง ท้าไอ้หนุ่มมาต่อยกันหน้าบ้านแล้ววังเวง
ในหัวใจทุกที อะไร บังตาเขาได้ขนาดนั้นเล่า ถ้ามิเพราะ "คุณน้อง"
สาวแสนสวยที่นั่งเล่นหูเล่นตากันอยู่ที่ปลายเท้าทุกคืนกันอย่างนั้น !
ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นา...อะไรก็คงจะต้องหึง ต้องหวง กันบ้างละ
สิ ? แต่ข้าพเจ้าก็ปลง...ช่างมัน...ต้องอดทน ต้องอดทน บอกตัว
เองทุกวัน

จบภาคสี่ บทที่ ๑๙

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

จากคุณ : tiki_ทิกิ - [ 18 เม.ย. 51 01:21:20 ]


ความคิดเห็นที่ 4

ขออนุญาตยกคำตอบจากบทเก่าบทที่ ๑๘
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6509777/W6509777.html
มาที่นี่ค่ะ

คห.# 12

อ่านตอนที่บอกว่า "คุณน้อง" เปิดประตูเรือนออกมา และคุณสามีอยู่
ในห้องน้ำ โกรธแทนคุณทิกิเลยค่ะ ตอนนั้นคิดว่าแน่แล้ว แต่พอมาอ่าน
ที่คุณสามีบอกว่ารักคุณทิกิมานาน เอ๊ะ! ชักไม่แน่ใจ ตกลงว่าในที่สุด
ได้รู้หรือเปล่าคะว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น เอ๊ะ! หรือว่าผู้ติดตามอ่านคนนี้
จะอินกับเรื่องนี้เกินไป
: กุลธิดา (kdunagin) - [ วันเถลิงศก (15) 04:54:29 ]


ขอสารภาพว่า ข้าพเจ้า ก็ไม่รู้จนป่านนี้เหมือนกันแหละค่ะ
ว่าสิ่งที่เห็นนั้นคืออะไร และ ต่อ ๆ มาคืออะไร แต่ถือคติว่า "ดีแล้วก็
ไม่รื้อฟื้น " ก็พอประคองชีวิตต่อมากันได้...อย่างเครียดกันมาก จิตตก
สม่ำเสมอเลยค่ะ
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:13:24:29 น.  

 
 
 
บทที่ผ่านไปของ นิยาย ที่ดินผืนนั้น

ภาค ๑ บทที่ ๑-๘ ที่พันทิป
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6423525/W6423525.html

บท ๑-๓ ที่บล็อกแกงก์

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=16-03-2008&group=7&gblog=1

บท ๔-๕ ที่บล็อกแกงก์

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=18-03-2008&group=7&gblog=2

บท ๖- ๘ที่บล็อกแกงก์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=20-03-2008&group=7&gblog=3

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

(ภาคสอง บทที่ ๙-๑๑ ที่ พันทิป)
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6439185/W6439185.html
บทที่ ๙-๑๑ ที่ บล็อกแกงก์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=26-03-2008&group=7&gblog=4


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

( ๐ ที่ดินผืนนั้น ๐ ภาคสาม....เริ่มที่บท ๑๒.)

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=28-03-2008&group=7&gblog=5

เรื่อง บทที่ ๑๓ ของที่นี่
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=02-04-2008&group=7&gblog=7

.#Novel ..My land ๐ นิยาย..ที่ดินผืนนั้น ๐ ภาคสาม บท ๑๔
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=03-04-2008&group=7&gblog=8

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

#4 ที่ดินผืนนั้น...... เริ่มบทที่ ๑๕
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6460129/W6460129.html

บทที่ ๑๕ ที่บล็อกแกงก์

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=03-04-2008&group=7&gblog=8
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

# 5.๐๐๐.. ภาคสี่ ที่ดินผืนนั้น...บทที่ ๑๖ ...๐๐๐..
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6486792/W6486792.html
บทที่ ๑๖ ที่ บล็อกแกงก์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=04-04-2008&group=7&gblog=10
บทที่ ๑๖ (ต่อ) ที่บล็อกแกงก์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=06-04-2008&group=7&gblog=11

%~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

#6 ....ภาคสี่ ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๑๗ ..พันทิป
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6495102/W6495102.html

บทที่ ๑๗ ที่บล้อกแกงก์

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=07-04-2008&group=7&gblog=12
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

และ บทนี้
# 7 ภาคสี่ นิยาย ที่ดินผืนนั้น บทที่ ๑๘
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6509777/W6509777.html

บท ที่ ๑๘ที่บล้อกตรงนี้ค่ะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=12-04-2008&group=7&gblog=13

%~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

#8 บทที่ ๑๙ ที่พันทิป
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6524946/W6524946.html

บทที่ ๑๙ ที่ บล็อกแกงก์ ค่ะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=18-04-2008&group=7&gblog=14

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ที่ดินผืนนั้น ภาค ห้า บทที่ ๒๐ พันทิป
//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W6540441/W6540441.html

บทที่ ๒๐ ที่บล้อกแกงก์
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=tiki&date=23-04-2008&group=7&gblog=15
 
 

โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:13:26:03 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

tiki_ทิกิ
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สงวนลิขสิทธิ์งานเขียนในบล็อกนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
H e L L o
free counters
[Add tiki_ทิกิ's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com