รัก..บนสายรุ้ง ตอนที่3
ผมจับเขาได้ว่าเขาไปแอบคบคนใหม่และเริ่มเย็นชากับผม ในคราวที่ผมขอตามเขาไป สัมมนางานที่ต่างจังหวัด ผมเฝ้าดูพฤติกรรมเขาเพราะไม่อยากโง่ไปกว่านี้ ทำไมนะเวลาเราจะเกลียดกันและทำร้ายกันให้คนที่เคยรักเสียใจมากๆเขาไม่คิดถึงตอน ที่เคยรักกันมากๆมั่ง ผมเคยบอกกับเขาทุกครั้งว่าถ้าวันนึงเราไม่รักกันและเจอคนใหม่ที่ดีกว่าขอให้บอกกัน อย่าเก็บงำไว้ การหลอกคนอื่นแล้วนอกจากจะบาปแล้วยังสร้างความเจ็บปวดให้กับคนอื่น ด้วย คืนนี้ผมกับเขามีอะไรกันแบบแกนๆจะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้เพราะผมเป็นฝ่ายช่วยเหลือเขา ฝ่ายเดียว พอเสร็จเขาก็นอนหันหลัง ไม่สนใจใยดีอะไรผมเลย สำหรับผมแล้ว แค่การนอนกอดกันมันก็มีความสุขเกินพอแล้วแต่สิ่งที่ผมได้รับและถุกกระทำ ตอนนี้มันไม่ต่างจากตัวระบายความใคร่เลย นี่ผมไปทำกรรมทำเวรอะไรไว้นะถึงได้เจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ ชนแดนปล่อยให้ผมอยู่ในโรงแรมสองวันลำพังโดยไม่ชวนไปไหนด้วยเลย กลับมาจากสัมมนา เขาก็เมาและรีบอาบน้ำนอน แถมขอร้องไม่ให้ผมไปรบกวนเขาอีก มีบางคืนที่ผมแอบไปเดิน ร้องไห้ข้างนอก ตอนนี้ผมรู้แล้วแหละว่าเขามีคนใหม่ แต่ผมจะรู้ให้ได้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร? แล้วผมล่ะ?ผม ไม่ดีพอตรงไหนเขาถึงจะทิ้งผมไป ก่อนกลับผมแอบเปิดมือถือและเช็คดูข้อความข้อมูลการโทรเข้าออกล่าสุดและอ่านข้อความแสน หวานนั่น มันมาจากคนชื่อ พี่บี ผมจดเบอร์พี่คนนั้นไว้พร้อมแผนการบางอย่าง ผมแอบมองหน้าขณะหลับของ ชนแดน ขณะนั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพ เวลาหลับเขาดูดีและใสซื่อ ที่สุด ความรักระหว่างผมกับเขามันกำลังจะจบลงแล้ว นี่ผมกำลังจะเสียเขาไปให้คนอื่นหรอกหรือ?? เอาเถอะในเมื่อเขาเจอคนที่ดีกว่า ผมก็จะไม่รั้งเขาไว้แต่ก่อนจะจากกันไปผมต้องรู้ให้ได้ว่า พี่ บีคนนั้นเป็นใคร และเขาดีกว่าผมตรงไหน ทำไมคนรักของผม รักของเราถึงต้องใกล้จะจบลงไป ทุกทีๆ... "เฮ้ย ไอ้บอลมึงช่วยโทรไปเบอร์นี้หน่อยสิ" ผมยื่นเบอร์โทรพี่บีให้กับเพื่อนผมไปขณะที่อยู่ที่ร้านกาแฟแถวๆทองหล่อ "มึงถามนะว่าเขาเป็นใคร ทำงานที่ไหน และมีแฟนหรือยัง" ผมบอกกับบอล "มึงจะรู้ไปทำไมวะ รู้ไปก็เจ็บเปล่าๆ" มันบอกผม มันจะมีอะไรเจ็บไปกว่านี้ล่ะ ที่เจอมาทุกวันนี้ก็เจ็บพอควรอยู่แล้ว... "เอาเถอะน่า อย่าพูดมาก" ผมตัดบท นาทีกำลังตื่นเต้นและลุ้นระทึกกำลังเกิดขึ้นเมื่อบทสนทนาทางโทรศัพย์กำลังเริ่มขึ้น สวัสดีครับ ขอสายพี่บี" เสียงไอ้บอลพูด "ครับ พูดอยู่ครับ " ทางโน้นตอบมา... บทสนทนากำลังดำเนินไปเรื่อยๆเหมือนคนจีบกันทั่วไป ผมสะกิดไอ้บอลเบาๆเมื่อการพูดคุยชักจะออกนอกเรื่องทุกที " เอ้อพี่ครับ พี่บีมีแฟนหรือยังครับ" ไอ้บอลถาม "มีครับ เพิ่งคบกันไม่นาน " "ชื่อไรครับ แฟนพี่" "ชื่อ ชนแดนครับ " อาจจะมีคนชื่อนี่ซ้ำกันผมคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ในใจกลับหวิวและสั่นๆ"เขาอายุเท่าไหร่ครับ "เพื่อนผมซักต่อ "22 ปีครับ อืมม สนใจพี่หรือสนใจแฟนพี่ครับ " "เหอๆ แล้วน้องเขาทำงานไรครับ " "เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ครับ " "แล้วพักแถวไหนครับ " "แถวๆ สุทธิสารครับ เห็นว่าพักอยู่กับพี่สาว " เหมือนโลกมันหยุดนิ่งไหวชั่วขณะ ข้อมูลที่พี่คนนั้นบอกมันใช่ของชนแดนทุกอย่างแม้แต่ชื่อ นี่แสดงว่า7-8 เดือนที่ผ่านมาเขามีผมและแอบมีคนอื่นด้วยน่ะสิ "ไอ้ บอล พอแล้ว " ผมบอกเพื่อนพร้อมน้ำตาซึมๆ "กลับบ้านกันเถอะ" ผมชวนมันและเดินออกจากร้านอย่างรวดเร็ว "แน่ใจนะต้นน้ำว่ามึงอยู่คนเดียวได้" บอลถามผมเมื่อมาถึงหน้าคอนโด "อืมม...." ยังไม่ดึกเท่าไหร่ ขณะที่ท้องไม่รู้สึกหิวอะไรเลย ผมตัดสินใจโทรหาชนแดนวันอาทิตย์แค่ 3 ทุ่มกว่าๆเขาคงยังไม่หลับหรอก ผมคิด "มีไร" เสียงห้วนๆถามกลับมาเหมือนไม่พอใจ "เออๆ เดี๋ยวถึงบ้านโทรกลับ" เขากระแทกหูอย่างอารมณ์เสีย เออหนอ พฤติกรรมวันแรกกับวันสุดท้ายของเขาช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับดินทีเดียวเลยเที่ยงคืนมานานแล้ว โทรศัพย์ยังไม่มีวี่แววว่าจะดังให้ได้ยิน เขาไม่ใส่ใจหรือลืมคำพูดที่ให้ไว้ตอนหัวค่ำแล้วนะ จนผมตัดสินใจโทรหาอีกครั้ง และคิดว่านี่จะเป็นการโทรหาครั้งสุดท้ายจริงๆ จบกันซะทีกับความรักที่มันเหลือแค่รักข้างเดียวของผม หลังจากอดทนมาแสนนาน
คนที่อีกขอบฟ้า....
มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ จะครบปีแล้วกระมัง แต่ความทรงจำเรื่องราวดีดียังมีให้จดจำ แต่อย่าได้ถามถึงต้นไม้ต้นนั้นเลย มันอาจจะแล้งน้ำ หรือถูกน้ำท่วมจนผุพังไปแล้วก้ได้ ผมคงจะแค่อยากขอบคุณเรื่องราวดีดี เพลงที่เพราะๆ ไม่รู้สินะ สำหรับผมแล้ว เรืองแต่ละเรื่องกว่าจะกลับมานั่งคิดอีกที บางครั้งก็เกือบจะเป็นปี เราต่างมีความคิดมีเหตุผลและสภาพแวดล้อมที่แตกตต่างกัน ความรักกระมัง ที่คาดหวังให้คนคนนั้นเป็นอย่างที่อยากให้เป็น หวังอย่างที่อยากให้หวังสุดท้ายแล้ว คนที่เจ็บคือเราต่างหาก เจ็บกับความคาดหวังที่แสนไร้สาระนั่น ไม่รู้คุณจะแวะผ่านมาเจอเรื่องราวของผมมั่งไหมนะ แต่ผมอยากให้คุณรู้เหลือเกินว่าผมปราถนาที่จะเห็นคุณยิ้มได้อย่างีท่เคยยิ้ม หัวเราะและมีความสุขอย่างที่คุณเคยเป็น ปราถนาที่จะเห็นดอกไม้นั่นของคุณเบ่งบานและสวยงามเสมอ.. คุณครับ ในชีวิตนึงคงมีไม่กี่คนที่เราจะคิดถึงเสมอและไม่มีทางลืมมันได้ หนึ่งในนั้นคงเป็นใครบางคนที่อยู่ไกลแสนไกลนั่นแน่นอน ฝากเรื่องราวต่างๆเอาไว้ ขออภัยกับเรื่องบางเรื่อง เรื่องที่ไม่เคยเติบโตสำหรับรัก ที่นี่ฝนตกไม่ท่วมก็แล้ง หรือหนาวจนน่าทรมาน ยากที่จะดอกไม้สักดอกจะเบ่งบานหรือเติบโตก็แค่หวังว่าที่นั่นอากาศคงอุ่น แดดคงสวย ลมคงพัดเย็นสบาย ฝากชื่นชมดอกไม้ที่จะเริ่มเบ่งบานด้วยนะครับ...... สุขสันต์วันแม่ครับ.....
รัก..บนสายรุ้ง ตอนที่ 2
กระรอกหายหน้าหายตาไปหลายวัน ตอนแรกผมเข้าใจว่าเขาคงเรียนหนัก แต่วันหนึ่งเขาก็โทรมาบอกว่าเขาเข้าโรงพยาบาลเพราะเป็นลมหน้ามืดเนื่องมาจากนอนน้อยและเครียด เขาดูหน้าเซียวๆแต่เวลายิ้มทีไรก็ทำให้โลกดูสดใสขึ้นเยอะ "พี่ต้นน้ำ กระรอกได้ไปฝึกงานที่ บ....นี่แล้วนะ" เขาอวดอย่างภาคภูมิใจ บริษัทยายักษ์ใหญ่ที่ใครหลายคนอยากเข้าทำงานโชคดีที่เขามีรุ่นพี่ที่คณะคอยช่วยเหลือ "พี่โชคเขาคอยดูแลและช่วยให้ได้ฝึกงานกระรอกกะว่าจะฝึกที่นี่เอาประสบการณ์สักปีนึงแล้วหาทุนไปเรียยนต่อเมืองนอก" เขาพูดกับผมในวันที่ผมไปหาเขาที่คณะและทานข้าวด้วยกัน... ผมไม่รู้หรอกว่าพี่โชคคือใครแต่ก็มีลางสังหรณ์ใจลึกๆว่าคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เอ หรือว่าผมคิดมากไปเองก็ไม่รู้... ทำไงได้ล่ะผมเคยถูกทรยศจากความรักมาเมื่อสองปีที่แล้ว มันเจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน แผลกำลังจะหายดีแล้ว ทุกอย่างกำลังจะดี ผมไม่อยากกลับไปทุกข์อีก 2 ปีที่แล้วจะว่าสุขก็ใช่ แต่ทุกข์ก็มากมายเหลือเกิน ชนแดนชายหนุ่มคนแรกของชีวิตที่สอนให้ผมรู้จักความรักแบบนี้ ความรักของชายกับชาย ก่อนหน้านี้ผมเองก้ไม่คิดว่าตัวเองจะถลำลึกลงมากมายขนาดนี้ ผมยังมีคนรักเป็นหญิงสาวหลายคนมากหน้าหลายตา เพื่อนๆหลายคนต่างอิจฉาที่ผมหาแฟนได้ง่ายและสวยๆทุกคนแต่ไม่มีใครสักคนรู้ว่าภายใต้สายตาที่ดูดีของผมจะแอบซ่อนความลับบางอย่างไว้ในใจเสมอมา... ใช่ครับผมรู้ตัวเสมอว่าผมชอบผู้ชายแต่สักวันมันจะหายถ้าผมรักผู้หญิงสักคนแต่จำนวนผู้หญิงเกือบสิบคนที่ผ่านเข้ามาก็พิสูจน์แล้วว่าผมไม่ได้รักคนเหล่านั้นเลยนอกจากความอยากและราคะตัณหาอย่างเดียว ชนแดนชายหนุ่มรุ่นน้องคนรักแรกของผม เราคบกันแค่ปีกว่าๆผมคงผิดด้วยมั้ง ที่ไม่รู้จักและถนุถนอมความรักแบบนี้ในขณะที่เขาเองก็เอาแต่ใจตัวเอง โมโหร้ายและไม่ยอมฟังเหตุผลของคนอื่น...
รัก..บนสายรุ้ง ตอนที่ 1
ผมแทบจะคุมตัวเองไม่ไหว ใจสั่นและหวิวๆหลังจากทื่แยกกับรุจน์เมื่อสักครู่ อารมณ์ความต้องการมันพลุกพล่านจนยากจะทำใจ ขณะที่เสียงของรุจน์ยังแว่วมาตามให้ได้ยิน "นายจะคิดมากทำไมวะไอ้ต้น ในเมื่อนายก็ต้องการเราก็ต้องการ นายก็มีไอ้กระรอก เราก็มีริวเป็นแฟนเป็นตัวเป็นตน ไม่รู้คือไม่ผิดนะ" รุจน์โน้วตัวผมไปจูบและพยายามจะมีไรกับผมในรถตรงลานจอดหน้าคอนโด ผมเกือบเคลิ้มไปกับคำพูดของเพื่อน ทำไงได้ล่ะหน้าตารูปร่างมันดีซะขนาดนั้นแต่เพราะคำว่ากระรอกแท้ๆทำให้ผมทำอย่างนั้นไม่ลง "นายกลับเถอะ ดึกแล้ว" ผมบอกมันและรีบลงจากรถของมันอย่างรวดเร็ว สายน้ำจากฝักบัวไหลกระทบร่างเปลือยของผมแต่ก็ไม่สามารถทำให้กิเลสนั้นหายไปจากอารมณ์ได้ ก่อนที่จะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอารมณ์เสียงโทรศัพย์ก็ดังขั้น "ทำไรอยู่วะต้นน้ำ " รุจน์นั่นเองตายยากจริงๆ " กำลังอาบน้ำว่ะ"ผมตอบอ้อมแอ้ม "เฮ้ยทำไมเสียงนายกระเส่าๆวะ" มันถามผม "นายต้องแอบชักว่าวแน่ๆเลย ฮาๆๆ" "อืมมกำลัง แค่นี้นะ "ผมตัดสาย "เดี๋ยวสิๆ ต้นนายไม่อยากมีไรกับเราจริงๆหรือ?" เสียงรุจน์ดูเปลี่ยนไปจนอารมณ์ผมเริ่มหดหาย "รุจน์ถ้าตอนนี้เราไม่มีใคร นายไม่มีใครเราคงไม่เล่นตัวขนาดนั้นหรอก แต่เราไม่อยากทำผิดกระรอกว่ะ" ผมบอกมัน " เออ เข้าๆใจ สักวันต้องเป็นวันของเรากับนายมั่งนะ" รุจน์พูดก่อนจะวางหูจนผมไม่ทันกล่าวลา ผมรู้จักกับรุจน์พอๆกับที่รู้จักกับกระรอกโดยทางอินเทอร์เนต ด้วยความที่เราอยู่ใกล้กันทำให้ผมกับมันสนิทกันง่าย ว่างวันไหนก็มาหาไรกินกันแถวๆตลาด แต่กับความรู้สึกที่พิเศษแล้วผมกลับรู้สึกดีและอบอุ่นกับกระรอกมากกว่ารุจน์ และตกลงกับกระรอกว่าจะคบกันแบบแฟน ขณะที่ไอ้รุจน์ก็เริ่มคบกับริวเช่นกัน กระรอกโทรมาตอนจะเคลิ้มๆ ช่วงนี้วิชาที่เขาเรียนหนักเลยทำให้ไม่มีเวลาคุยกันนานนัก ขณะที่ผมก็วุ่นวายกับงานที่ทำ ใบหน้าเล็กๆรีๆ ใสๆแว้บผ่านเข้ามาให้มีความสุขอีกปีเดียวเขาก็จะจบหมอแล้ว ถึงตอนนั้นแล้ว เขายังจะรักคนกระจอกๆอย่างผมอยู่ไหมนะ ขณะที่อีกใบหน้าคมเข้ม สะอาดตาแว้บเข้ามาพร้อมๆกัน ..ไอ้รุจน์ถ้าเรากับนายมีอะไรกันจริงๆเราจะเป้นเพื่อนกันหรือกิ๊กกันแน่วะ"ผมถามตัวเองในใจเบาๆก่อนจะหลับลงด้วยความเพลีย...
สวน.....สนุก
เขาบอกว่าถ้าอยากรู้ว่าเราเบื่อหน่ายชีวิตมากแค่ไหน ให้ดูตอนตื่นนอนตอนแรก เราอ้อยอิ่ง หดหู่เบื่อเหนื่อยหน่าย หรือกระวีกระวาดมีความสุขที่จะได้ออกไปทำงาน เขาบอกว่า ถ้าอยากรู้ว่านอนพอหรือมากน้อยแค่ไหน ให้ดูช่วงเวลาสุดท้ายว่าเราฝันหรือเปล่า? ความฝันจะกลั่นตัวก็ต่อเมื่อเรานอนได้เต็มอิ่มแล้ว... มันคงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยากพอดู.. แต่เช้าวันนี้กลับเป็นวันที่การตื่นนอน สร้างความงุนงงและหาตัวตนของผมไม่เจออย่างที่สุด ผมอยากฟังเพลงที่ไม่ได้ฟังมานาน ความฝันก่อนตื่นต่อยอดมาเป็นห้วงความครุ่นคิดแทน... จู่ๆผมก็อยากไป ไปที่ไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเราอยู่อย่างนี้ไปจนตายไม่ได้แน่นอน การเดินทางไม่ได้ทำให้เราหายจากอาการเจ็บป่วย แต่มันอาจช่วยทุเลาความเจ็บป่วยนั้นเบาบางลงได้ ร่างกายของผมแข็งแรงปกติดี แต่หัวใจของผมกำลังเจ็บป่วยอยู่ก็อาจเป็นได้ เพลงที่ไม่มีเนื้อร้องนั้นขับกลอมบางเบาให้เช้านี้ดูอบอุ่น แต่ก็แค่ทุเลา ไม่ใช่หายขาดอย่างที่ต้องการ การเดินทางขึ้นเหนือไปทำบุญเมื่อสองวันก่อน ก็ไม่ใช่การบำบัดความเจ็บป่วยด้วยการเดินทางอย่างแท้จริง ทุกๆเช้านกเขาจะขันกรูปลุกให้ตื่นทุกๆวัน ผมเพิ่งถึงบางอ้อก็ตอนที่เห็นมันกำลังนอนกกไข่ข้างฝาผนังบ้านโดยบังเอิญวันนี้นี่เอง... รางน้ำที่คอยกรองเอาแต่น้ำใสๆจากฟ้า วันนี้มันกลับมีต้นหญ้าสีเขียวเล็กๆแซมขึ้นมา มันช่างดูจะน่าอัศจรรย์ใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฝนไม่ได้ตกเป็นเป็นต้นหญ้าอย่างแน่นอน เฮ้อจะเอานิยามอะไรกับสิ่งมีชีวิตช่วงสั้นๆแบบนั้นนะ.. พอหมดฝน....สีเขียวก็คงกลายเป็นสีน้ำตาลแห้ง.. ....แม่นกเขาสีหม่นตัวนั้น มันจะมีวิธีบอกลูกมันยังไงนะไม่ให้ดิ้นเพลินจนตกลงมาจากตึกสูง ก่อนที่มันจะหัดบินได้ ก่อนตื่นนอนเมื่อเช้าผมฝัน ฝันร้ายซะด้วย นอนฟังเสียงหายใจตัวเองนิ่งๆเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนอาศัยความกล้าอย่างที่สุดบังคับตัวเองไปอาบน้ำ โทรศัพย์ไม่รู้กี่สายโทรเข้ามา จากการไปทำงานงานของผมวันนี้.. บางครั้งการเป็นสัตว์อายุยืนก็น่าเบื่อซะเหลือเกินอย่างเข่นมนุษย์... ผมก็แค่ขอให้มันน่าเบื่อแค่วันนี้วันเดียวทีเถอะ..สาธุ