|
รัก....บนสายรุ้ง ตอน 12
เก่งไม่ได้อยู่บ้านที่แม่ริมเหมือนเมื่อก่อน มีเพียงพ่อกับแม่และน้องชายเขา ส่วนเจ้าตัวแต่งงานมีครอบครัวและย้ายไปทำงาน
ประจำอยู่ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอปายได้เกือบจะ ๒ ปีแล้ว ผมขอเบอร์ติดต่อที่ทำงานเขาจากแม่ แผนการณ์ตอนแรกที่จะไป
เชียงใหม่เปลี่ยนเป็นปายในทันทีทันใดอย่างน้อยที่นั่นก็มีเพื่อน มีความเงียบสงบ ธรรมชาติสวยงามเพียงพอที่จะทำให้ผมลืม
เลือนความเจ็บปวดบางอย่างลงได้
รถไฟปรับอากาศชั้น ๑ มาถึงเชียงใหม่ในตอนสายๆของอีกวัน ข้าวของที่พะรุงพะรังทำให้ผมเลือกเดินทางโดยรถไฟแทนโดย
โทรบอกให้เก่งมารับด้วยที่สถานีรถไฟเชียงใหม่
เก่งไม่ถามอะไรมากนักเพราะผมบอกมันไปแล้วว่าจะอยู่ไปเรื่อยๆถ้ามีโอกาสหรือช่องทางก็อาจจะลงทุนทำอะไรสักอย่างที่นั่น
"มึงไม่ใช่คนแรกหรอกนะที่ทำแบบนี้ รู้ไหมธุระกิจเกสต์เฮาส์หรือร้านกาแฟหลายร้านส่วนใหญ่ก้เป็นคนกรุงเทพหนีความวุ่นวาย
แทบทั้งนั้น เดี่ยวนี้ปายหาคนท้องถิ่นยากลงทุกที" มันพูดพร้อมอัดบุหรี่เต็มแรง ลมหนาวตอนเช้าพัดเย็นสบายเราแวะกินโจ้กใน
ตัวเมืองก่อนและแวะซื้อของกินของใช้ที่ตลาดแม่มาลัย ก่อนที่รถเก๋งคันสีเหลืองนั้นจะลัดเลาะไปตามความคดโค้งของเส้นทาง
ทิวเขาน้อยใหญ่ที่คุ้นตาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงปาย ผมขอตัวงีบสักหน่ิอยหลังจากล้าจากการเดินทางมาทั้งคืน
ปายเป็นเมืองเล้กๆเรียบง่ายและสงบแต่ก็เป็นเรื่องยากพอดูสำหรับการปรับตัวของผม ชีวิตคนเมืองทำให้การหลับนอนไม่เหมือน
คนแถวนี้บ่อยครั้งที่ตื่นขึ้นมาหิวกลางดึกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้ถึงเช้าวันใหม่เร็วๆ
คืนไหนฝนตกหนัก เหล่ากองทัพแมงเม่าบุกยึดเมืองจนดำมืดไปหมด กินข้าวยังต้องกางมุ้งกินและรีบปิดไฟนอนตั้งแต่หัวค่ำ
ผมได้บ้านเช่าเล็กๆหลังหนึ่งติดแม่น้ำปายไกลจากตลาดเกือบ ๓ กิโลเมตรข้ามแม่น้ำปายไปเป็นทุ่งนาที่กำลังเขียวขจีและภูเขา
ลูกใหญ่ทะมึนไกลๆ
ผมชอบที่นี่บางวันหมอเก่งและกลุ่มเพื่อนๆก็มาทำอะไรกินกันที่นี่จนดึกดื่น นั่นก็ช่วยคลายความเหงาสำหรับคนอย่างผมลงไปได้เยอะ
ทีเดียว
ต้นลำโพงกอท่วมหัว ส่งกลิ่นหอมตลบพร้อมสายน้ำรินไหลกระเซาะตามกรวดหินเป็นเงาระยับยามต้องแสงจันทร์ คืนที่นั่งเหงาก้ได้แต่
หยิบเอาอัลบั้มเก่าๆระหว่างผมกับกระรอกออกมาดู
ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่และได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้จะมีความสุขแค่ไหนนะ
แต่ยังไงก้ดีตอนนี้หัวใจของผมก็ดีขึ้นแล้วหล่ะ ผมเลือกที่จะเงียบหายไปจากรุจน์หลังจากเราทะเลาะกันคราวโน้นหรือแม้แต่ชนแดนคนรัก
คนแรกที่สร้างความเจ็บปวดให้ผมมากมาย แปลกนะพอถึงวันนึงเราก็ยอมรับกับเรื่องที่ทำให้เราแทบเป็นแทบตายนั้นได้ ผิดกับตอนใหม่ๆ
ที่เราไม่รู้จะก้าวข้ามมันไปได้อย่างไร
ผมตัดสินใจซื้อที่และบ้านหลังนี้จากเจ้าของหลังจากอยู่ได้ปีกว่าๆในราคาไม่สูงมากนัก เพราะความที่เก่งเป็นหมอเป็นที่นับหน้าถือตา
ของคนที่นี่ทำให้อะไรๆดูไม่ยากและถูกเอาเปรียบมากนัก
ผมกับเก่งลงหุ้นกันทำเกสต์เฮ้าส์เล็กๆที่นี่ในที่สุดความฝันของผมก็จะเป็นจริงซะทีแต่คงใช้เวลาอีกนานพอดูกว่าจะเป็นรูปเป็นร่าง
เราใช้วัสดุก่อสร้างที่หาได้แถวนั้นง่ายๆแต่ดูเก๋และมีสไตล์บ้านหลังเก่าถูกรื้อทิ้งไม้เก่าที่ยังใช้ได้อยู่ก็ถูกนำมาสร้างเกสต์เฮาส์หลังใหม่
แทน ต้นลำโพงกอท่วมหัวนั้นถูกปล่อยเอาไว้อย่างเดืมมันเป็นสิ่งเดียวที่สร้างสีสันให้ทุกค่ำคืนที่นี่ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ
ช่วงบ่ายปลายเดือนธันวาคมปีนั้นบ้านหลังเล้กๆก็เสร็จสมบูรณ์บ้านที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของผมกับเพื่อน ต่อไปที่่นี่คงจะเป็นเรือน
ตายของผม การเดินทาง ความฝัน ความสุข ความทุกข์ การพลัดพรากต่อไปหน้าที่ของผมก็คงเป็นการพยายามใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีค่า
ที่สุดถึงแม้ว่าจะเป็นชีวิตที่โดดเดี่ยวเดียวดายก็ตามที
Create Date : 02 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 2 ธันวาคม 2550 2:22:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 467 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Bear leader |
|
|
|
|