Group Blog
All Blog
--- บ้ า น ---















หลังจากเลาะฝ้าเพดานที่บ้านเพราะปลวกกินจนพรุน ปุปะน่าเกลียดไปทั่ว ถ้าไม่รื้อออก มันคงเห็นเป็นสวนสนุกที่มีชั้นไม้และหนังสือให้กินจนพุงกาง กินสลับกับฝ้าเพดานที่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นความร้ายกาจของมันนี่แหละ พวกมันคงสนุกที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศการกิน แต่ฉันไม่สนุกด้วย ไม่ว่าจะมองในแง่ไหนยกเว้นต้องทำใจและปล่อยวาง อะไรที่เสียไปแล้วก็แล้วไป แต่ไม่ได้ถอดใจในการที่จะรักษาหนังสือหรือซื้อมาอ่านและเก็บสะสมเหมือนเดิม


ทุกคนในบ้านรู้ดีว่าฉันรักหนังสือ บางครั้งสามียังเคยพูดให้เพื่อน ๆ เขาฟังว่า ฉันรักหนังสือมากกว่าเขาเสียอีก ไม่ใช่หรอกนะ เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เขาให้ความรัก
ความมั่นคงในความรู้สึก ให้ความเข้มแข็งและยืนในที่ที่ของฉันได้อย่างสงบและมีความสุขเสมอมา

แต่คนเราต้องมีเพื่อน หนังสือเหมือนเพื่อนที่มีหลากหลายอุปนิสัยให้อ่าน บางเล่มฉันรู้สึกสนิทสนมมากเป็นพิเศษ บางเล่มก็เพิ่งทำความรู้จักกัน เพื่อนใหม่ โลกใบใหม่ของเขานำความตื่นเต้น อยากรู้ อยากเข้าใจในสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย เราดีใจและมีความสุขที่แอบรู้จักเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว เผลอทึกทักเป็นเพื่อนสนิทหรือคนรักไปซะงั้น แทบไม่มีเล่มไหนที่ทำให้เรารู้สึกชิงชังอย่างจริงจัง อาจจะแค่ไม่ชอบ ไม่ใช่ ไม่ได้หมายความว่าไม่ดี เพียงแต่หนังสือเล่มนั้นอาจไม่เหมาะกับเรา และหลายต่อหลายครั้ง ฉันก็เทใจให้เพื่อนเก่าที่เคยรักและรักมากกว่าเดิมเมื่อนำมันขึ้นมาอ่านใหม่อีกครั้งหรือครั้งแล้วครั้งเล่า เราเรียกว่า มิตรภาพยั่งยืนหรือยังคงอยู่ได้หรือเปล่านะ เป็นมิตรภาพที่สัมผัสได้จริง อิ่มเอมใจไม่ว่าเพื่อนจะรู้หรือไม่ว่าเรายังรักเธอเหมือนเดิม ต่างกับมิตรภาพบนโลกจริง ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มันต้องเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่อให้รักกันมากแต่วันหนึ่งก็อาจไม่ใช่ ทุกอย่างราวกับบรรจุลงในโลกธรรมแปดทั้งสิ้นไม่ว่าเราจะรู้สึกกับวัตถุ สิ่งของหรือคนที่เคยรักใคร่ชอบพอ แต่วันหนึ่งก็อาจไม่ใช่ เอาอะไรแน่นอนกับมนุษย์


สำหรับหนังสือที่ไม่ใช่ เราทำได้แค่วางและไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครทราบว่ามันไม่ดีตรงไหน เราอาจจะไม่อิ่มกับมันในเวลานั้นแต่มันอาจจะเหมาะกับคนส่วนใหญ่อีกหลาย ๆ คนในโลก เราไม่ได้อ่านเพื่อทำงาน แต่อ่านเพื่อพักผ่อน ทำความรู้จักและดื่มด่ำกับรสมือของผู้เขียนที่ได้บรรยายเรื่องราวอย่างละเอียดลออไว้ในนั้น เป็นโลกที่น่าพิศวงและมีเสน่ห์ไม่มีที่สิ้นสุด เรื่องราวในหนังสือมาจากชีวิตมนุษย์ซึ่งมีความหลากหลายให้หลงใหลสารพัด


นี่คือทัศนะหนึ่งของฉันเท่านั้น แค่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ชอบอ่านหนังสือ มันทำให้มีโอกาสสำรวจชีวิตด้านในที่เคยเคว้งคว้าง โดดเดี่ยว ไร้ที่ยืน จนรู้จักที่ที่ตัวเองพอใจและอบอุ่น มั่นคงขึ้น หนังสือให้ความรู้ ความรู้สึก นึก คิด จินตภาพ ขัดเกลาด้านใน เจียระไนใจเราให้ค่อย ๆ ดีขึ้น มันมีอิทธิพลกับฉันขนาดนั้นจนอยากให้คนที่เรารักได้รับแบบนี้บ้าง อยากให้ลูก ๆ เป็นเด็กรักการอ่านเหลือเกิน


เขาสอนให้ลูกอ่านหนังสือกันอย่างไรนะ ฉันไม่เคยสอนพวกเขาจริงจัง นอกจากอ่านหนังสือให้เห็นเป็นปกติ เล่าถึงหนังสือที่อ่านแล้วชอบให้พวกเขาฟัง หากมีพลังในการเล่าบ้าง เขาคงจะหยิบขึ้นมาเอง ด้วยตัวเขาเอง จากนั้นก็ให้สิ่งที่มีในตัวเขาเลือกและเป็นไปตามธรรมชาติของเขาอย่างแท้จริง เพียงแต่อาจจะเสียดายถ้าเขาไม่รักการอ่าน...ก็เท่านั้น

น่าอัศจรรย์ใจเรื่องหนึ่งคือ ช่วงหลังมานี้ สามีบอกว่า หาหนังสือให้เขาอ่านก่อนนอนด้วย เขาอยากอ่านก่อนนอนวันละบทก็ยังดี ฉันจึงเริ่มเล่มนี้ ชายชื่ออูเว


เมื่อเหตุเกิดกับหนังสือในบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไข อาจจะไม่รีบเร่งแต่ก็ไม่อาจปล่อยไว้นาน เราเปิดฝ้าเพดานไว้เกือบสามปีแล้ว แต่ละปียังต้องเผชิญกับปลวกเป็นระยะ ๆ เราจ้างบริษัทกำจัดปลวกเป็นรายปี เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะเริ่มทำบ้าน ช่างไม่ได้แนะนำหรือจัดการให้แต่แรก เราเองก็ไม่รู้ว่าจำเป็นต้องวางท่อน้ำยากันปลวกรอบบ้านด้วย ยิ่งผ่านนานวัน ต้นไม้ยิ่งเติบโต ฤดูฝนเป็นช่วงที่ปลวกมากับที่ชื้นแฉะ ฉีดยาก็จะละลายไปน้ำฝนหรือเปล่านะ แต่เราก็ฉีดยากำจัดปลวกกันทุกฤดู


ถึงเวลาที่ต้องปิดฝ้าเพดานแล้ว หาช่างมาทำค่อนข้างยาก งานเล็ก ๆ แบบนี้อาจจะไม่คุ้มค่าเสียเวลาเขา ช่วงนี้เป็นช่วงที่เข้าสวนเก็บลิ้นจี่ ลำไยกันด้วย ช่างฝีมือก็เป็นชาวไร่ชาวสวนเป็นส่วนใหญ่ เราต้องรู้จักรอ

ครั้นพอถึงเวลาทำก็ใช้เวลาจริง ๆ สองวันเต็ม จากนั้นก็รอช่างมาทาสี รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีใครมาทำให้ บ้านเลอะเทอะ ขนย้ายข้าวของไว้มุมหนึ่ง เราอยากให้เสร็จเรียบร้อยแต่เราก็เร่งช่างไม่ได้

เมื่อคืนเราคิดว่า ทาสีกันเองเลยมั้ย งามไม่งามก็บ้านเรา จะได้จัดบ้านให้เข้าที่เสียที คิดแบบนั้น เราก็ลงมือทำ


ดูเหมือนจะไม่ยาก เปิดกูเกิ้ลดูวิธีทาสีบ้านเองอย่างไร

เขาบอกว่า



1. เลือกสีว่าจะเป็นอคริลิกแบบด้านหรือกึ่งเงา ถ้าผิวไม่เรียบก็ควรใช้แบบสีด้าน จะได้ไม่สะท้อนเงาโชว์ความขรุขระ

2. ใช้กระดาษกาวปิดส่วนที่เป็นขอบหน้าต่างหรือไม้ เผื่อสีเลอะ

3. ต้องลูกกลิ้งและแปรงทาสี ใช้ลูกกลิ้งที่เป็นโฟมจะง่ายกว่าแบบผ้า เพราะเวลากลิ้งสีไม่กระเด็น บริเวณที่ลูกกลิ้งเข้ามุมไม่ได้ ก็ใช้แปรงทาสี

4. ทาสีรองพื้นก่อน ถ้าเป็นห้องนอนและหน้าฝน ก็ใช้สูตรน้ำหรือสูตรที่มีกลิ่นฉุนน้อย เพราะอากาศชื้นระบายกลิ่นได้ช้า

5. ทาสีจริง 2 รอบ รอให้สีแห้งสัก 1 ชั่วโมงค่อยทารอบสอง

6. พยายามทาให้เสร็จในครั้งเดียว กลิ้งสีให้เป็นเนื้องานเีดียวกัน เพราะแม้แต่สีถังเดียวกัน พอกลิ้งรอบใหม่ ก็จะเห็นรอยคราบสีต่างกัน

ที่สำคัญ คือ ลงทุนซื้อสีที่มียี่ห้อ ตระกูล shield ทั้งหลายได้ทุกยี่ห้อ


นี่คือสิ่งที่เราหามาจากอินเทอร์เน็ต แต่เขาไม่ได้บอกว่าต้องบริหารคอ แขน ไหล่เอาไว้ด้วย อ้อ..อันนี้เขาละไว้ ให้ใช้เซ้นส์ของเราเอง

แล้วความยากง่ายก็รู้เมื่อลงมือทำ จะว่ายากก็ไม่ยากเกินความสามารถ แต่ก็ไม่ง่ายเพราะขาดทักษะและความชำนาญ ทุกอย่างจะรู้จากประสบการณ์ของเราเองทั้งนั้นแม้จะมีข้อแนะนำอย่างนั้นอย่างนี้มากมาย แต่รู้ไว้บ้างก็ดีกว่าทำอะไรแบบไม่มีการวางแผน อย่างน้อยก็ย่นเวลาได้เยอะ เสียแต่ เมื่อยคอมาก สีหยดนอกผ้าใบที่กางไว้เต็มพื้นที่บ้าง ฉันระวังหนังสือในชั้นหนังสืออย่างเดียว(เห็นแก่ตัวไปนิดนะ) เอาผ้าใบคลุมไว้ก่อนเลย ห่วงมากกว่าคนทาจะเมื่อยคอเสียอีก (อิอิ อันนี้พูดเล่นนนนน )

บ้านเรามีคุณชายอเนกประสงค์ เขาแก้ไขปัญหาจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้านได้หมด ได้อย่างดีด้วย แต่เขาไม่ได้เก่งเรื่องทาสีบ้านแต่เขาก็ทำได้ดี ดูไม่เรียบกริ๊บเพราะสีขาวที่ทา แม้จะเบอร์เดียวกัน แต่บ้านเรา 16 ปีแล้วนะ สีขาวเดิมก็ไม่ขาวเหมือนเดิมแม้เราเลือกสีเบอร์เดิมมาทา มันก็ไม่กลืนกัน ช่างมัน เพราะเราพอใจและดีใจที่ได้ช่วยกันทาจนเสร็จ จากนี้จะได้จัดบ้านให้เรียบร้อยเสียที

ต้อนรับเพื่อนได้เหมือนเดิมแล้วนะ ยกเว้น ปลวก !






















































































































ขอให้มีความสุขทุกท่านนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ภูพเยีย
29 มิถุนายน 2560
























Create Date : 29 มิถุนายน 2560
Last Update : 30 มิถุนายน 2560 10:10:09 น.
Counter : 1323 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเนินน้ำ

  
พี่ก็รักหนังสือค่ะ ทิ้งอย่างอื่นตัดใจทิ้งได้แต่หนังสือนี่ไม่ยอมตัดใจค่ะ
โดย: เนินน้ำ วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:15:41:55 น.
  
ดีใจจังค่ะ มีคนรักหนังสือเหมือนกัน
ขอบคุณพี่เนินน้ำนะคะที่มาทักทาย
โดย: ภูเพยีย วันที่: 30 มิถุนายน 2560 เวลา:9:58:24 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภูเพยีย
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



  •  Bloggang.com