Group Blog
All Blog
|
--- แ ส น ส ว ย --- ![]() เช้าวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคมนี้ เรามีนัดกับงานวิ่งผู้สูงอายุล้านนาซึ่งจัดงานวิ่งการกุศลเป็นครั้งแรก เราตื่นตั้งแต่ตีสี่ อาบน้ำอาบท่าเตรียมไปงานวิ่งเพราะรับบิ๊บราว ๆ ตีสี่ครึ่ง ฝนตกพรำ ๆ และมีทีม่าว่าจะตกไม่หยุดเสียด้วย เอาล่ะสิ นี่จะเป็นงานวิ่งกลางฝนเหมือนงานวิ่งที่นครพิงค์หรือเปล่านะ ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ไป ไหน ๆ ก็เคยวิ่งกลางฝนมาแล้ว สนุกไปอีกอย่าง ไปถึงหน้างาน เราอาจจะมาเช้าไปหน่อยหรือเปล่า ดูเหมือนเงียบ ๆ ไม่ค่อยมีนักวิ่งสักเท่าไหร่ ฝนก็ตกเรื่อย ๆ เลยนั่งกินกาแฟและขนมปังในรถก่อนจะไปรับบิ๊บ แต่ยิ่งใกล้เวลาปล่อยตัว แม้ฝนจะตกปรอย ๆ ไม่ขาดสายแต่นักวิ่งยังทยอยมาสมัครหน้างานไม่ขาดสายเช่นกัน ผู้จัดงานก็บอกจำนวนนักวิ่งคร่าว ๆ ว่ามีกว่าแปดร้อยคน นับว่าไม่น้อย ดีใจที่มีนักวิ่งเชียงใหม่และจากที่อื่น ๆ มาร่วมงานวิ่งนี้ด้วยกัน เราวอร์มร่างกายจนเหงื่อซึมนิด ๆ คิดแค่ว่าพอให้วิ่งสบาย ๆ กะจะไปสบาย ๆ ไม่กดดันอะไรเพราะระยะทางไม่ถึงสิบกิโล ไกลกว่าฟันรันไปนิดหน่อย พอถึงเวลาปล่อยตัว หลังหกโมงเล็กน้อย ถนนเปียกและยังพอมีฝนอยู่บ้าง อากาศกำลังสบาย เราสองคนก็วิ่งตามนักวิ่งคนอื่นไป กะว่าจะวิ่งสบาย ๆ แต่เมื่อถึงหนึ่งกิโลก็ดูนาฬิกาบอกเพซการวิ่ง เราเริ่มที่เพซ 6 กว่า ๆ ซึ่งเป็นความเร็วในการวิ่งมากกว่าเราซ้อมเล็กน้อย เราก็ยังไปต่อโดยไม่ลดลงมาให้เหลือเพซแปดเหมือนที่เราซ้อม คิดว่าอุ่นเครื่องไป ตามเขาไป ระยะทางไม่ไกล ไม่น่าจะหมดแรงก่อน เราคุมเพซ 6.4 ไปจนถึงกิโลที่ 4 หยุดดื่มน้ำ ทำให้เพซเพิ่มไปแตะที่ 7.08 แต่ก็ยังเร็วกว่าที่ซ้อมอยู่ดี จากนี้ เราวิ่งไปตามเสต็ปนี้ล่ะ ถือเป็นวิ่งเทมโป้ไปเรื่อย ๆ ละกัน ที่ไม่รู้สึกเหนื่อยเพราะอากาศเย็นด้วยก็ได้ ความจริง เขาอยากให้เราได้ชมรอบคูเมืองเชียงใหม่ แต่เราคุ้นเคยกับที่นี่พอควร การวิ่งที่ดูไม่จริงจังในคราวแรก กลับดูจริงจังและตั้งใจขึ้น เรายังสนุกอยู่เพราะเราซ้อมสม่ำเสมอ ระยะทางไม่ไกล เราจึงสนุกกับมันได้ ยกเว้น เราไม่ซ้อมเลยและคาดหวังว่า สิ่งที่เคยทำได้ในอดีต มันยังจะทำได้อีก มันอาจจะใช่แต่หลังวิ่งอาจจะเจ็บก็ได้ การฝึกซ้อมทำให้สองกิโลสุดท้ายเราเร่งได้อีก แรงไม่ตก ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เราจบ 7.4 กิโล ดวยเวลา 49 นาที นับว่าใช้ได้สำหรับการตื่นมาวิ่งสนุก ๆ กันในเช้านี้ แต่เราไม่สามารถอยู่ร่วมงานกับชมรมผู้สูงอายุได้ แม้รู้ว่าวันนี้มีการมอบสมุดบันทึกเก็บระยะการวิ่งเพื่อพ่อ ระยะทาง 999 กิโลเมตร เพราะเราต้องพาแสนสวย แมวของเราไปโรงพยาบาลสัตว์เล็กแต่เช้า เธอไม่สบายมาหลายวันแล้วแต่เราเพิ่งรู้เมื่อวานนี้ เช้าวันเสาร์แสนสวยมาหาเราตอนเรากำลังทำกับข้าวเพื่อนำไปฝากลูก ๆ ที่หอเย็นนี้ เธอเดินมาหาแบบระโหยโรงแรง เราจับเนื้อตัวก็ดูซูบผอมซี่โครงเป็นสันกลางหลัง ตกใจมากเพราะอาการซูบซีดเหมือนตอนที่สีตรังป่วยเมื่อปีที่แล้ว ใจคอไม่ค่อยดี จับแสนสวยนอนพักรอในกรง จะพาไปหาหมอเช้านี้เลย เรารอจนหมอออกจากฟาร์มเพื่อตรวจอาการเบื้องต้นของแสนสวย หมอบอกว่า แสนสวยเป็นมะเร็งที่เต้านม จำเป็นต้องพาปโรงพยาบาลด่วนเลยเพราะทางคลินิกผ่าตัดเคสนี้ไม่ได้ รู้สึกใจหาย แสนสวยป่วยหนักตั้งแต่ตอนไหนเราไม่รู้ ปกติเราไม่ได้มาคลุกคลีกัน ต่างคนต่างอยู่ เราเห็นกันแบบนี้มาห้าหกปีแล้ว แสนสวยจึงได้มานอนพักที่ห้องของสองสาวเพื่อรอการไปโรงพยาบาลในเช้าวันอาทิตย์หลังจากเราวิ่งจบแล้ว ที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งนี้ มีการทำบัตรใหม่และกรอกชื่อผู้ป่วยของเราคือแสนสวย ฉันลืมใส่นามสกุลของเราลงไป แต่ก็คิดว่ากรอกข้อมูลอื่น ๆ ครบถ้วนแล้ว เรามานั่งรอคิว ระหว่างนั้น มีสามีภรรยาคู่หนึ่งอุ้มลูกหมารอ มันป่วยจนดูเงื่องหงอยใต้ผ้าห่มของเจ้าของ ส่วนที่นั่งฝั่งขวาน้องผู้หญิงกับหมาตัวโต ๆ และสองหนุ่มสาวกับหมาอีกตัว และที่เพิ่งเข้ามาใหม่คือหญิงสาวกับหมาปั๊กที่มีก้อนเนื้อปูดใหญ่ที่ก้นของมัน แต่ละคนดูคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ เขาทักทายพูดคุยกันราวกับรู้จักกันมานาน หรือพวกเขาสนิทกันง่ายขึ้นเพราะมีสัตว์เลี้ยงเหมือนกันหรือเปล่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงดูหน้าตาเป็นคนจิตใจดี สุขภาพดี หมา แมวของพวกเขาดูมีสกุลรุนชาติ ไม่เหมือนกับแสนสวยของเราที่เป็นแมวจร มาจากไหนเราไม่รู้ รู้แต่ตอนคาบลูกมานอนกินนมที่บ้านเราแล้วเท่านั้น จะอย่างไร เราก็รักแสนสวยและลูก ๆ ของมัน อยู่ด้วยกันจนเป็นสมาชิกของบ้านไปตั้งนานแล้ว แสนสวยก็น่ารักสำหรับเราเสมอแม้จะดูซีดเซียวในยามนี้ เสียงเรียกชื่อแสนสวยดังขึ้น ให้เข้าห้องตรวจห้องที่ 6 เราอุ้มแสนสวยออกจากกรงเพราะกลัวแสนสวยตกใจ วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเพราะไม่คุ้นสถานที่ แต่แสนสวยก็ไม่ได้ทำอย่างที่เราคิด เธอนอนสงบเสงี่ยม ไปไหนไม่ไหวแล้วหรือไม่ก็วางใจเมื่ออยู่ในอ้อมอกของเรา แสนสวยนอนนิ่งให้ตรวจ พาไปเอกซเรย์ เธอก็ยอมให้หมอพลิกตัวไปมา คงหมดเรี่ยวหมดแรง ไม่ขืนตัวต่อสู้แต่อย่างใด หมอยังชมเลยว่า น้องเรียบร้อยจังนะคะ เราคิดว่า แสนสวยคงกลัวหมอ ให้ความร่วมมืออย่างคนว่านอนสอนง่าย หรือรู้ลึก ๆ ว่าพ่อแม่พามาที่นี่แล้วเธอจะหาย หมอเชิญเราสองคนมาดูฟิล์มเอกซเรย์ด้วยกัน มองเห็นก้อนเนื้อที่บวมเต่งเป็นก้อนใหญ่ใต้ราวนม ดูทางเดินอาหารก็ไม่มีอาหารถึงกระเพาะแม้สักน้อย ดูสภาพปอดก็นับว่าดีอยู่ แต่หัวใจเล็กมากเพราะไม่ค่อยมีเลือดมาสูบฉีด เป็นสภาวะขาดอาหารและน้ำอย่างรุนแรง หมอขอโกนขนที่เท้าหน้า หาเส้นเพื่อให้น้ำเกลือก่อน และรอผลจากการตรวจเลือดว่าจะผ่าตัดในวันอังคารที่จะถึงนี้ได้หรือไม่ และจำเป็นต้องขอแอดมิดแสนสวยไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ โชคดีที่มีเตียงผู้ป่วยว่างหนึ่งที่ ไม่งั้นเราต้องเอากลับบ้านและต้องไป ๆ มา ๆ อาจจะไม่ค่อยสะดวกเพราะเราไม่ได้พักในตัวเมือง แสนสวยไม่เคยเข้าโรงพยาบาล นี่เป็นครั้งแรก อาจจะตื่นตระหนกตั้งแต่เมื่อคืน อาจจะกังวล กลัวสารพัด กระเพาะฉี่เต็ม ไม่ยอมฉี่ ไม่ยอมขับถ่าย ใช้กระบะทรายไม่เป็นเพราะเขาอยู่กับธรรมชาติ อึแล้วกลบตามต้นไม้ตามที่เราเคยเห็น อาจต้องสวนกระเพาะฉี่จะได้สบายขึ้น เห็นแล้วก็เวทนามาก หมอชี้แจงค่าพยาบาลรักษาเบื้องต้นให้เราทราบ เป็นเงิน 7,700 บาท เรานิ่งฟังเงียบ ๆ เป็นเงินไม่น้อยทีเดียว ยังไม่รวมค่าแอดมิดรายวันและค่าอื่น ๆ ที่เรายังไม่รู้ ไม่ว่าจะการเติมเลือดหรือค่ายารักษา ผ่าตัด จิปาถะ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ได้แต่ทำใจ เพราะเราคงทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้แสนสวยเผชิญกับโรคร้ายไปตามบุญตามกรรม ใครก็ไม่อยากป่วย ใครก็ไม่อยากสร้างภาระให้ใครหรอก โชคดีแค่ไหนที่เราไม่ได้เป็นคนป่วยเสียเอง ได้มีโอกาสดูแลความเจ็บไข้ของแสนสวยก็ดีแล้ว จะดูดายได้อย่างไร อยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้วเนี่ย หลังจากปล่อยแสนสวยไว้ที่โรงพยาบาล เราพาลูก ๆ ไปกินข้าว ซื้อข้าวของเครื่องใช้ เอาภาพพ่อไปเข้ากรอบเพราะจะจัดหิ้งพระใหม่ จากนั้นก็ฝากลูก ๆ ให้ช่วยมาเยี่ยมแสนสวยแทนพ่อแม่ระหว่างนี้ คล้อยหลังไม่เท่าไหร่ คุณหมอโทรมาบอกว่า แสนสวยเกล็ดเลือดต่ำ มีเกล็ดเลือดเพียงแค่หมื่นเดียวจากที่แมวปกติควรมีสองสามแสน ตกลงว่า อังคารนี้ทำการผ่าตัดไม่ได้ เม็ดเลือดขาวสูงอีก อาจมีอาการติดเชื้อ ต้องเลื่อนการผ่าตัดเป็นวันศุกร์แทน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูว่าร่างกายตอบสนองต่อยาหรือเปล่า อาจต้องมีการเติมเลือดด้วย เพราะการผ่าตัดมีโอกาสเสี่ยงกับการวางยาในกรณีที่แมวชรามาก เฮ้อ ช่างน่าเวทนาเสียจริง ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ภาวนาให้ปลอดภัย ฉันพยายามที่จะไม่คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายไป เพราะไม่รู้ว่าเคสนี้จะยืดเยื้อแค่ไหน แต่เราก็ต้องรักษา เราต้องดูแลตัวเองให้มากจะได้ดูแลแสนสวยได้ด้วย แสนสวยอาจจะมาบรรเทาความคิดถึงถึงพ่อและเรื่องของพ่อที่เรายังวุ่นวายใจอยู่ก็ได้ ทำให้เราเปลี่ยนเรื่องจดจ่อมาอยู่กับปัจจุบันที่เราต้องดูแลและจัดการกับสิ่งมีชีวิตรอบตัว อยู่ดูแลสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ที่กำลังป่วยไข้และต้องการความช่วยเหลือจากเราเพราะเห็นเราเป็นที่พึ่งของพวกเขาจริง ๆ พ่ออาจจะกำลังบอกเราอยู่ว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน ทำสิ่งที่ถูกที่ควรให้ดีเท่าที่เราจะทำได้ หากมีกำลังพอช่วยเหลือใครได้ให้รีบทำ เพราะทุกชีวิตมีค่าและเป็นโอกาสที่เราจะได้ช่วยเหลือกัน ขอให้แสนสวยมีกำลังใจดีและสุขภาพดีพอที่จะได้รับการผ่าตัดนะ คิดถึงแสนสวยจริง ๆ ![]() บ่ายนี้ ลูกสาวไปเยี่ยมแสนสวยให้ บอกว่าดูง่วง ๆ ไม่รู้ซึมยาหรือเปล่า ดีใจที่ลูกไปเยี่ยมแสนสวยกัน ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีและมีความสุข ขอบคุณค่ะ ภูพเยีย 16 ตุลาคม 2560 ![]() โดย: สมาชิกหมายเลข 4245812
![]() |
ภูเพยีย
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Friends Blog
|