Group Blog
 
All Blogs
 
บันทึกของผู้เฒ่า กาลเวลา

บันทึกของผู้เฒ่า (๑๖๓) รสก. ๑๐ ก.ย.๕๕

กาลเวลา

การเวลาเป็นต้นเหตุสำคัญ ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกเปลี่ยนแปลง ชีวิตที่เริ่มตั้งต้นก็เจริญงอกงามเติบโต แข็งแรงขึ้น แล้วก็กลับร่วงโรยลงจนล้มหายตายจากไปในที่สุด

ไม่ได้จำมาจากไหน แต่เป็นความคิดคำนึงของเราเอง เมื่อประสพสิ่งหรือสภาวะทั้งหลายที่เปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อม แม้แต่เชื้อโรคภัยไช้เจ็บ ที่เคยเป็นกันมาแต่อดีต บางอย่างก็สูญหายไป แต่บางอย่างก็เกิดขึ้นมาใหม่ แม้บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมือนเดิม

เมื่อปลายเดือนก่อน เริ่มเข้าฤดูฝนมีฝนตกบ่อยขึ้น แต่ตกไม่นาน ตกหนักอยู่ไม่เกิน ๓๐ นาทีก็หยุด พอหลังวันเข้าพรรษาแล้ว มีการตกพรำไม่มาก แต่ตกทั้งวันทั้งคืน ไม่เห็นแดดเลยก็มี ทำให้อากาศที่ร้อนเหมือนโลกจะแตก ค่อยทุเลาลง

วันหนึ่งเห็นว่าฝนครึ้มมาแต่เช้า และดูท่อทางน้ำไหลออกนอกบ้านเห็นตื้นเขิน ด้วยขี้โคลนที่ถมทับกันมานับเดือน ทำให้น้ำฝนล้นท่อเร็วขึ้น ทำท่าจะเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นบ้านหลายหนแล้ว วันนั้นเห็นเหมาะที่จะทำความสะอาดกวาดล้างท่อเสียที จึงเรียกผู้ช่วยมาช่วยกันขูดขี้โคลนก้นท่อ แล้วตักขึ้นไปเทโคนต้นไม้ ตลอดแนวหลังบ้านจรดหน้าบ้าน เป็นระยะทางสิบกว่าเมตร จนถึงบ่อเชื่อมต่อกับท่อระบายน้ำริมถนนซอยหน้าบ้าน จึงพบว่ารูท่อที่ทะลุออกไปนั้นอัดแน่นอยู่ด้วยดินโคลนและใบไม้แห้ง แต่ลึกเกินกว่าที่เราจะก้มตัวลงไปล้วงควักเองได้ เพราะสงสารกระดูกสันหลัง จึงเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยต้องลงมือออกแรงคนเดียว

เมื่อทำให้รูท่อว่างทะลุถึงกันแล้ว ก็เอาน้ำในตุ่มที่รองน้ำฝนไว้เทล้างท่อ ดูการไหลของน้ำจนพ้นออกจากบ้านไปไม่ติดขัด แต่ก็เปลืองน้ำและเหนื่อยด้วย จึงตกลงว่าจะรอให้ฝนตกตอนเย็น จึงจะกลับมากวาดท่อตามน้ำฝนอีกครั้ง แต่วันนั้นฝนก็ไม่ตกแม้จะมืดครึ้มอยู่ทั้งวัน จนเลยเวลาเย็นค่ำย่ำสนธยาไปเป็นชั่วโมง ฝนจึงตกลงมาอย่างหนัก เราก็ดีใจ รีบแต่งตัวรัดกุมสวมหมวกวิศวกรเก่า เอาแปรงถูส้วม ที่ต่อด้ามด้วยไม่ไผ่ยาวทั้งลำ ถูก้นท่อตลอดทางโดยให้น้ำฝนชะล้างขี้โคลนที่เหลืออยู่หลุดไปจนสะอาด เพียงเวลาไม่ถึงชั่วโมงฝนก็หยุด และน้ำที่เต็มเปี่ยมท่อ ก็ไหลออกไปหมด โดยไม่เอ่อเข้าท่วมพื้นบ้านเลย แต่ตนเองรู้สึกหนาวมากกว่าปกติ

ทำให้ดีใจที่ตัดสินใจทำความสะอาดท่อทันเวลาพอดี ไม่เสียดายที่ลงแรงไปทั้งวัน เมื่ออาบน้ำแล้วก่อนนอนก็กินยาแก้หวัดแก้ไข้กันไว้ตามเคย

แต่รุ่งขึ้นก็เป็นหวัดจนได้ ขั้นต้นมีน้ำมูกข้น ไปลึก ๆ จนเจ็บหน้าอกวันต่อมาก็กลายเป็นน้ำมุกไส และตัวร้อนเป็นไข้ วันค่อมาก็ไปแห้ง ๆ และเจ็บคอ วันต่อมาอาการก็เพิ่มปวดเมื่อยไปทั้งตัว ตลอดเวลาก็กินยาสามชั้นกับยาแก้ปวดแก้ไข้ วันละสามมื้อ ห้าวันผ่านไปก็ทุเลาลงบ้าง แต่เนื่องจากต้องโดนละอองฝนทุกวัน เวลาออกไปซื้อหาอาหาร อาการที่ว่าทุเลาก็ไม่หาย เดี๋ยวมากเดี๋ยวน้อย จึงไปหาหมอตี๋ได้ยาแก้หวัดที่ว่าชะงัดนักมาสองแผง พอเริ่มกินก็ถึงเวลาไปหาหมอคลินิกสูงอายุตามนัด ซึ่งเป็นวันพุธ

เช้าไปถึงโรงพยาบาล ๐๖.๓๐ น.วางบัตรนัดได้คิวที่ ๓๐ ไปรอเจาะเลือดจนเวลาเวลา ๐๗.๓๐ น. ผู้ช่วยพยาบาลจะพาไปห้องพิเศษของ วี.ไอ.พี. แต่เราไม่เอาเพราะเคยไปมาหลายครั้งแล้ว คนเจาะเป็นนายทหารหญิงยศ พันเอก แต่ความหาเส้นเลือดจนอ่อนใจ เพราะความชำนาญน้อยกว่า เจ้าหน้าที่ประจำ แม้เส้นเลือดจะหายากแต่ก็เจาะได้นิ่มนวลกว่าเยอะเลย

เสร็จแล้วก็ไปกินอาหารเช้าที่โรงอาหาร เมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. ก็กินโจ๊กหมูใส่ไข่ตามระเบียบ แล้วก็เดินชมตลาดนัดตามเส้นทางที่ผ่าน กลับมารอหมอที่หน้าห้องตรวจของคลินิก เมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. พยาบาลวัดความดันและชั่งน้ำหนัก ซึ่งเป็นปกติแล้ว ก็ควักหนังสือต่วยตูนมาอ่าน รอเรียกเข้าพบหมอตามหมายเลขคิวที่ได้รับ

รออยู่จนเวลา ๑๑.๓๐ เพิ่งเรียกไปถึงเบอร์ ๑๗ จึงขออนุญาตไปกินอาหารกลางวันก่อน กลับมารอที่เดิมเมื่อเวลา ๑๒.๓๐ น. อ่านหนังสือจนหมดเกือบทุกหน้าแล้ว จึงได้รับการเรียกชื่อเข้าพบหมอ เมื่อเวลา ๑๓.๔๕ น.

หมอก็ถามตามเคยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราเอาผ้าปิดปากจมูกเข้าไป จึงบอกว่า เป็นไข้หวัดเพิ่มขึ้น ได้ซื้อยาหมอตี๋มากิน แล้วก็เอาแผงยาให้คุณหมอดู ท่านถามว่าเป็นมากี่วันแล้ว บอกว่าสามวัน ท่านก็ไม่ว่าอะไร

เมื่อรับยากลับมาบ้านแล้ว จึงพบว่าหมอไม่ได้สั่งยาแก้ไข้หวัดให้เลย ที่บ้านก็บอกว่าหมอคงโกรธที่เป็นแล้วไม่ไปหาหมอ มัวซื้อยากินเอง แต่เราคิดในแง่ดีว่า หมอเห็นว่ายาที่ยังเหลืออยู่คงช่วยให้หายได้ จึงไม่สั่งเพิ่ม แต่จะเป็นเพราะเหตุใดเราก็ไม่ว่า ไข้หวัดนั้นเป็นมานับร้อยครั้งในชีวิต ก็กินยาสามัญประจำบ้านหายมาจนป่านนี้ หมอบางคนบอกว่า ไม่รักษาก็ยังหายเลย แต่เห็นว่าตนเองอายุมากแล้วสังขารเสื่อมโทรม ก็ควรจะให้หมอสั่งยาที่ถูกต้องให้

อยู่มาอีกสามวันยังไม่หายจึงไปหาหมอที่ รพ.อีกแห่งหนึ่งเป็นของมูลนิธิเอกชน ก็ได้ยามาสี่รายการคือยาแก้แพ้ ยาแก้อีกเสบ ยาแก้ไอ และยาแกปวดลดไข้ ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านนั่นเอง แต่คราวนี้เสียเงินไปพันกว่าบาท เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นตาแก่หัวดื้อ

กาลเวลาที่ล่วงไป ทำให้คุณหมอที่เคยมีพระคุณ ประคับประคองชีวิตเรา ให้อยู่มาได้ตั้งยี่สิบปีหลังจากเกษียณอายุ เกิดไม่อยากเมตตาคนแก่ที่อวดรู้ดีกว่าหมอ

กาลเวลาทำให้เชื้อโรคเข้มแข็งขึ้น และกาลเวลานั้นกลับทำให้คนอ่อนแอลง สวนทางกัน

เรื่องของตาแก่คนหนึ่ง จึงเป็นเช่นนี้แลหนอ.

#################


Create Date : 22 มิถุนายน 2558
Last Update : 22 มิถุนายน 2558 12:55:56 น. 0 comments
Counter : 334 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.