ความรู้ในโลกนี้เรียนรู้ได้ไม่สิ้นสุด
Group Blog
 
All blogs
 
" กิมย้ง " จอมยุทธ์พู่กันเหล็ก # 1







หากเปรียบผู้อาวุโส " กิมย้ง " เป็นจอมยุทธ์
ก็เปรียบได้กับจอมยุทธ์ที่มี "พู่กันเหล็ก" เป็นอาวุธคู่กาย
และเหล็กนั้นก็เป็น " เหล็กกล้า " ที่ไม่ขึ้นสนิม ไม่เสื่อมสลาย
ไม่สามารถหักทำลายได้ง่ายๆ อย่างเช่นพู่กันทั่วไป

กิมย้ง
"กิมย้ง ในวัย 81ปี"

ณ วันนี้ ผู้อาวุโส "กิมย้ง" มีวัยล่วงเลยถึงขนาดเป็น
คุณปู่ คุณทวดของหลานเหลนมากมาย
ดารานักแสดงหลายต่อหลายคนได้สวมบทบาทตัวละคร
จากงานประพันธ์ของผู้เฒ่า จนโด่งดังสะท้านพิภพ…

ท่านผู้อาวุโส เป็นหนอนหนังสือพันธุ์แท้ เกิดมาเพื่ออ่านหนังสือ
ทำหนังสือ และเขียนหนังสือ เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่...
การอุทิศเหล่านี้ของท่านเป็นที่ประจักษ์เลื่องลือ จนได้รับรางวัลเกียรติยศ,
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ยาวเหยียดเป็นหางว่าว
จากสถาบัน หน่วยงานและประเทศต่างๆ มากมาย จนกล่าวไม่หมดในคราวเดียว...

ท่านผู้อาวุโสยังสร้างความฮือฮาแก่วงการ ด้วยการเข้าศึกษา
ระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ในวัย 81 ปี...

ท่านเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด ก๊วยเจ็ง อึ้งย้ง เอี้ยก้วย เซียวเล้งนึ้ง อึ้งเอี๊ยะสือ
จิวแป๊ะทง อาวเอี๊ยงฮง อุ้ยเสี่ยวป้อ...ฯลฯ

ปกนิยาย
"ปกนิยายกำลังภายในของกิมย้ง"



" กิมย้ง " ซึ่งในภาษาจีนกลางออกเสียงว่า “ จินยง “
เป็นนามปากกาของ " จาเหลียงยง " นักเขียนแดนฮ่องกง
ที่เริ่มเขียนนิยายกำลังภายในตั้งแต่อายุ 31 ปี
และได้แขวนปากกาล้างมือในอ่างทองคำไปแล้วเมื่ออายุ 48 ปี
แต่นิยายของท่านก็ยังเป็นดาวเด่นเหนือนิยายใดในใต้หล้า
และโลกบันเทิงมาถึงครึ่งศตวรรษ นิยายของกิมย้งได้รับการแปล
เป็นฉบับพากษ์ภาษาเกาหลี อังกฤษ ฝรั่งเศส เวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย
นอกจากนี้ ยังมีการนำไปดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์
และบทละครโทรทัศน์อีกนับไม่ถ้วน

ขณะนี้ นิยายกำลังภายในของกิมย้งได้พิชิตยอดขายถึง 300 ล้านเล่มจากทั่วโลก
(อาจถึง 1,000 ล้านเล่มด้วยซ้ำ
หากนับรวมฉบับที่อยู่ในกองหนังสือเถื่อนหรือละเมิดลิขสิทธิ์)

แม้กิมย้งเองได้จัดให้งานเขียนของตน
อยู่ในประเภทนิยายบันเทิงประโลมโลกธรรมดาๆ
อย่างไรก็ตาม หลายคนในวงการก็ยกย่องงานประพันธ์ของกิมย้งว่า
มีคุณค่าเชิงวรรณกรรมอย่างสมบูรณ์ และประสบความสำเร็จ
เช่นเดียวกับ สามก๊ก ซ้องกั๋ง ไซอิ๋ว ด้วยเนื้อเรื่องดี แต่งดี
เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างยาวนาน

นอกจากได้รับการยกย่องเป็นนักเขียนนิยายกำลังภายในมือหนึ่งของโลก
กิมย้ง ยังได้ชื่อว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์และนักเขียนบทบรรณาธิการ
บทวิพากษ์วิจารณ์สังคมมือหนึ่งแห่งฮ่องกงอีกด้วย
ชาวฮ่องกงชอบอ่านบทวิพากษ์วิจารณ์สังคม การเมืองของเขา
กระทั่งผู้นำในกรุงวอชิงตันก็ติดตามบทวิพากษ์วิจารณ์ของเขา
เก็บไว้ในแฟ้มข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ในการมองสังคมจีน

นสพ.หมิงเป้า
“หมิงเป้า” ซึ่งมีทั้งฉบับรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน ที่กิมย้งร่วมเป็นหัวเรือใหญ่


...กิมย้งเล่าเรื่องชีวิตตัว...

ในปี 2549 กิมย้งได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประวัติชีวิตของท่านว่า
เริ่มอ่านหนังสืออย่างดุเดือดตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อตอนอายุ 9 ขวบ
ก็อ่านทั้งนิยายของจีนทั้งหมด และนิยายแปลของต่างประเทศ
ในวัยเยาว์ได้อ่านวรรณกรรมคลาสสิกทั้ง 4 เรื่องของจีน ได้แก่
สามก๊ก ((三国演义)) ซ้องกั๋ง ((水许传)) ไซอิ๋ว ((西游记))
และความฝันในหอแดง ((红楼梦))

กิมย้ง เล่าถึงวิธีอ่านหนังสือของตนว่า
อ่านแบบละเอียดยิบทุกตัวอักษร โดยเฉพาะหนังสือภาษาอังกฤษ
เมื่อเจอตัวที่ไม่รู้ความหมายก็จะเปิดพจนานุกรมทันที ถ้ายังไม่เจอ
ก็จะรีบหาพจนานุกรมเล่มใหญ่มาค้นดู...ให้ถึงที่สุด
ซึ่งเปลืองเวลาและเรี่ยวแรงมาก “มันดูเป็นวิธีอ่านหนังสือที่โง่
แต่นานเข้าๆ การอ่านหนังสือก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายหมูๆ”

กิมย้ง แจงประโยชน์จากการอ่านหนังสือว่ามีมากมาย
ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ยามที่รู้สึกโดดเดี่ยวเหงา
ทุกข์ยากกลัดกลุ้มใจ และไม่มีใครเลย เมื่ออ่านหนังสือก็จะรู้สึกดีขึ้น
การอ่านหนังสือทำให้จิตใจดีงาม “ผมหวังว่านิยายของผม จะให้เยาวชน
มีสำนึกช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม มีความคิดความอ่านรู้จักผิดชอบชั่วดี”

ลีหมกโช้ว
นิยายกิมย้งยังมีจุดเด่นในการเจาะลึกธรรมชาติมนุษย์
ในภาพ: หลีม่อโฉว(ลีหมกโช้ว) จากเรื่องมังกรหยก 2
หญิงสาววรยุทธร้ายเหลือผู้พ่ายแพ้แก่ชะตาชีวิต
จากการผิดหวังในความรัก จนกลายเป็นนางร้ายใจคอโหดเหี้ยม


เนื่องจากมีผู้อ่านจำนวนมากชอบเรื่องอุ้ยเซี่ยวป้อ กิมย้งได้เตือนว่า
“อย่าเอาอย่างอุ้ยเซี่ยวป้อ ผมสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา
เพื่อสะท้อนยุคสมัย ไม่ได้สะท้อนความชอบคนบุคลิกแบบนี้”
และยังได้กล่าวขอโทษ เกี่ยวกับข้อมูลประวัติศาสตร์ที่ผิดเพี้ยนในบางจุด
โดยเฉพาะเรื่องของ อิ่นจื้อผิง ((尹志平)) ที่ให้ภาพลักษณ์ไม่ดี
และส่งผลด้านลบแก่สำนึกคิดเต๋า ในฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่
ได้ตัดตัวอิ่นจื้อผิงออกไป

อุ้ยเซี่ยวป้อ
“ ปกลู่ติ่งจี้ หรือ อุ้ยเซี่ยวป้อ “ ฉบับภาษาอังกฤษ The Deer and The Cauldron
นิยายกำลังภายในเรื่องสุดท้ายของกิมย้ง ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาก


นอกจากนี้ กิมย้ง ยังแสดงความรู้สึกไม่พอใจ
ต่อการนำนิยายของเขาไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์
ที่หลายๆครั้งมักขาดชีวิตขาดอารมณ์ กลายเป็นเรื่องที่แข็งกระด้างไป
กิมย้ง กล่าวว่า งานของเขานั้น แก้ให้น้อยดีกว่า ไม่ปรับเปลี่ยนเลยก็จะดีที่สุด

หันมาพูดถึงโชคความสุขในชีวิต กิมย้ง บอกว่า
“โชคดีที่สุดในชีวิตของผมคือ พ่อแม่ไม่ตาย
พวกเราได้ฝ่าฟันยุคสงครามกันมา ต้องนอนคว่ำหน้าบนพื้นกันหลายครั้ง
รอบๆ ตัวมีแต่ระเบิด ปืนกลตระเวนส่องไปมา ตอนที่ต้องระหกระเหินพเนจร
สวมเพียงรองเท้าหญ้าฟาง หนาวมากๆ อีกทั้งไม่มีข้าวกิน
ทุกวันนี้ เมื่อคิดถึงชีวิตที่ลำบากเหล่านี้ รู้สึกเป็นการฝึกการต่อสู้ที่ดีมาก
ผมไม่กลัวตายเลย”

ความสนใจส่วนตัวทุกวันนี้ ก็ยังเป็นการอ่านหนังสือ
“หากมีทางเลือก 2 ทาง คือ ให้ติดคุก 10 ปี แต่มีเสรีภาพในการอ่านหนังสือ
กับอีกทางคือ มีเสรีภาพในโลกภายนอก แต่ไม่สามารถอ่านหนังสือ
ผมขอเลือกทางแรกคือ ขอติดคุกดีกว่า”

ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวซินหัวได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ กิมย้ง
ที่เพิ่งได้รับปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์มาหมาดๆ (สัมภาษณ์ในปี 2548)
โดยเขาเริ่มต้นเล่าว่า คุณแอลิสัน ริชาร์ด ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์
ได้อ่านนิยายกำลังภายในของเขาเรื่อง “อุ้ยเสี่ยวป้อ” ภาคภาษาอังกฤษ
แล้วรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมาก จึงได้เสนอชื่อเขาแก่คณะกรรมการ
ให้พิจารณามอบปริญญาดังกล่าวให้ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ถือเป็นปริญญาระดับสูงสุดของแคมบริดจ์ และไม่ใช่ได้กันง่ายๆ

แม้ว่า กิมย้งจะสามารถคว้าปริญญาสูงสุดมาครอบครองแล้ว
แต่เขาก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะเขายังคิดที่จะศึกษาต่อ
ในระดับปริญญาเอกอีก แม้ปัจจุบันอายุอานามจะปาเข้าไป 81 ปีแล้วก็ตาม

“ผมไม่หวังปริญญา แค่อยากได้ความรู้เท่านั้น
ผมดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถาบันวรรณกรรม มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง
แต่มีคนพูดว่า ความรู้ของผมยังไม่ดี ไม่เหมาะที่จะนั่งตำแหน่งนี้
เขาตำหนิผม ผมเถียงไม่ออก หนทางเดียวก็คือ ต้องเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง
ตอนนี้ผมได้ทำเรื่องลาหยุดกับทางมหาวิทยาลัยแล้ว
เพื่อที่จะมาเรียนต่อที่แคมบริดจ์”

รับปริญญา
'จาเหลียงยง' หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม 'กิมย้ง'
รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (22 มิ.ย.48)
จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ประเทศอังกฤษ


เหตุที่เรียนต่อก็เพื่อต้องการลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ?

“ผมไม่ได้เรียนหนังสือเพื่อคนอื่น คนอื่นวิจารณ์ผม
ถ้าผมมีข้อเสียจริงก็พร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุง คนเราล้วนมีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น
การเรียนหนังสือก็เพื่อประโยชน์ของตัวเองน่ะ”
โดยกิมย้งเองคาดว่าจะใช้เวลา 4 ปี ในการศึกษาระดับปริญญาโท 1 ปี
และปริญญาเอก 3 ปี แต่ขณะนี้ ทางแคมบริดจ์ยังไม่ได้รับกิมย้งเข้าศึกษา
อย่างเป็นทางการ เนื่องจากมองว่า เขาได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ซึ่งถือว่าสูงที่สุดแล้ว ถ้าหากกลับมาเป็นนักศึกษาอีก
เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม
ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในท่านนี้ก็ยังยืนยันความตั้งใจของตัวเอง
และหวังว่า ทางแคมบริดจ์จะไฟเขียวให้เขาได้เข้าเรียน

ส่วนเรื่องงานเขียนนั้น เขาตั้งใจว่าอยากจะเขียนหนังสือประวัติศาสตร์จีน
ที่เข้าใจง่ายให้นักเรียนมัธยมอ่าน โดยกิมย้งรู้สึกว่า ปัจจุบันคนที่เขียนตำรา
ประวัติศาสตร์นั้น เขียนลึกซึ้งเกิน แม้แต่นักศึกษามหาวิทยาลัยยังอ่านไม่เข้าใจ นอกจากงานเขียนตำราแล้ว ระหว่างศึกษาที่แคมบริดจ์
กิมย้งก็อาจจะเขียนงานอื่นๆ ด้วย

ดาบมังกรหยก
"ปกอี่เทียนถู่หลงจี้ หรือ ดาบมังกรหยก"

แต่สำหรับนิยายกำลังภายในนั้น เจ้าตัวยืนยันว่า จะไม่เขียนอีกแล้ว
โดยให้เหตุผลว่า “ผลงานนิยายกำลังภายในของผมเยอะมาก
เรื่องยาวมีถึง 15 เรื่อง อ่านทีก็ต้องใช้เวลามากพอสมควร
สำหรับนักเขียน สามารถเขียนได้ถึง 15 เรื่อง ถือว่าไม่ผิดต่อผู้อ่านแล้ว
มีน้อยคนนักที่ทำได้แบบนี้ ผมอายุปูนนี้ไม่มีความสามารถในการจินตนาการแล้ว
ปล่อยให้คนหนุ่มสาวเขาเขียนเถอะ”

“ผมรู้ว่า มีพวกเด็กรุ่นหลังบางคนมาขโมยคัดลอกงานผม
ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายนะ แต่ผมไม่คิดจะเอาเรื่องพวกเขาหรอก
ผมหวังว่านักเขียนรุ่นใหม่จะไม่ก็อปปี้งานของผม.....
ในฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ล้วนมีกฎหมายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาทั้งสิ้น
ถ้าแผ่นดินใหญ่ไม่สามารถควบคุมตรงนี้ได้ก็จะขายหน้าคนอื่นเขา”"

ในระหว่างการสนทนานักข่าวตั้งข้อสังเกตว่า กิมย้งท่าทางดูเป็นสุภาพชน
ทำไมจึงสามารถสร้างจอมยุทธที่ชอบซดเหล้าชามโตๆ
อ้าปากกว้างๆ กินอาหาร ได้

“การเขียนนิยายถือเป็นการทดแทนส่วนที่ขาดหายไปอย่างหนึ่ง
ผมดื่มเหล้าไม่เป็น จึงได้สร้างตัวละครอย่าง "เฉียวฟง"
ที่มีความสามารถในการดื่มเหล้าขึ้นมา อะไรที่ผมไม่มี
ผมก็จะเขียนขึ้นในนิยาย ในบรรดาตัวละครที่ผมแต่งขึ้นมา
ไม่มีตัวไหนที่เหมือนผมเลย บางตัวนิสัยดีมาก ผมอยากจะทำให้ได้อย่างพวกเขา
อย่างเช่น "ต้วนอี้ เตียบ่อกี้" ซึ่งเป็นตัวละครที่เวลามีใครมาคุกคาม
ก็มักจะยิ้มแล้วก็ผ่านเลยไป ไม่เก็บเอามาใส่ใจ ผมรู้สึกอิจฉาคนแบบนี้มาก”

นิยายกิมย้ง
" อุ้ยเสี่ยวป้อ (ซ้าย) และ แปดเทพอสูรมังกรฟ้า "

ส่วนตัวเอก 'อุ้ยเสี่ยวป้อ' นั้น แตกต่างจาก พระเอกในเรื่องอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง
“อุ้ยเสี่ยวป้อ ถือเป็นตัวแทนของชาวจีนนิสัยแย่ ในสังคมที่ไร้ระเบียบ
ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่าง แต่การกระทำของเขาก็เป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปในจีนยุคนี้
เขาติดสินบนคนอื่น แล้วก็รับสินบนด้วย เรื่องอะไรไม่ดีก็ทำหมด ไม่ใช่คนดี”

ดังนั้น ก่อนหน้านี้จึงมีข่าวว่า กิมย้งคิดแก้เผ็ดอุ้ยเสี่ยวป้อ
ด้วยการปรับแก้ตอนจบ ให้ไม่สมหวังอย่างในต้นฉบับเดิม
โดยจะให้อุ้ยเสี่ยวป้อติดการพนัน ผลาญสมบัติเกือบหมด
บรรดาภรรยาต่างตีจาก จาก 7 คนเหลือเพียง 1-2 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ กิมย้งก็ยังไม่ได้ปรับแก้แต่อย่างใด
โดยเขาให้เหตุผลว่า “ผมขอความคิดเห็นจากผู้อ่าน
หลายคนไม่เห็นด้วยให้เปลี่ยนแบบนี้”

พร้อมเล่าต่อว่า “ตอนนี้ ผมได้ปรับแก้เรื่อง ‘8 เทพอสูรมังกรฟ้า’
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นฉบับเดิมระบุว่า ต้วนอี้ชื่นชอบหวังอี่ว์เยียน
เพราะหน้าตาที่สดสวยงดงาม แต่ที่จริงแล้วเธอนิสัยไม่ดี
หลังจากปรับแก้แล้ว ต้วนอี้ในที่สุดจะตาสว่าง
แล้วก็ไม่ชอบหวังอี่ว์เยียนอีกต่อไป”

เซียวเล้งนึ่ง
"เซียวเล้งนึ่ง" ผู้กบฏต่อระเบียบแบบแผนสังคมอย่างไม่รู้ตัว
จากการเติบโตในธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดขัดแย้งที่ลึกซึ้งมาก
จากตรงนี้ เซียวเล้งนึ่งดูจะเป็นคนในอุดมคติของสำนักคิดเต๋า
ซึ่งขัดแย้งกับขงจื่อ
ในภาพ: หลิวอี้เฟย สวมบทเซียวเล้งนึ่ง แห่งมังกรหยกภาค 2


สุดท้ายนักข่าวได้สอบถามถึงชีวิตปัจจุบันของกิมย้ง ซึ่งเขาเล่าว่า
“ตอนนี้ก็นับว่าดี มีอิสระเสรี มีความสุขดี ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือหาความรู้
รู้สึกสบายใจ ถ้ามีพระเจ้าจริงๆ ผมก็รู้สึกว่าท่านดีต่อผมไม่น้อยเลย”


***ขอขอบคุณ (Thank You) ที่มาของข้อมูล, บทความและภาพประกอบ

-ผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2548
//www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9480000083231
- ผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2549
//www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000101008





Create Date : 02 กันยายน 2550
Last Update : 3 กันยายน 2550 11:39:10 น. 6 comments
Counter : 1494 Pageviews.

 
ชื่อนี้คุ้นๆ แหะ กิมย้ง


โดย: หลังคาดำแดง วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:11:54:33 น.  

 
พี่เราแฟนพันธ์แท้เมืองจีนนี่นา

ขยันจริงๆ


โดย: แม่โบนัส IP: 202.246.252.97 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:15:15:10 น.  

 
หวัดดีค่ะน้องปักกิ่ง

กิมย้ง นึกว่าเป็นผู้หญิงซะอีกค่ะ



โดย: ป้าซิ่ง IP: 218.46.74.93 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:17:12:12 น.  

 
ใช่ ๆ นึกว่าเป็น ญ

หวัดดีจ้าน้องสาว


โดย: สายลม...แห่งรัก IP: 203.113.71.108 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:53:17 น.  

 
ยู้เชื่อไหม ...สมัยเด็กๆ จนถึงสาวๆ ป้าสุนี่ล่ะ แฟนหนังสือกำลังภายในตัวยงเลย บางคืนอ่านถึงตี ๓ ไม่จบไม่ยอมนอน .เมื่อก่อนก็เช่าอ่าน บางที เช่ามาทีละครึ่งเรื่อง พอไปเช่าต่อ ..อ้าว มีไม่ครบเล่มอีก แล้วนิยายของกิมย้งที่ยู้เอาลงนี่ ป้าสุอ่านเกือบทุกเรื่องเลยนะ


โดย: ป้าสุ (Munro ) วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:22:33:20 น.  

 
- สวัสดีค่ะพี่ชาญ คุ้นๆ เนอะ ชื่อเนี๊ยะ

- สวัสดีจ้า นู๋ทิพย์ ไม่ได้ซิก็คนมันรักนี่นา

- สวัสดีค่ะพี่เหนา, พี่กิ้น เป็นผู้ชายค่ะพี่
ถึงได้มีจินตนาการเรื่องกำลังภายในเพียบเลย

- ว๊าว แฟนพันธุ์แท้กิมย้งมาเองเลย สวัสดีค่ะ ป้าสุ


โดย: peijing วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:19:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

peijing
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]







More Cool Stuff At POQbum.com

Friends' blogs
[Add peijing's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.