|
" กิมย้ง " จอมยุทธ์พู่กันเหล็ก # 2
....ชีวิต...งาน....เกียรติยศ... จินตนาการไม่ออกเลยว่า หากไม่มีนิยายกำลังภายในของกิมย้ง โลกวรรณกรรมแห่งศตวรรษที่ 21 คงจะจืดชืดไปถนัด คุณจา (จาเหลียงยง) ได้พิสูจน์มุมมองทฤษฎีอย่างหนึ่งของวรรณกรรมบริสุทธิ์ ..... ว่าสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่เขียนอะไร แต่อยู่ที่เขียนอย่างไร อี่ว์ฮุ่ย ((宇慧))
"ผู้อาวุโส กิมย้ง ในวันนี้"
ข้อมูลส่วนตัว:
ชื่อ: จินยง (กิมย้ง) ชื่อเดิม: จาเหลียงยง ชื่อภาษาอังกฤษ: Louis Cha วันเดือนปีเกิด: 6 มิถุนายน ค.ศ.1924 ( พ.ศ. 2467) ปัจจุบัน (ปี 2007) อายุ 83 ปี ศาสนา: พุทธ บ้านเกิด: เขตไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียงแห่งภาคตะวันออกของจีน ครอบครัว: เป็นบุตรคนที่สองของตระกูลที่มีฐานะ และมีการศึกษา
สิ่งที่ชอบที่สุด:
นักเขียน: จีน > เสิ่นฉงเหวิน, ต่างประเทศ > อเล็กซานเดอร์ ดูมาส์ กวี: ซูตงปอ บุคคลในประวัติศาสตร์: ฟ่านหลี่ และ จางเหลียง อาหาร: ขนมหวาน ดนตรีที่ชอบ: เพลงอุปรากรจีนหรืองิ้วผิงจี้ว์( (评剧)) ซึ่งเป็นงิ้วของชาวจีนในฮวาเป่ย ตงเป่ย อยู่บริเวณเหนือปักกิ่งขึ้นไป ประเภทภาพยนตร์: ภาพยนตร์เพลงยุคเก่า ภาพยนตร์เพลง-เต้นรำ ยุคสมัย: ราชวงศ์ถัง เมืองที่อยากไปอยู่ที่สุด: หังโจว สิ่งที่อยากทำ: เรียนต่อ, เป็นนักวิชาการ
แปดเทพอสูรมังกรฟ้า จีนแผ่นดินใหญ่ได้คัดเลือกตอนที่ 41 ของแปดเทพอสูรมังกรฟ้าเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของเด็กนักเรียนชั้นมัธยม
การศึกษา:
เริ่มการศึกษาปี ค.ศ. 1929 ที่โรงเรียนเจียเซียง ไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียง - ปี ค.ศ.1944 เข้าเรียนในภาควิชาภาษาต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยการเมืองแห่งรัฐบาลกลาง( (中央政治大学)) - ปี ค.ศ. 1946 ได้ย้ายมาเรียนที่ภาควิชากฎหมาย มหาวิทยาลัยตงอู๋ แห่งเซี่ยงไฮ้ เอกกฎหมายระหว่างประเทศ - ปี ค.ศ. 2005 ได้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ - ปี ค.ศ. 2006 ศึกษาปริญญาเอก ในภาควิชาการศึกษาตะวันออก เอกประวัติศาสตร์จีน ที่ เซนต์ จอห์น คอลเลจ มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์
กระแส "กิมย้งฟีเวอร์" ร้อนแรงในไต้หวัน ถึงขนาดสำนักพิมพ์ในไต้หวันและ ธนาคารจงกั๋วซ่งหยิน ได้จับมือกันทำเครดิตการ์ดรุ่น "กิมย้ง" โดยออกแบบพิมพ์ลายสือศิลป์ชื่อนิยายกิมย้งบนหน้าบัตร
อาชีพการงาน:
- ปี ค.ศ. 1947 เริ่มเข้าสู่วงการหนังสือพิมพ์ที่เซี่ยงไฮ้ เป็นผู้สื่อข่าวและนักแปล ประจำหนังสือพิมพ์ต้ากงเป้า( (大公报)) ต่อมาได้ย้ายไปประจำที่ฮ่องกง โดยนั่งตำแหน่ง Copy Editor
- ปี ค.ศ. 1955 เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ ซินหวั่นเป้า ((新晚报)) ที่นี่เอง กิมย้งได้พบกับ เฉินเหวินถง ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน เฉินได้สร้างแรงบันดาลใจแก่กิมย้งในการเขียนนิยาย - ปี ค.ศ. 1955 เริ่มเขียนนิยายกำลังภายในเรื่องแรกเป็นตอนๆ ลงในซินหวั่นเป้า คือ เรื่อง จอมใจจอมยุทธ ((书剑仇恩录) โดยใช้นามปากกาจินยงหรือกิมย้ง - ปี ค.ศ. 1957 ลาออกจากงานหนังสือพิมพ์ มาเป็นผู้กำกับด้านฉาก และ ผู้เขียนบท ที่ เกรทวอลล์ มูวี่ฟ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ และบริษัทโฟนิกซ์ ฟิลม์ ระหว่างนี้ ก็ยังเขียนนิยายกำลังภายในเป็นตอนๆ - ปี ค. ศ. 1959 หวนกลับสู่วงการน้ำหมึก โดยจับมือกับ "เสิ่นเป่าซิน" เพื่อนร่วมชั้นเรียนระดับมัธยม ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ "หมิงเป้า" ในฮ่องกง โดยอยู่ในตำแหน่งบรรณาธิการใหญ่เป็นเวลาหลายปี เขียนบทบรรณาธิการ และนิยายเป็นตอนๆ หมิงเป้าสร้างชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ชั้นนำยอดนิยมแห่งฮ่องกง - ปี ค.ศ.1972 เขียนนิยายกำลังภายในเรื่องสุดท้ายคือ "อุ้ยเซี่ยวป้อ ((鹿鼎纪))" พร้อมประกาศวางปากกาอย่างเป็นทางการ จากนั้น ได้ใช้เวลาหลายปีในการทบทวนและแก้ไขปรับปรุงงานเขียนของตน
ระหว่างนั้น นิยายกำลังภายในภายใต้นามปากกา "กิมย้ง" ได้รับความนิยมอย่างมากมายมหาศาลจนกลายเป็น "กิมย้งฟีเวอร์" ในหมู่คนที่พูดภาษาจีนในดินแดนต่างๆ ขณะเดียวกัน ก็ได้รับการนำไปสร้าง ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ นำเสนอเป็นตอนๆ ตลอดจนละครวิทยุ และ งิ้วในฮ่องกง ไต้หวัน และแผ่นดินใหญ่ - ช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 จาเหลียงยง/กิมย้ง ได้เข้าร่วมเคลื่อนไหวกิจกรรม การเมืองในฮ่องกงเป็นหนึ่งในผู้ร่างกฎหมายแม่บทซึ่งเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฮ่องกง (Basic Law) ภายหลังเหตุการณ์ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนเหมินในปี ค.ศ.1989 จาเหลียงยง/กิมย้ง ได้ลาออกจากสังเวียนการเมือง แต่ก็ยังเข้าร่วมเป็น คณะกรรมาธิการเตรียมการที่จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 เพื่อดูแลการถ่ายโอนอำนาจปกครองฮ่องกงสู่รัฐบาลกลางแห่งปักกิ่ง - ปี ค.ศ. 1993 จาเหลียงยง/กิมย้ง อำลางานหนังสือพิมพ์ ขายหุ้นในหมิงเป้า โดยมีสินทรัพย์จากการขายหุ้นหมิงเป้า และค่าลิขสิทธิ์ หรือ ค่าโรยัลตี้ จากงานของเขารวมประมาณ 600 ล้านเหรียญฮ่องกง
" นิยายกิมยังยืนยงในโลกบันเทิงทั้งจอเงิน จอแก้ว ในภาพ: คู่ขวัญยอดนิยมในภาพยนตร์มังกรหยกภาคแรก ก๋วยเจ๋งและอึ้งย้ง ภาพบนสุดเวอร์ชั่นปี 1983 ของ TVB-ฮ่องกง สวมบทบาทโดยหวงเย่อหัว-องเหม่ยหลิง ภาพกลางเวอร์ชั่นปี 1994 ของTVB-ฮ่องกง สวมบทโดยจางจื่อหลิน-จูอิน ภาพล่างเวอร์ชั่นปี 2003 ของCCTV สวมบทโดยหลี่ย่าเผิง-โจวซิ่น "
เกียรติประวัติ:
จาเหลียงยง/กิมย้ง ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์มากมายจากประเทศต่างๆ ของโลก อาทิเช่นรางวัลเกียรติยศจากฝรั่งเศส ได้แก่ - Chevalier de la Legion dHonneur (1992) - Commandeur de lOrdre des Arts et des Letteres (2004) และได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากอังกฤษ OBE Order of the British Empire ตลอดจนได้รับปริญญาดุษฎีกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2005 จาเหลียงยง/กิมย้ง ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นอาจารย์กิตติมศักดิ์ จากกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้แก่ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง, มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง, มหาวิทยาลัยหนันคาย, มหาวิทยาลัยชูโจว, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว, มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหัว, มหาวิทยาลัยฮ่องกง, มหาวิทยาลัยบริชติชโคลัมเบีย, มหาวิทยาลัยเสฉวน, มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์
นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของเซนต์ แอนโทนี่ คอลเลจ, ออกซ์ฟอร์ด& โรบินสัน คอลเลจ, แคมบริดจ์ และ Wynflete Fellow ของ แมกดาเลน คอลเลจ, ออกซ์ฟอร์ด
...นิยายกำลังภายใน 15 เรื่อง จากพู่กันเหล็ก
กิมย้ง/จาเหลียงยง ได้รังสรรค์งานเขียนทั้งหมด 15 เรื่องด้วยกัน โดยเป็นนิยายกำลังภายใน 14 เรื่อง มีเพียง เยี่ยว์หนู่เจี้ยน ((越女剑)) เรื่องเดียวที่เป็นเรื่องสั้น นอกจากนี้ ยังมีงานเขียนประเภทอื่นๆได้แก่ บทบรรณาธิการ, บทวิพากษ์วิจารณ์สังคม, ปกิณกะ, เรื่องแปล และบทภาพยนตร์ สำหรับนิยายกำลังภายใน ที่สร้างชื่อให้แก่กิมย้ง (เรียงลำดับตามการเขียนและการเผยแพร่) ได้แก่
1. ซูเจี้ยนเอินโฉวลู่ (书剑恩仇录) ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดอะ นิวส์ อีฟนิ่ง โพสต์ ปี 1955 ฉบับพากษ์ไทยโดย น.นพรัตน์ใช้ชื่อเรื่อง จอมใจจอมยุทธ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับภาพยนตร์โทรทัศน์
"ปก 'ซูเจี้ยนเอินโฉวลู่ หรือ จอมใจจอมยุทธ' ฉบับภาษาญี่ปุ่น นิยายกำลังภายในเรื่องแรกของกิมย้ง"
2. ปี้เสี่ยว์ซัน (碧血剑) ตีพิมพ์ครั้งแรกในฮ่องกง คอมเมอร์เชียล เดลี่ ปี 1956 ฉบับพากษ์ไทยของ จำลอง พิศนาคะ และ น.นพรัตน์ รวมทั้งบทภาพยนตร์ ซึ่งถอดเสียงจากชื่อเรื่องภาษาจีน(แต้จิ๋ว) เพ็กฮวยเกี่ยม 3. เส้อเตียวอิงสงจ้วน (射雕英雄传) ตีพิมพ์ครั้งแรกในฮ่องกง คอมเมอร์เชียล เดลี่ ปี 1957 ฉบับพากษ์ไทยโดยจำลอง พิศนาคะ ใช้ชื่อเรื่อง มังกรหยก ภาค 1 ส่วนฉบับพากษ์ไทยของ น.นพรัตน์ ใช้ชื่อ ก๊วยเจ๋ง ยอดวีรบุรุษ
" มังกรหยก ภาค 1 และ 2 " 4. เสี่ยว์ซันเฟยหู (雪山飞狐) เริ่มตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์หมิงเป้าในปี 1959 ฉบับพากษ์ไทยของ น.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง จิ้งจอกภูเขาหิมะ ส่วนภาพยนตร์โทรทัศน์ไทยก็ใช้ชื่อเดียวกันนี้
5. เสินเตียวเสียหลู่ (神雕侠侣) เริ่มตีพิมพ์ ในปี 1959 ฉบับพากษ์ไทยโดย จำลอง พิศนาคะใช้ชื่อเรื่อง มังกรหยก ภาค 2 ส่วนฉบับพากษ์ไทยของ น.นพรัตน์ใช้ เอี้ยก้วย เจ้าอินทรี และ ว.ณ.เมืองลุงใช้ อินทรีเจ้ายุทธจักร 6. เฟยหูไหว่จ้วน (飞狐外传) เริ่มตีพิมพ์ในปี 1960 ฉบับพากษ์ไทยของน.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง จิ้งจอกอหังการ 7. ไป๋หม่าเซี่ยวซีเฟิง (白马啸西风) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหมิงเป้าปี 1961 ฉบับพากษ์ไทยของ น.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง เทพธิดาม้าขาว
" เทพธิดาม้าขาว (ไป๋หม่าเซี่ยวซีเฟิง) ฉบับภาษาไทยโดย น.นพรัตน์ "
8. ยวนยัง เตา (鸳鸯刀) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหมิงเป้าปี 1961 ฉบับพากษ์ไทยโดย น.นพรัตน์ใช้ชื่อเรื่อง อวงเอียตอ สำหรับ อวงเอียตอ ฉบับภาษาไทยนี้ รวมเล่มเดียวกับ กระบี่นางพญา
9. อี่เทียนถู่หลงจี้ (倚天屠龙记) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหมิงเป้าปี 1961 ฉบับพากษ์ไทย โดยจำลอง พิศนาคะ ใช้ชื่อเรื่อง มังกรหยกภาคสามและสี่ สำหรับฉบับแปลโดย น.นพรัตน์ใช้ชื่อเรื่อง ดาบมังกรหยก" 10. เหลียนเฉิงเจี๋ยว์ (连城诀) ตีพิมพ์ครั้งแรกในเซาท์ อีสต์ เอเชียวีคลี่ ปี 1963 ฉบับแปลพากษ์ไทยของ น.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง หลั่งเลือดมังกร ต่อมาผู้แปลคนเดียวกันใช้ชื่อเรื่องใหม่ว่า กระบี่ใจพิสุทธิ์ ส่วนภาพยนตร์โทรทัศน์ใช้ชื่อ มังกรสะท้านบู๊ลิ้ม 11. เทียนหลงปาปู้ (天龙八部) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1963 ฉบับพากษ์ไทยโดย น.นพรัตน์ใช้ชื่อเรื่อง แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ส่วนฉบับแปลโดยจำลอง พิศนาคะ ชื่อเรื่อง มังกรหยกภาคห้า หรือ มังกรหยกภาคสมบูรณ์ 12. เสียเค่อสิง (侠客行) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1965 ฉบับพากษ์ไทยโดยน.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง เทพบุตรทลายฟ้า
" เทพบุตรทลายฟ้า (เสียเค่อสิง ) แปลโดย น.นพรัตน์ "
13. เซี่ยวอาวเจียงหู (笑傲江湖) ตีพิมพ์ครั้งแรกในหมิงเป้าปี 1967 ฉบับพากษ์ไทยโดยน.นพรัตน์ใช้ชื่อเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร 14. ลู่ติ๋งจี้ (鹿鼎记) ตีพิมพ์ปี 1969-1972 ฉบับพากษ์ไทยโดย น.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง อุ้ยเซี่ยวป้อ 15. เยี่ยว์หนี่ว์เจี้ยน (越女剑)* ตีพิมพ์ 1970 ฉบับพากษ์ไทยโดย น.นพรัตน์ ใช้ชื่อเรื่อง กระบี่นางพญา สำหรับภาพยนตร์โทรทัศน์ใช้ชื่อเรื่องเดียวกันนี้ สำหรับ กระบี่นางพญา ฉบับภาษาไทยนี้ รวมเล่มเดียวกันกับ อวงเอียตอ และ เทพธิดาม้าขาว *ชื่อเรื่องแปลว่า จอมยุทธสาวแห่งแคว้นเยี่ยว์ (แคว้นเยี่ยว์แห่งยุคชุนชิว จ้านกั่ว 770-221 ก่อนคริสต์ศักราช อยู่บริเวณที่เป็นมณฑลเจ้อเจียงปัจจุบัน ในยุคนั้น เป็นดินแดนของคนที่พูดภาษาตระกูลไท)
" ปกเยี่ยว์หนี่ว์เจี้ยน ฉบับภาษาญี่ปุ่น "
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1970 ถึงค.ศ. 1980 กิมย้งได้ปรับปรุงแก้ไข งานประพันธ์ของตนทั้งหมด และได้ระบุกำกับเป็น ฉบับปรับปรุงใหม่ และระหว่าง ปี ค.ศ.1999 - ค.ศ.2006 ยังได้ปรับปรุงแก้ไขนิยายเหล่านี้ เป็นครั้งที่ 2 (อาจเป็นครั้งสุดท้าย) และเสร็จเรียบร้อยในต้นปี ค.ศ. 2006 *สำหรับเรื่อง ลูติ่งจี้ หรืออุ้ยเสียวป้อ หากใครที่อ่านภาษาจีน อยากหาซื้อ ฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด สังเกตคำว่า 世纪新修版 (ฉบับปรับปรุงใหม่แห่งศตวรรษ ) หรือ 新修版 หรือ 新新修版 ไม่ใช่ 新版 ฉบับแก้ไขปรับปรุงล่าสุดนี้ กิมย้งได้ตอบ กระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ ในงานชิ้นนี้ของเขาไว้ด้วย
...มีอะไรในดงอักษรของกิมย้ง
สำหรับสารัตถะของนิยายของกิมย้ง มักมุ่งไปที่ลัทธิชาตินิยมจีน นิยายหลายเรื่องของเขาให้ความสำคัญอย่างมากแก่อัตลักษณ์ของชาวฮั่น(จีน) งานหลายชิ้น เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ในช่วงที่ฮั่นถูกคุกคามหรือยึดครอง โดยชนชาติจากดินแดนเหนือ อาทิ คีตัน, หนี่ว์เจิน, มองโกล หรือแมนจู
อย่างไรก็ตาม กิมย้งก็ค่อยๆ ผนวกลัทธิชาตินิยมจีนเข้ากับแนวคิด ของนักลัทธิผสมผสาน (inclusionist) ซึ่งได้รวมฮั่นเข้ากับชนส่วนน้อย กิมย้งยังได้แสดงความชื่นชมต่อความโดดเด่นทางบุคลิกของชนเผ่าอื่นอย่าง มองโกล และ แมนจู อาทิ ใน "มังกรหยกภาค 1" กิมย้งได้กำหนดเจงกิสข่านและ บุตรชาย เป็นผู้ทรงความสามารถ เป็นผู้นำทหารที่ปราดเปรื่อง ต่อสู้กับคอรัปชั่น และข้ารัฐการที่ไร้น้ำยาของฮั่นในยุคราชวงศ์ซ่ง ใน "อุ้ยเซี่ยวป้อ" เขายังฉาย ภาพลักษณ์ของจักรพรรดิคังซีแห่งแมนจู เป็นผู้ปกครองที่ทรงพระเมตตา และปรีชาสามารถ นอกจากนี้ นิยายของกิมย้งยังมักได้รับสมญาว่าเป็นเอ็นไซโครพีเดีย เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี จารีตขนบธรรมเนียมของชนชาติจีน ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรมด้านยาแผนจีน การฝังเข็ม ศิลปะการต่อสู้ ดนตรี ลายสือศิลป์ ชา รวมทั้งเรื่องราวของสำนักคิดต่างๆ อย่าง ขงจื่อ พุทธ และเต๋า ตลอดจนประวัติ ศาสตร์ราชวงศ์จีน บุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ถูกผสมผสานเข้กับบุคคล ที่จินตนาการขึ้น งานประพันธ์ของกิมย้งยกย่องเชิดชูคุณค่าประเพณีจีนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดของขงจื่อ ที่ชี้แนะความสัมพันธ์ที่เหมาะสมระหว่าง ผู้ปกครองและประชาชน พ่อกับลูก ผู้อาวุโสและผู้น้อย อาจารย์กับศิษย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บางครั้ง เขาก็ได้ตั้งคำถามกับคุณค่าเหล่านี้ในเงื่อนไขของสังคม ยุคสมัยใหม่ ดังที่สะท้อนในมังกรหยกภาคสอง จากชีวิตที่ถูกขับออกจากสังคม และความรักแสนโรแมนติกระหว่างหยังกั้ว (เอี้ยก้วย) และเสี่ยวหลงหนี่ว์ (เซียวเหล่งนึ้ง) ซึ่งถือว่าขัดต่อจารีตสังคมที่ถูกครอบงำด้วยความคิดขงจื่ออย่างรุนแรง
กิมย้งยังได้ให้ความสำคัญอย่างมากแก่คุณค่าเก่าอาทิ หน้าตาและเกียรติยศ แต่ที่สุด กิมย้งก็แหกกฎเกณฑ์ทั้งหมดในงานชิ้นสุดท้ายของเขา คือ อุ้ยเซี่ยวป้อ โดยกำหนดให้บุคลิกต่อต้านวีรบุรุษแก่ตัวเอกหรือตัวชูโรง อุ้ยเซี่ยวป้อ เป็นเด็กชายผู้ต่ำต้อยถ่อยสามานย์ที่เกิดในซ่องโสเภณี โลภ ขี้เกียจ ฉ้อฉล กะล่อน ปลิ้นปล้อน เหล่านี้ล้วนเป็นรอยมลทินของประเพณี อันดีงามของสังคม ซึ่ง " กิมย้ง " ได้ฝากไว้ในบทประพันธ์ เพื่อสอนใจคนรุ่นหลัง สืบต่อไปตราบนานเท่านาน...
***ขอขอบคุณ (Thanh You) ที่มาของข้อมูล, บทความและภาพประกอบ
- ผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2548 //www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9480000083231
- ผู้จัดการออนไลน์ 8 สิงหาคม 2549 //www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000101008
Create Date : 03 กันยายน 2550 | | |
Last Update : 3 กันยายน 2550 21:27:52 น. |
Counter : 1124 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ย้อนอดีตถึงนางเอก TVB ในความทรงจำ
ทศวรรษที่ 70-80 เป็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของสถานีโทรทัศน์ฮ่องกงค่าย TVB ในยุคนั้น TVBได้ส่งให้พระเอกนางเอกที่เป็น เพชรเม็ดงาม จำนวนมากออกสู่สายตาประชาชน ทั้งหน้าตาและฝีมือการแสดงล้วนไม่ด้อยไปกว่ากัน ถึงแม้ว่าหลายคนเมื่ออายุเริ่มมากขึ้นและโบกมือบอกลาวงการบันเทิงไปแล้วก็ตาม แต่ผลงานละครที่พวกเธอได้ทิ้งไว้ กลับกลายเป็นผลงานที่มีความคลาสสิก เป็นอมตะ และยากที่จะลบเลือนไปจากใจผู้ชมได้
เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบดูละครจีนย้อนยุคที่เรียกกันว่า "หนังชุด" เราเองก็ชอบดูหนังจีนมาตั้งแต่เด็ก ดูทั้งที่ฉายทาง TV กับ VDO ดูกันยันเช้า ไม่คนดูน็อคก็เครื่องเล่น VDO เจ๊งกันไปข้าง เป็นความชอบที่ถ้าคนคอเดียวกันจะรู้ว่าเป็นยังไง ประเภทดูครึ่งเรื่องพรุ่งนี้มาดูต่อ ไม่ได้ ต้องแบบม้วนต่อม้วน ถ้าปัจจุบันนี้ก็ต้องเรียกว่าแบบแผ่นต่อแผ่น จนทุกวันนี้ก็ยังชอบดูหนังจีน แถมเพิ่มหนังเกาหลีขึ้นมาอีกด้วย ดูกันให้เอ๋อไปข้างไม่คนก็เครื่องเล่น
ทีนี้เมื่อดูละครจีนในปัจจุบันมากๆ ก็อดคิดถึงละครจีนในยุคก่อนๆ ไม่ได้ ถึงแม้เทคโนโลยีในการถ่ายทำจะไม่เลิศเหมือนในปัจจุบัน แต่หนังจีนยุคนั้นมันมีเสน่ห์ในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก ดูได้เรื่อยๆ ไม่เบื่อ จนตอนนี้เดือดร้อนตัวเองให้เริ่มออกไปตระเวนหาหนังจีนชุดสมัยก่อน ที่เอามาบันทึกใหม่ในแบบ VCD มาเก็บสะสมไว้ดูอีก ไม่ว่าจะที่เยาวราช หรือที่ไหนก็ตามที่มีขาย
วันนี้จะชวนกันมารำลึกถึงอดีตนางเอก TVB ที่บทบาทการแสดงของเธอเหล่านี้ยังอยู่ในใจของใครหลายๆ คนกันค่ะ เริ่มจาก
1.เจ้าหย่าจือ
ปี 1978 TVB เริ่มถ่ายทำละครเรื่อง ดาบมังกรหยก ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่องเยี่ยมของกิมย้ง ด้วยใบหน้าที่งดงามหมดจด ทำให้เจ้าหย่าจือในวัย 23 ปีได้รับการทาบทามให้มารับบท โจวจื่อยั่ว จนกระทั่งมาในปี 1980 เจ้าหย่าจือได้แสดงบทนำในละครเรื่อง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย ไม่เว้นประเทศไทย ส่งให้ชื่อของเธอโด่งดังอย่างรวดเร็ว กลายเป็น 1 ใน 4 นางเอกดาวรุ่งของ TVB ร่วมกับวังหมิงฉวน เจ้าหย่าจือเกิด 5 พฤศจิกายน ค.ศ.1954 ปัจจุบันอายุ 53 ปี เข้าวงการปี 1973 ผลงานสร้างชื่อ ได้แก่ เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (1980) ชอลิ่วเฮียง (1979) จิ้งจอกภูเขาหิมะ (1985) เจ้าแม่กวนอิม หลังจากเจ้าหย่าจือหมดสัญญากับ TVB ก็หันไปเอาดีกับวงการบันเทิงไต้หวัน จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังรับงานละครอยู่
2. วังหมิงฉวน
วังหมิงฉวน เข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัดของ TVB ตั้งแต่ช่วงปี 70 ด้วยภาพลักษณ์ของสาวงามผู้เข้มแข็งทำให้เธอกลายเป็นนางในฝันของใครหลายคน มาถึงยุค 80 วังหมิงฉวนมีโอกาสร่วมแสดงกับ เซี่ยเสียน เรื่อง วั่นสุ่ยเชียนซันจ่งซื่อฉิง ประชันฝีมือกับ หลิวสงเหยิน ในเรื่อง จิงหัวชุนเมิ่ง ล้วนแล้วแต่โด่งดังด้วยบุคลิกตัวแสดงที่เป็นหญิงแกร่ง ซือเจ๊แห่งวงการบันเทิงฮ่องกงเริ่มเข้าสู่วงการเร็วมาก ดูเหมือนว่าตั้งแต่ช่วงปี 60 เธอก็เริ่มงานแสดงแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังภักดีร่วมงานกับ TVB อยู่ วังหมิงฉวน เกิด 28 สิงหาคม 1947 อายุ 60 ปี ผลงานสร้างชื่อ ได้แก่ ชอลิ่วเฮียง (1979) จิงหัวชุนเมิ่ง (1981) วั่นสุ่ยเชียนซันจ่งซื่อฉิง (1980) เชียนหวังฉวินอิงฮุ่ย (1980) และ เชียนหวังจือหวัง
3. โอวหยังเพ่ยซัน (คนซ้ายมือ)
โอวหยังเพ่ยซัน เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปี 1953 ปัจจุบันอายุ 54 ปี เข้าวงการตั้งแต่ปี 1969 และออกจากวงการบันเทิงไปประมาณปี 90 ผลงานสร้างชื่อได้แก่ บทบาท อึ้งย้ง ในมังกรหยกปี 1983 ชอลิ่วเฮียง ปี 1979, จ่งจี้ (1985), เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (1980), ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) เวยเฉิงเจิ้งป้า (1990)
4. หยางพ่านพ่าน
หยางพ่านพ่านเกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ปี 1959 อายุ 48 ปี เป็นนักแสดงของ TVB ในยุค 80 ที่โด่งดังอีกคน ผลงานสร้างชื่อ อาทิ มังกรหยก (1983) แสดงเป็นม๊กเนี่ยมชื้อ, 8 เทพอสูรมังกรฟ้า (1982) แสดงเป็น มู่หวั่นชิง , ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) เป็นหยางปาเม่ย, ชอลิ่วเฮียง (1979) ชอลิ่วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว (1984)
5. ชิเหม่ยเจิน
ชิเหม่ยเจิน เกิดวันที่ 5 มกราคมปี 1962 อายุ 46 ปี เข้าวงการตั้งแต่ปี 1982 เธอก็เป็น 1 ใน 5 นางเอกชั้นนำช่วงปี 80 ของ TVB เธอและเหมียวเฉียวเหว่ย 1 ใน 5 พยัคฆ์ TVB ไม่เพียงแต่เคยรับบทเป็นสามีภรรยากัน ในเรื่อง ขุนศึกตระกูลหยาง และ เดชเซียวฮื้อยี้ ในชีวิตจริงทั้งคู่ก็แต่งงาน ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ผลงานสร้างชื่อได้แก่ กระบี่เย้ยยุทธจักร (1984) รับบท เย่ว์หลิงซัน, จิ้งจอกภูเขาหิมะ (1985) รับบท ฮูหยินหู, ขุนศึกตระกูลหยาง รับบท องค์หญิงชิงเหลียน
6.หลันเจี๋ยอิง
หลันเจี๋ยอิง นับว่าเป็นนางเอกที่อาภัพคนหนึ่ง เธอเกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายนปี 1964 อายุ 43 ปี เข้าวงการและมีชื่อเสียงในปี 1984 เคยเป็นนางเอกที่โด่งดังของ TVB ช่วงหลังๆ ยังมีรับงานแสดงบ้าง ตอนนี้หลันเจี๋ยอิงกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ใช้ชีวิต อย่างยากลำบาก แถมมีอาการของโรคประสาทรุมเร้าด้วย ผลงานที่ผ่านมาอาทิ จอมยุทธผงาดฟ้า (1989) แสดงกับ โจวซิงฉือ
7. โจวไห่เหม่ย
โจวไห่เม่ย เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปี 1966 ปัจจุบันอายุ 41 ปี เป็นนางเอก TVB ยุค 80 เข้าวงการตั้งแต่ปี 1985 ช่วงแรกๆ มีข่าวว่าโจวไห่เม่ยแอบบินไปแต่งงานกับพระเอกหลี่เหลียงเหว่ย ที่ต่างประเทศและก็หย่าร้างกันไปอย่างเงียบๆ หลังจากต้นปี 90 หมดสัญญากับ TVB แล้ว โจวไห่เม่ยก็เดินทางไปรับงานแสดงอิสระที่ไต้หวัน ต่อมาก็ชีพจรลงเท้าไปแสดงละครที่แผ่นดินใหญ่ จนถึงวันนี้เธอก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงอยู่ ผลงานสร้างชื่อ ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) รับบท หยางจิ่วเม่ย, หลิวหมางต้าเฮิง (1986) และ อี้ปู้หรงฉิง (1990)
8. เส้าเหม่ยฉี
เส้าเหม่ยฉี เกิดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปี 1965 ปัจจุบันอายุ 42 ปี เธอเข้าวงการตั้งแต่ปี 1985 และมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 1990 (ความจริงตั้งแต่ปี 1986 ชื่อของเธอก็เป็นที่รู้จักแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับบทเด่น) พอถึงปี 1990 เมื่อละครเรื่อง หว่อเปิ่นซ่านเหลียง ออกฉาย จึงนับว่าเธอประสบความสำเร็จในอาชีพการแสดงอย่างแท้จริง ด้านความรักเธอเคยเป็นแฟนกับ เจิ้งอีเจี้ยน นานหลายปี ก่อนที่ฝ่ายชายจะตีจากไปคบนักร้องสาวตาโตเหลียงหย่งฉี จนถึงวันนี้เส้าเหม่ยฉียังรับงานแสดงของ TVB ส่วนใหญ่รับบทนักแสดงสมทบที่ค่อนข้างมีบทบาทในเรื่อง ผลงานสร้างชื่อ หว่อเปิ่นซ่านเหลียง (1990), ดาบมังกรหยก (1986) แสดงเป็น เสี่ยวเจา
9. ซังเทียนเอ๋อ
ซังเทียนเอ๋อ เกิดเดือนกรกฎาคมปี 1962 อายุ 45 ปี เข้าวงการเมื่อปี 1983 และมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 1984 จากบท อาเคอ/เฉินหยวนหยวน ในเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อ (เวอร์ชั่นเหลียงเฉาเหว่ย) จนถึงวันนี้ซังเทียนเอ๋อยังรับแสดงละครให้ TVB อยู่ ผลงานอื่นๆ ได้แก่ คัมภีร์อักษรกระบี่ (1987), เพ็กฮ้วยเกี่ยม ในปี 1985
10.จวงจิ้งเอ๋อ
เพราะมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับดาราสาว กวนจือหลิน จึงทำให้เธอได้รับฉายาว่า กวนจือหลินเวอร์ชั่นใหม่ ผลงานสร้างชื่อ เพ็กฮ้วยเกี่ยม (1985) รับบท เวินชิงชิง, ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) รับบท สนมพาน
11. หวงซิ่งซิ่ว
หวงซิ่งซิ่ว เกิด 14 เมษายนปี 1956 อายุ 51 ปี ได้รับการขนานนามว่าเป็น สาวงามในชุดโบราณ ออกจากวงการตั้งแต่ปี 1988 ปัจจุบันเป็นภรรยาของนักแสดงและพิธีกรฝีปากกล้า เฉินไป่เสียง ผลงานสร้างชื่อได้แก่ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า (1982) รับบท อาจูและจงหลิง, ชอลิ่วเฮียง (1979) รับบท กงหนันเยี่ยน, หร่วนหลิงอี้ว์ รับบท หร่วนหลิงอี้ว์, สือซันเม่ย รับบท เหออี้ว์เฟิ่ง
12. หมีเซี่ยะ
หมีเซี่ยะเกิดเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1955 อายุ 52 ปี เธอได้รับฉายาว่าเป็น "นางเอก 2,000 ปี" หมีเซี่ยะเป็นนางเอกที่โด่งดังที่สุดช่วงปี 70 ช่วงหลังๆ เธอรับแสดงละครทั้งของ TVB และ ATV จนถึงปัจจุบันเธอก็ยังรับงานแสดงอยู่ ผลงานสร้างชื่อของเธอก็คือ มังกรหยก ซึ่งเธอรับบทเป็น อี้งย้ง
13. หวงเจ้าสือ
หวงเจ้าสือเกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายนปี 1963 อายุ 44 ปี เธอเป็นนักเรียนการแสดงรุ่นที่ 8 ของ TVB ตั้งแต่อายุ 17 ปีก็เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิง และมีโอกาสแสดงนำในเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ ของชอว์[ราเธอร์เมื่อปี 1980 ต่อมาในปี 1985 เธอผละจากทีวีบีมาร่วมงานกับ ATV แต่ระยะหลังๆ ก็ไม่เห็นผลงานการแสดงของเธออีก ผลงานที่ทำให้เราหวนนึกถึงเธอก็คือ บท องค์หญิงหัวจึง ในมังกรหยกภาค 1 (เวอร์ชั่นองเหม่ยหลิง-หวงยื่อหัว)
14. เติ้งชุ่ยเหวิน
เติ้งชุ่ยเหวิน เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคมปี 1966 อายุ 41 ปี เข้าวงการปี 1985 มีผลงานเด่นได้แก่เรื่อง ดาบมังกรหยก (1986) รับบทเป็น โจวจื่อยั่ว จนกระทั่งถึงปัจจุบันก็ยังคงได้รับบทเด่นจาก TVBอยู่ อย่างเช่นเมื่อปี 2004 เติ้งชุ่ยเหวิน ก็ได้รับบทนำในละครเรื่อง ศึกรักจอมราชันย์ ซึ่งละครเรื่องนี้ทำเรทติ้งสูงอย่างมากในฮ่องกง
15. เซี่ยะหนิง
เซี่ยะหนิงเกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมปี 1963 อายุ 44 ปี เข้าสู่วงการบันเทิงหลังจากคว้ามงกุฎนางงามฮ่องกงปี 1985 ปี 2004 เซี่ยะหนิงหย่าร้างกับสามี และกลับมาเป็นพิธีกรรายงานอาหารให้แก่ TVB ผลงานสร้างชื่อได้แก่ เดชเซียวฮื่อยี้ (1988) รับบท โซวเอ็ง, ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) รับบท สะใภ้ 5, จอมดาบหิมะแดง (1989), เต็กเช็ง (1986) รับบท หยางจื่ออิน
16. หลี่เหม่ยเสียน
หลี่เหม่ยเสียนเกิดวันที่ 19 ตุลาคมปี 1966 อายุ 41 ปี เข้าวงการเมื่อปี 1985 เป็น 1 ใน 5 นางเอกชั้นนำของ TVBช่วงปี 80 อีกทั้งยังมีฉายาว่า หญิงงามในชุดโบราณหมายเลขหนึ่ง อดีตเคยเป็นแฟนเหลียงเฉาเหว่ย ผลงานสร้างชื่อได้แก่ เดชเซียวฮื้อยี้ (1988) แสดงเป็น ทิซิมลั้ง, ดาบมังกรหยก (1986) แสดงเป็น เจ้าหมิ่น หลี่เหม่ยเสียนอยู่ในวงการบันเทิงจนถึงปี 1996 ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ได้ข่าวว่า เธอเข้าสู่ประตูวิวาห์แล้ว
17. เจิงหัวเชี่ยน
เจิงหัวเชี่ยนเป็น 1 ใน 5 นางเอกแนวหน้าของ TVB ช่วงปี 80 เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมปี 1965 ปัจจุบันอายุ 42 ปี เข้าวงการตั้งแต่ปี 1984 และเคยเป็นแฟนกับเหลียงเฉาเหว่ย ผลงานสร้างชื่อได้แก่ จิ้งจอกภูเขาหิมะ (1985), ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) รับบท ตู้จินเอ๋อ ปัจจุบันถึงแม้ว่าไม่ได้แสดงละครแล้ว แต่ก็มักรับเป็นพิธีกรให้แก่ TVB
18. กงฉือเอิน
กงฉือเอิน เกิดวันที่ 17 กันยายนปี 1963 เข้าวงการเมื่อปี 1984 ผลงานละคร TVB ได้แก่ ขุนศึกตระกูลหยาง (1985) รับบท สะใภ้ 4, ชอลิ่วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว (1984), ศึกเทพยุทธเขาซูซัน ตอน ทายาทมารโลหิต (1990) หลังจากออกจาก TVB ก็ไปรับงานแสดงในไต้หวัน อาทิ เปาบุ้นจิ้น ตอน ผ้ายันต์กินเลือด, หมอดูเทวดา เป็นต้น
19. เฉินอี้ว์เหลียน
เฉินอี้ว์เหลียนเป็น 1 ใน 5 นางเอกชั้นนำของ TVB ช่วงปี 80 เช่นกัน เธอเกิดวันที่ 25 มีนาคมปี 1960 ปัจจุบันอายุ 47 ปี เข้าวงการเมื่อปี 1978 อยู่ในวงการบันเทิงจนถึงปี 1993 ผลงานสร้างชื่อได้แก่ ศึกลำน้ำเลือด (1987) รับบท องค์หญิงหลันหลิง, 8 เทพอสูรมังกรฟ้า รับบท หวังอี่ว์เยียน และที่สร้างชื่อให้สุดๆ ได้แก่ มังกรหยกภาค 2 (1983) รับบท เซียวเล่งนึ่ง
20. องเหม่ยหลิง
หลายคนประทับใจไม่รู้ลืมกับบทบาท อึ้งย้ง เวอร์ชั่นของนางเอกฟันกระต่ายคนนี้ องเหม่ยหลิงเกิดวันที่ 7 พฤษภาคมปี 1959 เข้าวงการตั้งแต่ปี 1982 ในขณะที่หน้าที่การงานกำลังรุ่งโรจน์ องเหม่ยหลิงกลับผิดหวังในความรัก และตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยการเปิดแก๊สรมตัวเองในที่พัก เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมปี 1985 ปิดฉากชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย ผลงานสร้างชื่อได้แก่ มังกรหยก (1983), ชอลิ้วเฮียง ตอน ถล่มวังค้างคาว (1984)
หมดแล้วค่ะ กับ 20 นางเอก TVB ในความทรงจำ เชื่อว่า หลายคนยังเป็นนางเอกในดวงใจผู้ชมมาจนถึงทุกวันนี้
***ขอบคุณ (Thank You) ที่มาของข้อมูล, บทความและภาพประกอบ -ผู้จัดการออนไลน์ 5 มิถุนายน 2550 //www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9500000062671
Create Date : 01 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 1 สิงหาคม 2550 21:22:16 น. |
Counter : 13607 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|