บทที่ 14 คำสั่ง
บทที่ 14

คำสั่ง

เสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังร่อนลงจอดบนลานดึงความสนใจของเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในบริเวณนั้นให้หันไปมอง หลายคนจ้องไรซินที่กำลังก้าวลงจากเครื่องด้วยความแปลกใจเนื่องจากนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญผู้นี้ไม่เดินทางมายังสำนักงานใหญ่บ่อยนัก บางคนซุบซิบถามกันด้วยความสงสัยแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกผู้ถูกกล่าวถึงปรายตาชำเลืองมอง ทุกคนยืนนิ่งแข็งค้างอยู่กับที่ทันทีกระทั่งไรซินเดินหายเข้าไปในอาคารทั้งหมดจึงถอนใจด้วยความโล่งอกและหันกลับไปทำงานตามปรกติ
ไรซินเดินไปตามทางที่ทอดผ่านอาคารแต่ละหลังไปอย่างไม่รีบเร่งนัก หากบังเอิญมีเจ้าหน้าที่ขององค์กรเดินสวนทางมาพวกเขาจะพากันหยุดและก้มศีรษะลงเพื่อทำความเคารและหลีกทางให้นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญเดินผ่านไป บางคนถึงกับก้มหน้าลงหลบสายตาเขาด้วยความหวาดกลัว
หลังจากเดินผ่านอาคารที่ทำการทันสมัยไปหลายหลังไรซินจึงขึ้นรถยนต์ขนาดเล็กซึ่งจอดรออยู่และมุ่งหน้าเข้าไปในป่าที่อยู่ทางด้านหลัง หลังจากเดินทางราวสิบนาทีในที่สุดรถคันนั้นจึงเข้าสู่บริเวณลานโล่งและจอดนิ่งหน้าประตูขนาดใหญ่ ไรซินก้าวลงจากรถและกวาดตามองไปโดยรอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นอ่านตัวอักษรโบราณสลักซึ่งถูกจารึกเอาไว้บนแผ่นศิลาเก่าแก่เหนือประตู เขายืนนิ่งไปชั่วณะเหมือนกำลังคิดถึงผู้ที่กำลังจะเข้าไปพบก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นสอดเข้าไปในปากของอสูรศิลาที่ประดับอยู่ด้านหน้า คิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อเขี้ยวหินของมันฝังลงไปในเนื้อ เลือดสีแดงเข้มไหลลงไปตรงร่องกลางซึมผ่านรูพรุนของหินลงไปจนถึงส่วนกลางของลำตัว เสียงกลไกดังลั่นขึ้นหนึ่งครั้งก่อนบานประตูหนาหนักจะเลื่อนเปิดออกปล่อยกระแสลมเย็นยะเยือกไหลพรั่งพรูออกมา ไรซินมองทางเดินที่ทอดยาวผ่านต้นไม้สูงด้วยสีหน้านิ่งสงบจนกระทั่งมีเสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยทักอย่างเยียบเย็น
“คุณมาเร็วกว่าที่คิดนะครับ”
มนุษย์พิษตวัดสายตาไปยังชายร่างผอมสูงในเครื่องแต่งกายคล้ายหัวหน้าคนรับใช้ในยุคขุนนางซึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน เขาค้อมตัวลงเล็กน้อยพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ
“กรุณาตามผมมา”
ชายผู้นั้นเดินนำหน้าไปทันที ไรซินยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงก้าวตามโดยมีเสียงของประตูหินซึ่งกำลังเลื่อนปิดดังไล่หลัง ทั้งสองเดินไปบนถนนที่รกครึ้มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความลึกลับและเงียบเชียบปราศจากเสียงของสรรพสัตว์ใด ๆ ไม่มีแม้แต่เสียงนกหรือแมลงดูแตกต่างจากสภาพภายนอกที่ไรซินเพิ่งผ่านมาโดยสิ้นเชิง
ความหนาทึบของต้นไม้ทำให้แสงอาทิตย์สามารถส่องผ่านลงมายังผืนดินได้อย่างยากลำบาก ยิ่งเวลาใกล้ค่ำด้วยแล้วแสงที่ได้จึงมีเพียงความมืดสลัว หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงหวาดวิตกกับบรรยากาศอันน่ากลัวเช่นนี้แต่ไรซินยังคงเดินตามหัวหน้าคนรับใช้อย่างไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบตัวเท่าใดนัก เขามองปราสาทโบราณหลังใหญ่ที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางความขมุกขมัวอย่างสงบนิ่งก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังผู้นำทางซึ่งตอนนี้กำลังหยิบกุญแจดอกใหญ่ออกมาไขประตู เขาก้าวนำเข้าไปด้านในจนกระทั่งถึงห้องโถง หัวหน้าคนรับใช้จึงหยุดและหันหน้ากลับมา
“ผมจะไปแจ้งให้นายท่านทราบว่าคุณเดินทางมาถึงแล้ว กรุณารอที่ห้องน้ำชาก่อนครับ”
เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นและหันไปสั่งหญิงสาวในเครื่องแบบแม่บ้านเสียงเข้ม
“พาคุณแสตฟฟอร์ดไปรอที่ห้องน้ำชา”
“ไรซิน” มนุษย์พิษพูดเสียงเรียบและย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้างงงันของหัวหน้าคนรับใช้ “เรียกผมว่าไรซิน”
“แต่นี่เป็นคำสั่งของนายท่าน กระผมต้องขออภัย”
หัวหน้าคนรับใช้ค้อมตัวลงอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป สาวใช้จึงก้าวออกมายืนข้างหน้าและย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม
“กรุณาตามดิฉันมาทางนี้ค่ะท่าน”
น้ำเสียงที่เย็นจนน่าขนลุกรับกับใบหน้าซีดขาวราวกับคนตายทำให้ไรซินกระตุกยิ้ม เขาเดินตามเธอไปจนกระทั่งถึงห้องที่อยู่อีกด้านหนึ่งของตึก หญิงสาวเปิดประตูพร้อมกับค้อมตัวลงอีกครั้ง
“เชิญนั่งรอที่ห้องนี้ก่อน อีกสักครู่ดิฉันจะนำน้ำชามาให้”
เธอปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบาเมื่อผู้เป็นแขกก้าวเข้าไปในภายใน ไรซินยืนรอกระทั่งเสียงฝีเท้าของหญิงรับใช้ห่างออกไปไกลพอสมควรเขาจึงเริ่มกวาดสายตามองไปรอบห้องพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อพบว่ามันค่อนข้างมืดสลัว มีเพียงแสงรุบหรู่จากโคมไฟขนาดเล็กซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะอีกมุมหนึ่งของห้อง ความสว่างของมันไม่ได้ช่วยให้สามารถมองเห็นสิ่งใดได้ชัดเจนนัก มนุษย์พิษขยับตัวเดินไปได้เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นก็ต้องหยุดลงอย่างฉับพลันเมื่อได้ยินเสียงทักทายดังมาจากเงามืด
“สายันห์สวัสดิ์ วิคเตอร์”
ไรซินก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมพร้อมกับกล่าวตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความยำเกรง
“นายท่าน”
“การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง”
เสียงทุ้มเย็นกล่าวถามมาจากมุมมืดของห้อง มนุษย์พิษเลื่อนสายตาไปมองเงาร่างของชายคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงและกล่าวตอบอย่างสุภาพ
“ราบรื่นดีครับ”
“งั้นหรือ” นายท่านกล่าวพลางผายมือไปยังเก้าอี้ด้านที่มีโคมไฟ “คุณเดินทางมาไกล นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
“ครับท่าน” ไรซินรับคำก่อนจะเดินไปนั่ง เขามองนายท่านซึ่งกำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างครุ่นคิดและตัดสินใจถาม”คิดว่าท่านต้องการให้ผมเข้ามารายงานตัวต่อที่ประชุมทันทีที่มาถึง”
“ยังไม่จำเป็น” นายท่านตอบด้วยท่าทางเรียบเฉย “คุณไม่ค่อยได้มีเวลามาพบผม เลยอยากจะขอทักทายกันก่อนสักเล็กน้อยในฐานะของคนในครอบครัว”
เขาวางถ้วยชาลงและโน้มตัวมาข้างหน้า ดวงตาสีเลือดซึ่งทอแสงลุกโชนในความมืดจ้องใบหน้าไรซินแน่วนิ่ง
“วิลเลี่ยมเป็นยังไงบ้าง”
มนุษย์พิษนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก
“เขาสบายดีครับ”
“ได้ยินว่าเขามีปัญหา” นายท่านถามขณะยกกาน้ำชาขึ้นเพื่อรินใส่ถ้วย ไรซินจ้องกิริยาของผู้เป็นนายอย่างระวังก่อนตอบ
“แค่สร้างเรื่องวุ่นวายเล็กน้อยเท่านั้นครับ”
“เรื่องวุ่นวายเล็กน้อย” ประมุขแห่งอิลูมิเนติคทวนคำพลางวางกาน้ำชาลง “คุณเรียกการฆ่าตัวอ่อนของการ์กอยล์กับการทำลายห้องทดลองถึงสามครั้งว่าเป็นความวุ่นวายเล็กน้อยอย่างนั้นหรือ”
แม้จะปราศจากความเกรี้ยวกราดแต่น้ำเสียงที่เข้มขึ้นทำให้ไรซินนั่งอึ้งและเผลอกำมือแน่น ทันทีที่ตั้งสติได้เขารีบก้มศีรษะลงเป็นเชิงขออภัยพร้อมกับกล่าวอธิบาย
“ในกรณีที่เขาคอยขัดขวางโครงการทดลองโฟริดนั้น ผมยอมรับว่าเป็นความผิดและตอนนี้ผมเองก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กักบริเวณเขาเพื่อเป็นการลงโทษ”
“แต่ผมได้ยินว่าวิลเลี่ยมหนีออกจากห้องขังและอาละวาดทำลายห้องทดลองจนพินาศ”
“เราได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และผมได้จับเขาไปกักไว้ในกรงระดับห้าซึ่งใช้สำหรับขังสัตว์อันตรายโดยเฉพาะ”
ไรซินกล่าวตอบในทันทีและชะงักคำพูดค้างนิ่งเมื่อเห็นสายตาของนายท่านกำลังทอประกายวาวจนน่ากลัว
“คำตอบของคุณคือการจับวิลเลี่ยมใส่กรงขังเท่านั้น ไม่ได้ให้ความกระจ่างในแง่ของความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
“อย่างที่เรียนให้นายท่านทราบ ห้องวิจัยของเราได้รับความเสียหายเล็กน้อย และผมได้จัดการขังตัวปัญหาไว้ในที่สมควรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” มนุษย์พิษตอบไม่เต็มเสียงนัก เขาขบกรามแน่นก่อนจะก้มหน้าลงหลบดวงตาแดงก่ำดุจเลือดที่กำลังจ้องมองมาอย่างดุดัน ผู้เป็นนายกล่าวเสียงเย็น
“เป็นคำแก้ตัวที่ไม่สมกับเป็นคุณเลยสักนิด คิดว่าที่ประชุมจะยอมรับฟังข้ออ้างพวกนี้หรือ”
“นี่เป็นคำอธิบายสำหรับท่านเท่านั้น”
ไรซินตอบด้วยความเคารพ นายท่านนั่งนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้และประสานมือไว้บนตัก
“ผมยอมรับคำอธิบายของคุณ” เขาพูดเสียงเรียบ “รวมทั้งกลุ่มสมาชิกอาวุโสทุกคน พวกเขาต่างเชื่อในคำพูดและความซื่อสัตย์ของคุณเช่นเดียวกับผม แต่อย่าลืมว่าเวลานี้เราไม่ได้มีเพียง
แวมไพร์และมนุษย์หมาป่าเท่านั้นที่เป็นสมาชิกสำคัญแต่ยังมีมนุษย์ธรรมดาเข้ามาร่วมในองค์กรของเราด้วย”
“ผมไม่สนใจคนพวกนั้น” ไรซินพูดอย่างไม่ใส่ใจนักแต่นายท่านกลับส่ายหน้า
“คุณต้องสนใจเพราะเกือบครึ่งหนึ่งของที่ประชุมคือคนเหล่านี้และที่สำคัญพวกเขาเชื่อคำพูดของการ์ดเนอร์ซึ่งมีตำแหน่งสูงที่สุดในกลุ่มของมนุษย์”
“การ์ดเนอร์” มนุษย์พิษทวนคำ “รายงานของเธอเชื่อถือไม่ได้”
“แต่ที่ประชุมบางคนไม่คิดแบบนั้น จากรายงานของการ์ดเนอร์ทำให้พวกเขามองว่า
วิลเลี่ยมคือตัวอันตรายและคุณ...”
นายท่านมองหน้าไรซินนิ่ง “เป็นแค่นักวิทยาศาสตร์ยะโสที่ไม่เคยสร้างประโยชน์อะไรให้กับองค์กร”
คำพูดของผู้เป็นนายทำให้มนุษย์พิษยิ้มเย็นเยือก เขาเลื่อนสายตามองผ่านช่องหน้าต่างออกไปด้านนอกและจ้องเงาต้นไม้ที่กำลังไหวเอนไปตามแรงลมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงหันกลับมาที่นายท่านอีกครั้ง
“ผมรับฟังแต่คำตัดสินของท่าน”
เขาพูดเสียงเรียบ ผู้เป็นนายยิ้มกว้างจนเขี้ยวคมขาวปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“อย่างที่เคยคุยกับคุณ เวลานี้รายงานของการ์ดเนอร์ที่เสนอเรื่องการกำจัดวิลเลี่ยมยังอยู่ในมือของผม” นายท่านกล่าว “แต่ก็คงดึงเรื่องต่อไปได้อีกไม่นานเพราะถ้าเธอเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมใหญ่เมื่อไหร่ผมคงต้องแจ้งรายงานเรื่องนี้ให้สมาชิกทุกคนทราบ”
ผู้นำองค์กรลึกลับเอนตัวมาข้างหน้า
“เมื่อถึงเวลานั้นผมคงไม่สามารถยับยั้งมติของที่ประชุมได้”
สีหน้าจริงจังของผู้เป็นนายทำให้ไรซินนิ่งคิดไปชั่วอึดใจก่อนจะถามด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก
“ท่านจะแนะนำให้ผมทำอะไร”
“ไม่ใช่แนะนำแต่เป็นคำสั่ง” นายท่านตอบ “ผมต้องการให้คุณถอนตัวจากงานวิจัยทุกโครงการที่มีอยู่ตอนนี้แล้วอยู่ที่ปราสาทนี่จนกว่าจะมีคำสั่งใหม่จากที่ประชุม”
“ท่านหมายถึง ผมถูกปลดจากตำแหน่ง” ไรซินพูดเสียงเย็น อีกฝ่ายผงกศีรษะอย่างเชื่องช้า
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” ผู้เป็นนายมองหน้าเขา “ไม่พอใจหรือ”
“ไม่ครับ” ไรซินตอบสั้นๆพร้อมกับถอนใจ “แล้วท่านจะให้ใครเข้ามาทำหน้าที่แทนผม”
“คนที่วางแผนกำจัดคุณ” ประมุขแห่งอิลูมิเนติคตอบขณะเอนตัวพิงพนัก สีหน้าที่เคยเรียบเฉยของมนุษย์พิษเคร่งเครียดขึ้นมาในทันที
“การ์ดเนอร์”
“ใช่ การ์ดเนอร์” นายท่านพูดเสียงเรียบ “ตกใจหรือ”
“แค่คาดไม่ถึงมากกว่าครับท่าน” ไรซินตอบด้วยน้ำเสียงที่ถูกปรับจนราบเรียบไร้อารมณ์เหมือนเช่นทุกครั้ง ประมุขแห่งอิลูมิเนติคเหยียดยิ้ม
“ไม่ถามหรือว่าทำไม”
“คำสั่งของท่านผมไม่มีข้อสงสัย” มนุษย์พิษพูดและนั่งนิ่ง นายท่านมองเขาอย่างรู้ทัน
“หากกังวลเรื่องวิลเลี่ยม ผมสั่งให้คนย้ายเขาไปขังไว้ที่อื่นทันทีหลังจากคุณออกเดินทาง การ์ดเนอร์ไม่มีทางทำอะไรน้องชายของคุณได้แน่นอนผมรับรอง”
“ขอบคุณนายท่าน” ไรซินกล่าวพร้อมกับค้อมศีรษะลงเล็กน้อย ผู้นำแห่งองค์กรมืดผงกศีรษะอย่างเชื่องช้าก่อนจะเลื่อนสายตามองออกไปด้านนอก
“อาหารค่ำคงเตรียมเสร็จแล้ว” เขาพูดพร้อมกับลุกยืนขึ้น “ผมจะเดินไปส่งคุณที่ห้องอาหาร”
“ขอบคุณมากแต่มันเป็นการรบกวนเวลาของท่าน”
“ผมชอบเดินออกกำลังกายก่อนเวลาอาหาร” นายท่านกล่าวพลางผายมือ “เชิญ”
ไรซินก้มศีรษะลงก่อนจะก้าวนำออกไป นายท่านหันไปกล่าวกับหญิงรับใช้ที่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกด้วยเสียงราบเรียบเฉยชา
“เราจะไปห้องอาหาร”
เธอก้มศีรษะลงและออกเดินนำไปทันที ไรซินมองตามแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ผู้เป็นนายจึงยิ้ม
“ไม่อยากรู้หรือว่าผมได้สาวใช้นี่มาจากไหน”
“ครับ” มนุษย์พิษตอบสั้นๆ อีกฝ่ายเลื่อนสายตาไปที่หญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้า
“เธอเป็นนักข่าวที่เข้ามาสัมภาษณ์การทำงานขององค์กรแต่ออกจะซอกแซกเกินหน้าที่ไปเล็กน้อย”
“ซอกแซกเล็กน้อย” ไรซินทวนคำ “เธอเข้ามาสัมภาษณ์ท่านถึงปราสาทนี่เลยหรือครับ”
“ก็ไม่เชิง คนของผมพบนักข่าวคนนี้กำลังพยายามเปิดประตูใหญ่เข้ามา ที่ประชุมจึงมีมติให้กำจัดแต่ผมไม่เห็นด้วยเพราะคงไม่ดีแน่ถ้ามีนักข่าวหายตัวไประหว่างการสำรวจองค์กรของเรา”
“คนพวกนี้เหมือนแมลงวัน ได้กลิ่นอะไรหน่อยก็แห่กันมาเป็นฝูง” มนุษย์พิษพูดเสียงเรียบ “ท่านจึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นบริวาร”
“อย่างน้อยผมก็ได้ลิ้มรสอาหารในแบบดั้งเดิม” นายท่านยิ้มแยกเขี้ยว “ความรู้สึกของเนื้อที่เต้นระริกเพราะความหวาดกลัวมันทำให้ผมนึกถึงวันเก่าๆ”
ดวงตาของเขาทอประกายแวววาว
“มันทำให้รสชาติของเลือดวิเศษที่สุด”
“หากนั่นเป็นสิ่งที่ท่านชอบ ผมจะเพิ่มอารมณ์แบบนี้ลงไปในอาหารชุดต่อไป”
“ไม่จำเป็น” นายท่านตอบและมองสาวใช้ซึ่งกำลังเปิดประตูห้อง เขาสั่งเสียงเรียบ
“พอแค่นี้ กลับไปทำงานตามหน้าที่ของเธอได้แล้ว”
หญิงสาวย่อตัวลงรับคำสั่งก่อนจะเดินจากไป ผู้นำองค์กรมืดแสยะยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าของ
ไรซินขณะมองตาม
“ทุกสามคืนผมให้หล่อนกลับออกไปข้างนอก คอยปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นและทำเหมือนเป็นปรกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“เฉพาะกลางคืนเท่านั้นหรือครับ”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นนักข่าวอิสระ ขอเพียงมีงานส่งคนพวกนั้นก็ไม่ติดใจสงสัยอะไรแล้ว น่าขอบคุณสังคมในยุคอินเตอร์เน็ตนะ”
เสียงหัวเราะแผ่วต่ำอย่างอารมณ์ดีแต่ไรซินกลับนิ่วหน้า
“หล่อนอาจสร้างปัญหาให้กับท่าน”
“ผมดื่มเลือดของเธอในระดับควบคุม ผู้หญิงคนนี้ยังไม่กลายเป็นผีดิบเต็มตัว” นายท่านพูดและเหยียดยิ้ม “ไม่ต้องวิตกกับเรื่องพวกนี้คุณยังมีเรื่องน่าประหลาดใจรออยู่อีกมาก กินให้อิ่มและพักผ่อนให้สบาย พรุ่งนี้ค่ำค่อยเจอกัน”
“ครับท่าน” มนุษย์พิษรับคำพร้อมกับก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อม นายท่านพยักหน้ารับก่อนจะเดินจากไป ไรซินรอจนผู้เป็นนายเดินพ้นไปแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องและมองอาหารเย็นชุดใหญ่ที่จัดเตรียมไว้บนโต๊ะ คนรับใช้ที่ยืนรออยู่ค้อมตัวลงเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้กับเขา
ไรซินจึงนั่งลงพร้อมกับสั่งเสียงเรียบ
“ออกไปได้”
ชายรับใช้ค้อมตัวลงและเดินออกจากห้อง มนุษย์พิษรอจนกระทั่งบานประตูปิดสนิทเรียบร้อยแล้วจึงดึงโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
“เรียกหัวหน้าแผนกห้องอนุบาลพิเศษมาพูดกับผม” เขาสั่งและรอจนกระทั่งอีกฝ่ายพูดขึ้นอย่างนอบน้อม
“ท่านไรซิน”
“ช่างไม้เป็นยังไงบ้าง”
“มีการพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้น ร่างกายยอมรับสิ่งปลูกถ่ายได้ดีนอกจาก...” เสียงอีกด้านเงียบหายไปคล้ายกำลังลังเล มนุษย์พิษถามเสียงเรียบ
“นอกจากอะไร”
“เอกซ์เทนเซอร์ พอลิซิส ลองกัส (Extensor pollicis longus) มีการพัฒนาที่แปลกไปจากธรรมดา มันส่งผลให้มือทั้งสองข้างของสัตว์ทดลองมีลักษณะผิดรูป ตอนนี้เรากำลังหาทางหยุดยั้งการเจริญและปรับให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม”
“พยายามควบคุมให้ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพปรกติและอย่าให้ใครเข้าไปวุ่นวายในห้องนี้โดยเด็ดขาด”
“ครับท่าน”
“ดี” ไรซินพูด “ช่วยโอนสายไปที่ห้องหัวหน้าหน่วยอันเทสต์ด้วย”
สัญญาณการติดต่อขาดหายไปชั่วอึดใจ ไรซินเคาะโต๊ะสองสามครั้งใคร่ครวญความคิดและหยุดทันทีเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายเอ่ยเรียกเขาอย่างเคารพ
“ท่านไรซิน”
“ผมมีงานสำคัญให้คุณทำ”เขาพูดเสียงเรียบ “ตั้งใจฟังคำสั่งให้ดี”

*/*/*/*/*/*





Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 14:21:07 น.
Counter : 625 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี