บทที่ 2 หนี
บทที่ 2

หนี

ถาดอาหารถูกเกี่ยวด้วยตะขอโลหะก่อนจะเลื่อนลงไปยังห้องที่ใช้กักขังกีพาร์ดอย่างระมัดระวัง เสียงร้องทักทายจากเพื่อนร่วมงานทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งกำลังหย่อนโซ่ต้องละสายตาจากงานที่กระทำ กีพาร์ดรีบฉวยจังหวะนั้นกระโดดตัวลอยเข้าไปหาผนังและออกแรงถีบมันเพื่อส่งตัวขึ้นไปยังตะแกรงด้านบน มือข้างหนึ่งยื่นผ่านช่องอาหารและคว้าคอเสื้อขอเจ้าหน้าที่เคราะห์ร้ายในขณะที่มืออีกข้างจับตะแกรงแน่น มนุษย์ครึ่งเสือกระชากร่างของอีกฝ่ายให้ก้มต่ำลงและพูดด้วยน้ำเสียงคำราม
“เปิดกรงเดี๋ยวนี้”
“ไม่” เจ้าหน้าที่คนนั้นตอบพลางขืนตัวเพื่อลุกขึ้นแต่กีพาร์ดกลับดึงเขากลับลงไปอีกครั้ง
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำซาก” กรงเล็บที่กำรอบคอกระชับแน่นขึ้น “เปิดกรง เร็ว!”
“ถ้าเปิด ท่านไรซินลงโทษผมแน่”
“แต่ถ้าไม่เปิด แกต้องตายอยู่ตรงนี้” มนุษย์ครึ่งเสือแยกเขี้ยวคำราม อีกฝ่ายตัวสั่นด้วยความกลัว
“ผมยอมตาย” เขาพูดเสียงขาดเป็นห้วงและร้องลั่นเมื่อถูกกีพาร์ดจับกระแทกกับตะแกรงโลหะอย่างแรงจนสลบ มนุษย์ครึ่งเสือผลักเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไปให้พ้นทางก่อนจะพยายามแทรกร่างผ่านช่องขึ้นมาด้านบน กีพาร์ดหันไปมองเจ้าหน้าที่อีกสองคนซึ่งกำลังยืนอ้าปากค้างด้วยความตระหนก ทั้งคู่รีบพุ่งไปที่ปุ่มสัญญาณฉุกเฉินแต่ยังช้ากว่ามนุษย์เสือซึ่งกระโจนเข้าใส่อย่างรวดเร็วและเหวี่ยงสันหมัดฟาดลงไปที่ต้นคอของผู้เคราะห์ร้ายทั้งสองทันที
“เจ้าพวกโง่” กีพาร์คพึมพำพลางกวาดตามองรอบตัว สายตาของเขาหยุดอยู่ที่แผงจอภาพจำนวนหนึ่งบนผนังและจ้องสัตว์ทดลองหลายชนิดซึ่งถูกขังอยู่ตามห้องต่างๆด้วยดวงตาลุกวาว มนุษย์ครึ่งเสือแสยะยิ้ม “นายได้สนุกกับผลงานของตัวเองแน่ ไรซิน”

*/*/*/*/*

เสียงสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินดังลั่นไปทั่ว เจ้าหน้าที่และนักวิจัยต่างพากันวิ่งหนีสัตว์ทดลองหลายตัวที่ถูกกีพาร์ดปล่อยออกมา พวกมันต่างอาละวาดทำลายสิ่งของทุกอย่างอย่างบ้าคลั่ง และจับนักวิทยาศาสตร์ที่หนีไม่ทันมาฉีกกิน
ประตูเหล็กหนาหนักเลื่อนปิดลงอย่างรวดเร็ว กั้นส่วนที่สัตว์ทดลองอาละวาดไม่ให้หลุดออกนอกบริเวณได้ จากนั้นหน่วยอันเทสต์ เจ้าหน้าที่ซึ่งขึ้นตรงต่อไรซินได้นำกำลังบุกเข้าไป พวกเขารีบตั้งแนวสกัดพร้อมกับระดมยิงปืนยาสลบเข้าใส่สัตว์ทดลองทุกตัวแต่เนื่องมาจากผลของการตัดต่อพันธุกรรม สัตว์ร้ายตัวหนึ่งกลับไม่เป็นอะไร มันกวาดตามองพวกพ้องที่ล้มกองรอบตัวด้วยความโกรธและแยกเขี้ยวร้องคำรามอย่างคุ้มคลั่ง สัตว์ตัวนั้นกระโจนเข้าใส่กลุ่มอันเทสต์อย่างรวดเร็ว
เสียงฝีเท้าซึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งร้อนและหยุดลงที่หน้าประตูอย่างฉับพลันทำให้ไรซินต้องละสายตาจากกล้องจุลทรรศน์ เขาเงยหน้าขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับเจ้าหน้าที่อันเทสต์เปิดประตูก้าวเข้ามา มนุษย์พิษถามเสียงเรียบ
“มีอะไร”
น้ำเสียงเจืออารมณ์ขุ่นอย่างไม่พอใจอันเนื่องมาจากการถูกขัดจังหวะการทำงาน เจ้าหน้าที่ผู้นั้นก้มศีรษะลงเล็กน้อยและรีบตอบ
“ขออภัยครับที่เข้ามารบกวนท่าน แต่ตอนนี้เขตสามกำลังเกิดเหตุการณ์วิกฤต”
คำตอบของอันเทสต์ผู้นั้นทำให้ไรซินวางเครื่องมือลง เขาหันหน้าไปมองผู้เข้ามารายงานและขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในสภาพเปื้อนเลือดไปทั้งตัว
“ฝีมือหมอนั่นอีกแล้วหรือ”
“ครับ คราวนี้กีพาร์ดปล่อยสัตว์ทดลองให้ออกมาอาละวาดระหว่างหนี”
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน” ไรซินถามขณะลุกขึ้น เจ้าหน้าที่อันเทสต์ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อมก่อนตอบ
“ยังอยู่ในเขตสามครับ”
“เปิดประตูฉุกเฉิน ผมจะเข้าไป” ไรซินสั่งเสียงเรียบ อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นทันที
“แต่มันอันตรายนะครับ” เขาชะงักคำพูดค้างและปิดปากลงเมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นนาย เจ้าหน้าที่คนนั้นก้มหน้าลงอีกครั้ง “ผมจะนำท่านไป”
เขารีบก้าวนำออกจากห้องทันที ทั้งสองเดินไปตามทางมุ่งหน้าตรงไปยังห้องทดลองที่อยู่ด้านใน เมื่อไปถึงไรซินมองประตูเหล็กที่ถูกปิดกั้นด้วยสีหน้านิ่งก่อนจะหันไปสั่งหน่วยอันเทสต์เสียงเรียบ
“เปิดประตู”
“ข้างในอันตรายมากนะครับท่าน” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งแย้ง “มีสัตว์ทดลองตัวหนึ่งกำลังอาละวาดอยู่ ขนาดโดนยิงด้วยกระสุนยาสลบชนิดแรงที่สุดมันก็ยังไม่เป็นอะไร”
“ยาสลบใช้ไม่ได้ผลงั้นรึ” ไรซินยิ้ม “น่าสนใจ”
มนุษย์พิษหันหน้ากลับไปที่ประตูอีกครั้งพร้อมกับเสียงห้วน
“เปิด”
ผู้ใต้บังตับบัญชาหันไปมองหน้ากันด้วยความลำบากใจแต่เมื่อเห็นสายตาของไรซินที่กำลังเหลือบมองกลับมายังพวกเขา หนึ่งในนั้นจึงเลื่อนมือไปกดปุ่มที่ผนัง ทันทีที่ประตูเลื่อนขึ้น เสียงคำรามอย่างดุร้ายของสัตว์ร้ายที่ถูกขังอยู่ภายในก็ดังสวนออกมา เจ้าหน้าอันเทสต์ทั้งหมดรีบเล็งปืนไปยังเป้าหมายทันทีแต่ไรซินกลับยกมือห้ามพร้อมกับเหวี่ยงหลอดแก้วขนาดเล็กเข้าใส่สัตว์ทดลองอย่างรวดเร็ว ควันสีเทาหม่นที่ฟุ้งกระจายออกมาทำให้มันผงะถอยหลังพร้อมกับส่งเสียงด้วยความตระหนก เจ้าสัตว์ร้ายพยายามจะพุ่งเข้าใส่มนุษย์พิษแต่เพียงแค่ขยับขาเท่านั้นร่างสูงใหญ่ของมันก็ทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรงราวกับแมงกะพรุนบนหาดทราย ไรซินก้าวไปหยุดยืนมองด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากบางเหยียดยิ้ม
“คิดจะเล่นซ่อนหากับฉันหรือ”
เสียงครางแผ่วต่ำดังมาจากช่องระบายอากาศเหนือหัว เจ้าหน้าที่หน่วยอันเทสต์เงยหน้าขึ้นมองและเบิกตากว้างเมื่อเห็นกีพาร์ดกระโดดลงมา เขาหันไปมองสัตว์ทดลองซึ่งนอนแน่นิ่งไปเรียบร้อยแล้วก่อนจะเลื่อนกลับมายังไรซิน
“นายใช้ยาอะไร ทำไมถึงไม่มีผลกับเจ้าพวกนั้น” เขาตวัดสายตาไปยังกลุ่มเจ้าหน้าที่ซึ่งยืนเรียงหน้ากระดานอยู่นอกห้อง ไรซินตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แค่ยาคลายกล้ามเนื้อที่แรงกว่าปรกติสิบเท่า”
“งั้นรึ” กีพาร์ดขยับมาข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมกับถาม “แล้วคิดจะใช้ยาอะไรกับฉัน”
“นั่นสินะ” อีกฝ่ายพูดพลางล้วงมือลงไปในกระเป๋า มนุษย์เสือหรี่ตาลงและพุ่งเข้าไปหาเขาทันทีแต่ต้องสะดุ้งสุดตัวและหยุดชะงักอย่างฉับพลัน กีพาร์ดฝืนเดินต่อไปอีกสองสามก้าวก่อนจะล้มลง เขาขบกรามแน่นขณะเลื่อนมือไปยังต้นคอและดึงเข็มฉีดยาขนาดเล็กออกมา
“เป็นไปไม่ได้ แกไม่มีทางเร็วกว่าฉัน” มนุษย์เสือพึมพำและพยายามฝืนดันตัวลุกขึ้นแต่ด้วยฤทธิ์ของยาทำให้เขาต้องล้มกลับลงไปนอนอีกครั้ง ไรซินมองเขาด้วยดวงตาที่ยากแก่การอ่านก่อนจะสั่งเสียงเรียบ
“พาเขากลับห้องและใช้โซ่มัดไว้กับเตียง”
เจ้าหน้าที่ประจำห้องทดลองช่วยกันยกร่างของกีพาร์ดออกไป ไรซินไล่สายตาไปรอบห้องและขมวดคิ้วเมื่อเห็นอุปกรณ์สำคัญหลายชิ้นถูกทำลาย เขาเอ่ยปากถามหัวหน้าหน่วยอันเทสต์ซึ่งกำลังก้าวเข้ามา
“เสียหายมากแค่ไหน”
“โหลเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อถูกทำลายไปทั้งหมด อุปกรณ์หลักของห้องนี้เสียหายถึงขั้นใช้การไม่ได้ ที่สำคัญ ตัวอ่อนกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่ท่านเพิ่งคิดค้นถูกสัตว์ทดลองตัวหนึ่งกินไปแล้วครับ”
“งั้นรึ” ไรซินพูดพลางมองเศษแก้วที่แตกกระจายเกลื่อนพื้นปะปนไปกับเศษเลือดและเนื้อของทั้งเจ้าหน้าที่และนักวิจัยที่ถูกสัตว์ทดลองทำร้าย “ตายกี่คน”
“เจ้าหน้าที่อันเทสต์ 17 นักวิจัย 3 ครับท่าน ส่วนพวกที่บาดเจ็บกำลังถูกนำไปทำการรักษาที่ห้องพยาบาล”
“พาพวกเขาไปที่ห้องวิจัยเขตหนึ่ง แยกขังห้องละคน จัดทีมเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลง รายงานผมทันทีหากใครมีอาการผิดปรกติ”
“แล้วพวกที่ตายล่ะครับ” หัวหน้าอันเทสต์ถามเมื่อเห็นเจ้านายทำท่าจะเดินออกจากที่นั่น ไรซินหันกลับมา
“เผาให้หมด”
เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

*/*/*/*/*

ความร้อนที่กำลังแผ่กระจายไปทั่วร่างทำให้กีพาร์ดต้องบิดตัวและร้องครางออกมาด้วยความทรมาน ลำคอปวดแปลบจากการถูกเข็มฉีดยาปักซ้ำลงไปสองสามครั้ง ฤทธิ์ของยาที่ได้รับวิ่งพล่านไปตามกระแสเลือดสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ความร้อนรุ่มของมันดุจจะแผดเผากล้ามเนื้อทุกส่วนให้มอดไหม้ ดวงตาเหลืองทองดุจนัยน์ตาของเสือปรือขึ้นและจับจ้องตะแกรงโลหะที่อยู่เหนือร่างเขม็ง มนุษย์เสือพยายามขยับตัวแต่พันธนาการของโซ่ที่มัดเขาจนแน่นติดกับเตียงทำให้ไม่อาจทำได้ดังใจ กีพาร์ดบดกรามด้วยความโกรธและแผดเสียงร้องตะโกน
“ไรซิน!”
“ฉันอยู่นี่” เสียงเรียบเย็นขานรับข้างตัว กีพาร์ดหันหน้าไปมองพร้อมกับแยกเขี้ยวคำราม
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“คงไม่ได้” ไรซินปฏิเสธพลางก้าวเข้าไปหา “รู้ตัวไหมว่าวันนี้นายทำเรื่องวุ่นวายมาก”
“วุ่นวาย” กีพาร์ดทวนคำและแค่นเสียงหัวเราะ “แบบนั้นมันน่าจะเรียกว่าสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับนายมากกว่า”
“แค่ตัวอย่างถูกทำลายไปสองสามชนิด จะทำขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้”
“แล้วคนของนายล่ะ เห็นโดนสัตว์ทดลองแสนรักเล่นงานไปหลายคนนี่” กีพาร์ดแกล้งถามด้วยน้ำเสียงประชดแต่ไรซินกลับยิ้มมุมปาก
“แค่ทรัพยากรสิ้นเปลืองเท่านั้น” เขาพูดด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจนัก ดวงตาของมนุษย์เสือลุกวาว
“พูดแบบนี้ได้ยังไง เขาเป็นลูกน้องของนายไม่ใช่เรอะ”
“ก็ใช่แต่คนที่ทำให้พวกนั้นตายคือนายต่างหาก” ไรซินสวนทันควัน “ฉันไม่เข้าใจกีพาร์ด ทำไมนายถึงได้พยายามทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับเราแบบนี้”
“ทำไมน่ะรึ” กีพาร์ดกระแทกลมหายใจ “นายไม่เข้าใจหรือแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่”
ดวงตากร้าวจ้องนัยน์ตาเฉยนิ่งของอีกฝ่ายเขม็ง ไรซินเลื่อนมือไปที่โต๊ะและหยิบปืนฉีดยากระบอกหนึ่งขึ้นมา
“สิ่งที่ฉันทำคือความก้าวหน้าทางพันธุกรรม” เขาดึงยาขวดเล็กออกมาจากกระเป๋า “กว่าจะสำเร็จก็ต้องมีผู้เสียสละกันบ้าง”
เขาบรรจุขวดยาลงไปในกระบอกปืนเข็ม กีพาร์ดจ้องด้วยสายตาโกรธจัด
“รวมถึงการจับพ่อของตัวเองไปเป็นหนูทดลองด้วยอย่างนั้นเรอะ” มือที่ถูกโซ่รัดไว้กำแน่น “แล้วยังสภาพของฉันในตอนนี้ ช่วยบอกทีวิคเตอร์ว่านายทำแบบนี้เพื่ออะไร!”
“อย่างน้อยนายก็พ้นจากสภาพของคนพิการ” ไรซินตอบเสียงเย็นพลางกดปลายเข็มไว้บนลำคอของกีพาร์ด “ส่วนผู้ชายคนนั้นถือเป็นการเสียสละเพื่อความก้าวหน้าทางการทดลอง”
เสียงคลิกเบาๆเมื่อมนุษย์พิษกดไกปืน ยาในขวดถูกดันผ่านเข็มให้ไหลเข้าไปในเส้นเลือดที่ลำคอของกีพาร์ด เขาสะดุ้งขึ้นสุดตัว
“แกฉีดยาอะไรให้ฉัน”
“พูดกับพี่แบบนี้ได้ยังไง” ไรซินยิ้มพลางวางปืนฉีดยาลง “แค่ยานอนหลับธรรมดาเท่านั้น”
“แกไม่ใช่พี่ฉัน” กีพาร์ดพูดเสียงขาดเป็นห้วง เขาพยายามเบิกตาให้กว้างขณะที่ออกแรงดิ้นรน ไรซินมองมนุษย์เสืออย่างใจเย็นและยกมือขึ้นแตะบนหน้าผากอย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสงบลงไปแล้ว
“พักผ่อนให้สบาย”
เขาพึมพำไม่ดังนักก่อนจะรีบลดมือลงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา เจ้าหน้าที่ประจำห้องทดลองก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงขออนุญาต ไรซินถามเสียงห้วน
“มีอะไร”
“มีโทรศัพท์ถึงท่านครับ”
“ถ้าเป็นการ์ดเนอร์บอกเธอไปว่าผมกำลังยุ่ง” ไรซินบอกปัดอย่างไม่สนใจพลางหมุนตัวเพือเดินออกจากห้องแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าหน้าที่ผู้นั้นขณะพูด
“ไม่ใช่ท่านผู้หญิงการ์ดเนอร์ครับ”
“เข้าใจแล้ว” มนุษย์พิษกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ปิดห้องนี้ให้ดี จัดคนมาคอยดูแลเขาแต่ห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด”
ไรซินสั่งเสียงเรียบก่อนจะเดินจากไปด้วยท่าทางที่เร่งรีบ เขาก้าวเข้าไปในห้องส่วนตัวและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ขออภัยด้วยครับที่ทำให้นายท่านต้องเสียเวลารอ”
“ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายกล่าวคำขอโทษที่โทร.มารบกวนเวลาทำงานของคุณ” อีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่ทว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขาม “ได้ยินมาว่ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในห้องทดลอง”
“แค่อุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้นครับ ตอนนี้ทุกอย่างเป็นปรกติเรียบร้อยแล้ว”
“สาเหตุเดิมอีกแล้วใช่ไหม” เสียงนายท่านถาม ไรซินอึ้งไปเล็กน้อยก่อนตอบ
“ครับ”
“การ์ดเนอร์รายงานมาว่ากีพาร์ดคอยจ้องแต่จะทำลายงานของเรา ผมเข้าใจดีว่าคุณต้องการปกป้องน้องชายแต่หากยังขืนปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจอยู่แบบนี้ ผลกระทบก็จะกลับมาตกอยู่ที่ตัวคุณ” เสียงปลายสายเงียบไปชั่วชณะหนึ่ง “หากที่ประชุมลงมติให้กำจัด ผมเองก็คงไม่สามารถคัดค้านอะไรได้”
“ผมเข้าใจดีครับ” ไรซินพูดด้วยน้ำเสียงเบากว่าทุกครั้งและนิ่งเงียบไป ผู้ถูกเรียกว่านายท่านจึงกล่าวต่อ
“เวลานี้คำร้องของท่านผู้หญิงยังอยู่ในมือผม”
“ท่านหมายความว่า”
“ผมยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องที่เธอรายงานมาเท่าใดนัก” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตอนนี้เราคงต้องพักเรื่องกีพาร์ดเอาไว้ก่อนเพราะผมสนใจรายงานล่าสุดของคุณมากกว่า แน่ใจหรือว่าจะทำอย่างที่เสนอมา”
“ผมแน่ใจ”
“คุณไม่กลัวอิทธิพลของการ์ดเนอร์หรือ”
“ผมให้ความเคารพต่อท่านแต่เพียงผู้เดียว” ไรซินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อีกฝ่ายนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพูด
“ถ้าอย่างนั้นก็จัดการไปตามที่คุณเห็นควร”
“ครับ” ไรซินรับคำและวางสายลงเมื่ออีกฝ่ายตัดการสนทนา เขาเลื่อนสายตามองแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะพร้อมกับเหยียดยิ้ม
“ได้เวลาลงโทษคนทรยศเสียที”

*/*/*/*/*



Create Date : 06 มีนาคม 2553
Last Update : 6 มีนาคม 2553 13:09:03 น.
Counter : 431 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี