บทที่ 5 กำลังใจ
บทที่ 5

กำลังใจ

เทเลอร์นั่งขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดหลังจากฟังรายงานการปฏิบัติหน้าที่ของวลาร์ดและวูล์ฟจบลง เขาหยิบซองพลาสติกที่มีเกล็ดสีน้ำตาลเข้มบรรจุอยู่ขึ้นมา
“หมายความว่าปิศาจที่เธอทั้งสองคนพบไม่ใช่คนที่ถูกฝังปรสิต” เทเลอร์พูดพลางพลิกซองที่อยู่ในมือและมองอย่างพิจารณา “แต่เป็นสัตว์ทดลองธรรมดาของพวกอิลูมิเนติค”
“ครับ” วลาร์ดตอบโดยสายตายังคงจ้องซองที่เทเลอร์ถือไว้ “ที่ต่างกันก็คือ หลังถูกกำจัด เซลล์ของมันปล่อยของเหลวออกมาละลายเนื้อเยื่อจนหมด”
“เลยเหลือกลับมาเพียงเท่านี้” หัวหน้าของเขาพูดพลางวางซองในมือลง “ของแค่นี้คงบอกอะไรเราไม่ได้มาก”
“คงต้องรอรายงานจากเขา” ลูกครึ่งแวมไพร์พูด เทเลอร์นิ่วหน้า
“ใคร”
“นักล่าจากส่วนกลาง เขาเก็บตัวอย่างสมองคนที่โดนฝังปรสิตมาด้วย” วลาร์ดอธิบายและหยุดชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของเทเลอร์ “คุณยังไม่ทราบเรื่องนี้หรือครับ”
“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กคนนั้นกลับมาแล้ว” หัวหน้าหน่วยนักล่าพูดเสียงเรียบพร้อมกับลุกขึ้น สมิธรีบถาม
“จะไปไหนหรือครับ”
“ห้องพิสูจน์หลักฐาน” เทเลอร์ตอบก่อนจะก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว วูล์ฟหันไปมองหน้าลูกครึ่งแวมไพร์
“เป็นเรื่องอีกแล้ว”
“นายพูดเหมือนฉันเป็นคนผิด” วลาร์ดรีบพูด อีกฝ่ายส่ายหน้า
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น” เขาถอนใจและมองเพื่อนที่กำลังก้าวออกจากห้อง
“นั่นนายจะไปไหน”
“ห้องพิสูจน์หลักฐาน”
ลูกครึ่งแวมไพร์เดินออกจากห้องทันที หนุ่มหมาป่าหันไปมองสมิธ
“ไม่ตามไปด้วยหรือครับ”
“ผมต้องเตรียมเอกสารและศึกษาข้อมูลการทดลองเกี่ยวกับปรสิตที่คุณแอชเชอร์ส่งมา” ชายหนุ่มยิ้มให้วูล์ฟ “รีบตามพวกเขาไปเถอะ”
“ครับ” หนุ่มหมาป่ารับคำก่อนจะรีบวิ่งตามเพื่อนไปในทันที ทั้งคู่เดินไปโดยไม่พูดอะไรต่อกันจนกระทั่งถึงห้องพิสูจน์หลักฐาน วลาร์ดเปิดประตูชั้นนอกและหยิบเสื้อคลุมมาสวมก่อนจะเข้าไปภายในห้องในขณะที่วูล์ฟก้าวตามเข้าไปโดยไม่สนใจเรื่องเสื้อคลุมหรือถุงมือ ทั้งคู่หยุดยืนอยู่ด้านหลังของเทเลอร์ซึ่งกำลังจ้องวิคตอเรียนิ่งและยืนรอจนกระทั่งอีกฝ่ายละสายตาจากกล้องจุลทรรศน์จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“พบอะไรบ้าง”
หญิงสาวเหลือบตามองไปยังวลาร์ดและตวัดกลับไปที่หัวหน้าหน่วยนักล่าแทบจะทันที
“ค่ะ แต่ตอนนี้คงยังสรุปอะไรแน่นอนไม่ได้”
“คุณไม่รายงานตัวหลังกลับจากการปฏิบัติหน้าที่และเข้ามาตรวจหลักฐานสำคัญโดยไม่มีการแจ้งให้ผมทราบหนำซ้ำตอนนี้ยังปิดบังข้อมูลบางส่วนเอาไว้” เทเลอร์พูดด้วยสีหน้าจริงจังและจ้องหน้าวิคตอเรียเขม็ง “ผมต้องการคำอธิบายเดี๋ยวนี้”
“ที่ไม่ได้เข้าไปรายงานตัวเพราะต้องรีบตรวจสอบเนื้อเยื่อที่ได้มาก่อนที่มันจะถูกทำลาย”
“ถูกทำลาย” วูล์ฟทวนคำ “จากอะไร”
“ฟอร์มัลดีไฮด์” วลาร์ดพูดพลางหยิบขวดแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาและเลื่อนสายตามองแผ่นสไลด์ที่วางอยู่บนกล้องจุลทรรศน์ หนุ่มหมาป่าขมวดคิ้ว
“มันคืออะไร แล้วทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น” วูล์ฟยังคงซักต่อด้วยความสงสัย นักล่าสาวเหลือบตามองเขาอย่างรำคาญ
“สารเคมีชนิดนี้มีปฏิกิริยากับของเหลวที่หลั่งออกมาจากเซลล์ของสัตว์ทดลอง มันช่วยชะลอการสลายตัวให้ช้าลง” วิคตอเรียหันไปอธิบายให้เทเลอร์ฟังและรีบพูดต่อ “ฉันเคยทดสอบมาแล้ว”
“แต่ฟอร์มัลดีไฮด์เข้มข้นจะทำลายเนื้อเยื่อ” ลูกครึ่งแวมไพร์พูดพลางวางขวดแก้วลง “เสียเวลาเปล่าที่เก็บหลักฐานด้วยวิธีนี้”
“ยังดีกว่าพวกที่ไม่เคยคิดจะทำ” หญิงสาวสวนทันควัน วูล์ฟเลิกคิ้วในขณะที่วลาร์ดมองเธอด้วยสายตาเฉยชา
“ฉันลองมาแล้ว”
“กับสัตว์ทดลองที่หลุดเข้าไปในองค์กรน่ะเหรอ” นักล่าสาวถามด้วยน้ำเสียงดูถูก ดวงตาของลูกครึ่งแวมไพร์ทอประกายวาว
“เด็กคนนั้นชื่อแอลลิสัน เธอเป็นเหยื่อไม่ใช่สัตว์ทดลอง”
เขาพูดเน้นเสียงทีละคำและจ้องวิคตอเรียนิ่งด้วยความโกรธ เทเลอร์รีบยกมือห้าม
“พอได้แล้ว” หัวหน้าหน่วยนักล่าหันไปมองวลาร์ดก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปที่วิคตอเรียอีกครั้ง “ผมรู้ว่าคุณต้องค้นพบอะไรบางอย่างบ้างแล้ว พร้อมที่จะรายงานหรือยัง”
สีหน้าเคร่งขรึมและจริงจังของเทเลอร์ทำให้นักล่าสาวยืนนิ่ง เธอเหลือบมองลูกครึ่งแวมไพร์ที่เลื่อนสายตาไปจ้องจอขนาดใหญ่บนผนังซึ่งกำลังฉายภาพขยายของเนื้อเยื่อที่ตนกำลังตรวจสอบก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก
“เนื้อเยื่อที่ได้มาในครั้งนี้แตกต่างจากสัตว์ทดลองทุกตัวที่เราเคยพบ การกระจายตัวของปรสิตในสมองไม่เหมือนกับกรณีของเด็กที่ชื่อแอลลิสัน”
“หมายความว่ายังไง” หนุ่มหมาป่าถามแทรกขึ้น วิคตอเรียมองหน้าเขาแต่ไม่ยอมตอบอะไรวลาร์ดจึงเป็นฝ่ายอธิบายทั้งที่ยังคงจ้องจอภาพไม่วางตา
“ไมซีเลียม”
“อะไรนะ” วูล์ฟถามเสียงสูงลูกครึ่งแวมไพร์หันหน้ากลับมา
“มันเป็นกลุ่มเซลล์ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยเรียกว่า ไฮฟา(Hypha) และไมซีเลียมก็คือไฮฟาที่รวมกันเป็นกระจุก นายสังเกตดูเห็นจุดเล็กๆที่ยึดติดกับเนื้อสมองนี่ไหม” วลาร์ดชี้ไปบนจอภาพ “มันคือไรซอยด์”
“ฉันขอคำอธิบายสั้นๆ ในภาษาคนธรรมดา” หนุ่มหมาป่าโพล่งขัดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน เพื่อนของเขามองด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนจะสรุป
“มีเส้นใยคล้ายตาข่ายสีขาวฝังรากอยู่ในเนื้อสมองของคนที่ได้รับเชื้อปรสิต”
“ก็เท่านั้น” วูล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงประชดและทำท่าจะพูดต่อแต่ต้องชะงักเมื่อเทเลอร์หันมามองด้วยสายตาตำหนิ
“ผมไม่มีความชำนาญด้านสารเคมีและชีววิทยาเหมือนคุณทั้งสองคน” เขาพูดขณะมองหน้าวลาร์ดและวิคตอเรีย “กรุณาสรุปให้สั้น กระชับและได้ใจความ”
“ปรสิตในสมองของมนุษย์ทดลองที่พบในวันนี้ต่างจากปรสิตที่อาศัยในแอลลิสัน” ลูกครึ่งแวมไพร์พูดพลางชำเลืองมองนักล่าสาว เธอเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะอธิบายต่อ
“การฝังตัวของปรสิตที่พบในเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบตาข่ายที่ครอบคลุมไปทั่วสมอง แต่ปรสิตตัวที่พบในวันนี้นอกจากการแพร่กระจายของมันเป็นแบบการฝังรากด้วยเส้นใยเหมือนไมซีเลียมของเชื้อราแล้วฉันยังพบว่าปรสิตบางตัวมีการแบ่งตัวและเคลื่อนที่แบบซูโดพอด แต่ก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากนักเพราะตัวอย่างที่ได้มามีชิ้นเล็กเกินไปและที่สำคัญ” เธอมองชิ้นส่วนสมองในจากเพาะเชื้อซึ่งเริ่มยุบตัวลงและกลายเป็นของเหลวเหนียวข้น “แม้จะถูกแช่มาในน้ำยา แต่เซลล์ก็ยังสามารถหลั่งสารย่อยออกมาสลายตัวเอง”
“สรุปคือพวกเธอยังไม่รู้อะไรเลย” หัวหน้าหน่วยนักล่าพูด วิคตอเรียขมวดคิ้วในขณะที่
วลาร์ดนิ่วหน้า เทเลอร์สั่นศีรษะพร้อมกับถอนใจ
“เขียนรายละเอียดและข้อมูลของปรสิตชนิดใหม่ที่เธอสองคนพบ” เขามองหน้าวิคตอเรียกับลูกครึ่งแวมไพร์ “และส่งให้ฉันในตอนเช้าก่อนการเดินทางไปพบคุณแอชเชอร์”
คำพูดสุดท้ายเน้นย้ำอย่างจงใจขณะสายตาจับจ้องอยูที่หญิงสาวโดยเฉพาะ อีกฝ่ายเม้มปากแน่นและเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน หัวหน้าหน่วยนักล่าจึงเลื่อนสายตาไปที่วลาร์ดเหมือนต้องการกำชับคำสั่งกับเขาอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้อง วิคตอเรียจึงหันไปเก็บชิ้นส่วนสมองออกจากกล้องจุลทรรศน์ จานเพาะเชื้อรวมทั้งขวดแก้วลงกล่องผนึกฝาจนแน่นหนาและทำท่าจะก้าวออกจากห้อง วูล์ฟรีบถามทันที
“จะเอาไปไหนน่ะ”
“ตึกขาว” นักล่าสาวตอบเสียงห้วน หนุ่มหมาป่าเลิกคิ้ว
“วางเอาไว้ที่นี่แล้วเรียกเจ้าหน้าที่มาจัดการให้ก็ได้”
“ฉันไม่ชอบใช้งานใคร” วิคตอเรียพูดและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว วูล์ฟส่ายหน้าพร้อมกับบ่น
“เหมือนมีผีดิบเพิ่มมาอีกคน”
“พูดมากน่า” ลูกครึ่งแวมไพร์พูดเสียงไม่ดังนัก หนุ่มหมาป่าหันไปมองหน้าเพื่อนและถาม
“จริงเหรอ”
“อะไร”
“ปรสิตที่เจอวันนี้เป็นคนละชนิดกับตัวที่ทำร้ายแอลลิสัน”
วลาร์ดนิ่งไปเล็กน้อยเหมือนกำลังไตร่ตรองก่อนจะตอบเพื่อน
“ตัวอย่างที่ได้มาในวันนี้มีน้อยเกินไป แต่เท่าที่ดูวิธีการแพร่กระจายในเนื้อสมองมันน่าจะเป็นแบบนั้น”
“น่าจะเป็น” วูล์ฟทวนคำพูดเพื่อนด้วยความแปลกใจ “อย่าบอกนะว่านายยังไม่มั่นใจในเรื่องที่พูดมาเท่าไหร่”
หนุ่มหมาป่าถามและจ้องหน้าเพื่อนอย่างสงสัย ลูกครึ่งแวมไพร์ยืนขมวดคิ้วนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก
“ก็ทำนองนั้น”
คำตอบของอีกฝ่ายทำให้วูล์ฟถึงกับอึ้งไปชั่วอึดใจ เขาส่ายหน้า
“นายเป็นอะไรไป”
“ถามทำไม”
“คนอย่างนายไม่เคยพูดจนกว่าจะแน่ใจว่าแถมตอนทำงานยังใจร้อนจนบางทีฉันแทบตามไม่ทัน”
“นายเองก็ด้วย” ลูกครึ่งแวมไพร์ย้อน “ใช้กำลังปฏิบัติหน้าที่รุนแรงเกินกว่าเหตุจนฉันเก็บเก็บซากสัตว์ทดลองกลับมาตรวจสอบไม่ได้ตั้งหลายครั้ง”
คำพูดของวลาร์ดทำให้วูล์ฟต้องยืนอึ้งไปอีกครั้ง เขากำมือแน่นก่อนจะก้มหน้าลงและพูดเสียงแผ่ว
“ฉันยังทำใจไม่ได้” หนุ่มหมาป่าคำพูดค้างไว้แล้วถอนใจ “นายน่าจะรู้”
“ฉันเข้าใจ” วลาร์ดพูดเสียงเรียบก่อนจะไล่สายตามองไปรอบห้อง “ต้องใช้เวลานานกว่าจะรวมสมาธิทำงานในห้องนี้ได้”
ลูกครึ่งแวมไพร์มองตำแหน่งที่อันเดอร์ฮิลล์เคยยืนทำงานด้วยสายตาเศร้า เขาวางมือลงบนโต๊ะที่ใช้ตรวจหลักฐานอย่างแผ่วเบาขณะหวนคิดถึงภาพที่เคยทำงานร่วมกับบิดาบุญธรรม เด็กหนุ่มระบายลมหายใจออกมาก่อนจะถอดเสื้อคลุมและเดินออกจากห้อง วูล์ฟรีบถามด้วยความสงสัย
“นั่นนายจะไปไหน”
“เขียนรายงาน”
วลาร์ดตอบกลับมาและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเหมือนไม่ต้องการให้เพื่อนตาม หนุ่มหมาป่ายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงก้าวออกจากห้อง เสียงร้องเรียกที่ดังมาจากทางเดินอีกด้านทำให้เขาหันไปมองและเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“คุณสมิธ” วูล์ฟเอ่ยทัก “มาทำอะไรแถวนี้ครับ”
“คุณเทเลอร์สั่งให้มาดูคุณทั้งสองคน” ชายหนุ่มตอบพลางไล่สายตามองไปรอบตัว “วลาร์ดไปไหน”
“กลับไปที่ห้องแล้วล่ะครับ” หนุ่มหมาป่าตอบและอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าฉงนของสมิธ “คุณเทเลอร์สั่งให้เขาเขียนรายงาน”
“งั้นหรือ” ชายหนุ่มพึมพำพลางมองวูล์ฟ “แล้วคุณล่ะ”
“ผมไม่ชอบงานเอกสาร” หนุ่มหมาป่าตอบเสียงเรียบขณะเดินไปตามทางและหันไปมอง สมิธที่กำลังจ้องเขาไม่วางตา “มีอะไรหรือครับ”
“เปล่า” อีกฝ่ายตอบและแว้นระยะไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “ผมไม่เห็นคุณที่สนามบาสฯมาหลายอาทิตย์แล้ว”
“ครับ” วูล์ฟตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย “ช่วงนี้ผมกำลังฝึกอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อย”
“พอจะบอกได้ไหม”
“อย่าเพิ่งดีกว่าครับ” หนุ่มหมาป่าปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมกับหยุดเดิน เขายืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงหันหน้าไปทางสมิธ “ผมมีเรื่องอยากจะถาม คุณได้ข่าวคืบหน้าอะไรบ้างไหม”
“ทางองค์กรพยายามสืบค้นทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่พบอะไรเลย” ชายหนุ่มตอบและถอนใจ “เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับฆาตกรเป็นของปลอมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ บัตรประจำตัว ใบขับขี่”
“หมายความว่าเราไม่มีทางเจอตัวคนร้ายรายนี้” วูล์ฟพูดด้วยความโกรธ “วลาร์ดรู้เรื่องแล้วหรือยังครับ”
สมิธพยักหน้าแทนการตอบ หนุ่มหมาป่าบดกรามตัวเองแน่นก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังสนามด้านนอก
“หมอนั่นถึงได้ดูหงุดหงิดตลอดเวลา”
“คุณเองก็เหมือนกัน” สมิธพูด “ไม่เพียงแต่พวกคุณ ตัวผม คุณเทเลอร์และเจ้าหน้าที่ในหน่วยนักล่าทุกคนมีความรู้สึกแบบเดียวกันหมด ทุกคนต่างทุ่มเทการทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะจับฆาตกรรายนี้ให้ได้ ดังนั้นผมจึงไม่อยากให้วลาร์ดและคุณรวมถึงวิคตอเรียใช้อารมณ์ในการปฏิบัติงาน เพราะมันอาจทำให้เกิดการพลาดพลั้งจนพวกคุณต้องได้รับอันตราย”
“คุณสมิธ” วูล์ฟหลุดคำพูดออกมาด้วยความคาดไม่ถึง อีกฝ่ายยิ้ม
“ถึงพวกผมจะเป็นเพียงแค่ฝ่ายสนับสนุน แต่เราทุกคนเป็นห่วงพวกคุณมาก” สมิธพูดพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ของหนุ่มหมาป่าและบีบเบาๆ
“อย่าเอาแต่ลุยจนลืมหน้าที่หลักและความปลอดภัยของตัวเอง”
“ครับ” วูล์ฟรับคำเสียงแผ่ว สมิธยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน
“ไปห้องฝึกเถอะครับ” ชายหนุ่มตบบ่าหนุ่มหมาป่าสองสามครั้งก่อนจะเดินจากไป วูล์ฟยืนมองตามจนอีกฝ่ายเดินพ้นไปจากสายตาจึงหมุนตัวและก้าวออกจากที่นั่นตรงไปยังห้องฝึกซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินของอาคาร

*/*/*/*/*












Create Date : 06 มีนาคม 2553
Last Update : 6 มีนาคม 2553 13:11:33 น.
Counter : 360 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กิสึเนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



moony ค่ะ เป็นคนชอบสร้างจินตนาการมาตั้งแต่เด็ก เคยวาดการ์ตูนไว้เป็นเล่ม แต่เก็บไว้อ่านเอง นิยายเรื่องแรกที่เขียนเป็นแนวจีนกำลังภายใน ตอนหลังรู้จักเน็ตจึงเริ่มสร้างสรรเรื่องอื่นบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นแนวแฟนตาซี