สู้เพื่อลูก-ใครจะคิดว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะเปลี่ยนแปลงชีวิตแม่ทุกสิ่ง....
Group Blog
 
All blogs
 

fly again ขับรถไปเที่ยววิถีไทยที่สวนสามพรานกันนะลูก

หลังงานรร.น้องกะบูน ได้ติ๊บจากตายายมาเยอะ แต่เราอยู่กัน 2 คนเองแม่มันได้ไอเดียไปเที่ยวสวนสามพรานจากพี่ใจดีคนนึง แนะนำให้ไปเที่ยววิถีไทย ที่สวนสามพราน ประสานงานข้อมูลอย่างรวดเร็วมาก จนได้ความว่า เที่ยววิถีไทยเปิดเวลา10.00 -12.00 น. ราคา 200 บาทเด็ก150 (มีบุฟเฟต์ด้วยก็รวมเงินเป็น390 เด็ก350 ) ถ้าดูโชว์บ่ายก็จ่ายเพิ่ม 200 เด็ก 150 ได้ข้อมูลแล้วก็จัดแจงค่ะ เช้ามาทำงานบ้านเสร็จ ไปกันเลย


ตุ๊กตาช้างหมอนนี้ แม่ซื้อให้เป็นรางวัลตอนแสดงงานรร.ค่ะ แม่มันขับรถไป มือเย็นนิดหน่อย เส้นไปสามพรานสิบล้อเยอะ หนูกัวววว พอถึงก็ดล่งค่ะ เข้าไปจ่ายเงินจะกินข้าวกลางวันด้วยก็จ่าย 390+350 ค่ะ ได้คูปองมาทำกิจกรรมคนละใบ เจอฐานแรก รำกระทบไม้ เอากะบูนลองกับพี่สาวคนสวยค่ะ ตอนแรกกลัวโดนหนีบมาก แต่พี่ๆนำเก่งนะคะ


รำๆไปชักมัน ลองเดี่ยวมั่ง หนุกจังเลยแม่จ๋า

ฐานต่อไปเป็นการจำลองบ้านชาวนาค่ะ สถานที่จัดได้สวยดีนะคะ


มีต้นข้าวกำลังออกรวงเลยค่ะ


ได้เจอของถูกใจ กะบูนชอบลูกควายมากๆค่ะ คุณลุงเจ้าหน้าที่ก็ใจดีมากค่ะ


ตัวนี้ชื่อสุขใจค่ะ 3เดือนเอง ตัวผู้น่ารักโหน่เนะมาก

ได้ลองร่อนข้าวด้วยค่ะ


เดินไปอีกนิดมีพี่ๆประถมเล่นอังกะลุงให้ฟังค่ะ


ใกล้ๆกัน พี่แสดงกระบี่กระบอง เอาใจเด็กๆน่าดูค่ะ เล่นกับน้องด้วยค่ะ

เสร็จแล้วเข้าฐานร้อยมาลัย อันนี้ทำแล้วเอากลับบ้านได้ มีใช้คูปอง1 ใบนะคะ


แอ๊บร้อยมาลัย ดูเป็นเด็กเรียบร้อยจังเลยลูกเรา


สถานที่โดยรวม จัดได้น่าถ่ายรูปมากค่ะ


มีศาลาหม้อยาด้วย พออธิบายให้กะบูนดูค่ะ เค้านึ่งลูกประคบไว้ หอมดีค่ะ


เดินไปเป็นฐานปั้นดิน แลกคูปองให้พี่สอนปั้นค่ะ บุญญาเลือกปั้นหมาน้อยค่ะ (อิอิหุ่นคนสอนกะนักเรียนพอกันเลย )

ตั้งใจปั้นๆ


ปั้นเสร็จมีคนมา ปั้นถ้วยอยากทำอีกแต่คูปองหมด จารู้ไหมเนี่ยว่าปั้นถ้วยก็ได้อ่ะ


หลังจากนั้นก็ไปสานปลาตะเพียน


ต่อด้วยลองรำไทย เพลงลอย ๆ กระทง

ลองได้สักพักก็เปลี่ยนมาลองตีระนาดดีกว่า แต่ยากนิดนึง คนละระบบกับขิมอ่ะ


แล้วก็ลองไปปลูกกล้วยไม้ เสร็จแล้วอ้าวว นึกว่าปลูกแล้วให้กลับอ่ะ





แวะให้อาหารปลานิดนึง


ดูเขาทอผ้า


เจอพี่เค้าระบายสีร่ม+พัด ถ้าอยากทำเอากลับบ้าน ร่ม 150 พัด100 บาท แม่จัดให้ค่ะ มาแล้วเอาให้คุ้ม ให้พี่เขียนร่างให้กะบูนลงสี


ตั้งใจมากๆค่ะ


กุลสตรีไทยจริงลูกเรา

เสร็จแล้วเขียนชื่อBOON โชว์หน่อยค่ะ



ไปดูสาวไหม ที่นี่เลี้ยงเองจริงๆ มีต้นหม่อนให้ดูด้วย มีแผนผังเหมาะสำหรับอธิบายให้เด็กดูแบบครบวงจรค่ะ


ก่อนจะเดินไปตรงที่ทำหนมกล้วยค่ะ อีกสักภาพ วิวสวยๆเยอะค่ะ

ตรงนี้จะสาธิตทำขนมกล้วยปิ้งค่ะ ไม่เคยรู้เลยว่าหนมกล้วย เอามาปิ้งก็ได้ อร่อยด้วยย


ซื้อกลับบ้านชิ้นละ 5 บาทเองค่ะ เอ้าลองตักใส่ ทำ แต่กะบูนกลัดไม้ไม่เป็นให้แม่กลัดให้ค่ะ

จะกลับไปดูงานแกะสลักผลไม้หน่อยไม่ทันละเขาเก็บแล้วค่ะ 2ชม.ไวมากเลย เดินผ่านช้างที่ใช้ในการแสดงตอนบ่าย แชะรูปสักหน่อยค่ะ ก่อนไปกินอาหารบุฟเฟต์


ช้างงจริงกลัวแต่ช้างไม้ไม่กลัวนะคะ


เดินสักพักก็ถึงห้องอาหาร

มาดูอาหารกันดีกว่านะคะ ขนมไทยและขนมเค้กค่ะ



แกงมัสมั่น ผัดผัก ปลาเปรี้ยวหวาน ต้มยำไก่ ผัดขิง

ผัดไทและปอเปี้ย




ก๋วยเตี๋ยวไก่


อันนี้กะบูนกริ๊ดดมาก ซูชิค่ะ


สลัด อาหารประจำของแม่มันน้ำสลัดอยู่อีกทางไม่ได้ถ่ายค่ะ วันนี้เมินสลัด อิอิ


กินกะหนูไหมคะ ที่ไม่ได้ถ่ายมาก็คืออาหารฝรั่งเนื้อแกะอบ มักกะโรนี(หลอดๆอ่ะคะจำชื่อไม่ได้) สตูว์ไก่นะคะ กะบูนกินแล้วอร่อยดีค่ะ  แล้วก็อาหารอินเดีย  ข้าวอบสัปปะรด แกงกระเจี๊ยบ แล้วก็ผัดไรสักอย่่างจำไม่ได้ค่ะ 

เสร็จแล้วเดินชมกันอีกนิดก่อนกลับ มีร้านค้าขายของพอสมควรค่ะ

กิจกรรมที่นี่เยอะจริๆงค่ะ มีเรื่องทำสบู่ สมุนไพร เที่ยวสวนด้วย เพิ่งมารู้ที่นี่ล่ะ อันนี้เดินนวดเท้าค่ะ กะบูนบ่ยเจ็บเพราะเด็กเดี๋ยวนี้ใส่รองเท้าหมด เท้าบาง


เจ็บอ่ะแม่จ๋า ไม่เอาแระ



เดินมาทางร้านขายของที่ระลึก

มีจำลองตลาดน้ำด้วย พ่อค้าแม่ค้าแอบเหงาเล็กๆ เพราะไม่ค่อยมีคนเดินมา อุดหนุนกันหน่อยนะคะ ชาวสวนแท้ๆค่ะ


มาถึงรถคันเก่งของเราแล้ว


ทางออกจะมีตลาดสุขใจ มีอาหาร ชวนสวนโอทอปมาเอง แวะอุดหนุนกันได้นะคะของไม่แพงค่ะ


กลับบ้านละค่า กะบูนแบตหมดแว้ว ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ




 

Create Date : 03 เมษายน 2555    
Last Update : 4 เมษายน 2555 9:08:25 น.
Counter : 5474 Pageviews.  

กะบูนอยากจะเปรี้ยว โชว์หน่อยดิ๊

ครือ  ยังไม่มีไรอัพค่ะ  แม่ลูกยาย เล่นกันไปวันๆ เอารูปสาวกะบูนอยากเท่ห์ มีรอยสักมาให้ดูแล้วกันนะคะ

 

แบบว่า มันแถมมาจากสาหร่ายค่ะ

แล้วแบบว่า แม่มันทำไม่เป็นเวลากะบูนอยากมีรอยสักต้องทำเองง่ะ แฮ่ๆ

 

เธอบอกว่า แม่จ๋า ถ่ายไว้นะ หนูอยากเอาไว้ดู เอาชัดๆนะแม่ .... จ้า....

 

แขนหมู  อิอิ    ให้แค่ตอนเด็กนะ ตอนโต ต้องมาอภิปรายกันก่อนทำนะลูก  เล็กๆน้อยๆค่า ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ




 

Create Date : 23 มีนาคม 2555    
Last Update : 23 มีนาคม 2555 14:48:07 น.
Counter : 2788 Pageviews.  

สอนลูกเข้าครัวกันเถอะตอน:หมูน้อยทำขนมปังหน้าหมู

>คืนก่อนวันมาฆบูชา วันหยุดกลางสัปดาห์ของเรา กะบูนบอกว่าอยากทำขนมปังหน้าหมูตามแบบที่ครูเคยสอนให้ทำที่รร. แบบว่าหนูจะสอนแม่ทำเองนะ เอางั้นเลยเหรอ ได้เยย เช้ามา กินข้าวผัดผักบุ้งไปก่อน สายๆแม่มันถึงวิ่งไปหาวัตถุดิบมากองให้ อันได้แก่ขนมปังแผ่น หมูบดปรุงรส ไข่ ผักนิดๆหน่อยๆตามประสา ก่อนหน้านั้นให้เอาขนมปังออกมาผึ่งให้แห้งๆนิดๆจะได้ไม่อมน้ำมันนะคะ เธอหยิบขนมปังมานับเผื่อแม่เผื่อยาย ที่เหลือของหนู เรียงๆ พอได้เวลาจะเที่ยงก็ เอ้า เริ่ม



ตอกไข่ๆ


แม่มันสอนให้หั่นต้นหอมและแครอท


ยังกลัวๆมีดเพราะเคยโดนบาดนะคะ แต่แม่มันยืนยันว่าต้องหัด แม่ก็หลายแผลเหมือนกันกว่าจะโต เสร็จแล้วปาดลงชามไข่เลย บอกว่าให้กอบเอาเฟร้ยย


แม่ใส่น้ำมันหอยให้เพราะขวดหนัก ให้กะบูนตีๆไข่


แม่แบ่งหมูบดมาให้ทาหน้าขนมปังค่ะ เอ้าทาเองนะลูก


แม่ตั้งกระทะ เทน้ำมันไม่เยอะกลัวลูกอ้วน(ไปกว่านี้)


ให้กะบูนชุบไข่แล้วส่งชามให้แม่ค่ะ


แม่ก็ทอดไป บุญก็ป้ายหน้าหมูไป ชุบไข่ไป ส่งให้แม่



ใช้กระดาษซับมันด้วย เหมือนจะทำให้อ้วนน้อยลง (ฮา)




เมื่อแม่ทอดแผ่นสุดท้าย ...


ยังไม่ได้กินลูก ไปล้างจานเก็บกวาดก่อน


หัดล้างให้สะอาด ส่วนแม่จะกินเอง ...มะช่าย แม่หั่นแตงกวาบางๆค่ะ


เอามาให้กะบูนตกแต่งจานค่ะ จะให้กินผักด้วยนั่นเอง นี่เอามาแปะตาทำให้ตาสดชื่นด้วยนะคะ


เสร็จแล้วค่า 2 จาน ไหนของหนู ไหนของแม่กะยาย ทายสิๆ ใบ้ให้ว่าอันไหนเค้าถือก็อันนั้นล่ะค่ะของเค้า


ตั้งโต๊ะเตรียม ของกะบูนจิ้มซอสมะเขือ ของแม่กะยายจิ้มน้ำจิ้มไก่



เป็นมื้อที่กะบูนภูมิใจมากอีกมื้อที่จำสูตรจากรร.มาสอนแม่ทำขนมปังหน้าหมู และทำให้ยายกินได้ (เคยทำให้กินแล้วหนิยะยัยกะบูน)



แม่มันกินไป1/4แผ่นค่ะ เพราะกินข้าวไปก่อนแล้ว นอกนั้นยายหลานค่ะ มื้อกลางวันชิลล์ๆ วันหยุดบ้านเรานะคะ เย็นนี้ไปเวียนเทียนกัน ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ




 

Create Date : 07 มีนาคม 2555    
Last Update : 23 มีนาคม 2555 14:50:32 น.
Counter : 1664 Pageviews.  

สอนกะบูนขายของ...ชีวิตไม่ได้ง่ายนะลูก



แม่มันเป็นคนแปลกประหลาดค่ะ ชอบสอนไรลูกแปลกๆ ไม่ค่อยอยากจะให้กะบูนติดสบายเกิน สอนให้ทำงานบ้าน สอนให้ทำโน่นนี่ เพราะกะบุนเกิดมาไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น แถมในอนาคตก็ไม่แน่นอนว่าประเทศชาติจะเป็นไง จะอยู่กันได้สบายๆเหมือนเดิมไหม อยากให้ลูกแกร่งๆเอาไว้ก่อนค่ะ ที่ผ่านมาแม่มันไปทำงานพิเศษร้านเพื่อน กะบูนเคยตามไปหนนึงอยากขายของมากไปช่วยเขาขายของ แถมติดใจอยากไปอีก แม่มันเลยมีไอเดีย...เอาขายแบบfull optionเลยลูก ค้นบ้านเอาชุดของกะบูนมาเลือกๆๆเตรียมไปขายมือ2 ค่ะ ตอนแรกกะบูนไม่ค่อยพอใจแบบว่าอยากเก็บไว้ทุกตัวจนแม่ต้องมานั่งอบรมว่าของไม่ใช้แล้ว เอาไปทำประโยชน์ได้ บลาๆๆๆๆๆ เลยต่อรองว่า งั้นหนูขอถ่ายรูปเก็บไว้ได้ไหมแม่จ๋า หนูรักเสื้อของหนู แง้ ....ทำไมลูกช้านดราม่าแบบนี้

แล้วพอวันอาทิตย์มาถึงเราก็ไปกันค่ะ เสื่อผืนหมอนใบ เอ้ย กระเป๋า 2 ใบ ถุงเปล่าเก็บๆไปอีกนิหน่อย กะว่าคงขายได้ไม่มาก ด้วยการขายเอามันเฉยๆเลยตั้งราคา 10-20 บาทค่า...(ตลาดนี้ราคาประมาณนี้ค่ะ) เอ้าจัดร้านนนน




มาดแม่ค้าน้อยมีแต่คนมองค่ะ น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก เสื้อตัวนี้ไปก่อนเลย ขายถูกไปไหมเนี่ยเรา แต่นะ ขายเอามันส์เฉยๆ ขายตัวแรกได้มีกำลังใจเพียบค่ะ



การขายของต้องใจเย็นๆนะคะ กะบูนใจร้อนมากโวยวายตลอดกลัวขายของไม่ได้ แม่ก็ตื่นเต้นจัด แต่ต้องแอบไปดูห่างๆค่ะ มาช่วยตอนลุกค้ามาดูจริงๆพอ (เหมือนแม่โหดพาลุกไปขายของเลยอ่ะ) ต้องปลอบไปเรื่อยๆ บางทีก็สงสารลูกถามว่าจะเลิกขายไหมก็ไม่ยอมนะคะ อยากขายได้ คือแบบlist ของที่อยากได้ไว้เพียบเลยอ่ะ คอยถามแม่ว่าขายได้เท่านี้พอซื้อหรือยังไม่ก็บอกว่ายังทุกที



นั่งขายเฉยๆ ชักเหนื่อยก็ต้องหลอกล่อกันบ้าง ทั้งน้ำ ขนม โกโก้ .....



ขายไม่ได้ก็เรียกลูกค้า "ช่วยซื้อหน่อยค้า แง้....." มาแบบนี้ใครๆก็สงสารอ่ะดิ ...นี่แม่บังคับลูกมาขายเรอะ.. บางทีก็ถามแม่ว่า แม่จ๋า หนูร้องเพลงเฉยๆแล้วให้เขาเอาตังค์ให้ได้ไหม.....จำมาจากไหนฟระ มีแต่คนช่วยลุ้นค่ะ ขายไปมืดก็ไม่ยอมเลิก จนกระทั่งขายได้ 110 บาทถ้วน (ไม่หักค่าใช้จ่ายพวกของกิน) โห เธอปลื้มมมมมากกกก


แม่จ๋าซื้อของได้แล้วใช่ป่าว......เอ่อจะถึงบ้านกี่บาทเนี่ย



สิ่งที่กะบูนอยากได้คือแก้วไก่(ที่เคยไปใช้ที่ไร่ปลูกรัก) 1 คู่ ฟักทองออมสิน ขนมหมาฝากพี่ถั่วดำ+คำหล้า และสมุดระบายสีเจ้าหญิงที่โลตัสเอ็กเพรสค่ะ รวมๆแล้วค่าใช้ซื้อของ 105 บาท เหลือกลับบ้านหยอดกระปุก 5 บาทพอดี


แม่สรุปบทเรียนค่ะ กะบูนบอกว่าหนูชอบขายของมากตอนนี้หนูรู้แล้วว่าเงินหายาก หนูจะประหยัด (ตรงไหนฟระ... ) หนูจะไปเล่าให้คุณครูฟังว่าหนูหาเงินได้เองแล้ววว หนนี้คงขายหนเดียวค่ะเสื้อผ้าหมดบ้านแล้วที่เหลือจะเอาไปบริจาคค่ะ ขอให้ลูกแม่โตขึ้นอย่างเข้มแข็งนะลูก ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ






 

Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2555 12:19:22 น.
Counter : 2031 Pageviews.  

รถยนต์(เก่าๆ)คันแรกของแม่ let's me fly



ประสบการณ์ของแม่มันนะคะ เริ่มจากตอนเด็กๆหัดจักรยาน ตอนมหาวิทยาลัยก็หัดมอร์เตอร์ไซด์ ได้มอร์ไซด์คันเก่าจากลุงของกะบูนมาไว้ใช้ขี่ไปต่อรถที่ตลาดไปศาลายา จบมาใหม่ๆก็ขอเงินตาไปเรียนขับรถสอบใบขับขี่จนได้ แต่ที่บ้านก็ไม่ให้ขับรถกระบะที่บ้านเพราะกลัวอุบัติเหตุ ลุงกะบูนก็จะเป็นคนขับได้คนเดียว มีตากะบูนขับบางครั้ง แม่มันก็ซิ่งแต่มอร์ไซด์คู่ใจเรื่อยมาตะลอนๆไป ปีกกล้าขาแข็งก็เดี่ยวไปห้องสมุดเกษตรกำแพงแสน (จากอ.เมืองนครปฐม ) ได้ไกลสุดถึงไทรโยค เรียกได้ว่ากะมอร์ไซด์ ถึงไหนถึงกันค่า

ตอนมีลูกก็ติดที่นั่งเด็ก ซื้อหมวกให้กะบูน พาไปตะลอนๆ พกเสื้อกันฝนลุยกันไป ตอนไปไหนกับพ่อกะบูนก็ปุเลงๆซ้อนกันไป พอได้งาน หน้าฝน ต้องขี่มอร์ไซด์ตากฝนเป็นไข้บ่อยๆ ท้อค่ะ ในใจแม่มันคิดตลอดมาว่า ถ้าลูกโตขึ้นเราจะทำยังไง จะมีเงินซื้อรถให้ลูกได้ไหม

พอลุงกะบูนเปลี่ยนงานไปทำงานไกลๆไม่ได้มาบ้านบ่อยๆ ก็ต้องเอารถกระบะไปใช้ แล้วยายล่ะ ทีนี้มอร์ไซด์คันเดียว จะไปกันยังไง แม่มันเปิดเวบดูรถยนต์ เสาะหาไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่ไม่มีเงินน่ะค่ะ ฝันว่าสักวันเราคงจะซื้อได้ สักวัน

ดูเวบเป็นปีๆนะคะ จนวันที่แยกทางกับพ่อกะบูน พ่อกะบูนกู้เงินของหน่วยงานเพื่อให้ทางบ้านพ่อแม่ เลยขอปันมา 4 หมื่นให้ลูก เก็บไว้ในธนาคาร จนมาพบรถคันนี้ เหมือนรถในฝัน


ดูเก่าๆโทรมๆนะคะ แต่ตรงสเป็คแม่มันตรงที่ราคาไม่แพงมาก (5.5 หมื่น) ติดแก้สแล้ว ลงเล่มเอกสารเรียบร้อย ติดที่ว่าไม่มีคนไปดูด้วย พอดีพ่อกะบูนมาหาลูก ตามสไตล์คนใจร้อน เลยชวนกันไปกรุงเทพค่ะ ที่ห้างเซ็นจูรี่ สาวรีย์ แม่มันดูรถไม่เป็น พ่อมันดูรถลวกๆ พอกัน ตกลงใจซื้อแล้วให้พ่อกะบูนขับกลับค่ะ เวงกรรม ตอนผ่านศาลายาเลี้ยวผิดกลับกทม. วกไปวนมากลัวแก้สหมด จำได้ว่าเครียดมากกกกก



เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ดูกันไม่เป็นอ่ะนะเลยต้องเก็บรายละเอียดซ่อมอีกหลายเงิน เตรียมจะขับ ปัญหาสำคัญคือ แม่มันลืมวิธีขับไปหมดแล้ว (ห่างจากตอนเรียนสอบใบขับขี่แค่เกือบ10ปี) พอมานั่งหลังพวงมาลัยอีกทีเกิดอาการตัวแข็งเกร็ง กลัวขับรถชน (สาเหตุก็เนื่องจากเคยนั่งรถทัวร์คว่ำที่กำแพงเพชรด้วย มันติดตาน่ะค่ะ) ไม่มีใครมาว่างหัดให้อีกเลย และมีเสียงปรามจากยายกะบูนเป็นระยะๆเพราะกลัวขับไปชน ปัญหานี้ทำให้ต้องจดรถคันนี้ไว้ที่บ้านอีกเป็นปี ก็ได้แต่ถักไหมพรมตกแต่งรถไปเรื่อยๆนะคะ ไม่มีปัญญาเอาออกขับ ขี่มอร์ไซด์ปุเลงๆไปทำงาน ตากแดดตากฝนเป็นไข้ตลอด มีลุงมาขับบ้าง จนรถจอดแบตเสียซ่อมไป7 พันกว่า



จากการต้องซ่อมรอบนี้ ต้องขอช่วยเหลือจากเพื่อนๆพี่ๆมากมาย เป็นแรงฮึดให้แม่มันพยายามเอารถขับให้ได้ เริ่มจากละแวกบ้าน ค่อยๆหัดเองไปเรื่อยๆ วันนึงจึงบอกกะตัวเองว่า ต้องเอาไปถนนนอกให้ได้เลยขับไปทำงาน....


ขับไปฉลุยค่ะ ขากลับเครียดขึ้น...หนูไม่กล้า(คนละเส้นกะขามาค่ะ) วานน้องที่ทำงานขับกลับให้จนถึงทางที่รถน้อยค่ะ

วันที่สอง เอาวะ ลองทั้งขาไปขากลับ จอดทำใจเป็นระยะๆ จนถึงบ้าน สาธุ




พอได้วันแรกก็มีวันต่อๆไป หลังจากวันนั้นแม่มันก็พยายามขับไปกลับทำงาน ไปโลตัส บิ๊กซี ขับจอดได้ ขับออกไม่ได้ ก็วานคนอื่น สู้ๆมาตลอด ฝันไว้ว่าสักวันเราจะขับไปเที่ยวต่างจังหวัดกับกะบูน สักวันแม่จะพาบูนบินไปด้วยกัน จนวันนั้นมาถึง แม่มันได้ตั๋วไปเที่ยวไร่ปลูกรักฟรี 2 ที่นั่ง เอาละนะ เราจะบินไป....

ในวันคริสมาส 25 ธันวาคม54 เราตื่นเช้า ขับรถไปไร่ปลูกรักด้วยกัน



แม่ทำได้แล้วกะบูน แม่เอาชนะความกลัวขับรถ แม่พาหนูบินมาได้ถึงที่นี่ เราทำได้


วันนั้นกิจกรรมที่ไร่ปลูกรักสนุกมากๆค่ะประทับใจกะบูน+แม่



มันเป็นก้าวเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่แม่มันทำได้อีกก้าวนึงนะคะ


แล้วเราจะบินต่อไปด้วยกันนะลูก แล้วแม่จะเก็บเงินทำสีรถกับเก็บรายละเอียดให้รถไปได้ไกลกว่านี้หน่อยเนอะ (ตอนนี้ยังเก็บไม่ได้ แต่มันก็ต้องได้สักวันอ่ะเนอะ) สู้ตายค่ะ สู้เพื่อลูก ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ






 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 12:33:33 น.
Counter : 1672 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  


แม่น้องกะบูน
Location :
นครปฐม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




(สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด )
New Comments
Friends' blogs
[Add แม่น้องกะบูน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.