สู้เพื่อลูก-ใครจะคิดว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะเปลี่ยนแปลงชีวิตแม่ทุกสิ่ง....
Group Blog
 
All blogs
 

ข้าวเหนียวมูนดอกโสน




 



หน้านี้ดอกโสนบานเต็มไปหมดเลย ข้างทางเยอะมาก ในตลาดนัดก็ถูก ถุงละ 5 บาท 10 บาทก็พอทำกับข้าวได้แล้ว

เราออกจะคุ้นเคยกับดอกโสนเป็นพิเศษเพราะกินบ่อยตั้งแต่เด็กๆ ทั้งกินเป็นกับข้าวอย่าง ลวก ผัด ทอดไข่ แกงส้ม แกงเลียง ฯลฯ หรือกินเป็นขนมอย่างขนมดอกโสน ซึ่งเท่าที่เคยกิน มี3 แบบคือ

1. คลุกกับแป้งข้าวเจ้านึ่ง แล้วเอามาคลุกมะพร้าว+น้ำตาล

2. ผสมกับแป้งข้าวเจ้า + กะทิ+นำตาล นึ่งแล้วตัดเป็นชิ้นคลุกมะพร้าว แบบขนมกล้วย

3. นึ่งกับข้าวเหนียว

เร็วๆนี้ได้ไปยืนเก็บดอกโสนหน้ารร.ของยาย ได้มาถุงใหญ่




แต่ปัญหาก็คือผักจะล้นตู้เย็นแล้วเฟร้ยยย เพราะวันก่อนหมาลุยแปลงผัก (ชั้นจะฆ่าแกไอ้โชค) แปลงผักไชเท้าล่ม ต้องถอนออก อันที่พอไหวก็พยายามลงใหม่แต่ก็ได้ผักมา 1 ตะกร้าเล็กๆ ก็ล้างใส่ตู้ไว้


ถั่วงอกก็เพิ่งเพาะว่าจะผัดกิน แต่เจ้ากรรม หูหาเรื่อง ยายสั่งให้ซื้อฝักบัวมากิน ดันฟังผิดเป็นหลดบัว เลยได้หลดบัวถุงใหญ่มาอีก 1 ถุง แถมยายซื้อถั่วแขก + แตงกวา มาทำกินอีก เอาเข้าปาย ล้นตู้ๆ

เข้าเรื่องซะที ดอกโสนที่ดันขยันไปเก็บก็เลยไม่อยากเอามาทำกับข้าวอยากเอาไปทำขนม ก็พยายามหาวัตถุดิบมาทำ (ตอน1 ทุ่มกว่าๆ) ได้เพียงแป้งข้าวเจ้า งา และ กะทิกล่อง ไม่มีมะพร้าว แต่ก็ตัดใจ ไม่ใส่ก็ดะ แล้วจะกินไหวเหรอเนี่ย ขณะนั้นก็ท่องเนทหาวิธีทำ (ยายทำเป็นอ้ะ แต่นานแล้ว แม่มันก็อยากลองทำเองเลยหาสูตร) แล้วก็ไปเจอปิ๊ง เวบของป้าจายท้ายสวน //pajai.multiply.com/journal/item/19/19 ทำข้าวเหนียวมูนดอกโสน เออไม่ต้องใส่มะพร้าวทึนทึก ทำไมชั้นคิดไม่ถึงเนี่ย ก็เลยบอกยายว่าจะเปลี่ยนทำแบบนี้ดีกว่า ขี่จักรยานไปตอน2ทุ่มกว่าซื้อข้าวเหนียวที่มินิมาร์ทหน้าบ้าน...ได้มาก็แช่ไว้

(จะทำละนะใจเย็นๆ) เช้ามาตั้งนาฬิกาปลุก6โมงมาทำโดยเฉพาะ

ขั้นตอนแรก 1. ตั้งหม้อ เอาซึ้งวางเด็ดใบตองใบเตยมาปู (ต้นเตยมันอาจจะกลั้นใจตายเร็วๆนี้เพราะเหลือใบแค่2-3 ใบ)



2. เอาข้าวเหนียวซาวล้างแล้วเกลี่ยลงบนใบตองใบเตย กะๆเอาแต่ตวงไว้ให้รู้ ว่าใช้ไปเท่าไร (2 ถ้วยตวงนะสำหรับสูตรเรา) เอาข้าวเหนียวไปนึ่งประมาณ15 - 20 นาที



3. ช่วงที่ว่าง (ถ้าไม่ต้องทำงานบ้านอื่น) ก็เอางาคั่วๆ แล้วเอาสากบุๆไว้


เอาไปผสมน้ำตาล ใส่เกลือตัดเล็กน้อย



4. ยังไม่หมดเวลาเตรียมน้ำกะทิเลยเราใช้กะทิกล่องเล็ก ซึ่งจากที่ทำก็พอกับข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง น้ำตาล เกลือ ใส่อย่าให้หวานมากเดี๋ยวมีน้ำตาลงาโรยแล้วจะหวานเกินเอาแค่ให้ข้าวเหนียวมัน ออกหวานนิดหน่อย (เราใช้น้ำตาล 2 ชต. +เกลือ1/2 ชช. มั้ง)


5. กะเอาว่าครบเวลา เอาดอกโสนที่ล้างแล้ว ใส่ในข้าวเหนียวในซึ้ง (ดับแก้สก็ได้ เปลืองพลังงานแต่ห้ามเอาซึ้งลงวางไว้งั้นล่ะ ให้ไอน้ำระอุ)



คลุกลงไป คลุกโดนใบตองใบเตยผสมเข้ามาไม่เป็นเก็บออกได้ทีหลังไม่ต้องใจร้อน ไม่ต้องกลัวคลุกแล้วปิดฝาวางต่ออีก 5-10 นาที(ห้ามเปิดแก้สต่อเปลือง น้ำยังร้อนอยู่ไม่ต้องกลัวไม่สุก)


6. พอครบเวลาเอาข้าวเหนียวมาใส่ภาชนะที่จะปิดฝาได้ ผสมน้ำกะทิ (ห้ามเขียนว่ากระทิ มันผิด) เตรียม "มูน" (ห้ามใช้คำว่า"มูล" มันผิดความหมายอย่างไม่น่าให้อภัย)


ผสมกะทิลงไปมูนกับข้าวเหนียวให้ทั่ว ปิดฝาไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วเปิดฝาคน ปิดอีกหน่อย 5 นาที


7. ได้เวลากิน เอามาโรยน้ำตาลงา ตามอัธยาศัย เสร็จแล้วจ้า


ให้คนอื่นกินแล้วเขาบอกว่าอร่อยดี (อิอิ) อาหารสุขภาพ ปลอดสารพิษ ออกดอกเฉพาะช่วงนี้เท่านั้นอย่าลืมทำกินกันนะคะ ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ ปล.ใครที่คิดถึงนางแบบ ตอนนี้หลับอยู่ ตอนทำขนมฯไม่ได้ถ่ายรูปตอนกินจ้า



Create Date : 17 กันยายน 2552    
Last Update : 17 กันยายน 2552 15:33:06 น.
Counter : 6518 Pageviews.  

สอนลูกเข้าครัวอีกละทำเกี๊ยวทอดจ๊ะ




 


วันเสาร์ที่ผ่านมา ที่บ้านได้สั่งหมูกระทะมากินค่ะ ตอนสั่งก็จะเตรียมของที่ชอบๆเพิ่มเอง เช่นหมักตับหมูเพิ่ม ซื้อกุ้ง+ปลาหมึกเพิ่ม ไม่ได้ถ่ายรูปตอนกินมาหรอกค่ะ ตอนนั้นวุ่นวายมาก แต่ก็สนุกดี

อีกอย่างที่ทำเพิ่มคือเกี๊ยวหมู ห่อและลวก เอาไว้กินกับหมี่หยก(ลวกใส่น้ำมันเจียวเอง) ประหนึ่งกินที่ร้านดังๆ อิอิ ขาดแต่เป็ดย่าง พอแม่ทำเกี๊ยว ลูกสาวคนดี ก็มาแจมบ้างก็เลยสอนให้ห่อ เอาไว้ทอดกินเป็นของว่าง


ตอนแรกใส่ไส้หมูสับให้ ตอนหลังกะบูนอยากใส่เองแล้วก็ทำได้ แต่ใส่ไส้เยอะ ถ้าเป็นแม่ค้าก็ใจป้ำมากมั่ก


ตั้งใจทำมาก สนุก กิจกรรมแบบนี้ อายุ3ขวบขึ้นทำได้สบายมากค่ะ อ้อ้ เช็ดโต๊ะสะอาดแล้วนะคะ



ทำเป็นรูปง่ายๆ แค่เอามาทบกันพอค่ะ ห่อสวยมากไม่ไหว อะไรที่ทำง่าย ทำได้ ก็ชอบและสนุก อืม วันหลังต้องหากิจกรรมเข้าครัวกันอีก


ตอนทอดไม่ได้ให้ช่วยนะคะ กลัวน้ำมันกระเด็นใส่เพราะแม่ต้องทอดเร็วๆ ให้ช่วยแค่ห่อก็ภูมิใจสุดๆ


หนักรูปตอนห่อนะคะ ไม่มีตอนอื่นเลยเพราะยุ่งมากกก ไปที่ร้านคงไม่ขนาดนี้แต่ก็แพงง่ะ ทำกินเองดีก่า


ปกติจะกินเก่งอย่างเดียว ทำกับข้าวแววแม่ครัวออกไหมคะ อิอิ ในชามนี่ ลบ3-4 อันที่แม่ทำก็ฝีมือเขาหมดล่ะคะ การสอนลูกให้ทำอาหารคือพื้นฐานที่ดีในอนาคตว่าไม่อดตายกินแค่มาม่าลวก (แต่อาจจะอ้วนเหมือนแม่ได้ถ้าไม่สอนให้กินผัก ) เป็นแม่ก็ต้องพยายามแบบนี้ล่ะคะ สอนได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องพยายาม ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ


มีแถมอีก 2 รูปแบบว่าเห่อลูก

รูปแรกโพสน่าหมั่นไส้ดี

อีกรูปห่อไปพุงออกมาช่วยห่อด้วย ลูกช้านไว้พุง 555


Create Date : 31 สิงหาคม 2552    
Last Update : 7 กันยายน 2552 14:07:52 น.
Counter : 1684 Pageviews.  

สอนลูกเข้าครัวทำมะนาวดอง




 


การทำกับข้าวกับลูกคือกิจกรรมอย่างนึงที่แม่กับน้องบูนพอทำกันได้ แต่ก็มีไม่กี่อย่าง เช่น ตีไข่ให้แม่เจียว ปอกไข่ต้มทำพะโล้ ทำหนมบัวลอยไข่หวาน เด็ดตำลึง เป็นต้น เราพยายามพาลูกทำเท่าที่โอกาสจะอำนวย จนเมื่อเร็วๆนี้ แม่มันอยากทำชีวิตให้พอเพียงพึ่งตัวเองให้มากที่สุด กิจกรรมถนอมอาหารที่สนใจคือการดองมะนาว เพราะลูกสาวชอบกินไก่ต้มฟักมากกกกกกกกกกกกกกกก ส่วนมากจะใส่เห็ดหอมเพราะซื้อง่ายทำง่าย แต่วันไหนมีมะนาวดอง วันนั้นก็กินข้าวหมดชามเร็วเหมือนกัน

ต้นมะนาวที่บ้าน พอได้ลูกบ้าง แต่ไม่ดกเท่าไร ส่วนมากจะเก็บทำกับข้าว หรือใส่น้ำผึ้งกินกันมากกว่า ไม่เหลือทำมะนาวดอง


แต่ตอนเดือนที่แล้วมะนาวถูกมากกก เราซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่ก็เอาไว้กินน้ำไปหลายลูก หาวิธีดองจากเนท ดองโหลแรกผิดสูตร แม่มันปอกผิวซะเนียน เพราะตำราบอกว่าให้"ขัดผิวออก" ทิ้งไปละไม่กล้าเอามาโชว์ แห่ะๆ

รอบสอง หาสูตรใหม่ หลายๆอันรวมกัน มั่วๆ ได้ขั้นตอนมาก็ชวนลูกทำทันที

1. เอามะนาวมาคลึงกับเกลือให้น่วม

คลึงๆ


คลึงเข้าไป ท่าสวย แต่จะให้น่วม ต้องแม่อยู่ดี แบบ ขอให้มีส่วนร่วมเหอะ


2. เอาไปตากแดด 5 แดด อันนี้แม่เป็นคนทำ แดดมั่งไม่แดดมั่ง ก็ให้ได้ 5 วัน

3. เอามานึ่ง อันนี้ได้ช่วยแน่ๆ เรียงใส่ซะสวย

ตั้งใจเรียงมาก

เรียงสวยๆมะนาวดองจะได้อร่อยๆ อิอิ บอกลูกแบบนี้ เว่อร์ไปป่าว

เรียงเสร็จแล้วค่ะ สวยไหมคะ

ใส่หม้อนึ่ง ประมาณ 15 นาที แล้วปล่อยให้เย็น



4. ผสมน้ำเกลือ อัตราส่วน เกลือ 1 ถ้วย : น้ำเดือด 2 ถ้วย + 3/4 ถ้วย ใช้เกลือเม็ดที่ซื้อมาจากแถวสมุทรสงครามเชียวนะ ตอนไปเที่ยวดอนหอยหลอดจ้า ขั้นตอนนี้ลูกช่วยตักได้อย่างเดียว




5. เรียงมะนาวใส่ขวด งานเข้าอีกแล้ว ให้กะบูนเรียง


เรียงไปโพสท่าไป


ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ โชว์มะนาวกันนิ้ดส์นึง


ตั้งใจมากมั่ก นี่ไงคะมะนาวของหนู



หนูตั้งใจทำนะคะ เห็นไหมคะเสร็จแล้ว โชว์ผลงาน แม่เตรียมเทน้ำเกลืออุ่นจัดลงใส่ในโหล ให้แชะภาพได้อีก 1 ที




เทแล้ว น้องกะบูนเป็นคนปิดฝาค่ะ ภูมิใจมากที่ได้ชวยแม่ทำมะนาวดอง


6. ปิดฝาแล้วเอาน้ำเกลือใส่ถุงปิดทับให้มะนาวจมตลอดเวลา (เคล็ดลับจากเนท)


ทำอีกรุ่นนึงเอามาใส่รวมกัน รอ 1 เดือนผ่านไปค่ะ ไม่รู้จะขมไหม แต่กลิ่นเริ่มหอมแล้วค่ะ แม่มันลองชิมน้ำไปเค็มง่ะ ชิมทำไมฟระ แต่ไม่ขม กิจกรรมที่ร่วมทำกับลูกได้สนุกๆอีกอันนึงให้ลูกประทับใจไปอีกนาน ตอนนี้บ่นๆอยากกินไก่ต้มฟักมะนาวดองแล้วค่ะ ต้องสอนประเด็นถนอมอาหาร ปรัชญาพอเพียงไปด้วย ว่านี่คือสิ่งนึงที่เราทำเองได้ไม่ต้องซื้อตลอด เพราะเดี๋ยวนี้น้องกะบูนเริ่มติดขนมจะซื้อๆตลอด ต้องคอยสอนแล้วค่ะ ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ


Create Date : 18 สิงหาคม 2552    
Last Update : 7 กันยายน 2552 14:08:18 น.
Counter : 3252 Pageviews.  

การเลือกโรงเรียนภาค2+วิบากกรรมยามเปิดเทอมของแม่ลูก





 



จากความเดิมเรื่องการเลือกโรงเรียน แม่มันเลือกโรงเรียนที่มีคุณภาพปานกลางแต่ใกล้บ้านที่สุด แต่โดนญาติมิตรที่อยากให้เข้าโรงเรียนมีชื่อเสียงไซโคเป็นระยะๆ แถมซ้ำเวลาโรงเรียนน้องบูนจัดการเรื่องธุรการไม่ลงตัวซะที

การเลือกแม่มันมีพื้นฐานความคิดที่ว่า โรงเรียนจะมีชื่อสอนวิชาการดีเลิศเคี่ยวเด็กให้เก่งไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า ในชั้นอนุบาล อยากใหลูกรักการไปโรงเรียนมากที่สุด รักที่จะไป รักที่จะเรียน มีสังคมเล็กๆ สังคมแรกที่ดี มีครูเอาใจใส่ เป็นก้าวแรก ส่วนครอบครัวจะคอยสอนลูกในด้านวิชาการเสริมเอง โดยมียายเป็นผู้สอนพิเศษหลัก หลังจากยายเกษียนปลายปีนี้ การเรียนอื่นๆ เช่นร้องเพลง เต้น+นันทนาการแม่มันจะสอนเองไม่ต้องไปหาที่เรียนแพงๆ การเรียนพิเศษ แม่มันไม่สนับสนุนจนกว่าจะมัธยมเมื่อลูกอยากเรียนค่อยไปหาที่เรียนกับเพื่อนๆ เพราะเชื่อว่าการเร่งวิชาการกับเด็กมากไปใช่ว่าจะมีผลดี น่าจะให้เขาอยากเรียนรู้เองมากกว่าโดยมีทางบ้านคอยสนับสนุน สำคัญที่ว่าเขาจะต้องมีนิสัยรักการเรียนรู้ซะก่อน อันนี้น่าจะปลูกฝังกันตั้งแต่อนุบาลเนี่ยล่ะ ไม่ใช่ยัดวิชาการลงหัวเด็กทำให้เด็กเกลียดโรงเรียน

โดยสังคมที่โรงเรียนน้องบูนค่อนข้างเป็นคนระดับปานกลาง แต่เป็นผู้ปกครองที่ใส่ใจเรื่องการเลือกโรงเรียนสักหน่อย เพราะเป็นโรงเรียนเอกชนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายพอควร ทีแรกแม่มันอยากให้ไปศูนย์ฯที่ทับแก้วเนื่องจากเพื่อนจะมาจากครอบครัวระดับปานกลางขึ้นไปถึงระดับสูง แต่อย่างว่า ฝืนค่าใช้จ่ายไม่ไหว เอาแค่นี้นะลูก อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนที่ถูกเลี้ยงมาในระดับปานกลางเหมือนกัน พื้นฐานครอบครัวใกล้ๆกันจะได้พูดจากันรู้เรื่อง อันนี้ก็สำคัญแม่มันคิดหัวแตกกว่าจะลงตัว

เมื่อโรงเรียนเปิด สิ่งที่ทางแม่มันต้องเตรียมตัวมีหลายอย่าง เหตุสำคัญเพราะน้องบูนเคยไปเนิสตอน2 ขวบ เป็นเนิสที่เอยู่ใกล้บ้าน คนดูแลดีเป็นครูอนุบาลเก่า เปิดอย่างถูกกฎหมาย มีมาตรฐาน เคยพาไปเล่น ทำท่าว่าจะเข้ากับเนิสได้ดี แต่เกิดอาการแอนตี้เนิสอย่างรุนแรง ร้องไห้ ซุกตัวอยู่มุมห้องไม่กินไม่นอนเป็นเดือนจนที่เนิสบอกว่า คงจะรับน้องบูนไม่ได้เพราะทำให้ต้องจัดพี่เลี้ยงคอยประกบ และทำให้เด็กคนอื่นๆไม่นอนร้องไปทั้งเนิส ผลคือ แม่มันต้องลาออกจากงานที่เพิ่งทำได้ไม่เท่าไร มาดูแลลูก ...เฮ้อ

เมื่อจะไปโรงเรียน ตอนนี้เป็นตอนที่น้องบูนโตขึ้นแล้วและอยากมีเพื่อนมาก เห็นเด็กคนอื่นก็จะเข้าไปเล่นด้วยตลอด 3 ขวบกว่าน่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม โรงเรียนใกล้บ้านนี้ก็ไปเดินเล่นทุกครั้งที่มีโอกาส ได้พูดได้คุยกับคุณครูบ่อยๆน่าจะคุ้น แต่เหตุการณ์เดิมมันก็หลอกหลอนแม่มันอยู่ตลอดว่าลูกช้านจะไปไหวไหมฟระเนี่ย

ตอนไปซื้อรองเท้า ชุดนักเรียนก็พอตื่นเต้นดีใจอยู่ วันเปิดเรียนใกล้มาถึง พ่อและแม่ตกลงกันไว้ว่า จะไปรับส่งด้วยกัน 1 อาทิตย์ เดินไปด้วยกัน(พ่อได้หยุดพักอาทิตย์นั้นพอดี) อาการที่ต้องเตรียมรับมือคือ
1. เช้าๆกินข้าวไม่ได้
2. ร้องไห้

วันเปิดเทอมแล้ววว ตามคาดร้องไห้งอแงกินไม่ได้ ตา ยาย พ่อ แม่ช่วยกันปลอบ





ออกจากบ้านร้องโฮ แต่ก็ต้องพากันไป พ่อกับแม่ช่วยกันอุ้มไป





ใกล้ถึงโรงเรียนเริ่มยิ้มออก

ถึงโรงเรียนยิ้มได้


วันแรกที่ลูกไปโรงเรียน พ่อกับแม่ นั่งๆนอนๆ เหมือนมีอะไรหายไป เดี๋ยวก็ผลัดกันแอบไปดูลูกที่โรงเรียนคนละที ต่างคนต่างดูนาฬิกา พอ2โมงครึ่ง ก็พยักหน้า ...ป้ะ เราไปรับลูกกันเหอะ ตรงดิ่งไปรับลูกกลับ... พอเห็นหน้าพ่อแม่ก็ร้องนิดหน่อยแต่ก็ร่าเริงดี
คุณครูก็ชมว่าเรียบร้อยดี เข้ากับเพื่อนๆได้ ...เฮ้อ เริ่มได้สวย ต่อไปจะได้ป่าวหว่า

วันต่อๆมาก็เป็นเหมือนเดิม ร้องไห้กินข้าวไม่ได้ จะอ้วก พ่อกับแม่ ตายาย ช่วยกันปลอบ แล้วก็พาไปส่ง พอไปถึงโรงเรียน ก็ร่าเริงดี


พอพ่อมันกลับไปแล้ว แม่ก็ต้องไปส่งคนเดียว อาการเดิมๆก็ครบถ้วน ร้องไห้งอแง กินไม่ค่อยได้ พอไปถึงโรงเรียนก็พอได้อาทิตย์ที่2ปลายอาทิตย์เริ่มกินข้าวเช้าได้บ้าง เปลี่ยนจากอาหารอ่อนๆเป็นข้าวได้ แต่ยังกินไม่หมด ก็ไม่เป็นไร คุณครูบอกว่าร่างเริงดี กินข้าวเก่งเติมทุกครั้ง(แน่ล่ะสิ ข้าวเช้ากินไม่ได้ ปกติกินก็เบิ้ลอยู่แล้ว) จะกิน3ถ้วยแต่ครูให้แค่ 2 ถ้วย น้องบูนบ่นอุบอิบ หนูไม่อิ่มมมม...กลับมาบ้านเร่งแม่ทำข้าวเย็นทุกที จนเดี๋ยวนี้ต้องทำรอไว้เลย กลับมาเบิ้ลไป2 ทุกที

จนตอนนนี้อาทิตย์ที่ 3 ก็ยังเหมือนเดิม เช้าคือหน้าแบบนี้

คอยถามแต่ว่าเมื่อไรเด็กจะไม่ต้องไปโรงเรียน พอแม่บอกว่า เสาร์อาทิตย์ไงลูกก็จะร้องงอแง ฮื้อฮือ ... ทำหน้าตาเหมือนหมาหงอยย

อาทิตย์ที่ 2 คุณครูเริ่มมีการเรียนการสอนเริ่มมีการบ้าน เริ่มมีกิจกรรมมากขึ้น คุณครูที่ดูแล ใช้ 2 คนขึ้นไป น้องบูนก็สนุกสนานให้ความร่วมมือดี ไปรับทีไรคุณครูชมทุกทีว่าเก่ง แน่ล่ะฮ่ะ แม่มันสอนมาก่อนแล้ว พอได้บ้างแล้วล่ะ แอบไปดูตอนเรียนเห็นแจ้วๆๆ ตอบคุณครู หู้ยยย...ได้หมาหงอยกลายเป็นหมาน้อยร่าเริงน่าเตะ แอบให้ครูถ่ายรูปมาด้วย

ร่าเริงเป็นคนละคน หมั่นไส้เล็กน้อยฮ่ะ


จนถึงวันนี้อาทิตย์ที่ 3 ตอนเช้าก็ยังเหมือนเดิม ไปโรงเรียนร่าเริง อาการเครียดตอนเช้าบางบ้านว่าถึงเทอม 2 บางบ้านก็เป็นปี บางบ้านก็เดือนเดียว แตกต่างกันไป แม่มันก็ต้องประคับประคองต่อไปล่ะค่ะ เช้าๆกินได้บ้างไม่ได้บ้าง พยายามหมุนเวียนเมนูต่อ เอาไว้เข้าที่เข้าทางคงจะดีขึ้น

เมื่อวานมีเหตุการณ์ที่ยืนยันว่าเลือกโรงเรียนนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างที่คาดไว้ เปิดเทอมต้องโดนฝนแน่ๆ ฝนตกพายุพัดแรงจนกิ่งไม้หักระเนระนาด ช่วงบ่าย2- บ่าย3 โมง ที่เป็นเวลาเลิกเรียน ถ้าเรียนที่อื่น แม่มันก็มีแต่มอร์เตอร์ไซด์ไปรับ แถมต้องไปล่วงหน้าเพื่อรอ คงจะวิบากกันน่าดู แต่นี่ โรงเรียนอยู่หน้าบ้าน ก็แค่รอให้ฝนซา(ประมาณบ่าย3) แล้วเอาเสื้อฝนใส่ ขี่จักรยานไปรับ ซิลๆ โดนฝนนิดเดียว อืม เลือกไม่ผิดแน่ๆ มั่นใจขึ้นอีกเยอะ ที่สำคัญ คุณครูดูแลค่อนข้างดี สถานที่เรียนโอเค พอจะลบความไม่เข้าที่ของฝ่ายธุรการลงไปได้ .....เอาล่ะคงเลือกถูกแล้ว เป็นหัวหมา ดีกว่าเป็นหางราชสีห์ มีอะไรคุณครูคงส่งเสริมหนูให้แสดงออกอย่างที่หนูชอบได้ หนูอยู่ที่นี่ล่ะลูก ไม่มีอะไรแม่คงไม่ย้ายไปเรียนที่อื่นแล้วขอให้หนูมีความสุขก็พอ

ขอให้ทุกครอบครัวผ่านช่วงนี้ไปได้ด้วยดี ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ






Create Date : 03 มิถุนายน 2552    
Last Update : 7 กันยายน 2552 14:08:43 น.
Counter : 2673 Pageviews.  

โรงเรียนของลูกเลือกยากกว่าพ่อของลูกอีกนะเนี่ย






 


เรื่องการไปโรงเรียนของน้องบูน เป็นอะไรที่พูดคุยกันข้ามปีเนื่องจากที่นครปฐมเนี่ย โรงเรียนดีๆเยอะมาก ทั้งรัฐและเอกชน แถมยายก็เป็นคุณครู ข้อมูลเพียบ แม่ก็เรียนที่นครปฐมจนจบมัธยม พอรู้ข้อมูล และมีเพื่อนเป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาล ซึ่งให้ข้อมูลดีแบบไม่ลำเอียงอีกต่างหาก และมีแวดวงผู้ปกครองอีกหลายคนซึ่งให้ข้อมูลโรงเรียนต่างๆ เรียกได้ว่า มีข้อมูลของโรงเรียนให้ตัดสินใจเลือกจนแทบจะล้นHD คัดเลือก รร. ที่เข้ารอบได้ 4 โรงเรียน (ของแม่) และ2 รร. ของยาย ซึ่งทัศนคติไม่ค่อยจะตรงกันนัก หลังๆยายเลยตัดหางไม่ยุ่งกับการเลือกโรงเรียน แต่คอยบ่นแทน เฮ้อ.....แค่เกริ่นก็วุ่นวาย

โรงเรียนที่แม่เลือกคือ

1. ศูนย์เด็กของมหาวิทยาลัยทับแก้ว อันนี้ออกแนวฮิวแมนนีโอฯ แต่ค่าเทอมโหดที่สุด ทะลุ3 หมื่นกว่า/ปี มีถึงระดับมัธยม ซึ่งแน่นอน คัดเอาจากรร.ของตัวเองก่อนเหมือนเป็นหลักประกันว่าเข้าที่นี่แต่อนุบาล มีที่เรียนดี ถึงมัธยมแน่ๆ ยายก็อยากให้เข้า แม่ได้แต่น้ำลายไหลอยากให้ลูกเรียนมากๆ แต่พอพูดถึงค่าเทอมก็ตาปริบๆกัน ไม่มีใครบอกอนาคตได้ว่าจะเรียนไหวหรือเปล่า ปีละ3หมื่นกว่าไม่รวมเสื้อผ้าฯลฯ ....

2. โรงเรียนอนุบาลผไท อันนี้คุณภาพดี หลายคนการันตี ค่าเทอมๆละหมื่นกว่าๆ น่าสนมากอันนี้ตรงกับรร.ที่ยายอยากให้เข้าเหมือนกัน แต่ต้องไปรับส่ง ซึ่งแม่ก็กลัวว่าถ้าปลายปีได้งานทำ จะไม่มีคนรับส่ง ถึงยายจะเกษียน ก็ขี่รถไม่เป็น อืม ข้อเสียอันนี้คิดไม่ตก

3. โรงเรียนอนุบาลเพ็ญศิริ ของเพื่อน อันนี้ก็อยากให้เข้าเพราะแน่ใจในคุณภาพโรงเรียน ซึ่งเพื่อนก็ศึกษาแนวฮิวเมนนีโอเหมือนกัน คุณยายผอ.ก็ใจดี เคยพบน้องบูนแล้วรักน้องบูนดี อยากให้เข้ามาก เพราะจะวางใจได้ แต่ติดเรื่องรับส่งเหมือนกัน อันนี้ก็ค่าเทอมหมื่นนึง ไม่แน่ใจไม่ค่อยได้คุยเรื่องค่าเทอมกะเพื่อน คุยเรื่องลูกมากกว่า(55)

4 โรงเรียนเสริมปัญญา หน้าบ้านเพิ่งย้ายมาสร้างตึกได้ปีกว่าๆ เดินไปถึงเลย อันนี้เป็นเอกชน ค่าเทอมประมาณ 6 พัน เรื่องวิชาการ ก็ถือได้ว่าพอใช้ได้จากการสอบถามหลายๆฝ่าย

พยายามให้บูนไปเล่นที่โรงเรียนตั้งแต่2ขวบ ให้คุ้นไว้ พ่อแม่อยากให้เข้าที่นี่มาก เพียงแต่ว่า ยังตัดใจจากรร.ที่1-2-3 และรร.ที่ยายอยากให้เข้า ยังตัดใจไม่ได้ จนกระทั่งถึงเวลาซื้อใบสมัครก็ไปซื้อมาหลายโรงเรียน จนกระทั่งโค้งสุดท้าย แม่ตัดสินใจเด็ดขาด เอาโรงเรียนเสริมปัญญา เพราะเหตุผลคือ ใกล้บ้านที่สุด ปลายปียายจะได้รับส่งแม่มันจะไปหางานทำแล้ว ...จบ ....

ยายงอนฮ่ะ แต่ก็ลูกแม่มันนิ





พอถึงตอนสมัครยันเปิดเทอม แม่มันก็ต้องเผชิญกับความอารายดีล่ะ ไม่พร้อมของธุรการโรงเรียน โดนยายบ่นอีกยาวววว ไม่ว่าจะเป็น ตารางเวลาไม่มี แผนการสอนไม่มีให้ดู เปิดเทอมเมื่อไร ปฐมนิเทศไหม ซื้อเสื้อผ้าเมื่อไร จ่ายค่าเทอมกี่บาทแน่ จ่ายวันไหน ...ฯลฯ ทุกอย่าต้องคอยโทรไปถามหมด รร. ไม่บอกธุรการไม่พร้อมเลย จะว่าตึกยังไม่เสร็จดี แต่รร.ก็ย้ายมาได้ปีกว่าแล้วน่าจะพร้อมกว่านี้ นอกจากยายบ่นเละ แม่มันเองก็เบื่อจนแทบจะย้ายไป โรงเรียนเพ็ญศิริของเพื่อน แต่ก็อยากไปทำงานโดยไม่มีห่วงตอนปลายปีกก็ได้แต่กล้ำกลืน เอาวะ พอไปแล้วมันต้องดีขึ้น ชั้นคงไม่เลือกโรงเรียนให้ลูกผิดหรอกน่า ใกล้บ้าน+ วิชาการโอเค +ลูกคุ้นกะรร. เชื่อมั่นไว้ ๆ .....

บล็อคหน้ามาพบกันกับภาคต่อเริ่มไปโรงเรียนแล้วจ้า

Create Date : 02 มิถุนายน 2552    
Last Update : 7 กันยายน 2552 14:09:14 น.
Counter : 6822 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  


แม่น้องกะบูน
Location :
นครปฐม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




(สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด )
New Comments
Friends' blogs
[Add แม่น้องกะบูน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.