Group Blog
 
All Blogs
 




 

ปีกไก่ทอดซ้อสแดง

ชมเพลิน
Create Date : 28 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 1:00:18 น.
Counter : 435 Pageviews.  




 

เก่าเกิน...เก็บ ยังมีให้เห็น รถลากหรือรถเจ๊กสมัยโบราณ

รถลากหรือรถเจ๊กสมัยโบราณ

ที่ตลาดบางหลวง จ.นครปฐม

ขอเชิญแวะไปชมทัศนากันได้จ้า

 

รถลากในประเทศไทย

รถลากในประเทศไทยหรือที่เรียกกันว่า รถเจ๊ก

เพราะพาหนะประเภทนี้มีแต่คนจีนเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างลาก

ดั้งเดิมเป็นของญี่ปุ่น แต่แรกเมื่อในรัชกาลที่ 4 นั้น

พวกพ่อค้าสำเภานำมาน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ

ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงโปรดฯ

ให้ซื้อเข้ามาพระราชทานเจ้านาย และขุนนางผู้ใหญ่บ้าง สั่งซื้อกันเองบ้าง

ใช้เป็นพาหนะส่วนพระองค์และส่วนตัว แต่ที่สั่งมาใช้วิ่งรับส่งคนโดยสาร

และบรรทุกของนั้น ผู้สั่งเข้ามาเป็นคนแรกชื่อ นายฮ่องเชียง แซ่โหงว

เมื่อ พ.ศ. 2417 ต้นรัชกาลที่ 5 เมื่อผู้คนนิยมกันมากขึ้น

พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก)

จึงตั้งโรงงานทำรถลากขึ้นในเมืองไทยเสียเองโดยสั่งช่างมาจากเมืองจีน

รถลากรับจ้างเริ่มมีบนถนนมากขึ้น จนกระทั่งจำเป็นต้องควบคุม

พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง

จึงโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติรถลาก ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2444) ขึ้น

โดยทรงมีพระราชปรารภว่า

"กรุงเทพพระมหานครในทุกวันนี้ มีรถคนลากสำหรับรับจ้างคนโดยสาร

และรับบรรทุกของเดินในถนนหนทางทวียิ่งขึ้นเป็นอันมาก

แต่รถที่ใช้นั้นไม่แข็งแรงมั่นคง แลไม่มีสิ่งที่สำหรับป้องกันอันตราย

ของผู้โดยสาร กับทั้งไม่สะอาดเรียบร้อยตลอดไปจนคนลากรถด้วย

ย่อมเป็นที่รังเกียจรำคาญแก่ผู้ที่จะใช้รถ หรือผู้เดินทาง

ในท้องถนนร่วมกัน อีกประการหนึ่ง คนที่ลากรถนั้น

บางทีรับคนโดยสารหรือรับบรรทุกสิ่งของที่มาก

หรือหนักเกินกำลังรถที่จะพาไปได้ จนเป็นเหตุเกิดอันตราย

แก่คนโดยสารแลคนเดินทางกับทั้งรถ แลไม่เป็นความเรียบร้อย

ในท้องถนนอีกด้วย"

พระราชบัญญัตินี้ บังคับให้ต้องจดทะเบียนรถ

และต้องนำรถมาตรวจสภาพต่อเจ้าพนักงานจดทะเบียน

หลังจดทะเบียนแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้เลขหมายติดรถ และให้เครื่องหมาย

ที่มีเลขตรงกันกับทะเบียนรถให้คนลากติดหน้าอกไว้ให้ตรงกัน

บังคับให้จุดโคมไฟเวลากลางคืน และยังมีข้อบังคับปลีกย่อย

อีกหลายข้อ เช่น ห้ามบรรทุกศพคน ให้จอดพักรถตามที่พนักงาน

กำหนดไว้เท่านั้น ฯลฯ

รถลากหรือรถเจ๊กนี้ วิ่งในถนนตั้งแต่ พ.ศ. 2417

เลิกใช้ตามกฎหมาย เมื่อ พ.ศ. 2478 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง

 

ข้อมูล : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 0:59:41 น.
Counter : 669 Pageviews.  




 

มหกรรมการโหวตเพื่อเฟ้นหา Blogger แห่งปีเริ่มแ้ล้วค่ะ...

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 0:58:15 น.
Counter : 450 Pageviews.  




 

มากาญจนบุรี ทั้งทีไม่แวะร้านนี้ได้อย่างไร - ชลุก

ร้าน Schuck (ชลุก) มากาญจนบุรี ทั้งทีไม่แวะร้านนี้ได้อย่างไร

น้อยคนจะได้รู้จักร้านนี้ โดยเฉพาะคนไทย แต่หารู้ไม่ ต่างชาติที่มาเมืองกาญ ใครๆ เขาก็แวะกัน และยังมาเป็นขาประจำกันด้วยสิ

ที่จริงก็เป็นแค่ร้านสเต็ก แต่ไม่ธรรมดาร้านหนึ่ง เพราะความไม่ธรรมดาตรงนี้นี่เอง ทำให้แนนติดใจ

ความสด สะอาด และ ความเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนที่ทำ ทำเองเลยนะ ทุกอย่าง แม้กระทั้ง น้ำสลัด และ ขนมปัง

กลับมากรุงเทพแล้วยังอยากกินอยู่เลย เริ่มแรกรู้จักร้านนี้ก่อนย้ายมาที่นี่ ห่างกันนิดเดียวเอง น่าเสียดายไม่มีภาพเก่าให้ดู เป็นหินทั้งหลัง น่ารักมากๆ ชอบเลยละคะ เขาสร้างกันเองนะ เก่งไหมเอ่ย

แต่มันจะไปเกี่ยวกับรสชาติอาหารได้ไง ใช่ปะ นั่นสินะ ไม่ได้ลองกินจะรู้ได้อย่างไร ดูจากอาหารแล้วกัน ว่าน่ากินขนาดไหน

จากนี้ของโปรดแนนเลยนะ พ็อกช๊อป

เจ้าของร้านก็เป็นแม่นี่แหละ แม่คนหนึ่ง ที่ต้องดูแลลูกๆ 3 คน แต่แม่อาย ไม่กล้าเผยตัว เอาเป็นว่า อยู่ในครัว หน้ามัน ไม่สวยพอ เลยไม่ให้ถ่ายรูป :D

ส่วนจานนี้ เป็นเมนู ใหม่ของร้าน เพราะเปลี่ยนปลาเป็นปลาค๊อต ตอนแรกเป็น ฟิช แอนด์ ชิป เหมือนกัน แต่คนละหน้าตา อีกแบบเป็นปลาที่มีแป้งกรอบๆ หุ้มอยู่

เห็นจานนี้แล้ว นึกถึงตอนไปผจญโลกกว้างที่อังกฤษเลย เพื่อนบอกว่าไปแล้วอย่าลืมกิน fish & chip นะ หารู้ไม่ แทบจะเป็นอาหารหลัก 555

จากนี้ก็เป็นเมนูใหม่ของร้านเช่นกัน คาโบนาร่า

ทำเอาติดใจ คนที่เคยมาสั่งแต่เมนูเดิมๆ ได้ลองเมนูใหม่ คราวนี้ต้องสั่ง เพิ่มเป็น 2 เท่า ก็อยากกินทั้งหมดทุกอย่างนิทำไงได้

พระเอกของร้าน ต้องยกให้ ทีโบน น่าเสียดายแนนกินเนื้อไม่ได้ เลยบอกไม่ได้ว่าอร่อยยังไง แต่ใครๆ ก็ติดใจ ขอชิ้นใหญ่ 500 กรัม

ไปแล้วเจอมาประจำมาลงกันเป็นรถตู้ นักเล่นกอล์ฟจากเกาหลี ทำได้ไงนี้ กินที 2 จาก นั่นมัน 1 กิโลเลยนะ

พิซซ่าแบบโฮมเมท เลือกหน้าได้ตามใจสั่ง

แต่ถ้ามาแล้ว ลืมสั่งสิ่งนี้ ต้องเสียดายแย่ ขนมปังกระเทียมชีส ใครชอบกินชีส ห้ามพลาดเมนูนี้เด็ดขาด

มีอีกหลายอย่างที่อยากแนะนำ แต่แนะนำ ค่อยๆ ดูตามไป น้ำลายไหล อยากกินขึ้นมาแล้วสิ ภาพต่อไปนี้ ไม่ได้ถ่ายเองละ เอามาจาก Facebook ของร้าน

สเต็กไก่

เมนูแบบไทยๆ ที่แนนชอบมาวันไหนไม่อยากกินแบบฝรั่ง ก็จะสั่ง สปาเก็ตตี้ขี้เมา

เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้จักมากกว่านี้ ตามไปที่ Facebook ของร้านนี้ดีกว่า ลองไปค้นหาคำว่า Schluck Kanchanaburi นะ

เส้นทางพอมี ที่เพื่อนวาดไว้ให้ ตามนี้เลยคะ

ถ้าไม่อร่อย กลับมาต่อว่า แนนได้เลย เพราะรับประกันความอร่อย กินแล้วติดใจ ทุกคน :)

ดูสิหมดก่อนใคร ขนมปังกระเทียม

สั่งกันคนละชิ้น ธรรมดาๆ ไม่ได้สั่ง ชิ้นโตเท่าจาน

กินกันสนุกสนาน ติดใจทั้งบรรยากาศเมืองกาญ และ อาหารแล้วสิ คราวหน้าคง ต้องจัดทริป ปั่นไปกินสเต็กกันอีกหลายครั้งแน่ๆ เชียวคะ

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 0:57:56 น.
Counter : 549 Pageviews.  




 

...เรื่องเก่าๆ มาเล่ากันใหม่(เล่าจนเน่าแล้วเน่าอีก)...

.

จี้รัฐแก้ปัญหา ''คลองดำเนินสะดวก'' เน่า

credit ภาพ จาก news.giggog.com

.

     บังเอิญว่าเมื่อคืนนี้(26) ผมได้มีโอกาสดูสารคดีเชิงข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำเน่าที่คลองดำเนินฯ(คลองแถวบ้านผมเองแหละ) ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้หันมาแก้ปัญหาน้ำเน่าที่เกิดขึ้นซ้ำซากกันอย่างจริงจัง(ตามข่าวนะ) แต่ผมไม่รู้หรอกว่าพอเอาเข้าจริงๆแล้วจะจริงใจในการแก้ปัญหากันสักเท่าไหร่ หรือเพียงแค่ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆเหมือนครั้งที่แล้วมา สืบเนื่องจากมีสื่อต่างๆไปตามจี้ก้นเข้า!

     อันที่จริงแล้วถ้าจะว่าไป ปัญหาที่เกิดขึ้นผมว่าหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบในเรื่องนี้แก้ปัญหาไม่ถูกจุดต่างหาก ต้นตอของปัญหาเกิดมาจากอะไร ชาวบ้านแถวนั้นเขารู้ดีกันทุกคน แต่ก็อีกนั่นแหละ จะมีใครสักกี่คนกล้าพอที่จะเดินชนกับปัญหา ทุกวันนี้ก็ทำงานกันแบบลูบหน้าปะจมูกกันไปวันๆอยู่แล้ว

     พอน้ำเริ่มเสีย มีคนไปร้องเรียนกันมากๆ ก็แก้ปัญหาโดยวิธีเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อที่จะให้น้ำดีมาไล่น้ำเสียลงทะเลไป วนเวียนอยู่อย่างนี้เป็นประจำ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของระบบนิเวศวิทยาทางธรรมชาติ คงคิดว่าทะเลคงกรองน้ำเสียจากคลองดำเนินฯให้เป็นน้ำดีได้กระมัง ผลสุดท้ายปัญหาก็จะตกอยู่กับสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลของเรานั่นเอง ซึ่งก็จะเป็นผลกระทบในระยะยาวต่อไปในอนาคต

     และตราบใดที่เรายังแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุ ผมเชื่อได้ว่าปัญหาเหล่านี้จะไม่มีวันจบสิ้น อยากจะฝากข้อคิดเห็นนี้ไปถึงผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ อยากให้มองปัญหาในทัศนวิสัยที่เปิดกว้างให้มากกว่านี้ อยากให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุมากกว่าจะมาแก้ไขกันที่ปลายเหตุ ในอดีต..น้ำในคลองดำเนินฯแห่งนี้เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่และลมหายใจของคนที่นี่ อย่าปล่อยให้เส้นเลือดใหญ่และลมหายใจของพวกเขาต้องตีบตันลง เพียงเพราะผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆมาบังตาพวกท่านเลยนะครับ

27/7/53

คนริมคลอง

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 0:57:51 น.
Counter : 742 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.