ในห้องฝึกอบรมเมื่อเช้านี้ที่ SCB ผมพูดถึงหนังเรื่อง Alive ที่ “นันโด้” ตัวเอกของเรื่องรอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกบนเทือกเขาแอนดิส
ระหว่างที่เขาและเพื่อนกำลังเดินหาทางรอดในวันที่ 70 หลังเครื่องบินตก วันนั้นเขาบอกเพื่อนว่าต้องเดินทางกันไปอีกประมาณ 50 ไมล์จึงจะถึงยอดเขาที่เป็นจุดหมาย เพื่อนเขาหมดแรง ท้อแท้และตอบว่า “เป็นไปไม่ได้ หมดแรงเดินแล้ว ถ้าเดินต่อไปเขาอาจตายได้” นันโด้ตอบเพื่อนไปว่า “ถ้าจะตาย เขาจะตายในท่าเดิน (Die Walking)” คำพูดของนันโด้ ทำให้ผมนึกถึงจ่าเพียร ตำรวจนักสู้ของไทยที่ทำงานจนตัวตาย เรียกได้ว่าเป็นการตายในหน้าที่ ตายอย่างสมเกียรติที่คนไทยควรเชิดชูและเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ผมชอบเอาเรื่องของนันโด้และจ่าเพียรมายกตัวอย่างให้ลูกศิษย์ฟังอยู่บ่อย ๆ เพราะนึกถึงความเสียสละ อดทน อดกลั้น ทำงานจนสุดชีวิต นันโด้ได้รับการยกย่องยอมรับจากคนทั่วโลกให้เป็นคนที่มีภาวะผู้นำสูง เป็นคนที่มีทัศนคติเชิงบวก ..... ในกรณีของจ่าเพียร ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ชื่นชมและเชิดชูเกียรติ นึกถึงความเสียสละของเขา แต่ผมไม่แน่ใจว่าบรรดาหัวหน้า ผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับ ของจ่าเพียร จะรู้สึกอย่างไรกับการจากไปของจ่าเพียร พวกเขาเหล่านั้นได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการจากไปของจ่าเพียร เนื่องจากได้อ่านสะเก็ดข่าวในหน้า A4 จากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์เมื่อเช้านี้ (29 ก.ค.53) อ่านแล้วรู้สึกเศร้าใจอย่างไงบอกไม่ถูก เนื้อหาเขาเขียนไว้อย่างนี้ครับ ... ... รั่วที่ไหน งบประมาณจำนวนหลายหมื่นล้านบาทที่มีการอนุมัติลงไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ไม่รู้ไปตกหล่นอยู่ที่ไหน เพราะเจ้าหน้าที่ในทุกวันนี้ ยังต้องควักเงินเดือนของตัวเองเป็นค่าเลี้ยงดู “สายข่าว” บางคนถึงกับต้องงัดตำราของ “จ่าเพียร” พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา มิเช่นนั้น ตายสถานเดียว หากไม่รู้การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะตำรวจภูธรและตชด. ที่ออกไปตั้งฐานตามพื้นที่ต่าง ๆ แม้แต่ “มาม่า” ยังไม่มีปัญญาจะไปซื้อกิน บางครั้ง”สายข่าว” ล่าหมูป่า เก้ง กวาง มาได้ เอามาให้ตำรวจที่ฐาน ก็ใช่ว่าจะรับของเขามาฟรี ๆ ต้องควักเงินเป็นค่าสินน้ำใจตอบแทน 300 บ้าง 500 บ้าง ก็ว่ากันไป เรื่องแบบนี้ผู้เป็น “นาย” ไม่เคยรู้ ดูแลกันบ้าง วันนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้ต้องการเงินหมื่นล้าน แต่เขาต้องการแค่การเอาใจใส่ดูแล ข้าวสาร อาหารแห้ง ถุงเท้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเวลาเข้าปา แค่นี้เขาก็พร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยเอาไว้ ไม่ใช่ส่วนกลางอนุมัติมาเท่าไร ก็เอาไปซื้อ “รถฟอร์จูนเนอร์” ให้กับ “ผู้พัน” แต่ที่เจ็บใจกว่านั้นก็คือ รถฟอร์จูนเนอร์เหล่านั้นไม่ได้วิ่งอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไปวิ่งร่อนอยู่ทั่วสระบุรี ลพบุรี เกียกกาย บางเขน คิดแล้วมันเจ็บกระดองใจ ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทราบแล้ว ช่วยดำเนินการที มันจะไม่ไหวแล้ว… |