Group Blog
 
All Blogs
 




 

ยุทธศาสตร์ทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาวิกฤติแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน (ท่าจีนตอนล่าง)

Entry นี้อาจจะหนักหน่อยนะครับแต่ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่าน ดังนั้นจึงพยายามที่จะสื่อให้อ่านเข้าใจง่ายครับ
ที่มาของปัญหา
แม่น้ำท่าจีนเป็นแหล่งน้ำที่มีความสำคัญอันดับสองของประเทศและลุ่มน้ำภาคกลางรองจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีนแยกจากฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ตอนต้นของแม่น้ำเรียกว่าคลองมะขามเฒ่า ช่วงไหลผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีเรียกว่าแม่น้ำสุพรรณ เมื่อไหลผ่านจังหวัดนครปฐมเรียกว่าแม่น้ำนครชัยศรี และไหลออกสู่อ่าวไทยบริเวณจังหวัดสมุทรสาครมีความยาวทั้งหมด 325 กิโลเมตร มีประชากรในพื้นที่ลุ่มน้ำกว่า 2 ล้านคนซึ่งมีการกระจายตัวส่วนใหญ่ตามริมแม่น้ำท่าจีน มีการใช้ประโยชน์คือการเกษตร 76% ป่าไม้ 7.5% อุตสาหกรรม 0.1% (ปัจจุบันเพิ่มขึ้นปีละกว่า 18%) ชุมชน 13% แหล่งน้ำ 1% อื่นๆ 2.4%
แม่น้ำท่าจีนตอนล่างตั้งแต่ภายในจังหวัดนครปฐมไปจนถึงจังหวัดสมุทรสาครมีความเสื่อมโทรมมากจัดให้อยู่ระดับ 5 ในปัจจุบัน ซึ่งในอดีตนั้นอยู่ในระดับ 4 โดยเฉพาะคลองบางแก้วและคลองเจดีย์บูชามีคุณภาพน้ำที่วิกฤติคือมีปัญหากลิ่นเหม็น แมลงวันและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ แหล่งกำเนิดน้ำเสียในพื้นที่ประกอบไปด้วยแหล่งชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม การเกษตร (ฟาร์มเลี้ยงหมูและการเกษตรเชิงพาณิชย์ที่ใช้สารเคมี) และวัชพืชในคูคลอง

เหตุผลที่ผู้่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาควรเลือกแนวคิดยุทธศาสตร์ทางเลือกใหม่มาใช้ในการแก้ปัญหา

อัตราความเจริญเติบโตของประชากรมนุษย์เพิ่มมากขึ้นความต้องการทางด้านที่อยู่อาศัย การบริโภค อุปโภคของมนุษย์จึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ตัวอย่างเช่นการทำฟาร์มสุกรในพื้นที่ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของโรงงานอุตสาหกรรม การทำการเกษตรจากวิถีดั่งเดิมที่เปลี่ยนมาเป็นเชิงพาณิชย์ ความหนาแน่นของที่อยู่อาศัยของชุมชน ถึงแม้ว่าเราสามารถเพิ่มกิจกรรมดังที่กล่าวมานี้ได้แต่ระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อมก็มีขีดจำกัดในการรองรับของเสียที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมเหล่านั้น มนุษย์จึงมีความคิดที่จะควบคุมระบบนิเวศแทนธรรมชาติเพื่อสนองต่อความต้องการ แต่เราจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการควบคุมระบบนิเวศของเมนุษย์โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่รู้เท่าไม่ถึงการนั้นจะเป็นการเลื่อนเวลาของผลกระทบออกไป หรือเป็นแค่เพียงย้ายผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมไปไว้ในพื้นที่อื่น ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่ตำบลแพรกหนามแดงในสมัยก่อน ในระยะแรกๆ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอาจจะไม่ส่งผลทันที แต่จะส่งผลในระยะต่อมาเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างการทำลายสิ่งแวดล้อมและผลกระทบที่เกิดตามมาไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นเส้นตรง อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือแม่น้ำท่าจีนตอนล่างมีการจัดการแบบ Open Access คือไม่มีการจัดการปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรจึงทำให้ทรัพยากรเสื่อมโทรมเพราะผู้ใช้ทรัพยากรดังกล่าวจะตักตวงผลประโยชน์เฉพาะหน้าก่อนที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาว รวมถึงการที่ชุมชนดังกล่าวไม่เข้มแข็งหมายถึงแรงจูงใจในการช่วยกันอนุรักษ์ไม่เกิดขึ้น ในขณะที่การแก้ปัญหาของภาครัฐก็ไม่ได้ผลเนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ทำให้งบประมาณที่นำไปใช้แก้ไขปัญหาสูญเสียไปอย่างไร้ประโยชน์

ยุทธศาสตร์ทางเลือกใหม่นี้จะทำให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ดังต่อไปนี้

 1. การสร้างขอบเขตของทรัพยากรและสมาชิกผู้ใช้ทรัพยากร
      2. การจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น
     3. การมีส่วนร่วมในการใช้ทรัพยากร
     4. การตรวจสอบและติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
     5. การสร้างกฏ ควบคุมและลงโทษภายในชุมชน
     6. การจัดการแก้ไขความขัดแย้ง
     7. การพึ่งพาตนเอง
     8. การสร้างเครือข่ายภายนอก ภาครัฐจะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้ความรู้และสนับสนุนการจัดการของชุมชน

จากการเรียนรู้ดังกล่าวจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนแบบแผนของความสัมพันธ์ของสมาชิกในชุมชนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การจัดการทรัพยากรร่วม นำมาซึ่งการเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำของสมาชิกในชุมชน



Create Date : 11 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 1:11:32 น.
Counter : 493 Pageviews.  




 

วณิพกพเนจร

today
Create Date : 11 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 1:11:27 น.
Counter : 477 Pageviews.  




 

เรื่องมันมีอยู่ว่า...ยังไงก็หนีไม่พ้น ^^

ไปปั่นจักรยานกันดีกว่า ^^
Create Date : 11 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 1:11:16 น.
Counter : 441 Pageviews.  




 

ดื่มไวน์ ได้บุญ แหม! มีด้วยหรือนี่

เพื่อนๆ ขา เช้าวันเสาร์อย่างนี้ หลังจากคุณหมึกพอลแกได้ทำการทำนายเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนปลาหมึกยักษ์แล้วว่า เยอรมันจะชนะอุรุกกวัย และ สเปนจะเป็นแชมป์บอลโลก เราจะทำอะไรอีกล่ะคะ ในเมื่อรู้ผลทุกเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น เอาบุญมาฝากค่ะ เป็นบุญแบบดื่มได้ มีความนุขด้วยนะเนี่ย

ก็ไวน์เทสติ้งที่ทางโรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ เขาจัดเป็นประจำน่ะสิคะ ใครไปเทสต์ไวน์กับเค้า เค้าคิดคนละ 500 บาทค่ะ แต่เงินนี่เค้าไม่ได้เก็บไว้เองนะคะ เอาไปบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ อย่างไปช่วยเหลือเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นต้นค่ะ นี่ล่ะค่ะ เป็นที่มาของการดื่มไวน์ ได้บุญ ซึ่งครอบครัวดิฉันไปกันมา อย่างมีความสุขตามรูปข้างล่างนี้ค่ะ คุณแม่ คุณป้า คุณพ่อ คุณน้า และน้องสาวค่ะ

คุณป้า คุณแม่ คุณน้าค่ะ

คุณแม่กะคุณป้า

คุณน้ากะคุณแม่

น้องสาวสถาปนิกค่ะ เธอเป็นภูมิสถาปัตย์นะคะ รับออกแบบตกแต่งสวนสำนักงานโรงแรมหมู่บ้านทุกอย่างค่ะ ออกมารับรองว่าสวยเด้งค่ะ เพราะดีกรีจากสถาปัตย์ จุฬาฯ และ ประเทศอังกฤษ เป็นประกันอยู่แล้ว

นี่ค่ะ ด้านบนชั้นลอยที่เป็นที่เทสต์ไวน์ วันนี้เป็นไวน์บอร์โดซ์นะคะ เค้าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ

คุณพ่อเดินชมค่ะ มีไวน์ให้เทสต์ถึงหกตัวด้วยกันคะ จากแชมเปญ

เป็นโรเซ่

ไวน์ขาวอีกสองตัว และ ไวน์แดงอีกสองตัวค่ะ

สวยดีค่ะ เลยถ่ายมาให้ชม ขนมปังที่นี่อร่อยจัดจริงๆ ค่ะ

ผู้คนที่มาร่วมงานค่ะ

เสร็จแล้วจะทานอาหารมื้อค่ำแสนอร่อยต่อที่ห้องอาหารนี้เลยก็ได้นะคะ ถ้าเทสต์ไวน์แล้วทานอาหารด้วย มีอาหาร 3 คอร์สค่ะ ราคารวม 1,200 บาท ค่ะ

นี่ค่ะเมนู

ไวน์อีกสักขวดระหว่างมื้ออาหารนะคะ

หอยเชลล์ดิบค่ะ ปรุงรสมากลมกล่อมมาก

แซลมอนรมควันและมีไข่นกกระทาฟองน้อยวางมาด้านบน

ซุปรสเยี่ยม หอมมากๆ

คั่นด้วยมิ้นต์ลูกใสๆ เล็กๆ ทำเลียนแบบไข่ปลาคาร์เวียร์ หวาน เย็น ซ่า ชื่นใจนะคะ ก่อนมื้ออาหารค่ะ

เป็นฝีมือการทำของคุณธีโบลด์เชฟฝรั่งเศสที่ทำอาหารฝรั่งเศสได้อร่อยที่สุดในประเทศขณะนี้นะคะ ดิฉันว่า

มาแล้วค่ะ อาหารจานหลัก จะเลือกทานเนื้อแก้มวัวตุ๋นห่อในแป้ง ที่อร่อย นุ่ม รสชาติดี

หรือกุ้งที่สดดึ๋งดั๋งก็ได้ค่ะ

ของหวานต้องไม่พลาด Chocolate Fondant นะคะ ตัดเนื้อเค้กชอคโกแลตอุ่นๆ ปุ๊บชอคโกแลตเข้มข้นเยิ้มออกมาเลยค่ะ

เห็นวิธีการจัดดอกไม้ประดับโต๊ะเขาสวยดีค่ะ ดอกหน้าวัวก้านเดียว ปักลงไปในแจกันแก้วสูง และเพื่อป้องกันมันขลุกขลักใส่ก้อนหินสีดำลงไปสามก้อนค่ะ

นี่ค่ะ

ปิดท้ายด้วยภาพคู่ที่น่ารัก เมื่อเช้าเดินผ่านหน้าต่างบ้าน อ้าว มีคุณนกสองตัวมาเกาะจู๋จี๋กันอยู่ค่ะ เห็นว่าน่ารักดี เลยถ่ายมาฝากคะ

น่ารักไหมคะ ถ่ายไกลหน่อย เพราะคุณ BlueHill สอนไว้ว่า จะดูนกต้องทำให้นกมีความสุขค่ะ อย่าไปขัดจังหวะเค้าจู๋จี๋นะคะ..

มีความสุขมากๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ

**

Create Date : 11 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 1:11:01 น.
Counter : 534 Pageviews.  




 

ผู้ว่าฯ....ถ้าทำได้จริง ผมเชื่อว่า"ไปดูงานเมืองนอก"ครับ

ภาพระบบขนส่งมวลชนในหาดใหญ่จากจินตนาการของคุณ Bentown

        ผมไม่รู้จัก"ชำนิ บูชาสุข" ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย
        แต่ผม"ติดใจ" กรณีที่นายคนนี้ยืนยันการที่เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มที่นำผู้ว่าราชการจังหวัด 25 จังหวัดเดินทางไป"ดูงาน"ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งบางเมืองใน 2 ประเทศ เช่นที่โออิตะญี่ปุ่น เพื่อ"ตอบโต้"กรณีที่มีข่าวว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ห้ามไม่ให้ผู้ว่าฯเดินทางไปเที่ยว โดยยืนยันว่านี่เป็นการ"ไปดูงาน"
        คุณชำนิยังกล่าวยกย่องชมเชย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประสบความสำเร็จในเรื่อง"โอทอป"ด้วยการเรียนรู้จากประเทศญี่ปุ่น และบอกว่าปัจจุบันเงียบเพราะ"ขาดการประเชาสัมพันธ์" ...ฟังดูเหมือนจะบอกว่า"รัฐบาลผิด"นะครับ ทั้งที่ความจริงเรื่อง"โอทอป"ควรเป็นเรื่องที่แต่ละจังหวัดต้องประชาสัมพันธ์เอง
        เอาล่ะครับ...ผม(ลอง)เชื่อว่าไปดูงาน ..แต่ผู้ว่าฯต้อง"ทำงาน"ให้เห็นว่าไปเรียนรู้มา..ไม่ใช่ไปเที่ยว
        เพราะล่าสุด กลุ่มผู้ว่าฯที่ไปเที่ยว เอ๊ย ..ไปดูงาน เพราะทั้งหมด ได้ตั้งคณะกรรมการรุ่น ที่มี ปรีชา บุตรศรี ผู้ว่าฯ ปทุมธานี เป็นประธาน ดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าฯ ลำพูน รองประธาน วิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เป็นเลขานุการ และสุรพล สายพันธ์ รองผู้ว่าฯ อุบลฯ เป็นผู้ช่วยเลขาฯ ให้ทุกคนถอดบทเรียนทั้งหมดจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ทำรายงานส่วนบุคคลขึ้นมาเพื่อแสดงวัสัยทัศน์สำหรับนำไปใช้ในการพัฒนาจังหวัดของตนเอง
        ผมอยากเห็นการพัฒนาจังหวัดสงขลาครับ
        เอาล่ะ ผู้ว่าฯสงขลา ผมอยากให้คุณลองนึกว่า"แผนงานระบบขนส่งมวลชน"ในหาดใหญ่จะทำได้ไหม โดยผมขอนำภาพจากการ(ลอง)ทำกราฟิคขึ้นมาโดยคุณ Bentown ในเวบๆหนึ่งของคนที่อยาก(ร่วม)พัฒนาหาดใหญ่(ภาพนี้ผมลดขนาดเพื่อให้ลงในบล็อคได้) โดยขอให้ผู้ว่าฯสงขลานำเสนอเรื่องนี้หลังการ"ดูงาน"เพื่อยืนยันว่า"ไม่ได้ไปเที่ยว"ว่าระบบขนส่งแบบนี้ จะเกิดขึ้นที่หาดใหญ่(หรือเมืองอื่นของผู้ว่าฯท่านอื่น)ได้หรือไม่..ได้แบบไหน ได้อย่างไร และได้เมื่อไร
        อย่าลืมว่าทั้งกรุงโตเกียวและกรุงโซล เขามีระบบขนส่งมวลชนชั้นดี และเมื่อ"ผู้ว่าฯ"ไปดูงานก็ควรมาช่วยเรื่อง"ขนส่งมวลชน"ในจังหวัดด้วยนะครับ...กรุงเทพฯน่ะเขามีทั้งรถไฟลอยฟ้า รถไฟใต้ดิน
        ถ้าทำได้จริง..ผมก็จะเชื่อ"ชำนิ"ที่ยืนยันว่า"ผู้ว่าฯไม่ได้ไปเที่ยว" เพราะไปดูงานครั้งนี้ "ชำนิ"เขาย้ำว่า ได้ไปดูโครงการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญในการพัฒนาประเทศระยะยาว และจะให้"ผู้ว่าฯ"ที่ไปดูงานครั้งนี้ นำสิ่งที่ศึกษาดูงานมาถ่ายทอดผ่านมหาดไทยแชลเนล
        ถ้าผู้ว่าฯทำไม่ได้ ผมจะ"ฟันธง"ด้วยความแม่นยำกว่าเจ้าปลาหมึกพอล ว่าที่แท้ ผู้ว่าฯเอาเงินภาษีประชาชนไปเที่ยวครับ

Create Date : 11 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 1:10:52 น.
Counter : 425 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.