เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

แนะเลี่ยงลงทุน 59 หุ้นเสี่ยงสูง และติดบัญชี Cash Balance เป็นประจำ

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
แนะเลี่ยงลงทุน 59 หุ้นเสี่ยงสูง และติดบัญชี Cash Balance เป็นประจำ

บล.เอเซียพลัส แนะนักลงทุนหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง ขณะที่ตลาดฯ จับตา 19 พ.ย.นี้ สมาคมโบรกเกอร์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ นัดถกออกมาตรการควบคุม พร้อมเปิดชื่อ 59 หุ้นที่เข้าข่าย ติดบัญชี Cash Balance เป็นประจำ

       นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ จะเตรียมหารือกับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการออกมาตรการควบคุมหุ้นเก็งกำไร ในวันที่ 19 พ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยเปิดเผยข้อมูลว่า ปัจจุบันสัดส่วนหุ้นเก็งกำไรสูงถึง 20% จากมูลค่าซื้อขายรวม ซึ่งหุ้นส่วนใหญ่มีระดับ P/E เกิน 80 เท่า ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงต่อนักลงทุน

       โดยหุ้นที่เข้าข่ายมักจะอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ต้องวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนซื้อ หรือ ติดบัญชี Cash Balance ซึ่ง ณ วันที่ 14 พ.ย. มีอยู่ถึง 59 หลักทรัพย์ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่มักจะเข้าข่ายอยู่เป็นประจำ และปรับตัวขึ้นกว่า 500% ในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ ABC, ACD, CYBER, DIMET, EE, EMC, EVER, GENCO, MLINK, PAE, RICH, SUPER และ TIES




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557   
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2557 7:13:04 น.   
Counter : 732 Pageviews.  

ชี้หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดฯ คาดไว้ ราคาทองอาจร่วงแตะ 1.5 หมื่นบาท

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ชี้หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดฯ คาดไว้ ราคาทองอาจร่วงแตะ 1.5 หมื่นบาท

ศูนย์วิจัยทองคำ คาดราคาทองเดือนนี้ปรับลดลงต่อ เคลื่อนไหว 17,000-19,000 บาท ห่วงทองคำปี 2558 อาจร่วงถึง 15,000 บาทต่อบาททองคำ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด

       นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นได้ค่อนข้างลำบาก และมีโอกาสปรับตัวลงต่อ หลังจากราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทำให้นักวิเคราะห์ต่างประเทศปรับลดราคาทองคำว่ามีโอกาสปรับลดลงมาอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้

       ทั้งนี้ แม้ว่าราคาดังกล่าวจะต่ำกว่าราคาต้นทุนหน้าเหมืองที่ 1,038 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ก็ตาม แต่คงยังไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ เพราะราคาทองคำมีการเก็งกำไร และแรงซื้อกลับที่แนวรับ 1,100-1,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงราคาทองขาลงอย่างชัดเจนมีโอกาสที่ทองคำจะหลุด 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ หรือประมาณ 15,000-15,500 บาทต่อบาททองคำ ภายใต้ค่าเงินบาทที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ความน่าสนใจการลงทุนทองคำหมดไป และมีการโยกย้ายการลงทุนไปในเงินฝาก พันธบัตร และตลาดหุ้น

       ส่วนแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าราคาทองคำยังปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,100-1,220 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ระหว่าง 17,000-19,000 บาทต่อบาททองคำ โดยทั้งนักลงทุน และผู้ค้าทองคำมีมุมมองเดียวกัน คือ ยังไม่เข้าลงทุนทองคำในเดือนนี้ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ 50 จุด อยู่ที่ 46.77 จุด สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะ 3 เดือนข้างหน้า กลับยืนเหนือระดับ 50 จุด อยู่ที่ 53.95 จุด คาดหวังว่าต้นปีหน้าราคาทองคำจะฟื้นตามเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ แต่ยังมีความกังวลปัจจัยที่ยังกดดันจากการปรับตัวแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความวิตกกังวลต่อการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยหลังเฟด ประกาศยกเลิกนโยบาย QE ส่วนเงินบาทอ่อนตัวส่งผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศปรับตัวลงไม่มากเท่าทองคำโลก




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2557   
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2557 22:53:27 น.   
Counter : 766 Pageviews.  

“ไพบูลย์” มองหุ้นปี 58 ไม่หวือหวา “ภัทรีรา” เชื่อดัชนีแตะ 1,750 จุด กำไร บจ. โตได้ 12-15%

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
“ไพบูลย์” มองหุ้นปี 58 ไม่หวือหวา “ภัทรีรา” เชื่อดัชนีแตะ 1,750 จุด กำไร บจ. โตได้ 12-15%

นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน คาดหุ้นไทยปี 2558 ไม่ร้อนแรง เนื่องจากเป็นช่วงปฏิรูปประเทศ คาดแนวโน้มปรับขึ้นได้อีก 5-10% ด้านนายกสมาคมโบรกเกอร์ เชื่อหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นถึง 1,700-1,750 จุด โดยกำไรของ บจ. จะขยายตัวได้ 12-15% โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่ ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ อาหาร และบริโภค

       นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 2558 ดัชนีมีโอกาสเป็นบวกได้ประมาณ ร้อยละ 5-10 เมื่อเทียบจากปัจจุบัน เนื่องจากอยู่ในช่วงของการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ และการเลือกตั้ง ดังนั้น เศรษฐกิจไทยจึงขยายตัวไม่มาก โดยประเมินดัชนีครึ่งปีแรกอยู่ประมาณ 1,600 จุด ส่วนในครึ่งปีหลัง ต้องรอความชัดเจนทางการเมือง การเลือกตั้ง ว่าจะสร้างความมั่นใจได้แค่ไหน

       นายไพบูลย์ในฐานะสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ( สปช.) ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตนเองจะมีการหารือใน สปช.เพื่อผลักดันแนวทางการดำเนินงานของกองทุนการออมแห่งชาติ เพราะปัจจุบันประชาชนกลุ่มสูงอายุ มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น กองทุนการออมแห่งชาติถือเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการออมและสร้างหลักประกันทางรายได้ให้กับประชาชนกลุ่มสูงอายุ ซึ่งคาดว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมเร็วๆ นี้

       ด้านนางภัทรีรา ดิลกรุ่งธีรภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยในปี 2558 มีโอกาสปรับขึ้นถึง 1,700-1,750 จุด โดยกำไรของบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 12-15 โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือ ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ อาหาร บริโภค โดยความเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กลางปี 2558, เศรษฐกิจยุโรปที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2557   
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2557 21:32:54 น.   
Counter : 677 Pageviews.  

แนะจับตา 10 พ.ย. จะมีการสรุปโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้แผน 8 ปี วงเงิน 3 ล้านล้าน

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
แนะจับตา 10 พ.ย. จะมีการสรุปโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้แผน 8 ปี วงเงิน 3 ล้านล้าน

หุ้นแกว่งไซด์เวย์อัป ปิดบวก 5 จุด แนะจับตาผลประชุมอีซีบี วันที่ 6 พ.ย.นี้ จะมีแผนกระตุ้น ศก. เพิ่มเติมหรือไม่ และยังรอปัจจัยในประเทศ วันที่ 10 พ.ย.นี้ จะมีการสรุปโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผน 8 ปี วงเงิน 3 ล้านล้านบาท

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,585.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.38% มูลค่าการซื้อขาย 47,501.67 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,585.46 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,576.62 จุด

       นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้โดยรวมแกว่งไซด์เวย์อัปได้แรงหนุนจากตลาดในแถบยุโรปที่เปิดมาในช่วงบ่ายอยู่ในแดนบวก และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็อยู่ในแดนบวกด้วยเช่นกัน ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบสลับกัน

       ทั้งนี้ ตลาดกำลังรอการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย.นี้ว่าจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้าเกิดขึ้นก็จะช่วยหนุนตลาดได้ นอกจากนี้ ยังรอปัจจัยในประเทศวันที่ 10 พ.ย.นี้ที่จะมีการสรุปโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้แผน 8 ปี วงเงิน 3 ล้านล้านบาท

       สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัวแบบไซด์เวย์ ถึงไซด์เวย์อัป พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,567 จุด ส่วนแนวต้าน 1,591-1,600 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

       SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,621.79 ล้านบาท ปิดที่ 184.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

       BA มูลค่าการซื้อขาย 1,459.99 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

       GEL มูลค่าการซื้อขาย 1,107.92 ล้านบาท ปิดที่ 0.97 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท

       TWZ มูลค่าการซื้อขาย 1,045.64 ล้านบาท ปิดที่ 0.61 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท

       BTS มูลค่าการซื้อขาย 958.79 ล้านบาท ปิดที่ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2557   
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 21:05:27 น.   
Counter : 564 Pageviews.  

ภาพรวมดัชนียังคงขึ้นทดสอบ 1,600 จุด

ภาพรวมดัชนียังคงขึ้นทดสอบ 1,600 จุด
       ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันที่ 3 พฤศจิกายน 2557 ไปที่ 1,579.18 จุด ลดลง 4.98 จุด เปลี่ยนแปลง -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 56,759.24 ล้านบาท โดยระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,591.15 จุด และต่ำสุดที่ 1,576.37 จุด

       นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนียังคงอยู่ในเทรนเดิม คือ ปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด แม้จะมีแรงขายออกมาระหว่างทาง เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มนิ่งแล้ว โดยแรงซื้อสนับสนุนดัชนียังคงเป็นเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ในประเทศ ส่วนเม็ดเงินจากต่างชาติไม่มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยมาระยะหนึ่งแล้ว

       “ดัชนีปรับฐานระหว่างทางเพื่อขึ้นทดสอบแนวต้าน 1600 จุด เพราะในระยะ 7 วันที่ผ่านมาดัชนีปรับขึ้นจาก 1520 จุด มาที่ 1580 จุด ขึ้นมากว่า 60 จุดก็ต้องมีพักบ้าง ไม่น่าวิตก”

       พร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.) น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาโดยน่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,575-1,600 จุด แนะนำให้เข้าซื้อในจังหวะอ่อนตัว




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2557   
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2557 20:59:19 น.   
Counter : 618 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  199  200  201  202  203  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]