แรงซื้อกลับในหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มเทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ หนุนดัชนีฯ
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น | | | | | หุ้นไทยพลิกปิดบวก 10 จุด โดยมีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มเทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ โบรกฯ มองตลาดฯ ยังมีทิศทางผันผวน แต่ก็มีการคาดการณ์ผลประกอบการ บจ. งวดไตรมาส 4/57 ที่น่าจะมีบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มออกมาดี ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,605.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.15 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.64% มูลค่าการซื้อขาย 58,358.99 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดในวันนี้ ดัชนีสามารถพลิกกลับมาปิดบวกสำเร็จ หลังจากที่ร่วงลงไปลึกกว่า 10 จุด โดยมีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มเทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ ด้านสัดส่วนการลงทุนนักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 899.81 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 350.79 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 559.339 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 1,809.99 ล้านบาท นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดยังผันผวนยังมีการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) งวดไตรมาส 4/57 ที่น่าจะมีบริษัทฯ ที่มีแนวโน้มดีออกมา อย่างไรก็ดี ความผันผวนยังเกิดจากการคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่จะปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และยังกังวลเรื่องของกรีซ ซึ่งจะต้องรอดูผลการประชุมของ รมว.คลังยูโรโซนกับทางกรีซในคืนนี้ด้วย | | |
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2558 |
| |
|
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2558 21:25:23 น. |
| |
Counter : 905 Pageviews. |
| |
|
|
|
ตลาดเข้าสู่โหมดพักฐาน กังวลกรีซถูกหั่นเครดิตไปสู่ระดับต่ำสุด เฟดจ่อขึ้น ดบ. เร็วกว่าคาด
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น | | | | | หุ้นปิดลบ 6.81 จุด ตลาดเข้าสู่โหมดพักฐาน เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ ขณะที่ความเสี่ยงยังมีรอเพียบ ทั้งสัญญาณการปรับขึ้น ดบ.ของเฟดเร็วกว่าคาด และความกังวลกรีซอาจถูกมูดี้ส์ฯ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปสู่ระดับต่ำสุดได้ ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (10 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,594.96 จุด ลดลง 6.81 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.43% มูลค่าการซื้อขาย 51,244.31 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,606.69 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,592.59 จุด นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรินีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ มองช่วงสั้นตลาดฯ เริ่มเข้าสู่โหมดของการพักฐาน เนื่องจากปัจจัยกระตุ้นหมดลง ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงยังมีอยู่มาก ทั้งตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาดีมาก ทำให้เริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นมาเป็นเดือน ก.ค.58 จากเดิมที่มองไปที่เดือน ก.ย.58 ดังนั้น ผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯ จึงกระโดดสูงขึ้น ทำให้ความน่าสนใจหุ้นไทยลดลงไป นอกจากนั้น วันพรุ่งนี้ (11 ก.พ.) รมว.คลังยูโรโซนจะหารือเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซ แต่เชื่อว่าคงยังไม่มีบทสรุปที่เป็นรูปธรรม และทำให้เรื่องยังน่าจะยืดเยื้อต่อไป ตราบใดที่กรีซยังไม่ปฏิบัติตามแผนของยูโรโซน และที่น่าเป็นห่วง คือ กรีซอาจถูกมูดี้ส์ฯ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปสู่ระดับต่ำสุดได้ ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาเป็นแค่การรีบาวด์กลับในช่วงสั้นเพราะระดับสต็อกยังสูง ดังนั้น หากดัชนีฯ ยืนเหนือระดับ 1,600 จุด ให้ขายลดน้ำหนักการลงทุนบ้าง และให้รอซื้อแถวบริเวณแนวรับ 1,564-1,560 จุด แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดน่าจะมีโอกาสอ่อนตัวลงอีก หรืออาจแกว่งไซต์เวย์ เพราะนักลงทุนคงยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะเข้าลงทุน เนื่องจากต่างรอผลการประชุมของ รมว.คลังของยูโรโซ พร้อมให้แนวรับ 1,578 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,000.58 ล้านบาท ปิดที่ 13.90 บาท ลดลง 0.30 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,509.55 ล้านบาท ปิดที่ 244.00 บาท ลดลง 2.00 บาท TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,391.01 ล้านบาท ปิดที่ 2.78 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,354.62 ล้านบาท ปิดที่ 361.00 บาท ลดลง 5.00 บาท MTLS มูลค่าการซื้อขาย 1,142.93 ล้านบาท ปิดที่ 18.30 บาท ลดลง 1.20 บาท | | |
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2558 |
| |
|
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2558 22:44:34 น. |
| |
Counter : 937 Pageviews. |
| |
|
|
|
เก็งกำไรหุ้นน้ำมันคึกคัก ดัชนียืนเหนือ 1,600 จุด แถมได้แรงหนุนกลุ่มแบงก์-สื่อสาร
| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น | | | | | หุ้นไทยปิดพุ่ง 19 จุด เก็งกำไรหุ้นน้ำมันคึกคัก และยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มสื่อสารที่มีแรงซื้อเข้ามาด้วย ส่งผลให้ดัชนีฯ กลับมายืนเหนือระดับ 1,600 จุด ได้สำเร็จ ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 ก.พ.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,602.54 จุด เพิ่มขึ้น 19.84 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.25% มูลค่าการซื้อขาย 52,375.23 ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,604.84 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,591.85 จุด นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีเป็นไปตามความคาดหมาย จากการกลับมาของหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น และค่าการกลั่นก็ได้ปรับตัวขึ้นด้วยตั้งแต่ต้นปีขึ้นมาได้ประมาณ 20% นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มสื่อสารที่มีแรงซื้อเข้ามาด้วย ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) นายประกิต กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อได้ โดยให้แนวรับ 1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,613 จุด พร้อมแนะนำหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี อย่างหุ้น PTTGC เป็นต้น สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 3,322.70 ล้านบาท ปิดที่ 13.60 บาท ลดลง 0.10 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,497.56 ล้านบาท ปิดที่ 370.00 บาท เพิ่มขึ้น 15.00 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,125.72 ล้านบาท ปิดที่ 8.20 บาท ลดลง 0.30 บาท PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,961.86 ล้านบาท ปิดที่ 120.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,504.79 ล้านบาท ปิดที่ 249.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท | | | | |
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2558 |
| |
|
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2558 22:27:48 น. |
| |
Counter : 968 Pageviews. |
| |
|
|
|
เผยเม็ดเงินลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างหนาแน่น
| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น | | | | | หุ้นปิดบวก 1.50 จุด ดัชนีพยายามขึ้นทดสอบ 1,600 จุด โดยมีกระแสเงินทุนทั้งในและนอกประเทศ ยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างหนาแน่น ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้น หากเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ แนะจับตา "กนง.-เฟด" ในการปรับ ดบ.นโยบาย ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,589.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 62,859.26 ล้านบาท โดยวันนี้ดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ ระดับ1,605.67 จุด และขยับลงแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,586.94 จุด ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภท มีดังนี้ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 659.07 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 347.02 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 3,360.77 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศขายสุทธิ 3,048.72 ล้านบาท นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น โดยมีปัจจัยมาจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าที่ยังอยู่ในระดับสูง จากผลของการที่ญี่ปุ่นออกมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE)และยุโรปน่าจะดำเนินมาตรการ QE ช่วงเดือนมี.ค.นี้ ส่งผลให้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นในแถบเอเชียมากขึ้น ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีซีมิโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวบวก มีจังหวะขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมา เนื่องจากยังไร้ปัจจัยลบเข้ามากระทบ อีกทั้งกระแสเงินทุนทั้งในและนอกประเทศยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างหนาแน่น ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นหากเทียบกับช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะแรงซื้อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม กรอบการปรับตัวขึ้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่า กนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 2.00% เนื่องจากยังไม่ใช่ช่วงเวลาของการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่ง ณ ปัจจุบัน การกระตุ้นเศรษฐกิจดำเนินการผ่านนโยบายการคลัง ด้วยการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อยู่แล้ว ส่วนปัจจัยต่างประเทศ จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่อท่าทีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าจะคงแผนการณ์เดิมว่าจะปรับขึ้นช่วงกลางปีนี้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าเฟดน่าจะยังคงแผนการณ์เดิมไว้ ไม่รีบเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวยังไม่แข็งแกร่งมากนัก ขณะที่ผลการเลือกตั้งกรีซ มองว่าส่งผลกระทบต่อไทยน้อย แต่จะส่งผลกระทบกับกลุ่มประเทศในยุโรปมากกว่า ส่วนแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันพุ่งนี้ คาดว่า หุ้นไทยแกว่งตัวบวกในกรอบจำกัด นักลงทุนรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงแผนการณ์เดิมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ กลยุทธ์ แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัว พร้อมประเมินแนวรับ 1,580-1,575 จุด แนวต้าน 1,604-1,628 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ มีดังนี้ 1.ITD ปิดที่ 8.70 บาท ลดลง -0.15 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,527.55 ล้านบาท 2.TRUE ปิดที่ 13.20 บาท ลดลง -0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,414.43 ล้านบาท 3.KBANK ปิดที่ 232.00 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,708.78 ล้านบาท 4.BBL ปิดที่ 196.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,662.56 ล้านบาท 5.KTB ปิดที่ 23.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,557.49 ล้านบาท | | | | |
Create Date : 27 มกราคม 2558 |
| |
|
Last Update : 27 มกราคม 2558 21:51:36 น. |
| |
Counter : 983 Pageviews. |
| |
|
|
|
ตลาดได้รับแรงกดดันจาก ไอเอ็มเอฟ หั่นคาดการณ์ ศก.โลก ปีนี้ลงเหลือโต 3.5%
| คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น | | | | | หุ้นไทยปิดบวก 2.27 จุด เผยนักลงทุนรอประเด็น อีซีบี ใช้มาตรการ คิวอี ขณะที่ตลาดได้รับแรงกดดันจาก ไอเอ็มเอฟ ปรับลดคาดการณ์ จีดีพี โลกปีนี้ลงเหลือโต 3.5% จากเดิมที่คาดจะโต 3.8% แม้จะอยู่ในคาดการณ์ของตลาดฯ ซึ่งจะต้องเป็นไปตามสำนักวิจัยอื่นๆ อีกทั้งทิศทางเวลานี้ก็เป็นลักษณะการใช้นโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,537.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.15% มูลค่าการซื้อขาย 48,079.67 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ ดัชนีปรับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,540.08 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 1,530.83 จุด นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบ โดยตลาดฯ ยังรอประเด็นเดิมคือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ คาดหวังการออก QE เพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ตลาดได้รับแรงกดดันจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปีนี้ลงเหลือโต 3.5% จากเดิมที่คาดจะโต 3.8% แต่ก็มองไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นไปตามสำนักวิจัยอื่นๆ และตลาดก็รับรู้ไปบ้างแล้ว อีกทั้งทิศทางเวลานี้ก็เป็นลักษณะการใช้นโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางทั่วโลก ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเฉลี่ยราว 0.2-0.6% โดยตลาดจีน บวกแรงในวันนี้ อาจเป็นการรับแรงเก็งกำไรเข้ามา เพราะเห็นว่า valuation ของจีนยังถูก และทางการจีนก็เริ่มที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) เชื่อว่าตลาดฯ คงจะแกว่งตัวขึ้นได้ โดยให้แนรับ 1,524-1,519 จุด ส่วนแนวต้าน 1,549-1,556 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,680.77 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท ML มูลค่าการซื้อขาย 2,178.54 ล้านบาท ปิดที่ 4.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,782.07 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 5.00 บาท ITD มูลค่าการซื้อขาย 1,674.05 ล้านบาท ปิดที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,648.87 ล้านบาท ปิดที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท | | | | |
Create Date : 21 มกราคม 2558 |
| |
|
Last Update : 21 มกราคม 2558 20:34:23 น. |
| |
Counter : 1009 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |