เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

กสทช. เคาะราคาคูปองทีวีดิจิตอล 690 บาทต่อครัวเรือน




บอร์ด กสทช. มีมติเป็นเอกฉันท์ เคาะราคาคูปองทีวีดิจิตอล 690 บาทต่อครัวเรือน แจกให้ 22.9 ล้านครัวเรือน คาดเริ่มแจก ก.ย. 57

            วันนี้ (24 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ 10 เสียง สนับสนุนราคาคูปองทีวีดิจิตอล 690 บาท จากราคาที่นำไปรับฟังความเห็นสาธารณะ คือ 690 บาท และ 1,000 บาท โดยให้แลกเป็นส่วนลดทีวีดิจิตอลและกล่องแปลงสัญญาณ (DVB-T2) จำนวน 22.9 ล้านครัวเรือน รวมมูลค่าที่จะแจกคูปองประมาณ 15,801 ล้านบาท

            ทั้งนี้คาดว่าจะนำร่องแจกคูปองทีวีดิจิตอลที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สงขลา และขอนแก่น ได้ในเดือนกันยายน 2557 นี้

ขอขอบคุณ




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 24 กรกฎาคม 2557 21:53:38 น.   
Counter : 593 Pageviews.  

หุ้นไทยปิดตลาดส่งท้ายสัปดาห์ลดลง 2 จุด โบรกคาดสัปดาห์หน้าผันผวนขึ้นต่อ

    ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ค. 57 โดยดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,531-1,539 จุด ก่อนปรับถอยลงแรงกว่า 13 จุด จากแรกขายหุ้นในกลุ่ม ICT ทันทีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. มีคำสั่งให้ชะลอการประมูลคลื่นความถี่ 1,800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ออกไป 1 ปี

       อย่างไรก็ตาม ตลาดสามารถฟื้นตัวขึ้นมาปิดช่วงเช้าได้ที่ 1,530.11 จุด -5.55 จุด (-0.36%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 37,914.20 ล้านบาท จากแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มพลังงานราคาน้ำมันโลกที่ดีดตัวสูงขึ้นจากความไม่สงบในยูเครนและตะวันออกกลาง

       ภาพรวมวันที่ 18 ก.ค. ดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,520 จุด ได้อย่างต่อเนื่อง จนปิดตลาดไปที่ 1,533.41 จุด ลดลง 2.25 จุด เปลี่ยนแปลง -0.15% มูลค่าการซื้อขายสูงถึง 64,967.28 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,538.53 จุด และต่ำสุดที่ 1,523.53 จุด

       นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้มีความผันผวนค่อนข้างมาก จากปัจจัยลบสำคัญ คือ สถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิรัก และการสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ตลอดจนถึงการตกของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH17 ประกอบกับความกดดันภายในประเทศจากการที่ คสช. มีคำสั่งให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.เลื่อนการประมูลสัญญาณโครงข่ายโทรคมนาคมระบบ 4G ออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี ทำให้หุ้นกลุ่ม ICT ปรับตัวลดลงในช่วงสายของวัน แต่โดยรวมยังคงไม่กระทบต่อภาพรวมการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากยังคงมีหุ้นในกลุ่มอื่นๆที่ยังพยุงดัชนี SET INDEX เอาไว้ได้

       “มองว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนในอนาคตจะมาจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากนัก แม้ คสช. จะประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาแล้ว แต่นักลงทุนส่วนใหญ่จะรอจนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่ในส่วนของแผนการลงทุนด้าน ICT ที่ กสทช. จะต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปีนี้ อาจส่งผลต่อการเข้ามาของนักลงทุน และโครงการอื่นๆ ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องเป็นรายกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ คสช.ได้เดินหน้าแผนปฏิรูปพลังงาน ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันและปรับตัวลดลงเช่นกัน” นางสาวธีรดา กล่าว

       พร้อมกันนี้ ผช.ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป คาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าว่า SET INDEX จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในกรอบจำกัด จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ โดยให้แนวรับ แนวต้านที่ 1,550-1,560 และ 1,520-1,510 ตามลำดับ ทั้งนี้ นักลงทุนควรเลือกลงทุนหุ้นรายตัว โดยพิจารณาจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ที่มีกำไรและให้อัตราตอบแทนเงินปันผลที่สูง และบริหารพอร์ตการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงด้วยการเลือกขายทำกำไรในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาเยอะ และทยอยซื้อสะสมในหุ้นราคาถูกที่ยังไม่ปรับราคาขึ้นมาตามภาวะตลาด

       มูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ

       1. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 7,293,674 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท ลดลง -11.00 จุด (-4.87%)

       2. INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 4,944,785 ล้านบาท ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง -2.50 จุด (-3.40%)

       3. BMCL มูลค่าการซื้อขาย 3,586,038 ล้านบาท ปิดที่ 1.70 บาท เพิ่มขึ้น +0.15 จุด (+9.68%)

       4. BLAND มูลค่าการซื้อขาย 2,915,926 ล้านบาท ปิดที่ 2.18 บาท เพิ่มขึ้น +0.12 จุด (+5.83%)

       5. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,869,479 ล้านบาท ปิดที่ 12.40 บาท ลดลง -0.40 จุด (-3.12%)


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000081363




 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 18 กรกฎาคม 2557 21:47:35 น.   
Counter : 700 Pageviews.  

คสช.ลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 6.3% เริ่ม 1 ต.ค.57- 30 ก.ย.58

คสช.มีประกาศลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 6.3% เริ่ม 1 ต.ค. 57 - 30 ก.ย. 58 จากนั้นเพิ่มเป็น 9% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 58

       วันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 20.36 น. มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 92/2557 เรื่อง การลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม

       ระบุว่า โดยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาเห็นเป็นการสมควรลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นการผลักดันและกระตุ้นกลไกทางเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีกำลังในการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคอันจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง จึงให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังต่อไปนี้

       ข้อ 1 ให้ยกเลิกพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 549) พ.ศ. 2555

       ข้อ 2 ให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร และคงจัดเก็บในอัตรา ดังต่อไปนี้

       (1) ร้อยละหกจุดสาม สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิดชอบในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558

       (2) ร้อยละเก้า สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิดชอบในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป

       ข้อ 3 ให้ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับนี้มีผลใช้บังคับเช่นเดียวกับพระราชกฤษฎีกาออกตามความในมาตรา 80 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญตัแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 30) พ.ศ. 2534

       ข้อ 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับนี้

       ข้อ 5 ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ 2557 เป็นต้นไป




 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 17 กรกฎาคม 2557 21:32:54 น.   
Counter : 759 Pageviews.  

คาดราคาทองครึ่งปีหลังแตะ 1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์

   บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง มองกรอบลงทุนทองคำครึ่งปีหลัง 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของยูโรโซน และส่อแววลดดอกเบี้ยลงอีก บวกปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครนยังไม่จบ บวกกับปัญหาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์หนุนนักลงทุนเข้าลงทุนทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย  แนะจับตาท่าทีเฟดต่อการลด QE กดดันราคาทองช่วงที่เหลือของปีนี้

นายโสฬส สาครวิศว  กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX ประเมินทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 ว่า การเคลื่อนของราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบ 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ หลังจากมีการปรับตัวลงกว่า 38% จากจุดสูงสุดที่ 1,920 เหรียญต่อทรอยออนซ์  และมีจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,180 เหรียญต่อทรอยออนซ์

       “เชื่อว่าราคาให้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางยูโรโซน ที่อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว” นายโสฬส กล่าว

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังต้องจับตาความขัดแย้งระหว่างประเทศยูเครน และยูเครนตะวันออกซึ่งฝักใฝ่รัสเซีย เพราะหากขยายตัวเป็นปัญหาระหว่างประเทศจะส่งให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย สำหรับปัญหาทางอิสราเอล ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาเป็นระยะเวลา 4 วัน ได้เพิ่มขึ้นเป็น 118 ราย ยังเป็นตัวหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย

       กรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าวถึงปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง คือ ความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะเดินหน้าปรับลดวงเงินอัดฉีดสภาพคล่องผ่านมาตรากรผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือมาตรการ QE ลงจนสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวภายในเดือนตุลาคม 2557 และช่วงครึ่งปีแรกทางกองทุน SPDR มีการขายลดสถานะออกมาเพียง 7 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2556 กองทุนดังกล่าวมีการขายลดสถานะถึง 380 ตัน ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากองทุนดังกล่าวได้ผ่านช่วงปรับพอร์ตการลงทุนไปแล้ว และในอนาคตคาดว่าจะไม่มีแรงขายขนาดใหญ่เหมือนในครึ่งปีแรกของปี 2556

       “การลดมาตรการ QE ของเฟดที่จะทยอยปรับลดลงในทุกๆ ครั้งที่มีการประชุมจำนวน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้มาตรการดังกล่าวยุติลงในเดือนตุลาคม 2557 หลังจากมีการใช้มาตรการ QE มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ หากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นจะส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับสู่สหรัฐฯ และส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันต่อราคาทองคำได้” นายโสฬส กล่าว

       อีกทั้ง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด แถลงต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจบโครงการในฤดูใบไม้ร่วงนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวตามเป้าหมาย และเธอยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2558 หรือ 2559

       กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ กล่าวถึงราคาทองในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ โดยเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี ซึ่งไดรับแรงหนุนจากธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น  และนักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังรัฐสภาของไครเมีย มีมติรับคำประกาศอิสรภาพจากยูเครน โดยผลการนับคะแนนบ่งชี้ว่า 95.5% ของชาวไครเมียที่ไปใช้สิทธิลงประชามติ ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซีย
       ขณะที่สหรัฐฯ และประชาคมโลกจะไม่ยอมรับผลดังกล่าว ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้ยกเลิกการเจรจาทางการค้า และการแลกเปลี่ยนทางการทหารกับรัสเซีย และยังอนุมัติให้ระงับวีซ่า และอายัดสินทรัพย์ของชาวรัสเซีย และชาวยูเครนหลายราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่รัสเซียส่งทหารเข้าไปในไครเมีย

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในทองคำช่วงครึ่งปีหลัง 2557 ดังนี้ สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำให้เล่นเก็งกำไรในกรอบ 1,180-1,420 เหรียญต่อทรอยออนซ์ โดยซื้อที่แนวรับและขายออกที่แนวต้าน ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาปรับตัวลงมาในกรอบ  1,180-1,250 เหรียญต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากในระยะยาวราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากที่ธนาคารกลางต่างๆ ได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง




 

Create Date : 15 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 15 กรกฎาคม 2557 22:19:48 น.   
Counter : 674 Pageviews.  

“SET INDEX” ปิดแผ่ว 0.34 จุด โบรกฯแนะขึ้นแบ่งขาย-ลงแบ่งซื้อ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (09 ก.ค.) ปิดที่ระดับ 1,507.92 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น  0.34   จุด หรือ +0.02 % มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 36,606.30  ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,511.85  จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,504.08  จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ผันผวนในช่วงภาคเช้าหลังเปิดตลาด ก่อนที่จะแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน  โบรกฯแนะนักลงทุนเก็งกำไร ปรับพอร์ต ขึ้นแบ่งขาย-ลงแบ่งซื้อ กระจายความเสี่ยง  

       หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 351 หลักทรัพย์ ลดลง 387 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 219 หลักทรัพย์

       ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับหลักทรัพย์ คือ      

       1. ADVANC ปิดที่ 225.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.45%มูลค่าการซื้อขาย 1,904.99 ล้านบาท

       2. SAWAD ปิดที่ 18.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ +4.62% มูลค่าการซื้อขาย 1,405.84 ล้านบาท

       3. KTB ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +0.45% มูลค่าการซื้อขาย 1,378.39 ล้านบาท

       4. SAPPE ปิดที่ 30.25 บาท ลดลง -0.25 บาท หรือ -0.82% มูลค่าการซื้อขาย 1,367.87 ล้านบาท

       5. SCB ปิดที่ 179.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.28% มูลค่าการซื้อขาย 1,025.86 ล้านบาท


       ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีช่วงเช้าผันผวนทั้งในแดนบวกและลบในกรอบ 1,504-1,512 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาประกอบกับดัชนีได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมา 9 วันกว่า 3.2% และขึ้นมากว่า 25% นับจากจุดต่ำสุดเมื่อต้นปี 2557 ถือว่าเริ่มเข้าเขต overbought ทำให้โอกาสปรับขึ้นในระยะสั้นมีจำกัดมากขึ้น ช่วงบ่ายดัชนีทรงตัวได้ต่อเนื่องในแดนบวก โดยแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่ม ICT และ Food โดยกลุ่ม ICT ได้รับปัจจัยบวกจากการที่ กสทช.เตรียมเสนอขายงานเปิดประมูลคลื่น 4G ต่อ คสช.วันพรุ่งนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารเริ่มพักตัวหลังปรับขึ้นโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา

       พร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีพรุ่งนี้ว่า ดัชนียังมีโอกาสแกว่งขึ้นทดสอบ 1,515-1,520 จุด อย่างไรก็ตาม หากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,510 จุดได้ อาจแกว่งถอยลงมาทดสอบระดับ 1,500 จุด  สำหรับนักเก็งกำไรแนะ “ขึ้นแบ่งขาย-ลงแบ่งซื้อ”  จุดสังเกตคือหากดัชนีปรับขึ้นทดสอบ 1,515-1,520 จุด แนะนำให้นักเก็งกำไรที่พลาดการขายรอบก่อน ทยอยแบ่งขายออกมา เพื่อรอซื้อคืนเมื่อดัชนีปรับถอยลงมาบริเวณ 1,500 จุด +/-

       ส่วนนักลงทุนระยะกลาง - ยาว ยังคงแนะนำให้ รอจังหวะถอยของดัชนี โดยเฉพาะระดับ 1,480 จุด +/- เพื่อทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี ได้แก่ SPALI, LPN ,AP, SAT, SVI, TUF, CPF, CFRESH ,TTA ,PTTEP, PTTGC, PRANDA ,CENTEL, MINT, AAV, NOK, BCP และ BANPU




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 9 กรกฎาคม 2557 22:49:54 น.   
Counter : 643 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  199  200  201  202  203  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]