เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

หุ้นไทยปิดบวก 9 จุด นักลงทุนแห่เก็งกำไรข่าวการเมืองคึกคัก นกหวีดยังชุมนุมต่อ

หุ้นไทยปิดบวก 9 จุด รับข่าวการเมืองเบาความรุนแรง นักลงทุนแห่เก็งกำไรคึกคัก ดันดัชนีพุ่งไปกว่า 17 จุด แต่เจอแรงเทขายทำกำไรหลังทราบทิศทางการเมืองชัดขึ้น แม้จะยังมีการชุมนุมต่อ ด้านต่างชาติยังเทขายต่อเนื่องอีก 5.9 พันล้าน

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (3 ธ.ค.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,383.89 จุด เพิ่มขึ้น 9.63 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.70% มูลค่าการซื้อขาย 48,546.36 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ ตลาดปรับตัวไปตามทิศทางข่าวการเมือง โดยปรับบวกได้กว่า 17 จุด ในช่วงบ่ายรับข่าวสถานการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย ตำรวจยอมถอนกำลังทำให้ลดปัญหาเกิดความรุนแรง

       ทั้งนี้ ดัชนีได้ปรับลงหนักทันทีไปแตะที่ 1,372.48 จุด โดยมีแรงเทขายทำกำไรหลังสถานการณ์ทางการเมืองชัดเจน และเป็นไปตามที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้ ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาพยุงดัชนีปรับบวกได้เกือบ 10 จุด ก่อนปิดตลาด

       นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในแดนบวก โดยช่วงเช้าดัชนีได้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างสดใส และเปิดตลาดช่วงบ่ายแรงซื้อเริ่มย่อลงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับปัจจัยเพิ่มเติมทางการเมือง จากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ออกมาแถลงการณ์เชิงประกาศชัยชนะจากการชุมนุม หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ สามารถเดินหน้ายึดกองบัญชาการตำรวจนครบาล และทำเนียบรัฐบาลได้เป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงให้จุดยืนว่าจะเดินหน้าการชุมนุมต่อไปจนกว่าจะล้างระบอบทักษิณได้สำเร็จ

       ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการเนื่องในวันพ่อ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่อาจจะชะลอการลงทุนเพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ และปัจจัยที่ควรติดตามยังคงเป็นประเด็นสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ โดยประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,370 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,365 จุด และประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,395 จุด

       ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 5.9 พันล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 2.5 พันล้าน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 3.9 พันล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 567 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

       KBANK ปิดที่ 168.00 บาท +1.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +0.90%

       TRUE ปิดที่ 9.20 บาท +0.45 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +5.14%

       SCB ปิดที่ 158.50 บาท +3.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +2.26%

       AOT ปิดที่ 186.00 บาท +3.00 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +1.64%

       JAS ปิดที่ 8.05 บาท +0.20 บาท หรือเปลี่ยนแปลง +2.55%


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000149775




 

Create Date : 03 ธันวาคม 2556   
Last Update : 3 ธันวาคม 2556 21:01:45 น.   
Counter : 619 Pageviews.  

ฝรั่งเทขาย 6 พันล้านบ. เหตุนักลงทุนหวั่นการเมืองเดือด

หุ้นไทยปิดตลาดบวก 3.13 จุด อยู่ที่ระดับ 1,374.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,455.14  ล้านบาท จากสถานการความรุนแรงของการเมืองภายในประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

       ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (2 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,374.26 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.13 จุด หรือ +0.23 มูลค่าการซื้อขาย 32,455.14 ล้านบาท  ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,374.46 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,351.67 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์สัปดาห์หน้าอ่อนตัวลง เหตุการเมืองรุนแรง กดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย

       หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 300 หลักทรัพย์ ลดลง 379 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 194 หลักทรัพย์

       การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,796.51 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ  1,620.62 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 2,963.57 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ -6,380.70 ล้านบาท  

       หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

       1.BAY ปิดที่ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท หรือ +0.65% มูลค่าการซื้อขาย 2,145,897 ลบ.
       2.KBANK ปิดที่ 166.50 บาท ลดลง -2.50 บาท หรือ -1.48% มูลค่าการซื้อขาย 2,038,342 ลบ.
       3.AOT ปิดที่ 183.00 บาท ลดลง -4.50 บาท หรือ -2.40% มูลค่าการซื้อขาย 1,861,868 ลบ.
       4.TRUEปิดที่ 8.75 บาท ลดลง -0.05  บาท หรือ -0.57% มูลค่าการซื้อขาย 1,339,873 ลบ.
       5.SCB ปิดที่ 155.00 บาท ลดลง -2.00 บาท หรือ -1.27% มูลค่าการซื้อขาย 1,284,673 ลบ.

       นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่าดัชนี SET INDEX ปรับลดลงตั้งแต่เปิดตลาด จากความรุนแรงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มหุ้นที่ปรับลดลงแรง ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคาร คือ KBANK, SCB, KTB ที่มีสภาพคล่องสูงรองรับกระแสเงินทุนไหลออก รวมไปถึงได้รับแรงกดดันจากการปรับลดดอกเบี้ยลง ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เช่น AOT ที่ประกาศกําไรในไตรมาสที่ 4 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัจจัยความรุนแรงทางการเมืองในปัจจุบัน

       ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอดูสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ จึงชะลอการลงทุนระยะสั้นออกไปก่อน ในส่วนของการลงทุนระยะยาวซึ่งไม่ได้รับผลกระทบนั้น โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองจํากัด และมีพื้นฐานดี ได้แก่ หุ้นกลุ่มสื่อสาร เช่น ADVANC, INTUCH, THCOM หุ้นกลุ่มขนส่งที่มีผลประกอบการดี เช่น BTS และหุ้นกลุ่มที่มีสภาพคล่องทางการเงินสูงเ ช่น CPN, TICON รวมไปถึงหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้รับผลดีจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง คือ TUF

       อย่างไรก็ตาม ภาพรวมแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ผันผวน โดยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและแดนลบในกรอบเเคบๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยอะไรมากระตุ้นตลาดช่วงนี้ ฉะนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนถือหุ้น 40% และเลือกซื้อหุ้นประเภทปันผล ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าดัชนีแนวรับจะอยู่ที่ประมาณ 1,352 จุด


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000149266




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2556   
Last Update : 2 ธันวาคม 2556 20:40:36 น.   
Counter : 655 Pageviews.  

โบรกฯ ประเมิน 4 แนวทางแก้วิกฤตการเมือง เชื่อต่างชาติยังขายไม่หยุด

“เอเซีย พลัส” มองการเมืองไทยร้อน “ต่างชาติ” ยังเทขายต่อเนื่อง โดยตลอดเดือน พ.ย. ยอดสะสมรวมสูงกว่า 4.5 หมื่นล้าน เชื่อยังเทขายจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ พร้อมประเมิน 4 ทางออกปัญหาการเมือง “กสิกร” คาดแนวโน้มตลาดหุ้น 2-6 ธ.ค. ยังคงผันผวน แนะจับตาสถานการณ์การเมือง รายงานตัวเลข ศก.สหรัฐฯ

       นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าว่า สถานการณ์การเมืองยังทำให้เกิดแรงกดดันต่อ SET Index ต่อไป อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองปัจจุบันถือว่าอยู่ภาวะที่ยังหาทางออกไม่เจอ ทั้งนี้ แนวทางที่เป็นไปได้ในความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ พอสรุปได้ดังนี้

       1) ยุบสภาฯ และจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งอาจช่วยลดความตึงเครียด และการเผชิญหน้าลงได้ชั่วคราว

       2) นายกรัฐมนตรี ลาออก ซึ่งจะทำให้ ครม.ทั้งชุดต้องพ้นจากตำแหน่ง หลังจากนั้น เข้าสู่กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีใหม่ รัฐธรรมนูญกำหนดว่า นายกรัฐมนตรี ต้องคัดเลือกมาจากผู้ที่เป็น ส.ส. แนวทางนี้เชื่อว่า ยังมีความวุ่นวายอีกหลายเรื่องตามมา

       3) การเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากการวินิจฉัยขององค์กรอิสระ ซึ่งในที่นี้น่าจะหมายถึง ป.ป.ช.เป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันมีหลายคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการวินิจฉัยแต่ละเรื่องออกมาเมื่อใด

       4) การหันหน้าเข้าเจรจากันถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด แต่จากการประเมินสถานการณ์เห็นว่า มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก สถานการณ์การเมืองดังกล่าว คาดว่าจะทำให้เกิดแรงกดดันต่อ SET Index ต่อไป โดยหากไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น SET Index น่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบบริเวณ 1,300-1,340 จุด

       นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (25-28 พ.ย.2556) ต่างชาติยังคงเทขายหุ้นไทยอย่างหนัก รวมแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.2556 สูงถึง 4.5 หมื่นล้านบาท หากนับตั้งแต่ต้นปี 2552 นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงมียอดซื้อสุทธิสะสมสูงถึงราว 4 หมื่นล้านบาท

       กรณีดังกล่าวทำให้เชื่อว่า ต่างชาติจะยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อไป จนกว่าปัจจัยกดดันจากการเมืองในประเทศเริ่มคลี่คลาย ทั้งนี้ น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงเดือน ธ.ค. จากแรงซื้อของกองทุนต่างๆ เพื่อใช้ลดหย่อนภาษี

       ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันจันทร์ โดยมีแรงขายท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุน และการตอบรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. จากนั้นตลาดหุ้นปรับลดลงต่อในวันพฤหัสบดี จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลต่อความยืดเยื้อของการชุมนุมทางการเมือง อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ โดยมีแรงซื้อทางเทคนิค

       สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 2-6 ธ.ค.2556 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนียังคงผันผวน โดยต้องติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องชี้ภาคการผลิต (ISM Manufacturing) เครื่องชี้ที่อยู่อาศัย และจีดีพี ไตรมาส 3/2556 (Second Est.) ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่าดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,340 และ 1,316 ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,385 และ 1,404 ตามลำดับ


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000148608




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2556   
Last Update : 1 ธันวาคม 2556 19:17:21 น.   
Counter : 580 Pageviews.  

หุ้นไทยปิดร่วง 13.66 จุด กังวลปัญหาการเมืองไม่คลี่คลาย น้องใหม่ BJCHI ช่วยอุ้มวอลุ่มเทรด

หุ้นไทยปิดร่วง 13.66 จุด กังวลปัญหาการเมืองไม่คลี่คลาย ตลาดฯ ผิดหวังนายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา แต่แถลงขอให้ยุติการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ส่งผลให้หุ้นร่วงลงไปลึกกว่า 15 จุด ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาพยุง ต่างชาติเทขายต่อเนื่อง ขณะที่หุ้นน้องใหม่ BJCHI ช่วยอุ้มวอลุ่มเทรด

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,359.45 จุด ลดลง 13.66 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.99% มูลค่าการซื้อขาย 33,613.59 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวไปตามทิศทางข่าวการเมือง โดยปรับลงลึกกว่า 15 จุด หลังการแถลงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้องขอให้ยุติการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล

       ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 393 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 765 ล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 461 ล้าน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 833 ล้านบาท

       นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง มองว่าเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดได้ปรับขึ้นไป 2 วันจากเทคนิเคิลรีบาวนด์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายอยู่ และเรื่องของการเมืองยังต้องติดตามดูต่อไป โดยคงจะไม่เห็นการยุบสภาแล้ว หลังจากที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงให้ยุติการชุมนุม และหันมาคุยกันเพื่อหาแนวทางออกร่วมกัน

       อย่างไรก็ดี วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมถือว่ามีไม่มากนัก ซึ่งวอลุ่มเกือบ 20% เป็นของหุ้นใหม่ BJCHI หรือคิดเป็น 1 ใน 5 ของวอลุ่มตลาดโดยรวม หากหักวอลุ่มของหุ้นใหม่ไป ก็เหลือวอลุ่มเทรดของตลาดฯ ไม่มากนัก

       ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยคืนนี้ ตลาดสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และเท่าที่ดูแรงซื้อจะเข้าไม่กี่ตลาด ไม่แค่ตลาดสหรัฐฯ, ยุโรป, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และไต้หวัน โดยตลาดในยุโรปเวลานี้อยู๋ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่

       ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย แม้ในช่วงเช้าดัชนีจะปรับตัวขึ้นได้โดยทำจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,379 จุด ซึ่งใกล้ระดับแนวต้าน 1,380 จุด บนพี/อี 15 เท่า จึงถูกแรงขายทำกำไรออกมา

       อย่างไรก็ตาม คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นออกมา เนื่องจากการเมืองยังไม่คลี่คลาย โดยแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้คาดว่า หากการเมืองไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ก็เชื่อว่าดัชนีจะอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,340 จุด และแนวต้านที่ 1,380 จุดได้ บนค่า พี/อี ที่ 14.5-15.0 เท่า

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

       BJCHI มูลค่าการซื้อขาย 5,047.48 ล้านบาท ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 8.25 บาท

       TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,845.65 ล้านบาท ปิดที่ 8.90 บาท ลดลง 0.20 บาท

       KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,730.12 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

       JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,652.82 ล้านบาท ปิดที่ 7.70 บาท ลดลง 0.25 บาท

       BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,323.84 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000147846




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2556 21:02:33 น.   
Counter : 618 Pageviews.  

หุ้นไทยฟื้นตัวสั้นทางเทคนิค ตลาดฯ ไม่กลัวปิดล้อมสถานที่สำคัญ แต่กลัวการใช้ความรุนแรง

หุ้นไทยฟื้นตัวสั้นทางเทคนิค ดัชนีปรับรีบาวนด์ 5 จุด เนื่องจากตลาดร่วงต่อเนื่องถึง 5 วัน เข้าใกล้จุดขายมากเกินไป ชี้การเมืองยังกดดัน เพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นักวิเคราะห์ยอมรับตลาดไม่กลัวปิดล้อมสถานที่สำคัญ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ การใช้ความรุนแรง เผยต่างชาติเทขายหนักสุดวันเดียว 9.2 พันล้าน คาดแนวโน้มพรุ่งนี้ผันผวน

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,358.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.83 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 50,172.06 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นหลักของกลุ่มเทคโนโลยี และพลังงาน หนุนให้ดัชนีปิดตัวในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน แม้จะมีแรงขายหนักจากนักลงทุนต่างชาติ

       ด้านสัดสว่นผู้ลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 9.2 พันล้าน นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 4.2 พันล้าน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 3.5 พันล้าน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1.4 พันล้าน

       น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นการขึ้นตามสัญญาณเทคนิค หลังจากดัชนีร่วง 5 วันทำการใกล้จุดขายมากเกินไป ซึ่งระหว่างวันที่ขึ้นมา 14 จุด แต่ไมสามารถยืนได้ เนื่องจากตลาดยังไร้ทิศทางไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การประเมินสถานการณ์ค่อนข้างยาก

       “ตลาดหุ้นไม่กลัวการปิดล้อมยึดสถานที่สำคัญๆ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว ซึ่งหากเป็นการชุมนุมโดยสงบก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่น่ากังวล แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ กลัวความรุนแรงที่เกิดขึ้น และการประเมินสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากในขณะนี้”

       ด้านนายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต มองว่า การที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ เป็นการทำเทคนิคเคิลรีบาวนด์ในช่วงสั้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์การเมืองจะจบอย่างไร จึงคงกดดันตลาดฯ อยู่ต่อไป ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดอินโดนีเซีย ปรับลงมากถึง 2% ซึ่งเวลานี้ปัจจัยนอกประเทศไม่มีประเด็นสำคัญ

       สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดฯ คงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,330-1,340 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,375-1,380 จุด ซึ่งหากตลาดฯ ยืนแถว 1,380 จุดได้จะทำให้ทิศทางดูดีขึ้น

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

       BTS มูลค่าการซื้อขาย 4,390.53 ล้านบาท ปิดที่ 8.80 บาท ลดลง 0.35 บาท

       TMB มูลค่าการซื้อขาย 3,100.56 ล้านบาท ปิดที่ 2.58 บาท ลดลง 0.10 บาท

       BAY มูลค่าการซื้อขาย 2,822.83 ล้านบาท ปิดที่ 38.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

       KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,625.84 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

       JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,932.58 ล้านบาท ปิดที่ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000146882




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2556 21:51:22 น.   
Counter : 587 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  199  200  201  202  203  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]