เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

วัดกันไป ใครแจ่ม! "เปิดวิกบิ๊ก 3"

วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3
อลังการเปิดวิกบิ๊ก 3 ขนทัพดารากว่า 100 ชีวิตมาเดินเฉิดฉายบนพรมแดง เปิดตัวละครใหม่ 16 เรื่องในครึ่งปีหลัง 58 “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์” ขโมยซีนจัดหนัก มาในชุดแน่นอก เปิดอกแน่นๆ ส่วน “คริส” แหวกร่องลึก ซี้ดซ้าดน้ำลายหก 
ADVERTISING

       รวมตัวพ่อตัวแม่ไว้แน่นขนัดสำหรับงานเปิดวิกบิ๊ก 3 ภายใต้แนวคิด “ความสุขบุกจอ” ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เปิดตัวละครใหม่ 16 เรื่อง ในครึ่งปีหลัง 2558 และกองทัพเหล่าดารานักแสดงกว่า 100 ชีวิต มาร่วมอวดโฉมเดินเฉิดฉายบนพรมแดงสร้างสีสันให้กับงานเป็นอย่างมาก ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยในปีนี้นักแสดงสาวๆ สร้างสีสันได้เป็นอย่างดี แต่งตัวแซ่บจี๊ดจ๊าดกันไม่เบา แต่คนที่สร้างความฮือฮาสุดเห็นจะเป็น “ลีเดีย ศรัณย์รัชต์” เพราะมาในชุดสีชมพูหวานแหววแต่เสื้อแหวกลึก เห็นเนินนมเต็มๆ ตา ในขณะที่ "คริส หอวัง" ก็ไม่น้อยหน้า มาในชุดแนบเนื้อชวนจินตนาการอยู่ไม่น้อยเลย ส่วนใครเจิด ใครแจ่มที่สุดตามไปยลกันเลยค่า


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3


วัดกันไป ใครแจ่ม! เปิดวิกบิ๊ก 3




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2558   
Last Update : 11 มิถุนายน 2558 8:18:40 น.   
Counter : 7694 Pageviews.  

10 บัญญัติป้องกันไข้หวัดอูฐ(เมิร์ส-คอฟ)/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช

10 บัญญัติป้องกันไข้หวัดอูฐ(เมิร์ส-คอฟ)/นพ.กฤษดา ศิรามพุช
เมื่อพูดถึงเชื้อโรคทางเดินหายใจชื่อ “โคโรน่าไวรัส” หลายท่านอาจไม่เห็นภาพ แต่ถ้าพูดว่ามันคือ เชื้อโรคเดียวกับ “ซาร์” ที่เป็นเชื้อมรณะ หรือถ้าบอกว่ามันคือ เชื้อที่ระบาดในตะวันออกกลางช่วงไม่กี่ปีมานี้เอง

ยังพอนึกออกบ้าง

ซึ่งชื่อทางวิชาการที่ถูกเรียกกันของเชื้อที่พบในเกาหลีใต้จนเป็นที่ฮือฮากันตอนนี้ก็คือ “เมิร์ส-คอฟ (MERS-CoV) ซึ่งเป็นคำย่อของโคโรน่าไวรัสพบใหม่ที่ว่า โดยเชื้อนี้ติดมาไกลจากแถบตะวันออกกลางแถวคาบสมุทรอาระเบีย ซึ่งผู้ที่เดินทางไปแถบนั้นมาต้องระวังให้ดีครับ

เชื้อเมิร์ส-คอฟพบในค้างคาว กับอีกสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่พบแอนติบอดี้ในเลือดคือ “อูฐ” จึงมีการให้ระวังการติดเชื้อผ่านทางน้ำมูกน้ำลายของสัตว์มีหนอกที่ว่า ซึ่งท่านที่มีกิจกรรม meet and greet กับอูฐโดยเฉพาะต้องสัมผัสอูฐ,ขี่อูฐ, เล่นอูฐ, เซลฟี่อูฐ ฯลฯ รวมถึงบริโภคนมอูฐดิบด้วยย่อมมีสิทธิ์ติดเชื้อนี้มา เนื่องด้วยเรื่องนี้มีอูฐเป็นปฐมและผลิตผลอันได้แก่ น้ำลายอูฐเป็นมัธยม

จึงขอเรียกโรคนี้ให้สะดวกลิ้นแบบไทยๆ ว่า “ไข้หวัดอูฐ”

เมิร์ส-คอฟ = ไข้หวัดอูฐ ไม่น่าตกใจแต่ให้ระวัง

กลุ่มบุคคลที่ต้องดูแลตัวเองจากไข้หวัดอูฐคือ ผู้ที่ต้องเดินทางไปตะวันออกกลาง, นักธุรกิจ, นักท่องเที่ยว รวมถึงพี่น้องชาวมุสลิมที่จะไปแสวงบุญ ควรต้องทราบเรื่องราวของไข้หวัดอูฐนี้ไว้เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน

มีสิ่งสำคัญที่ไข้หวัดอูฐต่างจากไข้หวัดธรรมดาทั่วไปอยู่ 2-3 ประการดังนี้

- หลอกให้ตายใจ ในตอนแรกอาการแยกยากจากไข้หวัดธรรมดา อาจพาให้เราป่วยจนสายไปได้

- ทำร้ายปอด ไข้หวัดอูฐทำให้มีอาการปอดติดเชื้อ, ไตวาย, เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ และระบบหายใจล้มเหลวได้

- จอดสนิท มีสิทธิ์ถึงตายได้ ในข้อมูลที่ผ่านมาพบมีผู้ติดเชื้อเสียชีวิตราว 30%

เมื่อทราบความไม่ธรรมดาของมันแล้วครานี้ก็มาถึงการป้องกัน เพราะมันยังไม่อาจป้องกันได้ด้วยวัคซีนใดๆ ดังนั้น WHO จึงเน้นวิธีเฝ้าระวัง และป้องกันตัวเองเป็นหลัก

ดังจะขอสรุปมาฝากไว้เป็นธรรมนูญป้องกันภัยที่กำลังดัง

>>10 ทางออกให้ไกลไข้หวัดอูฐ

10 บัญญัติป้องกันไข้หวัดอูฐ(เมิร์ส-คอฟ)/นพ.กฤษดา ศิรามพุช
1) ระวังอูฐ ท่านที่เดินทางไปตะวันออกกลางแล้วมีเหตุให้สัมผัสอูฐทั้งขี่อูฐ, ถ่ายรูปกับอูฐ หรือไปเยี่ยมชมอูฐ

ขอให้ระวังของแถมจากอูฐทั้งน้ำมูก, น้ำลาย และน้ำนมที่เป็นผลผลิตจากอูฐที่มีสิทธิ์ปนเปื้อนเชื้อมาติดเราได้ จำได้ว่าเคยเห็นในแถบตะวันออกกลางมีช็อคโกแลตนมอูฐจำหน่ายด้วยครับ

2) จับตาโรงพยาบาล การป้องกันที่ดีอีกเรื่องคือ เฝ้าระวังผู้ป่วยตั้งแต่ที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ต้องแม่นยำในอาการของโรคนี้

โดยเฉพาะ “น้ำมูก” กับ “เจ็บคอ” เพราะคล้ายกับหวัดธรรมดา และเริ่มแรกทีเดียวไม่จำเป็นต้องมีไข้

3) ถามอาการและประวัติ สิ่งที่ควรถามคือความเสี่ยงโดยประวัติ “การเดินทาง” สำคัญมาก

หากเคยเดินทางไปในประเทศที่เสี่ยงเชื้อโดยเฉพาะแถบตะวันออกกลาง และประเทศที่มีรายงานการติดเชื้อ และมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดหลังจากนั้น ก็จะได้ระมัดระวังและแยกผู้มีประวัติไว้ก่อน

4) หวัดให้ห่าง เนื่องจากอาการหวัดอูฐช่วงแรกกับหวัดทั่วไปไม่ต่างกัน แต่จะติดกันได้ถ้าอยู่ “ใกล้ชิด” กันมากเช่นนั่งคุยใกล้กัน,ทำกิจกรรมในกลุ่มเดียวกัน

ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจ ขอให้เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดที่เสี่ยงกับการได้รับสารคัดหลั่งจากการไอ, จาม, และสั่งน้ำมูก

10 บัญญัติป้องกันไข้หวัดอูฐ(เมิร์ส-คอฟ)/นพ.กฤษดา ศิรามพุช
5) ล้างมือบ่อย ยังคงใช้ได้เสมอเพราะมือคือ แหล่งพาเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพสูง

การล้างมือจนเป็นนิสัยจึงมีส่วนช่วยได้มาก นอกจากนั้นการ “ทักทาย” ก็สำคัญ ให้เลี่ยงทักทายแบบสัมผัสเช่นจับมือหรือกอดจูบถ้าไม่แน่ใจ

6) ไม่ปล่อยตัว กลุ่มคนพิเศษที่ต้องเฝ้าดูแลไม่ปล่อยตัวเองให้เสี่ยงได้แก่ ผู้สูงวัย, เด็กเล็ก, คุณแม่ตั้งครรภ์
และมีโรคประจำตัว อย่าง เบาหวาน,โรคปอด, หัวใจ,ไต, ตับ, มะเร็ง, ภูมิไม่ดี, และผู้ที่กินยากดภูมิคุ้มกัน

7) เสริมภูมิให้ดี การจะสู้กับโรคที่ยังไม่มียารักษาทางหนึ่งที่ดีคือ “ทำตัวให้แข็งแรง”

ซึ่งทางหนึ่งของการเสริมภูมิกายให้เป็นภูมิแกร่งง่ายๆ คือ พักผ่อนให้พอ, นอนไม่ดึก, และถ้ามีโรคประจำตัวก็ขอให้คุมไว้ให้สงบดี

8) หนีแหล่งคนเยอะ ที่ใดมีมนุษย์ชุมนุมอยู่มากก็ย่อมมีสิทธิ์ที่เชื้อโรคจะมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียงเช่นกัน

ยิ่งกับโรคที่ติดง่ายผ่านความ “ใกล้ชิด” เช่น ไข้หวัดอูฐ การที่ต้องอยู่กับมวลมหามนุษย์ จึงเป็นความเสี่ยงหนึ่ง จึงควรเลี่ยงกิจกรรมในสถานที่คนเยอะโดยเฉพาะในประเทศที่มีไข้หวัดอูฐอยู่

9) เลี่ยงสัมผัส การถูกเนื้อต้องตัวกันในบริเวณที่เสี่ยงได้รับสารคัดหลั่งจากคนป่วยเช่นฝ่ามือ, แก้มและตามตัวอาจติดโรคได้

โดยเฉพาะหลังจากการไอ, จามที่พาเชื้อผ่านน้ำมูก, น้ำลายเข้ามาประปรายตามตัวโดยที่มองไม่เห็น ซึ่งการทักทายก็เป็นทางหนึ่งที่ติดได้ โดยเฉพาะการจับมือหรือสวมกอดผิดกับการไหว้ ซึ่งไม่ต้องสัมผัส

10) สังเกตหวัดไม่ธรรมดา ขออย่าลืมว่าหวัดอูฐไม่ได้น่าสะพรึงอย่างที่คิด เพียงแต่เราต้องรู้ให้ทันมันเท่านั้น

โดยให้สังเกตจากอาการหวัดที่ดูไม่ธรรมดาอาทิ มีไอ และหอบเหนื่อย ปวดเมื่อยตัว ช่วงหลังๆ ดูไม่สบาย “หนัก” กว่าหวัดทั่วไป ซึ่งถ้าสงสัยเชื้อเมิร์ส-คอฟไข้หวัดอูฐนี้ก็สามารถตรวจได้ครับ

สุดท้ายนี้ถ้าอ่านดีๆ จะเห็นว่าไม่ได้น่าตกใจจนเกินไปนะครับสำหรับโรคนี้ เพียงแค่ว่าต้องไม่ประมาท ควรเฝ้าระวังไว้ทุกด่านที่จะเจอผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะสถานพยาบาลที่จะต้องให้บุคคลากรมีความรู้พร้อมในเรื่องไข้หวัดอูฐนี้จะได้ช่วยกันคัดกรองได้ ให้คอยติดตามข่าวสารจากทางการอยู่เรื่อยๆ รวมถึงทางนี้ก็จะคอยนำมาเล่าให้ฟังอย่างง่ายๆ อยู่ตลอดไม่ต้องกังวลไปครับ

ขอให้สร้างภูมิคุ้มใจเราไว้ด้วยนะครับ
//manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065094




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2558   
Last Update : 10 มิถุนายน 2558 8:55:31 น.   
Counter : 1197 Pageviews.  

แค่ใช้ปากก็ท้องได้! เรื่องบนเตียงอำๆ ขำๆ ที่กลายเป็นเรื่องจริง/Dr.DEN Sexociety

คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN

โลกนี้เต็มแน่นไปด้วยตำนานคนเมืองแบบอำกันเล่นขำๆ อาจเป็นเรื่องขนหัวลุก ลึกลับหรือขำกลิ้ง แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องเหล่านั้นมันก็แค่ตำนาน เพราะฉะนั้นพวกมันจึงไม่อาจเป็นจริงไปได้ ใช่มั้ย?

แต่มันกลายเป็นว่าตำนานอำๆ เหล่านี้เป็นเรื่องจริง100% น่าสนใจว่ามีหลายเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์ ถ้ามันจะทำให้คุณขยาดกับการนอนกับใครบางคน เราก็ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

แค่ใช้ปากก็ท้องได้! เรื่องบนเตียงอำๆ ขำๆ ที่กลายเป็นเรื่องจริง/Dr.DEN Sexociety
1. คนติดเก้งได้จริงๆ ในระหว่างมีเซ็กซ์

ในขณะที่ฉากฝันร้ายนี้อาจเป็นสิ่งที่คู่รักทุกคู่ไม่ต้องการมีประสบการณ์เป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วในอดีต ตามข้อมูลในวารสารการแพทย์ซึ่งกล่าวว่าอาการ “องคชาตติดกับ” (ใช่ แค่นึกภาพก็เจ็บปวดแล้ว) นั้น เกี่ยวข้องกับการกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง(SPASM) ซึ่งสามารถเป็นสาเหตุให้ช่องคลอดของผู้หญิงปิดลงงับองคชาตของคู่รักในระหว่างการร่วมเพศ

ด้วยเหตุที่ ณ จุดนี้องคชาตของผู้ชายจะมีเลือดคั่งอยู่มากตามธรรมชาติของการแข็งตัว การถอนตัวจึงกลายเป็นความเจ็บปวดและแทบเป็นไปไม่ได้ เคราะห์ยังดีที่อาการ “องคชาตติดกับ” นี้โดยปกติจะกินเวลานานไม่กี่วินาที แต่ก็มีบางกรณีที่มันต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงจึงจะหลุดออกมาได้

ในปัจจุบันยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการสำหรับสาเหตุของอาการกระตุกเกร็งดังกล่าวอันทำให้เกิดการติดเก้งในมนุษย์ได้ แต่บางคนกล่าวหาว่าเป็นเรื่องของเวทมนตร์หรือไม่ก็เป็นการลงโทษคู่รักที่กำลังประพฤติผิดในกาม ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ล้วนๆ

มันเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างเหลือเชื่อ มีเพียงไม่กี่รายที่ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการในวารสารการแพทย์ อย่างไรก็ตามมันอาจมีอีกหลายกรณีที่ไม่ได้มีการรายงาน

มีการสันนิษฐานทางการแพทย์กันว่าอาการองคชาตติดกับนี้น่าจะเกิดจากความกลัวหรือความตื่นเต้นสุดขีดอย่างกะทันหันขณะร่วมเพศ

2. แค่ทำโอษฐกามก็ท้องได้

แค่ใช้ปากก็ท้องได้! เรื่องบนเตียงอำๆ ขำๆ ที่กลายเป็นเรื่องจริง/Dr.DEN Sexociety
เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งตั้งท้องหลังจากทำโอษฐกามให้แฟนหนุ่มของเธอโดยไม่มีการร่วมเพศแต่อย่างใดนั้น ฟังตอนแรกก็เหมือนเป็นเรื่องอำกันมากกว่า อย่างไรก็ตาม ในกรณีของหญิงสาววัย15ปีจากซิมบับเว มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

วารสารการแพทย์ของอังกฤษฉบับหนึ่งในปี1988 บันทึกไว้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากเด็กสาวคนนั้นถูกแทง (ด้วยมีด) ที่ท้องน้อยโดยอดีตคนรัก ซึ่งจับได้ว่าเธอกำลังทำโอษฐกามให้กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง คณะแพทย์ที่โรงพยาบาลค้นพบว่ามีบาดแผลเปิดอีกรูหนึ่งภายในโพรงท้องน้อยนอกเหนือจากแผลที่ถูกแทงด้านนอก หมอจึงเย็บรูแผลทั้งสองแล้วปล่อยเธอกลับบ้านไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไป 278 วัน เธอก็กลับไปที่โรงพยาบาลแห่งนั้นและร้องเรียนว่าปวดท้องน้อย หลังจากตรวจดูอย่างละเอียดแล้ว คณะแพทย์ก็ค้นพบสองสิ่งด้วยความประหลาดใจ คือ เธอไม่มีช่องคลอด (มีแค่รอยบุ๋มเท่านั้น) และอีกอย่างก็คือ เธอกำลังตั้งครรภ์ทารกเต็มตัว จึงจำเป็นต้องทำคลอดด้วยการผ่าตัดท้องน้อยเพื่อเอาเด็กออกมา

ด้วยเหตุที่การไม่มีช่องคลอดหมายถึงมีการตั้งครรภ์แบบไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัด คณะแพทย์จึงสรุปว่าทารกคนนั้นต้องก่อตัวขึ้นมาโดยอสุจิตัวที่เล็ดลอดเข้ามาทางแผลที่ถูกแทงตรงหน้าท้องของเธอ แล้วฝังตัวอยู่ในพื้นที่ให้กำเนิดของเธอ ประกอบกับการไม่มีกรดในกระเพาะอาหารระหว่างการผ่าตัดเบื้องต้น คณะแพทย์จึงเชื่อว่านั่นคือ สิ่งที่อาจช่วยให้การตั้งครรภ์อย่างพิสดารครั้งนี้เกิดขึ้นได้

3. มียาเม็ดที่สามารถทำให้บรรลุจุสุดยอดได้

ผลข้างเคียงของยาส่วนใหญ่นั้นมีแต่อันตรายร้ายแรงและไม่สนุกเอาเลย อย่างไรก็ตาม ยาอย่าง คลอมิพรามีน ได้พิสูจน์แล้วว่าผลข้างเคียงมันไม่เลวร้ายไปทุกอย่างหรอก ยาชนิดนี้ซึ่งใช้เป็นยาแก้ซึมเศร้า เคยแสดงให้เห็นว่า มันเป็นสาเหตุของการบรรลุจุดสุดยอดทางกามารมณ์ในหมู่คนไข้ ซึ่งหาวหลังจากกินยานี้เข้าไป

ผู้หญิงคนหนึ่งให้การว่าเธอกินยานี้ต่อไปอีกนานหลังจากมันรักษาโรคซึมเศร้าของเธอจนหายดีแล้ว(ติดใจในผลข้างเคียง ว่างั้นเถอะ)

ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าการหาวสามารถเป็นสาเหตุให้ยาตัวนี้ไปกระตุ้นการบรรลุจุดสุดยอดได้อย่างไร ทั้งๆที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่ายาประเภทนี้ทำให้ความกำหนัดลดลงด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ไม่ทุกคนหรอกที่มีประสบการณ์บรรลุจุดสุดยอดด้วยผลข้างเคียงของยาคลอมิพรามีน จริงๆแล้วมีประมาณ 5% ของคนไข้ทั้งหมด ที่สามารถบรรลุจุดสุดยอดแบบนี้

นอกเหนือจากการบรรลุจุดสุดยอดแบบแปลกๆ ดังกล่าวแล้ว ผู้คนก็ยังคงต้องผจญกับผลกระทบข้างเคียงอีกมากมายซึ่งพบในยาแก้ซึมเศร้าโดยทั่วไป อาทิเช่น อาการคลื่นไส้ การแข็งตัวบกพร่องของอวัยวะเพศ และแม้แต่การเกิดภาพหลอน

ยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่คนไข้ทุกคนที่ประสบกับการบรรลุจุดสุดยอดด้วยยาดังกล่าวจะสนุกกับประสบการณ์นี้ ชายคนหนึ่งรายงานว่าเขาต้องสวมถุงยางอนามัยทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำเปื้อนที่เป้ากางเกงของเขา

//manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9580000063683




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2558   
Last Update : 5 มิถุนายน 2558 20:59:42 น.   
Counter : 1234 Pageviews.  

5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ถือเป็นปัญหาหลักใหญ่ใจความ สำหรับเรื่องหน้าอกหน้าใจของสาวๆ ที่แม่ให้มาไม่พอ แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญหรือตำรับตำราวิเคราะห์ "ข้อดี" ของการมีหน้าอกเล็กกระทัดรัดให้ภาคภูมิ แต่ถึงยังไงสาวๆ ก็ยังหมดความมั่นใจถ้าหากตนมีหน้าอกขนาด "ไข่ดาว" อยู่ดี หลายๆ คนจึงเลือกที่จะเจ็บปวดโดยการพึ่งมีหมอผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น ต่อให้ถูกมองว่าเป็นของปลอม ซ้ำยังเสี่ยงอันตราย

แต่จะดีกว่าไหม ถ้าหากเราสามารถพัฒนาของที่แม่ให้มานั้นได้สัดได้ส่วนด้วยสองไม้สองมือคุณเอง วันนี้เราจึงหยิบนำวิธีบริหารเพิ่มขนาดหน้าอก ที่เพราะนอกจากจะเชิดขนาดตามตำราได้อย่างภาคภูมิในความแท้แน่นอนที่ใครใฝ่ฝัน การบริหารง่ายๆ เพียงไม่กี่นาทีของแต่ละวันยังช่วยเพิ่มความกระชับเต่งตึง ช่วยให้หน้าอกฟิตเฟิร์มไม่หย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง ให้สองคู่ตูมๆ ชูชื่นอยู่กับคุณแม้อายุอานามจะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ซึ่งวิธีการบริหารหน้าอกให้มีขนาดใหญ่มีหลากหลายวิธี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสาวๆ ควรเริ่มจากการวิดพื้นเป็นท่าเบสิกพื้นฐานอันดับแรก เนื่องจากด้วยสรีระร่างกายของผู้หญิงกำลังแขนอาจจะไม่เพียงพอต่อการที่จะเริ่มจากยกดัมเบลหลายๆ ครั้งต่อเซตติดต่อกัน การบริหารโดยเริ่มจากการวิดพื้นจึงเป็นเสมือนการเตรียมร่างกายให้แข็งแรงพร้อมช่วยเพิ่มขนาดหน้าอกเสริมความแข็งแกร่งไปด้วยในตัว

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ท่าที่ 1 ท่าวิดพื้นแบบประยุกต์

คล้ายท่าวิดพื้นธรรมดา แต่เปลี่ยนเป็นงอเข่าลงไปแตะที่พื้นแล้วให้ปลายเท้าชี้ขึ้น กางแขนโดยให้ความกว้างของฝ่ามือเท่ากับความกว้างของหัวไหล่ ค่อยๆ งอข้อศอก ลดลำตัวจนหน้าอกแตะถึงพื้นให้มากที่สุด จากนั้นดันมือขึ้นให้ข้อศอกเหยียดตรงกลับสู่ท่าเตรียมพร้อมอีกครั้ง หรือเมื่อก่อนกลับสู่ท่าเตรียมพร้อมเราจะใช้มือแตะไหล่ซ้ายขวาหรือชูขึ้นฟ้าในช่วงที่ขอศอกเหยียดตรงผสมก็ได้อีกด้วย

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ท่าที่ 2 ท่าวิดพื้นด้านข้าง

ท่านี้จะแตกต่างจากท่าวิดพื้นแบบแรก โดยให้เรานั่งบิดลำตัวคล้ายท่านั่งพับเพียบ แต่เหยียดช่วงขาให้ยาวกว่า เพื่อให้แขนสามารถกางออกได้และสามารถงอข้อศอกขึ้นลงเหมือนท่าวิดพื้นแบบประยุกต์

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
การออกกำลังกายด้วยการวิดพื้นทั้ง 2 ท่า ควรทำครั้งละ 30-45 ครั้ง แบ่งออกเป็นเซ็ตย่อยประมาณ 3-4 เซต ทำเป็นประจำอย่างน้อย 4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของ กล้ามเนื้อหน้าอก อาจจะเพิ่มเติมท่าต่างๆ หรือใช้ท่าพื้นฐานก็แล้วความแข็งแรงส่วนบุคคล ซึ่งในกรณีหากรู้สึกเหนื่อยเราสามารถพักได้เป็นช่วงๆ แต่ไม่ควรเกิน 5-10 นาที ก่อนเข้าสู่ท่ากายบริหารหน้าอกด้วยดัมเบล (ดัมเบลขนาดควรอยู่ที่ 1.5 - 2 กิโลกรัม)

ท่าที่ 3

ยืนตัวตรง มือทั้งสองข้างอยู่บริเวณหน้าอก กางปลายเท้าออกเล็กน้อย จากนั้นยืดแขนไปข้างหน้าเหมือนท่ากำลังชกพร้อมกับขาด้านนั้น ทำสลับซ้าย-ขวา แบ่งออกเป็นเซตให้ได้ประมาณจำนวน 30-45 ครั้งต่อท่า

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ท่าที่ 4

ยืนย่อตัวเล็กน้อย โดยให้เท้าซ้ายอยู่ด้านหน้าเท้าขวา แล้วใช้มือทั้งสองข้างสลับชกทำมุม 30 องศา สลับซ้าย-ขวา ข้างละ 30-45 ครั้งเช่นเดียวกัน

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ท่าที่ 5

ยืนตัวตรง กางขาออกโดยให้ส้นเท้าและปลายเท้าห่างกันเล็กน้อย มือทั้งสองข้างอยู่แนบลำตัว จากนั้นตั้งแขนทั้งสองออกไปด้านข้างทั้งซ้ายและขวา ยกชูขึ้นระดับใบหน้าหรือศีรษะ ก่อนค่อยๆ เหวี่ยงลงมาจนถึงช่วงขา ทำขึ้นลงอยู่อย่างนี้ในจำนวนที่เท่ากัน

หรือจะยืนกางขาออกเล็กน้อย โดยให้เท่าทั้งสองข้างตรงกับแนวของสะโพก เหยียดแขนให้ตรงออกทางด้านข้างลำตัว งอข้อศอกเข้าหาตัวเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆ ยกขึ้นเหนือศีรษะ แล้วไล่ลงมาระดับไหล่จนถึงช่วงต้นขา

 5 ท่าอัปไซส์หน้าอก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
ทั้งนี้ทั้งนั้นท้ายที่สุดก่อนจะเลิกกายบริหาร ให้เรายืดแขนออกไปข้างหน้าพอประมาณ ก้มศีรษะลงเล็กน้อย ค่อยๆ สายหน้าอกให้เร็วขึ้น ทำประมาณ 3-5 นาที เท่านี้หน้าอกหน้าใจก็จะแลดูมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เต่งตึง แถมได้สุขภาพร่างกายที่ดี ผิวที่ดี จิตใจโปร่งใส เพราะการออกกำลังกายเป็นของแถมสาวๆ อีกด้วย เชื่อว่าเป็นวิธีที่ดีสำหรับสาวมั่นยุคใหม่ที่ภูมิใจในสิ่งที่ทำได้ด้วยมือตัวเอง

ข้อมูลบางส่วนจาก //www.saroop.net และ //www.girlysociety.com
//manager.co.th/GoodHealth/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060884




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2558   
Last Update : 3 มิถุนายน 2558 8:27:31 น.   
Counter : 2294 Pageviews.  

ความเชื่อเรื่องเซ็กซ์ที่เหลวไหล เอาเปรียบหญิง/Dr.DEN Sexociety

คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN

ความเชื่อเรื่องเซ็กซ์ที่เหลวไหล เอาเปรียบหญิง/Dr.DEN Sexociety
เซ็กซ์ เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของเรา อย่างที่รู้กันนั่นแหละ แต่มันถูกมองต่างมุมในทุกส่วนของโลก วัฒนธรรมท้องถิ่น ตำนานโบราณ และนิทานหลอกเด็ก กลายเป็นส่วนหนึ่งในมุมมองต่างๆ ของเรา การขาดความรู้บางอย่าง การยับยั้งชั่งใจและการจินตนาการเชิงรุก ล้วนก่อกำเนิดตำนานมากหลายอันน่าขำ

บางตำนานมันฝังรากลึกเสียจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในจิตสำนึกของเรา และยังควบคุมการตัดสินใจของเราด้วย ต่อไปนี้เป็นบางตัวอย่างของตำนานบ้าบอคอแตกที่ถูกขจัดไปแล้ว เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่ามันเหลวไหลเพียงใด อ่านเอาสนุกก็แล้วกัน

เซ็กซ์ในน้ำ ป้องกันกามโรคได้

เหตุผลเบื้องหลังตำนานเซ็กซ์พิลึกนี้น่าจะมาจากข้อเท็จจริงที่เราเชื่อกันว่าน้ำสามารถชะล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออกไปได้ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือการขาดความรู้เกี่ยวกับเหตุผลที่ว่าทำไมกามโรคจึงแพร่กระจายได้

กามโรคก็เหมือนกับ HIV ที่แพร่กระจายโดยผ่านทางการติดเชื้อของเลือดกับเลือดหรือน้ำอสุจิ เมื่อคุณมีเซ็กซ์กับใครบางคนซึ่งมีเชื้อ HIV อยู่แล้วคุณก็มีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อนั้นได้ แม้ว่าคุณจะหลั่งข้างนอกก็ตาม

ถุงยางอนามัยคือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันปัญหานี้ ไม่ว่าคุณจะมีเซ็กซ์กันบนบกหรือในน้ำก็ตาม

ถุงยางสองชั้น เป็นการป้องกันสองเท่า

ทฤษฎีที่ว่า “สองดีกว่าหนึ่ง” นั้นนำมาใช้ไม่ได้กับทุกเรื่อง ความเชื่อที่ว่าสวมถุงยางสองอันดีกว่าอันเดียวนั้นเป็นความเชื่อที่อันตราย จริงๆ แล้วมันมีความเสี่ยงมากขึ้นอีก

ถุงยางทำจากยางพารา ถ้าคุณสวมถุงสองชั้นในระหว่างมีเซ็กซ์ ยางของถุงหนึ่งก็จะเสียดสีกับอีกถุง ความฝืดที่มากขึ้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ถุงยางทั้งสองฉีกขาดได้ เมื่อถุงยางรั่วมันก็สามารถนำไปสู่การแพร่เชื้อโรคและการตั้งครรภ์อันไม่ปรารถนา โปรดระวัง!

ใช้ถุงยางเพียงถุงเดียวและอย่าหลงระเริงมีเซ็กซ์กับคู่ขาที่มีประวัติสำส่อนโดยคุณไม่สวมถุงยาง(ย้ำ แค่ชั้นเดียวเท่านั้น)

มีเซ็กซ์เป็นประจำ ทำให้ช่องคลอดกว้างขึ้น

ไม่มีอะไรไกลไปกว่าความเป็นจริงได้ แม้แต่ผู้หญิงที่มีการศึกษาก็ยังเชื่อว่าช่องคลอดของพวกเธอยืดขยายและสูญเสียความกระชับเนื่องจากมีเซ็กซ์มากเกินไป

ข้อเท็จจริงก็คือ ช่องคลอดมีกล้ามเนื้อมากมายเหมือนปากและมือของคุณนั่นแหละ ไม่ว่าคุณทำงานหรือกินมากแค่ไหน ปากหรือมือของคุณก็ไม่หย่อนยานหรือเสียรูปทรง และช่องคลอดก็จะไม่สูญเสียความกระชับเนื่องจากมีเซ็กซ์เช่นกัน หลังจากคลอดบุตร ช่องคลอดอาจหย่อนยานเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นมันก็จะกลับมากระชับเหมือนเดิมอย่างแน่นอนภายในประมาณ 6 เดือน

การสูงวัยเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงของช่องคลอดได้อย่างแท้จริงและทำให้มันเกิดความหลวม ในขณะที่ระดับของเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ลดลง กล้ามเนื้อช่องคลอดก็จะสูญเสียความกระชับ เพราะฉะนั้นคุณผู้หญิงจึงสามารถมีเซ็กซ์ได้มากครั้งเท่าที่ต้องการ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายตอนแก่

ผ้าอนามัยแบบสอด ดูดพรหมจารีของคุณได้

ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ระหว่างการสูญเสียพรหมจารีของคุณผู้หญิงกับถุงยางอนามัยแบบสอด(TAMPONS) คุณจะสูญเสียความบริสุทธิ์ของคุณก็ต่อเมื่อคุณมีเซ็กซ์กับผู้ชายหรือมีเพศสัมพันธ์ในลักษณะต่างๆ การฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ไม่อาจถูกเรียกได้ว่าเป็นการสูญเสียความบริสุทธิ์เสมอไป เพราะการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาก็สามารถเป็นสาเหตุของการฉีกขาดดังกล่าวได้ ดังที่ทราบกันอยู่แล้ว

แต่ในความน่าจะเป็นทั้งหมด ผ้าอนามัยแบบสอดไม่สามารถทำให้เยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดได้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงการดูดพรหมจารีของคุณหรอก แม้แต่หลังจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดมาเป็นเวลาหลายปี เยื่อพรหมจรรย์ของคุณก็ยังอาจอยู่ดีดังเดิม

การมีเซ็กซ์ทางช่องคลอดกับผู้ชายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะเป็นการ “เด็ดดอกไม้”ของคุณได้ พรหมจารีเป็นเพียงแนวคิดอย่างหนึ่งและมันสามารถถูกมองต่างมุมได้ สมัยนี้ไม่มีใครสนใจเยื่อบางๆในช่องคลอดของคุณอีกต่อไปแล้ว

การบรรลุจุดยอดเพิ่มความเสี่ยงในการตั้งครรภ์

นี่ก็เป็นความเชื่อที่ตลกและอันตรายอีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้มันไม่ได้รับการสนับสนุนโดยวิทยาศาสตร์แต่ประการใด ถ้าแฟนหนุ่มของคุณหลั่งภายในตัวคุณ ก็มีโอกาสสูงที่คุณจะตั้งครรภ์ การมีเซ็กซ์โดยปราศจากเครื่องคุมกำเนิด อย่างถุงยางอนามัย สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งท้องของคุณผู้หญิงได้ ไม่ว่าคู่รักของคุณจะหลั่งข้างในหรือข้างนอกช่องคลอดก็ตาม และไม่เกี่ยวกับการบรรลุจุดสุดยอดของคุณเลยสักนิด

ดังนั้นคุณผู้หญิงโปรดอย่าเชื่อตำนานโง่ๆ นี้เป็นอันขาด และขอให้คุณบรรลุจุดสุดยอดในทุกครั้งที่ปรารถนา

สรุป

เซ็กซ์เต็มไปด้วยมุมมองต่างๆ และบุคคลต่างๆในยุคที่ผ่านมาก็ช่วยกันสร้างตำนานหรือความเชื่อผิดๆ ให้มันคืบคลานเข้าไปในสมองของคุณ เพื่อสร้างความน่ากลัวจนขนหัวลุกด้วยเหตุผลต่างๆ นานา มันจึงเป็นการดีที่จะรู้เท่าทันความคิดของคนเจ้าเล่ห์รุ่นก่อนๆ และขจัดตำนานความเชื่อเหล่านั้นทิ้งไปเสีย

//manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9580000061009




 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2558   
Last Update : 30 พฤษภาคม 2558 20:49:19 น.   
Counter : 980 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]