เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!



เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!


เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!


เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!


เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!


เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!


เจนี่ งัดอีกเซต แหวกอก อวดบั้นท้ายกลมกลึงในชุดว่ายน้ำ สวนกระแสดราม่า!




 

Create Date : 25 กันยายน 2559   
Last Update : 25 กันยายน 2559 16:41:46 น.   
Counter : 5422 Pageviews.  

“จ๊ะ อาร์สยาม” เสี่ยงเป็นโรคพุ่มพวง ตัดใจลดงานทิ้งเงินมหาศาล เตรียมบนดวงวิญญาณ “แม่ผึ้ง”



“จ๊ะ อาร์สยาม” เสี่ยงเป็นโรคพุ่มพวง ตัดใจลดงานทิ้งเงินมหาศาล เตรียมบนดวงวิญญาณ “แม่ผึ้ง” ขอให้ไม่เป็นโรคนี้ “จ๊ะ อาร์สยาม” รับครอบครัวโรครุมเร้า พ่อเป็นโรคภูมิแพ้-สะเก็ดเงิน เลือด-หนองออกซิบๆ แม่เป็นโรคซึมเศร้า ส่วนตนเสี่ยงเป็นโรคพุ่มพวง ตัดใจลดงานทิ้งเงินมหาศาล จากเดือนละ 40 กว่างานเหลือแค่ 20 งาน เตรียมไปบนดวงวิญญาณราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ขอให้ไม่เป็นโรคนี้

       เห็นร่าเริง ยิ้มหัวเราะตลอดเวลา สำหรับ “จ๊ะ อาร์สยาม” นงผณี มหาดไทย ที่ล่าสุดแว่วมาว่าส่อแววป่วยหนักรับเบญจเพสด้วยโรคพุ่มพวง (ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง) เหตุเพราะพักผ่อนน้อย นอกจากนั้นคุณพ่อก็ป่วยด้วยโรคสะเก็ดเงิน ด้านคุณแม่ยังเป็นโรคซึมเศร้า งานนี้สาวจ๊ะได้เปิดใจหลังเดินทางมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ บันเทิง 108 ทาง ช่อง 8 ที่เลข 27 ถึงเรื่องทั้งหมด

       “คุณหมอบอกให้หนูหยุดงานประมาณ 1 เดือน เพราะว่าหนูเริ่มจะแบบเวลาอากาศร้อนมากๆ หรือว่าหนาวจมูกก็จะบวม เลือดก็จะซิบๆ หมอก็เลยบอกว่ากลัวหนูเป็นแพ้ภูมิตัวเอง เพราะรู้เริ่มแพ้เหงื่อ แพ้อะไรที่มาจากตัวเราเอง เพิ่งเริ่มที่จะแพ้เหงื่อตัวเอง คาดว่าจะเป็นนะคะ คุณหมอบอกว่าถ้าหนูไม่พักฟื้น 1 เดือน หนูจะต้องออกกำลังกาย นอนให้ตรงเวลาเรื่องอาหารการกิน เพราะว่าหนูเป็นคนลุยๆ ไม่ค่อยดูแลตัวเองหมอก็เลยกลัวจะเป็น”

       “มันก็สืบเนื่องมาจากการเข้ารพ.ครั้งก่อนเพราะว่าเป็นโรคภูมิแพ้รุนแรง เป็นไซนัสอักเสบด้วยที่เลือดมันออก พอหมอบอกก็ตกใจนะคะ เดือนหน้าก็รับงานน้อยลงจาก 30 - 40 งานก็รับแค่ 20 งาน พัก 10 วันแล้วก็เลือกที่ไม่ไกล เพราะว่าหมอไม่อยากให้ขึ้นเครื่องมาก เพราะช่วงนี้เลือดหนูพร้อมจะบอก เขากลัวเลือดจะออกหู แต่ยังไม่ได้เป็นระดับรุนแรงมาก แค่กลัวจะเป็น เพราะว่าเราเริ่มแพ้อะไรที่มาจากตัวเรา”

       “ไม่เคยศึกษาโรคนี้มาก่อนเลยค่ะ หนูเป็นคนง่ายๆ คิดง่ายๆ ว่าอะไรจะเกิดมันก็เกิด ถ้าเกิดเรากลัวเราก็จะต้องไม่รับงานเลย หมอบอกเราต้องเคลียร์คิวตัวเองแล้ว แต่หนูก็ยังไม่เคลียร์อะไรมาก เพียงแต่ว่าถ้างานไกลๆ กลางคืน กลางวันเข้ามาปกติหนูจะรับหมดเลย ตอนนี้ก็ไม่รับแล้ว”

       โอดเบรกงานพักผ่อนไมได้ เหตุรับงานล่วงหน้า 6 เดือน
       “จริงๆ แล้วหนูได้ถามนักร้องหลายคน บอกอาการ บอกโรค ถามหลายคนนะคะเป็นกันเกือบทุกคนเลยค่ะ แต่ของหนูนี่คือคุณหมอบอกว่ากลัวว่าหนูจะเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองเท่านั้นเอง หนูว่ามันเป็นโรคปกติของคนกลางคืนมากเลย ถามว่าพบแพทย์ไหม พบตลอดเลยค่ะ เข้าทุกเดือน หรือ 2 อาทิตย์เข้าที เพราะหนูต้องไปส่องโพรงจมูก หมอกลัวจะเป็นหนอง ก่อนหน้านี้ที่เป็นไซนัสอักเสบ หมอบอกว่าถ้าเป็นหนองปุ๊บหนูจะไปงานไม่ได้แล้ว เพราะหนูต้องขูดหรือดูดหนองออก อันนั้นต้องนอนโรงพยาบาล”

       “สาเหตุที่ยังไม่พักเพราะงานมันรับมาแล้วเกิน 6 เดือน งานที่เรารับมาแล้วเราไม่สามารถเบรกได้ คือถ้าเจ้าภาพเข้าใจ แต่คนดูไม่เข้าใจ เพราะมันเป็นงานค่อนข้างใหญ่ งานกาชาดที่ขึ้นป้ายไว้แล้ว ถ้าเราเสียตรงนี้ไป คนไม่มั่นใจกับเราว่าเราเบี้ยวงาน ก็เลยไม่กล้าเบรก แต่หลังจาก 6 เดือนที่เรายังไม่ได้รับงานอันนั้นคงเบาลง”

       บอกไม่กล้าคืนงาน รอให้หนักแล้วค่อยไปเทสต์จริงจัง เชื่อเป็นโรคเวรกรรมทุกอย่างเอื้อเงินดี กลับรับงานเหมือนเดิมไม่ได้
       “หมอก็รอหนูไปเทสต์จริงจัง ที่มันจะมีตัวเทสต์ว่าหนูแพ้อะไรบ้าง แต่ว่ายังไม่ได้เข้าไปเลย(หัวเราะ) เพราะหนูก็รอให้เป็นหนักสุดๆ(หัวเราะ) ค่อยเข้าไป ถามว่าทำไมไม่ห่วงตัวเอง ห่วงนะคะ แต่ถ้าใครมาอยู่ตรงจุดนี้จะเข้าใจ เวลาเราไปงานคนเยอะมากเลยนะ เราไม่กล้าคืนงาน จริงๆ แล้วหนูว่ามันเป็นโรคเวรกรรมนะคะ เพราะว่าคนเรากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อก่อนก็ทำงานทุกวันนะคะแต่ค่าตัวน้อย พอค่าตัวเยอะ ทุกอย่างเอื้ออำนวยหมดเลยนะ เจ้าภาพก็ดูแลเราดี แต่เรากลับรับงานไม่ได้ หนูว่าน่าจะเป็นโรคเวรกรรม หนูคิดเอง”

       ชี้เป็นกรรมพันธุ์ พ่อก็เป็นโรคภูมิแพ้ แถมเป็นโรคสะเก็ดเงิน เลือด-หนองออกซิบๆ
       “จริงๆ คุณพ่อก็เป็นภูมิแพ้นะ ที่หนูเป็นก็เป็นกรรมพันธุ์ พ่ออยู่กับหวายจักสาน จนกลายเป็นโรคสะเก็ดเงินที่เป็นโรคผิวหนัง แล้วก็เป็นเยอะมาก ตอนแรกหนูไม่เคยรู้เลยพ่อใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวตลอด แต่วันนั้นพาพ่อไปจันทบุรี ถอดเสื้อออกมาเหมือนกระดองเต่าที่แตกทั้งตัว เลือดซิบ หนองซิบ เต็มหมดเลย หลังก็เต็มเลย แล้วก็ต้องโกนผม เพราะโรคนี้เกิดจากศีรษะ 4 - 5 วันแรกนอนอยู่ดีๆ เขาทายาน้ำหนองไหลออกมาเต็มเลย”

       “ตอนนี้พ่ออยู่ที่จันทบุรีค่ะ รักษาอยู่ แต่ว่าไม่ได้เป็นคุณหมอนะคะ คือคุณพ่อรักษาตามโรงพยาบาลมาเยอะมากแล้วแต่ไม่หายเพราะว่าที่โรงพยาบาลเป็นยาสเตียรอยด์ที่ทายุบ แต่พอเลิกทาก็จะเป็นขึ้นมาอีก พ่อก็เลยอยากหายขาด ไปที่นี่ดีขึ้นมาก แล้วที่นี่กินฟรี อยู่ฟรี รักษาฟรี”

       “ก็เป็นพวกสมุนไพรค่ะ ที่นี่ไม่ใช่แค่รักษาทายาอย่างเดียว มีเรื่องอาหารการกินด้วย โรคสะเก็ดเงินกินได้แค่หมู กับผักนอกนั้นกินอะไรไม่ได้เลย”

       รับแม่เป็นโรคซึมเศร้า ส่วนตนกำลังใจดี ไม่คิดมาก ทุกอย่างถูกกำหนดมาหมดแล้ว
       “จริงๆ หนูเป็นคนที่ไม่ซีเรียส ไม่คิดมาก ไม่คิดเยอะ หนูคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนมันถูกกำหนดมาแล้วว่าเราจะต้องเป็นอะไร เพราะว่าชีวิตเราเอง เราก็ไม่เคยคิดว่าเราจะได้มาอยู่จุดนี้ เราก็ไม่ได้เครียดอะไร แต่กินยาทุกวันแค่นั้นเอง”

       “โรครุมเร้าทั้งครอบครัว ตอนนี้คุณแม่ก็เริ่มเป็นโรคแล้ว(หัวเราะ) แม่เป็นโรคซึมเศร้า หนูอยู่กรุงเทพฯ พ่ออยู่จันทบุรี แม่อยู่คนเดียว แม่โทร.มาร้องไห้ใหญ่เลย(หัวเราะ) ถามว่าจะเอาแม่มาอยู่ด้วยไหม บอกตลอดเลย แต่ว่าแม่ไม่ยอมมาก็เลยแก้ปัญหาโดยที่เอาคุณน้ามาอยู่กับแม่(ยิ้ม)”

       นอกจากนี้สาวจ๊ะยังเปิดใจกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่าตนเตรียมไปบนดวงวิญญาณราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ขอให้ไม่เป็นโรค SLE อีกด้วย

“จ๊ะ อาร์สยาม” เสี่ยงเป็นโรคพุ่มพวง ตัดใจลดงานทิ้งเงินมหาศาล เตรียมบนดวงวิญญาณ “แม่ผึ้ง” ขอให้ไม่เป็นโรคนี้

//manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000035053




 

Create Date : 05 เมษายน 2559   
Last Update : 5 เมษายน 2559 21:54:01 น.   
Counter : 1174 Pageviews.  

ดรามาหนักมาก “ชิน ชินวุฒ” หลั่งน้ำตา! เป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี เผยห่วงแม่-น้อง



ดรามาหนักมาก “ชิน ชินวุฒ” หลั่งน้ำตา! เป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี เผยห่วงแม่-น้อง
นักร้องดัง “ชิน ชินวุฒิ” หอบหลักฐานการแพทย์ข้อมือดามเหล็กขอผ่อนผันเป็นบุคคลประเภท 3 ด้านเจ้าหน้าที่ตรวจแล้วไม่เข้าข่าย แถมก่อนหน้าไม่มารายงานตัว เตรียมส่งเข้ากรมวันที่ 1 พ.ค.เป็นทหาร 2 ปี ทำเจ้าตัวปล่อยโฮ บอกห่วงแม่-น้องสาว ด้านชาวเน็ตวิจารณ์หนักมาก

       หลุดปล่อยโฮต่อหน้าสื่อเลยทีเดียวสำหรับนักร้องดัง “ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน” หลังจากที่ต้องมารายงานตัวเพื่อเข้าคัดเลือกเป็นทหารเกณฑ์ตามหมายเรียกเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (4 เม.ย.) ที่วัดน้อยนพคุณ เขตดุสิต โดยชิน ได้นำผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และหลักฐานทางการแพทย์มายันเพื่อยื่นขอเป็นบุคคลประเภทที่ 3 ซึ่งร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะเป็นทหาร เนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุจักรยานล้มจนกระดูกข้อมือแตก ต้องใส่ดามเหล็กที่ข้อมือตลอดชีวิต จึงจัดอยู่ในบุคคลประเภทที่ 3

       แต่เมื่อตรวจร่างกายแล้วไม่ขัดต่อการเข้ารับราชการทหาร และชิน ไม่ได้มารายงานตัวตามหมายเรียกทหารกองเกินในปี 56 ทำให้ถูกจัดเป็นประเภทที่ 2 ต้องเป็นทหารบกผลัด 1 และเตรียมเข้าประจำการในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นเวลา 2 ปี โดยหนุ่มชินเปิดใจว่า

       “จริงๆ แล้วผมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง เมื่อปีที่แล้วผมมา เป็นจำพวก 3 ไม่สามารถรักษาได้ ขาดไป 30 วัน ต้องไปตรวจก่อน พอผ่านมา 1 ปี ก็ไม่ได้มีอาการดีขึ้นหรือแย่ลง เลยลงไปประเภทที่ 2 ทีนี้มันเกิดเหตุการณ์ขึ้นคือ ตอน 2-3 ปีที่แล้วมาไม่ตรง เลยอยู่ในบัญชีเลี่ยง พอเป็นประเภทที่ 2 ปุ๊บก็เป็นทันที คือ ผมรู้อยู่แล้วว่าอยู่ในประเภทที่ 2 ยังไงก็เป็นอยู่แล้ว แต่เรามายื่นเป็นจำพวก 3 อยู่ที่คุณหมอวินิจฉัยอย่างไร ก็คือเราฝึกซ้อมได้ ก็อยู่ในจำพวกที่ 2”

“ความรู้สึกแรกถ้าพูดตรงๆ ไม่โกหก คือ เหวอ เฮ้ย กูเป็นเหรอวะเนี่ย แต่ในใจผมไม่ได้กังวล การเป็นทหารก็เป็นเกียรติ เพราะครอบครัวผมก็เป็นทหารอยู่แล้ว คุณลุงเป็นทหารอากาศนาโต้ที่ฝรั่งเศสอยู่แล้ว ผมก็เติบโตมากับครอบครัวทหาร ฝั่งคุณพ่อคุณทวดก็เป็นอยู่แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรสักเท่าไหร่ ไม่ได้คิดว่าไม่ดี ถ้าจำเป็นต้องเป็นก็เป็น แต่สิ่งที่กังวลคือ แม่กับน้อง”

       “ก็มีเวลาเดือนเดียวในการเคลียร์ทุกอย่าง ก็เข้า พ.ค. เลย ก็บอกแม่ว่าต้องเป็นว่ะ คือ แม่ก็ทำใจมาแล้ว คือ คุยกันตั้งแต่ปีที่แล้วว่าถ้าเป็นก็เป็นตั้งแต่ปีที่แล้ว มันเหมือนยืดเวลามาปีหนึ่ง แม่ก็เหวอ อยู่ด้วยกันดีๆ อีกเดือนเป็นทหารแล้ว เพราะไม่ได้เตรียมตัว ผมเป็นเสาหลักของบ้าน เงินสะพัดอ่ะเนอะ แล้วก็เป็นคนหารายได้มากที่สุดในบ้าน พอไม่มีเราก็ห่วงเขา ถ้าจะเป็นก็เป็นนะ มันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องเดียวเลยเขาจะอยู่กันยังไง ไม่ได้วางแผนอะไรเลย เพราะไม่ได้คิดว่าจะเป็น หลังจากนี้ก็ไม่รู้แต่ว่าต้องทำ ไม่รู้ว่าต้องวางแผนอะไร”

       บอกไม่ได้ร่ำไห้เพราะไม่อยากเป็นทหาร แต่ร่ำไห้เพราะห่วงแม่กับน้อง

“ต้องแคนเซิล จริงๆ มีละครเข้ามาอีก 2 เรื่อง (น้ำตาไหล) แล้วก็หนังอีกเรื่องหนึ่ง (ร้องไห้) งานเพลงยังๆ (เช็ดน้ำตา) ที่ร้องไห้ไม่ใช่เพราะไม่อยากเป็นนะครับ แต่เป็นห่วงแม่กับน้องเท่านั้นแหละครับ (ร้องไห้) ถ้าไม่ได้เป็นเสาหลักครอบครัวผมไม่สนอะไรเลย เรื่องเดียวคือ เรากังวล”

       “เดี๋ยวคงไปคุยกันครับ ก็ขอบคุณนะครับที่ให้กำลังใจ จริงๆ แล้ว เราก็รับตามที่กฎหมายทุกอย่าง เราก็ถือว่าเป็นตัวอย่าง เราก็ไม่ได้หนีไม่ได้อะไร เราก็พร้อมที่จะเป็น ก็เรื่องเดียวที่กังวลตอนนี้ที่วนอยู่ในหัว ไม่ได้กลัวอะไรเลย งานก็คือเงิน เท่ากับครอบครัว คุณแม่กับน้องก็ยอดเยี่ยมในสิ่งที่เขาทำ เขาดูแลเรา แล้วก็ค่าใช้จ่ายในบ้านค่อนข้างสูง อยู่กัน 3 คนเราก็เต็มที่ เดาไม่ถูกว่ารายได้จะหายไปเท่าไหร่ แต่ก็ 7 หลักอยู่แล้ว”

       ยอมรับเป็นบทเรียนชีวิต ละเลยเองต้องรับผิดชอบ

       “เวลาอีกเดือนเดียวก็ต้องคุยกัน และวางแผนกัน สิ่งที่เกิดขึ้นเราก็แค่รับรู้ รับมือและปรับตัว กังวลคือนี่คือวันที่ 4 อ่ะ แล้วตลกมากคือ น้องเกิดวันที่ 30 แล้วก็เข้าเลย เอาวะ ก็เป็นบทเรียน เรารับผิดชอบในสิ่งที่ละเลยมา เราละเลยเอง ก็ต้องรับผิดชอบ สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลังจากนี้เป็นต้นไปจะทำยังไงต่อ ทุกอันที่พี่ๆ ถามมันเป็นสิ่งที่ผมถามตัวเอง เป็นคำถามที่วกวน ไม่ได้มีคำถามว่าทำไงที่เราจะไม่เป็น เราไม่ได้คิดเรื่องนั้น ที่โทรศัพท์คือ โอเคนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นบทเรียนหลายๆ อย่าง ก็เป็นข้อหนึ่งที่ดีเรายืดอกรับ”

       “ก็อยากบอกน้องๆ ว่าเรียน รด.ให้จบนะ ง่ายสุดแล้ว การที่คุณมาเจอชีวิตจริง คุณเป็นเสาหลักของบ้าน และต้องมารับตรงนี้ 2 ปี ผมว่าคนละความรู้สึกกับการไม่เรียน รด.แน่นอน แต่ถ้าเกิดขึ้นก็แค่รับมือแค่นั้นเอง ผมก็ตื่นเต้นเนอะ”

       โดยภายหลังภาพหนุ่มชินร่ำไห้เผยแพร่โลกออนไลน์เจ้าตัวโดนกระแสวิจารณ์มากมาย จนต้องออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงในอินสตาแกรมว่า ที่ร้องไห้ไม่ได้เป็นเพราะต้องเป็นทหาร แต่ตนแค่ห่วงแม่และน้องเท่านั้น

//manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000034431




 

Create Date : 04 เมษายน 2559   
Last Update : 4 เมษายน 2559 23:14:01 น.   
Counter : 862 Pageviews.  

“จุ๋ย” สุดทน ออกโรงฉะ “พจน์-แหม่ม” รู้ไม่จริงอย่าพูด! รับข่าวกระทบใจแม่



“จุ๋ย” สุดทน ออกโรงฉะ “พจน์-แหม่ม” รู้ไม่จริงอย่าพูด! รับข่าวกระทบใจแม่ “จุ๋ย วรัทยา” ยอมรับฝากนักข่าวไปบอก “พจน์-แหม่ม” ขอให้นำเสนอข่าวตนอย่างถูกต้องและเป็นจริง ลั่นแค่ปกป้องศักดิ์ศรี รักษาคุณค่าตัวเอง หลังถูกเมาท์จนข่าวกระทบกระเทือนจิตใจแม่ เผยอยู่วงการ 10 ปีไม่ใช่เด็ก ล่าสุดเคลียร์แล้ว เชื่อนักข่าวหลายช่องมีจรรยาบรรณ

       ทำเอาอึ้งกิมกี่หลังจากที่ “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ปรี่ไปบอกนักข่าวช่อง 2 กรณีถูกนำเสนอข่าวในแง่ไม่ดี โดยฝากบอก “พจน์ อานนท์” และ “แหม่ม วิชุดา” สองพิธีกรรายการบันเทิง 108 ให้เบาๆ กับการเล่าข่าวของตนลงบ้าง ล่าสุดสาวจุ๋ยออกมายอมรับว่าได้เคลียร์กับทั้งคู่แล้ว และต้องทำเพื่อรักษาศักดิ์ศรี บอกอยู่วงการมา 10 ปีไม่ใช่เด็กแล้ว

       “สำหรับเรื่องนี้ต้องเรียนด้วยความเคารพนะคะ คือจุ๋ยไม่ได้มีปัญหากับผู้ใหญ่หรือพิธีกรใดๆ แต่จุ๋ยแค่ฝากน้องช่องหนึ่งไปบอกว่า บางรายการอาจจะพูดถึงเราในแง่ที่ไม่ดี หรือออกความเห็นไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ซึ่งตัวจุ๋ยเอง จุ๋ยอยู่ในวงการนี้มา 10 กว่าปี จุ๋ยก็มีหน้าที่การงานที่มั่นคง และจุ๋ยก็มีครอบครัวที่ดูแลจุ๋ยอยู่ ซึ่งในวันนั้นจุ๋ยก็ได้ฝากน้องไปบอกเขาไว้ แต่ข่าวนั้นเป็นข่าวนานมากแล้วนะคะ พี่เขาอาจจะเข้าใจว่าเป็นข่าวใกล้ๆ อีกอย่างจุ๋ยก็ไม่ใช่นักแสดงเด็กๆ จุ๋ยอยากให้เขาให้เกียรติเรา เพราะเราก็แค่อยากปกป้องคุณค่าของความเป็นตัวเราก็เท่านั้นเอง”

       รับเข้าไปเคลียร์กับพิธีกรแล้ว ทางนั้นฝากขอโทษไปถึงพ่อแม่ด้วย ยันไร้ปัญหาแน่นอน
       “เคลียร์แล้วบางพิธีกรค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราก็คุยเคลียร์ทุกอย่างแล้วนะ ตัวพี่เขาเองก็เข้าใจดี และก็ขอโทษฝากมาทางคุณพ่อคุณแม่ด้วยที่เขาทำให้เสียความรู้สึก ส่วนพิธีกรอีกท่านหนึ่ง คนนี้จุ๋ยเจอเขาที่เวิร์คพอยท์ค่ะ วันนั้นจุ๋ยก็เข้าไปสวัสดีพี่เขาที่โต๊ะ และอย่างที่บอกเราก็เป็นคนในวงการเหมือนกันเนอะ”

       “เราทำอาชีพเดียวกัน จุ๋ยก็อยากให้เขานึกถึงบ้างว่าถ้าหากมีคนพูดถึงเราในสิ่งที่ไม่จริงเราจะรู้สึกยังไง เพราะเรื่องนี่มันก็มีผลกระทบในจิตใจเราเหมือนกัน และที่สำคัญมันกระทบกับจิตใจคุณแม่ด้วย คุณแม่เขาไม่ได้แคร์นะคะว่าข่าวมันจะจริงหรือไม่จริง แต่คุณแม่เขาแคร์ว่าทำไมคนอื่นถึงพูดแบบนี้ ซึ่งจุ๋ยก็ได้ฝากน้องไปบอกเฉยๆ ว่าให้พูดถึงจุ๋ยในแง่จริง และให้ถูกให้ควรจึงค่อยนำเสนอ”

       ไม่หวั่นไม่มีใครกล้านำเสนอข่าวตน เชื่อนักข่าวมีจรรยาบรรณ ส่วนตนต้องการรักษาศักดิ์ศรีและปกป้องคุณค่าตัวเอง
       “ไม่กลัวนะคะ พี่ๆ กลัวหนูหรือเปล่าล่ะ คือถ้าพี่นำเสนอในแง่ที่ดีและถูกต้อง หนูก็เชื่อว่าพี่ๆ นักข่าวหลายๆ ช่อง ก็มีจรรยาบรรณมากเหมือนกัน จุ๋ยอยู่วงการมานานจุ๋ยก็จำได้ว่าพี่คนไหนน่ารัก แต่ถ้าบางอย่างบางอันที่มันไม่ถูกไม่ควร จุ๋ยก็แค่อยากทำให้มันถูกต้อง เพราะอย่างที่บอกจุ๋ยต้องการที่จะรักษาศักดิ์ศรีและปกป้องคุณค่าในตัวเราเอง”

       “ไม่กลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมาค่ะ เพราะอย่างวันนี้พี่ๆ ก็ให้เกียรติมางานบวงสรวงละคร ซึ่งตัวจุ๋ยเองก็เชื่อว่าพี่ๆ พิธีกรเหล่านั้น รวมถึงช่องก็คงเข้าใจในสิ่งที่จุ๋ยได้บอกไป แต่ว่าตอนแรกมันอาจจะสื่อสารกันผิด และพี่เขาคงเข้าใจผิด แต่จุ๋ยก็ได้เคลียร์ไปแล้วกับพี่ท่านหนึ่ง ซึ่งเขาน่าจะเข้าใจเป็นอย่างดี”

       “ส่วนพิธีกรอีกคนหนึ่งนั้น จุ๋ยก็ไปสวัสดีพี่เขาที่โต๊ะเลยนะ ซึ่งพี่เขาก็รับไหว้ ส่วนทางพี่ผู้หญิงจุ๋ยก็โทร.คุยกันอย่างดีเลย พี่เขาพูดดีมากๆ แถมยังขอโทษมายังคุณพ่อคุณแม่ด้วย อีกอย่างพี่เขาก็เคยเจอจุ๋ย และทุกครั้งที่เจอจุ๋ยก็ไม่เคยเลยที่จะไม่ยกมือไหว้หรือว่าทำตัวไม่ดีกับรุ่นพี่ ดังนั้นสิ่งนี้มันก็เลยเป็นอะไรที่เราอยากจะเคลียร์ให้ชัดเจน ตอนที่เราเข้าไปสวัสดี พี่เขาก็รับไหว้ค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ”

       “สำหรับข่าวที่ออนไปวันนี้มันก็คงไม่สามารถทำให้คนทั้ง 70 ล้านคน ได้เห็น แต่ถ้ามีเพียงสัก 100 - 200 คน เข้าใจความรู้สึกของเรา แค่นี้จุ๋ยก็ดีใจมากแล้วค่ะ”

“จุ๋ย” สุดทน ออกโรงฉะ “พจน์-แหม่ม” รู้ไม่จริงอย่าพูด! รับข่าวกระทบใจแม่




 

Create Date : 01 เมษายน 2559   
Last Update : 1 เมษายน 2559 8:32:11 น.   
Counter : 1540 Pageviews.  

“ตั้ก บงกช” โกนหัวบวชชีให้ “แม่เล็ก “หายป่วย ขอสึกหลังแม่ออกจากรพ. เท่านั้น!

“ตั้ก บงกช” โกนหัวบวชชีให้ “แม่เล็ก “หายป่วย ขอสึกหลังแม่ออกจากรพ. เท่านั้น! “ตั้ก บงกช” กตัญญู โกนหัวบวชชี ให้ “แม่เล็ก” หายป่วย บอกจะสึกต่อเมื่อแม่ออกจากรพ. อาการล่าสุดออกจากห้องไอซียูแล้ว

       เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 มีนาคม 2559 นักแสดงสาว “ตั้ก บงกช คงมาลัย” ได้โกนหัวบวชชีให้ “แม่เล็ก” ซึ่งกำลังนอนป่วยหนักจากเส้นเลือดในสมองตีบที่รพ. โดยเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. ปีที่ผ่านมา โดยสาวตั๊กโพสต์ภาพโกนหัวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมข้อความ “มาให้แม่นะจ้ะ อยากให้แม่ดีขึ้น วันนี้เลยมาถือศีลบวชให้แม่จ้ะ แต่ลูกก็ยังไปหาแม่ได้นะจ้ะ ทำวัดเสร็จก็ไปหาแม่ได้ทุกวัน”

       นอกจากนี้เจ้าตัวยังให้สัมภาษณ์ผ่านรายการไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า สาเหตุที่ตัดสินใจบวชเพราะอยากส่งผลบุญแม่เพื่อให้หายจากอาการป่วยโดยเร็วและตั้งใจสึกก็ต่อเมื่อคุณแม่ออกจากรพ.แล้ว โดยอาการล่าสุดแม่ตั้กได้ออกจากห้องไอซียูแล้ว ทั้งนี้เมื่อวานนี้เจ้าตัวเพิ่งฉลองครบรอบแต่งงาน 3 ปีกับสามี “เจ้าสัวบุญชัย” มาหมาดๆ อีกด้วย

“ตั้ก บงกช” โกนหัวบวชชีให้ “แม่เล็ก “หายป่วย ขอสึกหลังแม่ออกจากรพ. เท่านั้น!


“ตั้ก บงกช” โกนหัวบวชชีให้ “แม่เล็ก “หายป่วย ขอสึกหลังแม่ออกจากรพ. เท่านั้น!


“ตั้ก บงกช” โกนหัวบวชชีให้ “แม่เล็ก “หายป่วย ขอสึกหลังแม่ออกจากรพ. เท่านั้น!

//manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000032397




 

Create Date : 30 มีนาคม 2559   
Last Update : 30 มีนาคม 2559 8:22:01 น.   
Counter : 1160 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]