หรรษา “วันฮาโลวีน” อิ่มหนำสำราญกับอาหารเลิศรส “วันฮาโลวีน” เวียนมาถึงอีกปีแล้ว ในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค. นี้ หากว่าใครกำลังเมียงมองหาสถานที่ที่จะออกไปปาร์ตี้ในค่ำคืนวันฮาโลวีนกันอยู่ พร้อมกับอิ่มหนำกับอาหารรสเลิศ เรามีสถานที่มาแนะนำให้เลือกไปปาร์ตี้คืนวันฮาโลวีนกันอย่างสนุกสุดมัน และอิ่มหนำสำราญกันเต็มที่ ซึ่งจะมีที่ไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น เชิญดูและเลือกไปกันได้ตามชอบใจ ห้องอาหาควิซีน อันปลั๊ก โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ชวนคุณและครอบครัวหรือเพื่อนสนิทมาร่วมกันร่ายมนต์กำจัดปราบเหล่าผีร้ายในคืนฮาโลวีน ศุกร์ที่ 31 ต.ค. นี้ เพลิดเพลินไปกับบุฟเฟต์ฮาโลวีนมื้อค่ำสไตล์ “เอเชี่ยนบาร์ บี คิว (Asian BBQ)” ตั้งแต่เวลา 18.30 - 22.30 น. อิ่มอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารจานร้อนและมุมอาหารทะเล สดๆ ตัวโตๆ ทั้ง กุ้ง กั้ง ปลาหมึก เนื้อหมูหมักซอส มาเลือกทำเป็นเมนูปิ่งย่างบาร์ บี คิว คู่กับซอสน้ำจิ้มรสเด็ด อีกทั้งยังมีมุมอาหารญี่ปุ่น ทั้งข้าวปั้น ปลาดิบ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาบะ หรือจะเป็นมุมพิซซ่า มุมชีสกับสลัดเพื่อสุขภาพเป็นต้น ปิดท้ายความอร่อยด้วยนานาขนมหวานและไอศกรีม อาทิ ขนมมาการอง คุกกี้ ชีสเค้ก ท่ามกลางบรรยากาศตกแต่งต้อนรับวันคืนปล่อยผีหรรษาฮาโลวีน ราคา 1,430 บาท/คน ส่วนลด 30% สำหรับสมาชิกคิง เพาเวอร์ โทร. 0-2680-9999 โรงแรมแกรนด์ มิลเลนเนียม สุขุมวิท มาฉลองต้อนรับเทศกาลสุดหลอน “ฮาโลวีน” ด้วยอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ทุกห้องอาหารและบาร์พร้อมให้บริกาสารพัดเมนูหลอนสุดระทึก ในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค. นี้ ที่ห้องอาหารอเทลิเย่ เชิญชิมอาหารนานาชาติที่เพิ่มเมนูสร้างสีสันรับวันหลอน อาทิ พาสต้าดำราดซอสดวงตาอิกัวน่า, มิดไนท์เบอร์เกอร์, พิซซ่าฮาโลวีน, เค้กโอเปร่าแม่มด, ชีสเค้กแจ็ค โอ เลนเทิร์น, พายฟักทองแจ๊ค และไอศกรีม หลากหลายความอร่อยในบรรยกาศหลอน บุฟเฟต์ ราคา 1,500 บาท++/ คน ตั้งแต่ 18.30 - 22.30 น. โทร. 0-2204-4161 และที่ทาปาส อี วีโน่ ชวนมาอร่อยกับ “วีว่า ลา โนเช่” เสิร์ฟไม่อั้นทั้งทาปาสและไวน์ ราคา 1,200 บาท++/คน หรือจะเต็มอิ่มกับรสชาติอาหารและเครื่องดื่มแบบอารมณ์หลอน เชฟจวน ทันย่า ดอท ก็ตระเตรียม แบล็คซีฟู้ดปาเอย่า หรือ ข้าวผัดสเปนรวมมิตรทะเลหมึกดำ เสิร์ฟพร้อมบลัดดี้แซงเกรีย เฉพาะค่ำคืนผีๆ ราคา 1,600 บาท++/ชุด เวลา 18.30 - 23.00 น. โทร. 0-2204-4158 ร้าน CLOUD47 รูฟท็อปบาร์แอนด์บิสโทรใจกลางกรุงเทพฯ ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน จัดงาน “Halloween Party The Ghost Moon” (ฮาโลวีน ปาร์ตี้ เดอะ โกสต์ มูน) ปลุกวิญญาณเหล่าภูตผีปีศาจให้ออกอาละวาดบนก้อนเมฆในค่ำคืนสุดหลอน พร้อมลุ้นรับของรางวัลจากการประชันการแต่งกายตามจินตนาการที่สยองขวัญที่สุดภายในงาน บัตรผ่านประตูราคา 900 บาท รับเครื่องดื่มฟรีตลอดคืน ในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค. นี้ เวลา 18.00 - 01.00 น. ณ ร้าน CLOUD47 ชั้น 47 ตึกยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ ถ.สีลม โทร. 09-1889-9600 ห้องอาหารซีซั่นนอล เทสท์ส โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ต้อนรับเทศการฮาโลวีน ในวันศุกร์ที่ 31 ต.ค. นี้ เสนอโปรโมชั่น “มา 4 จ่าย 2 ฮาโลวีนบุฟเฟต์สุดหรรษา” ให้คุณและครอบครัวได้อิ่มอร่อยกับสารพันอาหารนานาชาติหลากชนิด ในบรรยากาศสยองขวัญและหรรษากับการละเล่นสำหรับเด็กมากมาย ดังนี้ บุฟเฟต์ฮาโลวีนมื้อค่ำสุดสัปดาห์ ในคืนวันศุกร์ที่ 31 ต.ค. นี้ เต็มอิ่มกับบุฟเฟต์มื้อค่ำสไตล์ซีฟู้ด แอนด์ กริลล์ อาทิ ตับห่าน ร็อคล็อบสเตอร์ ปลาหิมะ ปลาแซลมอน เนื้อเทนเดอร์ลอยด์ออสเตรเลีย ขาแกะนิวซีแลนด์ หอยนางรมสด ขาปูอลาสก้า ไอศกรีมโมเวนพิคหลากรส และสารพันของหวาน ที่มาพร้อมกับลูกเล่นฮาโลวีน สีส้ม-ดำ ลิ้มลองเมนูพิเศษเฉพาะเทศกาลเสิร์ฟโดยพนักงานอารมณ์ดี ในบรรยากาศดนตรีสุดล้ำทั้งค่ำคืน และบุฟเฟต์ฮาโลวีนครอบครัวสุขสันต์มื้อเที่ยง ในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. นี้ ที่ถูกรังสรรค์จากแรงบันดาลใจในเทศกาลฮาโลวีน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความอร่อยให้กับหนูๆ ทั้ง พายฟักทอง แคสเปอร์คัพเค้ก ป๊อปคอร์นสีส้ม ไอศกรีมสีดำ และเครื่องดื่มฮาโลวีน จาก บีทเทิ่ล จุ๊ย บาร์ คละเคล้าเสียงเพลงฟังสบายและสีสันจากลูกโป่งมากมาย อีกทั้งหนูๆ จะได้สนุกสนานไปกับการประกวด “ชุดแต่งกายฮาโลวีน” และกิจกรรม “ทริค-ออร์-ทรีทต์” ตกแต่งคัพเค้กสุดเก๋ในสไตล์ของคุณหนู ที่มุม เวสทิน จูเนียร์ เชฟ เลือกบุฟเฟต์ฮาโลวีนมื้อที่ตรงใจคุณและมาร่วมฉลอง ผู้ใหญ่ ราคร 2,290 บาทถ้วน/คน พิเศษเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. เด็กกินฟรี 2 คน เมื่อมากับผู้ใหญ่ 1 คน( อายุระหว่าง 3-10 ปี ) สมัครสมาชิก สตาร์วู้ด พรีเฟอร์ เกสต์ (Starwood Preferred Guest®) ฟรี เพื่อรับสิทธิ “มา 4 จ่าย 2” โทร. 0-2207-8000 คาเฟ่ แคนทารี จัดโปรโมชั่นพิเศษฉลองเทศกาลฮาโลวีนปีนี้ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ต.ค. นี้ และหากใครแต่งแฟนซีแนวผีมาแบบจัดเต็มและโดนใจมากที่สุดในวันที่ 31 ต.ค. ได้สิทธิ์ซื้อเบเกอรี่ หรือเครื่องดื่มลดราคาถึง 50% มาร่วมสนุกกับเหล่าผี ค้างคาว มัมมี่ และแม่มด ที่จะมาร่วมสร้างสีสันได้ที่คาเฟ่ แคนทารี สาขาอยุธยา, ระยอง, เขาหลัก, ศรีราชา และเชียงใหม่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cafekantary.com        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *   Create Date : 29 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 29 ตุลาคม 2557 8:16:17 น.     Counter : 11203 Pageviews.   Share Tweet

ของกินพื้นถิ่น อร่อยลิ้นแบบพื้นบ้าน ที่ “ชุมชนเกาะกลาง” ข้าวสังข์หยด และกับข้าวพื้นบ้าน        การท่องเที่ยวชุมชน หากจะไปให้ได้บรรยากาศและได้สัมผัสกับวิถีชาวบ้านจริงๆ นอกจากจะต้องมานอนโฮมสเตย์ของชาวบ้านแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดก็คือ การมาลองชิมอาหารพื้นบ้านแบบที่ชาวบ้านทำกินกันในชีวิตประจำวัน        อย่างที่ “ชุมชนเกาะกลาง” จ.กระบี่ เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีความโดดเด่น เพราะความมีเอกลักษณ์ของวิถีชาวมุสลิมและวิถีชาวประมง ซึ่งหากมาเที่ยวที่นี่ก็จะได้ชิมอาหารท้องถิ่นที่ผสมผสานระหว่างอาหารมุสลิม อาหารใต้ และวัตถุดิบที่มาจากทะเล ยำสาย (สาหร่ายเขากวาง)        อาหารอีกอย่างที่มีชื่อเสียงอย่างมากบนเกาะกลางก็คือ “ข้าวสังข์หยด” ซึ่งข้าวสังข์หยดของที่นี่มีความหอม นุ่ม และรสชาติดีกว่าข้าวสังข์หยดที่อื่นๆ เพราะพื้นที่ที่ใช้ปลูกข้าวมีน้ำเค็มเข้ามาเจือปน ตัวเมล็ดข้าวสังข์หยดจะเรียวเล็ก หากเก็บมาใหม่ๆ แล้วนำมาหุง จะมีกลิ่นคล้ายๆ ข้าวเม่า        ส่วนกับข้าวพื้นบ้านบนเกาะกลาง ส่วนใหญ่มักจะใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในชุมชน เช่น กุ้งหอยปูปลา หรือผักพื้นบ้านชนิดต่างๆ อย่างเช่น “ยำสาย” หรือ “ยำสาหร่ายเขากวาง” ที่จะใช้สาหร่ายเขากวางนำมายำกับเนื้อปลา รสชาติจะหอมๆ เผ็ดๆ เคี้ยวสาหร่ายกรึบๆ เพลินดี กับข้าวพื้นบ้านที่ได้ชิงเมื่อนอนโฮมสเตย์        สำหรับคนที่มานอนพักโฮมสเตย์บนเกาะกลาง เจ้าของบ้านก็จะทำเมนูอาหารแบบพื้นบ้านให้ได้ชิมกันในมื้อเย็น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารประเภทปลา ทั้งปลาทอด ปลาย่าง ปลาแดดเดียว แกงส้มมะละกอ ผัดผักใส่กุ้ง ซึ่งอาหารแต่ละจานก็รสชาติถูกปากดีมากๆ หอยหวานต้มตะไคร้        ส่วนอาหารทะเลที่นิยมกันมาส่วนใหญ่จะเป็นเมนูหอย ทั้งหอยชักตีน หอยราก หอยจุ๊บแจง หรือจะเป็นเมนู “หอยหวานต้มตะไคร้” ที่ใช้หอยหวานสดๆ ที่หามาได้จากบนเกาะ นำมาล้างทำความสะอาด ก่อนจะต้มในน้ำเดือด ทุบตะไคร้ใส่ลงไป ปรุงรสเพิ่มนิดหน่อย ก็จะได้เมนูนี้ออกมา รสชาติน้ำต้มตำไคร้จะหอมมากๆ ออกรสหวานนิดๆ เนื้อหอยหวานสดอร่อยมาก ร้านโรตีบนเกาะกลาง ที่สังสรรค์ยามค่ำคืน        ในยามค่ำคืน หลังจากกินอาหารเย็นและเสร็จจากการละหมาดในช่วงค่ำแล้ว ชาวบ้านบางคนที่อยากออกมาสังสรรค์กับเพื่อนบ้าน ก็จะนิยมมากันที่ร้านโรตี ที่เปิดขายกันอยู่หน้าบ้านเจ้าของร้าน ซึ่งก็จะขายโรตีทั่วไป มีทั้งโรตีธรรมดาแบบกรอบ โรตีใส่ไข่ โรตีกล้วย แล้วยังมีขนมปังปิ้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปร้อนๆ ให้อิ่มกันในยามค่ำคืน โรตีแบบกรอบ        ที่ชุมชนเกาะกลาง ถือว่าเป็นอีกแห่งที่มีของกินอร่อยๆ แบบพื้นบ้านอยู่หลากหลายเมนู หากใครอยากมาลองลิ้มรสชาติอาหาร ก็ต้องมาสัมผัสกับวิถีชุมชนของที่นี่ด้วย จะได้ซึมซับถึงความสุขบนวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบชาวเกาะกลาง (คลิก!! อ่านเรื่องเที่ยวบนเกาะกลาง)        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * //manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000123546   Create Date : 28 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 28 ตุลาคม 2557 8:11:57 น.     Counter : 1748 Pageviews.   Share Tweet

“หยูง้วน (เล่าหยู)” ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเนื้อนุ่ม เคี้ยวเด้ง โดนใจ ที่นั่งภายในร้าน        ถึงแม้ว่าบ้านเราจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ให้ไปลองมากมาย แบบที่ว่ากินยังไงก็คงไม่มีวันครบ แต่ “ผ่านมาแวะกิน” ก็ยังไม่เบื่อที่จะมาลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ อยู่เสมอ        อย่างที่ร้านนี้ “หยูง้วน (เล่าหยู)” ก็เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ซอยเซนต์หลุยส์ 3 ย่ารวมของอร่อยอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ        อย่างที่บอกว่าร้านนี้เขาเปิดขายมานานแล้ว ปัจจุบันมี คุณสิทธิชัย ทองจันทรา เป็นเจ้าของร้าน โดยเน้นขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ทีเด็ดอยู่ที่ลูกชิ้นปลาจะทำเองสดๆ ใหม่ๆ ทุกวัน ซึ่งใช้ส่วนผสมจากปลา 3 อย่าง คือ ปลาดาบ ปลาอินทรี และปลาหางเหลือง        เมนูแรกที่เราลองชิมก็คือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ซึ่งที่ร้านจะมีให้เลือกเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เส้นหมี่ และวุ้นเส้น ใส่ลูกชิ้นที่ทางร้านทำเองทั้งลูปชิ้นปลากลม ฮือก้วย ลูกชิ้นปลารักบี้ และลูกชิ้นกุ้ง ใส่มาในน้ำซุปกระดูกหมูที่ต้มเคี่ยวรวมกับกระดูกปลาจนได้ที่ ในก๋วยเตี๋ยวต้มยำจะปรุงรสใส่มะนาว พริกป่น ถั่วป่น และมีเนื้อหมูต้มหั่นเป็นชิ้นใส่ลงมาให้ด้วย รสชาติน้ำซุปต้มยำเข้มข้น หอมกลิ่นมะนาว พริก และถั่ว ลูกชิ้นปลาเคี้ยวเด้งอร่อย บะหมี่แห้ง        อีกเมนูเปลี่ยนมาชิม บะหมี่แห้ง (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่ใช้เส้นบะหมี่เหลืองและถั่วงอกมาลวกให้พอสุก ใส่ลูกชิ้นทุกอย่าง ใส่เนื้อหมูลวกหั่นเป็นชิ้น คลุกเคล้าเข้ากับกระเทียมเจียวให้ได้กลิ่นหอม รองด้านล่างด้วยผักกาดหอมเล็กน้อย คลุกเคล้าบะหมี่ให้เข้ากันแล้วลองชิมรสชาติก็อร่อยกลมกล่อมดีอยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบแบบมีรสชาติก็ปรุงเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็ได้ลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวแห้งอร่อยๆ เข้ากันกับลูกชิ้นเคี้ยวเด้งโดนใจ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ        ส่วนเมนู ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) จานนี้ก็ใส่ลูกชิ้นมาแบบครบเครื่องเช่นกัน แถมยังมีหมึกกรอบเป็นชิ้นให้เคี้ยวกรึบ ส่วนซอสเย็นตาโฟก็เลือกสรรมาเป็นอย่างดี รสชาติกลมกล่อมอร่อยครบรส เมื่อมารวมกับน้ำซุปหอมหวานแล้วก็ได้ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟรสดีถูกปาก        แต่ใครที่ชอบกินลูกชิ้นมากๆ ขอแนะนำให้สั่ง ลูกชิ้นปลาลวก - ลูกชิ้นกุ้งลวก (เริ่มที่ 40 บาท) มาลองชิม เพราะลูกชิ้นของที่นี่จะทำเอง อย่างลูกชิ้นปลากลม ก็จะใช้เนื้อปลาดาบ ปลาอินทรี และปลาหางเหลืองมาผสมกัน แล้วปรุงรสตามสูตรของทางร้าน ส่วนลูกชิ้นกุ้งก็จะใช้เนื้อกุ้งทะเลและกุ้งขาวมาผสมกันแล้วนวดปรุงรส ลูกชิ้นปลาลวก        ส่วนลูกชิ้นปลารักบี้ จะใช้เนื้อปลาดาบ ปลาอินทรี และปลาหางเหลือง มาผสมกับเนื้อหมู นวดแล้วปรุงรส และยังมี ฮือก้วย ที่ใช้เนื้อปลาดาบและปลาอินทรีย์นวดปรุงรส แล้วปั้นเป็นเส้นๆ นำมาต้ม แล้วทอดอีกครั้ง ซึ่งลูกชิ้นของที่นี่แต่ละอย่างจะเคี้ยวเด้งถูกปาก กินอร่อยแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเพิ่มเลย        เมนูอื่นๆ ของร้านก็ยังมีให้เลือกชิมอีกหลายอย่าง อาทิ ข้าวหน้าไก่ (50 บาท) บะหมี่ไก่เทอริยากิ (50 บาท) หรือจะเป็นของว่างกินเล่น เกี๊ยวกุ้งทอด (30 บาท) หนังปลาทอด (30 บาท) เป็นต้น        ใครที่อยากมาลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอร่อยๆ ที่ลูกชิ้นเคี้ยวเด้งไม่คาวแบบนี้ ต้องมากันที่ร้าน “หยูง้วน (เล่าหยู)” ลูกชิ้นกุ้งลวก        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ร้าน “หยูง้วน (เล่าหยู)” ตั้งอยู่ที่ 314-316 ซอยจันทน์ 18/7 (เซนต์หลุยส์ 3) แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. การเดินทางจากถนนสาทร เลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 ตรงมาเรื่อยๆ จนเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง จะถึงซอยจันทน์ 18/7 จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน ก่อนถึงศาลเจ้าปึงเถ่ากง-ม่า ร้านเปิดทุกวัน (หยุดวันพุธปลายเดือน เดือนละ 1 วัน) เวลา 09.00-22.00 น. โทร. 0-2286-0004, 08-1933-2632        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * //manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000122178   Create Date : 26 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 26 ตุลาคม 2557 14:01:08 น.     Counter : 2741 Pageviews.   Share Tweet

“Korean 92 Club” บุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลี อร่อยจัดเต็มแบบพรีเมี่ยม บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน “Korean 92 Club”        สำหรับ “ตระเวนกิน” แล้ว หากนึกจะออกนอกบ้านไปกินอาหารสักมื้อ ไม่ใช่แค่คิดว่าอยากจะกินอาหารอะไรแล้วจบ แต่เรายังมักนึกถึงไปด้วยว่าจะต้องได้อิ่มคุ้มค่ากับอาหารในมื้อนั้นที่ได้เสียสตางค์ไปกินด้วย เรียกว่า นอกจากอาหารจะต้องมีรสชาติที่ถูกปากแล้ว หากได้กินอาหารแบบอิ่มจุใจให้สมกับสตางค์ที่จ่ายไปในมื้อนั้นๆ ด้วย ก็ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ กันไปเลย        ที่พูดถึงแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะอะไร เพียงแค่อยากจะบอกแฟนๆ นักกินทุกคนว่า หากใครมีความคิดเห็นคล้าย “ตระเวนกิน”แล้วล่ะก็ มื้อนี้เรามีร้านอาหารที่ชวนอิ่มอร่อยแบบคุ้มค่ามานำเสนอ ร้านที่ว่านี้ก็คือ “Korean 92 Club” เป็นร้านอาหารเกาหลีน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน ตั้งอยู่ที่ The Crystal PTT (เดอะ คริสตัล พีทีที) ถ.ชัยพฤกษ์ ที่หากว่าใครชื่นชอบอาหารเกาหลีแบบปิ้งๆ ย่างๆ แนะนำเลยว่ามาที่นี่แล้วไม่ผิดหวัง มุมโต๊ะนั่งสบายๆ ในร้าน        เพราะว่า “Korean 92 Club” อ่านออกเสียงว่า โคเรียน- คุย- คลับ 92 ในภาษาเกาหลี อ่านว่า คุย แปลเป็นไทยว่า ปิ้งย่าง และที่นี่นำเสนออาหาร Korean bbq & tapas (โคเรียนบาร์บีคิว และ ทาปาส) คือเป็นร้านอาหารเกาหลีประเภทปิ้งๆ ย่างๆ ส่วนทาปาส ของที่ร้านนี้ก็หมายถึง อาหารว่างจานเล็กๆ รสอร่อย หลากหลายชนิดที่เชฟเกาหลีนำมาเสนอให้ได้ลิ้มลอง และที่สำคัญปิ้งย่างของที่นี่เป็นแบบบุฟเฟต์ ให้ได้อิ่มจุใจแบบไม่อั้นกันไปเลย คุ้มค่ากับราคาเป็นอย่างยิ่ง        อีกทั้งในเรื่องของเมนูปิ้งย่างที่นำมาเสนอนั้นต้องบอกว่าเป็นแบบพรีเมี่ยม เพราะว่าทางร้านได้คัดสรรเนื้อต่างๆ รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะให้เลือกนำมาปิ้งย่างมาเป็นอย่างดี เน้นวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม รวมถึงยังมีเมนูอาหารเกาหลีอันหลากหลายให้ได้ชิมกันด้วย ให้สมกับที่เป็นเครือของร้านอาหารเกาหลีชื่อดังที่มีชื่อว่า “Korean Spoon” ซึ่งคงคอนเซ็ปต์เดียวกันที่ว่าเป็นอาหารเกาหลีขนานแท้แบบต้นตำรับ โดยมีสาวเกาหลี คือ คุณอิง Jae Young Byun (เจ ยอง เบียน) เป็นเจ้าของร้านและยังเป็นเชฟเองด้วย ซึ่งเป็นเชฟที่ได้รับใบรับรองการทำอาหารจากรัฐบาลเกาหลี ทำให้เชื่อมั่นได้เลยว่าที่นี่นำเสนออาหารเกาหลีแบบต้นตำรับจริงๆ เต็มอิ่มกับปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่ร้าน “Korean 92 Club”        สำหรับบุฟเฟต์ปิ้งย่างและอาหารเกาหลีของที่ร้านนี้กันดีกว่า บุฟเฟต์ของที่นี่มี 2 ราคา คือ 499 บาทถ้วนต่อคน และ 399 บาทถ้วนต่อคน (จะไม่มีเนื้อวัวและซีฟูด นอกนั้นมีเหมือนกันหมด) ซึ่งความพิเศษของปิ้งย่างสไตล์เกาหลีของที่นี่ก็คือ นอกจากจะได้เต็มอิ่มกับปิ้งย่างแบบจุใจแล้ว ก็ยังมีอาหารเกาหลีมากหลายเมนูให้ได้เลือกอิ่มอร่อยรวมอยู่ในบุฟเฟต์ด้วย ซึ่งเราสามารถกินได้แบบไม่อั้นกับอาหารมากมายได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง        ในมื้อนี้เราขอนำเสนอบุฟเฟต์แบบราคา 499 บาทถ้วนต่อคน ที่ขอบอกว่าอิ่มคุ้มค่าสมราคาที่จ่ายไปจริงๆ เพราะว่าราคานี้จะมีเมนูเนื้อสัตว์ต่างๆ มากมายมาให้เลือกปิ้งย่าง รวมถึงยังมีอาหารเกาหลีหลายเมนูให้เลือกสั่งมากินได้อีกด้วย และยังรวมเครื่องดื่มแล้วอีกด้วย สารพัดเนื้อรวมที่มีให้เลือกสั่ง        เอาล่ะตามมาชิมบุฟเฟต์ปิ้งย่าง และอาหารเกาหลีของที่นี่กันดีกว่าว่าจะมีเมนูอะไรให้เลือกสั่งมากินกันบ้าง ขอเริ่มจากเมนูเนื้อวัวกันก่อนเลย ที่นี่มีเนื้อวัวที่คัดสรรมาอย่างดี เน้นเนื้อเกรดพรีเมี่ยม มีหลายอย่างให้เลือกสั่งมากินตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อลูกมะพร้าวพริกไทยดำ, เนื้อเสือร้องไห้พริกไทยดำ, เนื้อลูกมะพร้าวโคเรียนสปูน, ไอกูร์เลทโกชูจัง (เป็นเนื้อส่วนท้อง) , เนื้อใบพายโกชุจัง, เนื้อไอกูร์เลทซีอิ้ว, เนื้อเสือร้องไห้ซีอิ้ว และเนื้อใบพายซีอิ้ว        ซึ่งเนื้อวัวของที่นี่เมื่อนำมาย่างบนเตาถ่านร้อนๆ จนสุกได้ที่ แล้วก็นำมาจิ้มกับน้ำจิ้มที่ทางร้านมีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ มีน้ำจิ้มเนื้อ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวสไตล์เกาหลี และน้ำจิ้มซีฟูด ที่เมื่อนำเนื้อมาจิ้มกับน้ำจิ้มแต่ละอย่างตามแต่จะชอบ กินแล้วเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก และเนื้อแต่ละอย่างที่มีหมักและราดด้วยซอสพิเศษต่างๆ ก็มีรสชาติที่ถูกลิ้น ยิ่งจิ้มน้ำจิ้มรสดี ก็ช่วยส่งให้มีรสชาติที่อร่อยถูกปากมากยิ่งขึ้น นานาเนื้อหมูที่มีให้เลือกนำมาปิ้งย่าง        จากเนื้อวัว มาชิมเนื้อหมูกันบ้าง ก็มีเนื้อหมูหลายอย่างให้เลือกเช่นกัน มีเบคอนไวน์, เบคอนโกชูจัง, เบคอนซีอิ้ว, คอหมูเต้าเจี้ยว, สันคอโกชูจัง, สันคอซีอิ้ว, สันคอเกลือ, สันนอกพริกไทยดำ แล้วก็ยังมีเนื้อไก่โกชูจัง, ไก่พริกไทยดำ ที่ทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่เคี้ยวนุ่มถูกปาก รสชาติดีไม่แพ้กัน แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน สามารถเลือกสั่งมากินกันได้แบบไม่อั้นเลย กุ้งแม่น้ำ, หมึกหอมโกชูจัง, ปลาดอรี่โกชูจัง        และยังมีซีฟูดให้เลือกสั่งมาปิ้งย่างด้วย มีกุ้งแม่น้ำ, หมึกหอมโกชูจัง และปลาดอรี่โกชูจัง ซึ่งซีฟูดของที่นี่มีความสดจริง ทั้งกุ้ง หมึก และปลามาแบบชิ้นใหญ่ กินได้แบบเต็มปากเต็มคำ สลัดสไตล์เกาหลีก็มีให้เลือกชิม        นั่นคือของปิ้งย่างที่มีให้เลือกสั่งมาปิ้งตามใจชอบ แต่อย่างที่บอกว่าในรายการบุฟเฟต์นั้นมีเมนูอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งรวมถึงยังมี สลัดซอสพริกหวานเกาหลี, สลัดซอสงาดำ และสลัดผักกาดหอม มาให้กินแกล้มกับเมนูปิ้งย่าง เมนูกับข้าวสไตล์เกาหลีหลากหลายอย่าง        แล้วก็ยังไม่หมด ยังมีอาหารสไตล์เกาหลีอื่นๆ อีกเพียบ ให้เลือกสั่งมากินกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวยำเกาหลี, ข้าวผัดกิมจิ, ซุปกิมจิ, ซุปเต้าหู้ซีฟูด ไข่ตุ่น (บน) พิซซ่ากิมจิ และพิซซ่าต้นหอมซีฟู้ด (ล่าง)        ไข่ตุ๋น, เกี๊ยวซ่าเกาหลีทอด, พิซซ่ากิมจิ และ พิซซ่าต้นหอมซีฟู้ด ที่ปรุงตามสูตรต้นตำรับเกาหลีแท้ๆ รสชาติถูกปากทุกอย่างเลย เครื่องเคียงสไตล์เกาหลีมากมายที่มีให้เลือก        รวมไปถึงถ้ากินอาหารเกาหลีแล้วก็ต้องมีเครื่องเคียงต่างๆ สไตล์เกาหลีให้ได้เลือกสั่งมากินกันด้วย ซึ่งมีอยู่ 10 อย่างด้วยกัน สามารถเลือกสั่งอย่างที่ชอบมากินได้กันได้ตามใจ มียำถั่วงอก, ยำผักโขม, กิมจิ, ยำมะละกอ, ถั่วลิสงต้มซีอิ้ว, ไข่ต้มซีอิ้ว, พริกขี้หนูดอง, พริกดอง, มันฝรั่ง และฟักทองมายองเนส อร่อยกับปิ้งย่างร้อนๆ สไตล์เกาหลี        และก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าบุฟเฟต์ของที่นี่ยังรวมเครื่องดื่มไว้แล้ว ซึ่งมีเครื่องดื่มให้เลือกคือ มีชามะนาว, ชาจีน น้ำเปล่า แล้วก็ยังมีไอศกรีมรสวนิลา และรสชาเขียวให้ได้กินล้างปากกันอีกด้วย        เรียกว่าหากใครชื่นชอบความอิ่มอร่อยแบบคุ้มค่า และพิสมัยการกินบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ที่รวมถึงยังมีอาหารเกาหลีให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกันด้วย ต้องบอกเลยว่าพากันมาที่ร้าน “Korean 92 Club” แห่งนี้ แล้วคุ้มยิ่งหว่าคุ้มจริงๆ ถ้าไม่เชื่อก็ต้องลองมาพิสูจน์กันด้วยตัวเองนะจ๊ะ * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * “Korean 92 Club” (โคเรียน คุย คลับ) ตั้งอยู่ The Crystal PTT (เดอะ คริสตัล พีทีที) ถ.ชัยพฤกษ์ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี การเดินทางจากถ.แจ้งวัฒนะ ข้ามสะพานพระราม 4 มาที่ถ.ชัยพฤกษ์ ลงจากสะพานมาให้ชิดซ้ายไว้ แล้วตรงมาก็จะเห็นเดอะ คริสตัล พีทีที อยู่ซ้ายมือติดริมถนน และร้านโคเรียน 92 คลับ จะตั้งอยู่ด้านในที่ชั้น 2 มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30 - 22.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 11.00 - 22.00 น. โทร. 0-2023-2758 *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *   Create Date : 23 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 23 ตุลาคม 2557 12:22:33 น.     Counter : 3878 Pageviews.   Share Tweet

“น้ำพริกซอกไข่” น้ำพริกทำง่ายแต่อร่อยเด็ด ที่บ้านนาต้นจั่น        สุโขทัย เมืองมรดกโลกที่นอกจากจะมีแหล่งมรดกโลกอย่าง“อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” และ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” แล้ว เมืองนี้ยังมีวัดวาอาราม แหล่งท่องเที่ยวประเภทศิลปวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกหลากหลาย รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวประเภทวิถีชีวิต วีถีชุมชน อันโดดเด่นอีกจำนวนหนึ่ง โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “บ้านนาต้นจั่น” ต.บ้านตึก อ.ศรีสัชนาลัย ที่มีดีกรีได้รับรางวัลใหญ่ทางการท่องเที่ยวมาแล้วหลากหลาย ที่เด่นๆก็มี รางวัล PATA GOLD AWARDS 2012 ประเภท Heritage and culture จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และรางวัลยอดเยี่ยม Tourism Award 2013 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)        บ้านนาต้นจั่น มีกิจกรรมท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชุมชนอันโดดเด่นได้แก่ โฮมสเตย์ เรียนรู้การทำผ้าหมักโคลน ผาทอพื้นบ้านที่มีให้ชมตามใต้ถุนบ้านหลายหลัง ตุ๊กตาบาร์โหนศิลปะของเล่นจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน การปั่นจักรยานสัมผัสวิถีชุมชน และล่าสุดทางชุมชนบ้านนาต้นจั่นเพิ่งเปิดจุดชมทะเลหมอกอันสวยงามประจำหมู่บ้านให้ผู้สนใจได้ไปเที่ยวชมกันในช่วงหน้าหนาวนี้        ที่บ้านนาต้นจั่นยังมีผลไม้ตามฤดูกาลให้เลือกกิน อาทิ ลางสาด ลองกอง มะละกอ ข้าวโพด และเมนูพื้นบ้านชื่อดังที่อยู่คู่ชุมชนมาบ้านานคือ “ข้าวเปิ๊บ” โดยเฉพาะ“ร้านข้าวเปิ๊บยายเครื่อง” ที่เป็นร้านรับแขกประจำชุมชน นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูพื้นบ้านที่น่าสนใจอีกหลากหลาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือ “น้ำพริกซอกไข่”        น้ำพริกซอกไข่ เป็นเมนูภูมิปัญญาพื้นบ้านของบ้านนาต้นจั่น ซึ่งคำว่า “ซอก” เป็นภาษาของชาวบ้านนาต้นจั่น หมายถึง “การตำเบาๆ” โดยน้ำพริกซอกไข่นั้นมีวิธีการทำคือ เริ่มจากการตำพริกแห้ง กระเทียม ให้ได้ที่ เน้นใส่กระเทียมเยอะๆ และตำให้ละเอียดแล้วปรุงรสด้วย น้ำปลา มะนาว จากนั้นใส่ไข่ต้มที่ฝานผ่าซีกลงไป และตำเบาๆหรือคนให้น้ำพริกพอซึมเข้าเนื้อไข่ก็เป็นอันเสร็จพิธี ยกเสิร์ฟได้ โดยน้ำพริกซอกไข่มีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนำ ตามธรรมชาติของวัตถุดิบ ที่จะกินกับผักต้มหรือผักจิ้มสดๆที่หมู่บ้านนี้มีผักปลอดสารพิษให้เลือกอยู่หลากหลาย หรือจะคลุกข้าวสวยร้อนๆก็อร่อยเด็ดนักแล        อย่างไรก็ดีแม้เมนูนี้จะดูเหมือนทำง่ายๆ แต่ก็ต้องอาศัยฝีมือประสบการณ์ในการซอกไข่ไม่ให้แหลกเละ และสูตรผสมที่ลงตัว ซึ่งก็จะให้รสชาติที่อร๊อย อร่อย        * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *   Create Date : 22 ตุลาคม 2557     0 comment Last Update : 22 ตุลาคม 2557 8:35:26 น.     Counter : 1888 Pageviews.   Share Tweet