เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

Honda Civic Hatchback Concept เตรียมตัวรวมใจเป็นหนึ่ง



Honda Civic Hatchback Concept เตรียมตัวรวมใจเป็นหนึ่ง อย่างที่ทราบกันดีว่า Honda จะมีการแบ่งตัวถังของ Civic ออกเป็นเวอร์ชันสำหรับขายตามแต่ละภูมิภาคต่างๆ แต่ดูเหมือนว่าแนวคิดนี้จะไม่เหมาะกับการทำตลาดรถยนต์ในยุคนี้ และมีแนวโน้มว่า Civic ทุกตัวถังจะถูกพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่มีการแบ่งแยกโซนพื้นที่การทำตลาดกันอีกแล้ว

หลักฐานยืนยันเรื่องนี้คือ การเปิดตัว Civic Hatchback Concept ออกมา โดยอ้างอิงรูปลักษณ์และพื้นฐานมาจากเวอร์ชันอเมริกาที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อไม่นานนี้ ทั้งที่ผ่านมา Civic เวอร์ชันยุโรป จะถูกพัฒนาแยกออกมาต่างหาก และไม่ใช้รูปลักษณ์ร่วมกับใครเลย

Honda Civic Hatchback Concept เตรียมตัวรวมใจเป็นหนึ่ง


Honda Civic Hatchback Concept เตรียมตัวรวมใจเป็นหนึ่ง
ตรงนี้ทำให้เกิดคำถามว่า สุดท้ายแล้ว Civic ที่เคยมี 2-3 เวอร์ชัน กำลังจะเหลือเพียงแค่เวอร์ชันเดียว แต่หลายตัวถังเพื่อแยกความชัดเจนในการทำตลาดใช่หรือไม่? ซึ่งถ้ายืนยันตามภาพนี้ คำตอบคือ ใช่

สำหรับตัวต้นแบบคันนี้จะมากับตัวถังที่ยาวขึ้นและกว้างขึ้นจากรุ่นเดิม 130 และ 30 มิลลิเมตร ขณะที่ความสูงของตัวรถลดลงอีก 20 มิลลิเมตร ที่สำคัญมาพร้อมกับหน้าตาที่ล้ำสมัยเหมือนกับ Civic ซีดาน และคูเป้ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้

Honda Civic Hatchback Concept เตรียมตัวรวมใจเป็นหนึ่ง
ทางด้านเครื่องยนต์ที่จะมีให้ในกรณีที่วางขายจริง คือ เบนซิน 1,000 ซีซี VTEC Turbo เช่นเดียวกับ 1,500 ซีซี ขณะที่รุ่นเทอร์โบดีเซลเป็นรหัส i-DTEC ที่มีความจุ 1,600 ซีซี

คันจริงมาให้เห็นถึงขนาดนี้แล้ว คาดว่าคงอีกไม่นานน่าจะเริ่มขายในตลาด และคงเน้นไปที่ยุโรปเป็นหลักเหมือนเดิม

Honda Civic Hatchback Concept เตรียมตัวรวมใจเป็นหนึ่ง

//manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9590000028472




 

Create Date : 05 เมษายน 2559   
Last Update : 5 เมษายน 2559 21:55:00 น.   
Counter : 3610 Pageviews.  

"อี-คลาส โฉมใหม่" ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ



อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส (W213) ถือเป็นดาวเด่นรุ่นหนึ่ง ในงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล” มอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้น ณ ขณะนี้ ทั้งความสด ใหม่ รูปลักษณ์ที่สวยสะดุดตาในทุกรายละเอียดแล้ว ยังเพียบพร้อมด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีมากมาย และถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทยโดยใช้เวที มอเตอร์โชว์ อวดโฉมและให้ลูกค้าสัมผัสตัวเป็น ๆ

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
แต่ก่อนที่จะมาเมืองไทย อี-คลาส ใหม่รุ่นนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2016 โดยในช่วงแรกการทำตลาดของเครื่องยนต์ยังไม่เยอะเท่าไร แต่สำหรับเมืองไทยเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะนำเข้ามาจำหน่ายก่อน 2 รุ่น คือ อี 220 d Exclusive และ อี 220 d AMG Dynamic ส่วนรุ่นประกอบภายในประเทศคงต้องรออีกสักพัก คาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ อาจได้เห็นกัน

แน่นอนเมื่อ อี-คลาส เป็นโมเดล ใหม่ สด ซิง ขนาดนี้ ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงได้เชื้อเชิญสื่อมวลชนจากไทยกว่า 10 ชีวิต บินไปทดสอบรถถึงประเทศโปรตุเกสกันเลยทีเดียว แม้ว่าที่โน้นจะมีรถให้เลือกหลายรุ่นในการลองขับ แต่ผู้เขียนเลือกรุ่น อี220 d ในการทดสอบ เพราะเป็นรุ่นที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รถที่ขับในต่างประเทศกับที่ขายในเมืองไทย จะมีสเป็กที่แตกต่างกันเพราะบางเทคโนโลยีไม่สามารถนำมาใช้ในไทยได้

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
ก่อนที่จะรายงานการทดสอบ เรามาดูหน้าตาของเจ้าอี-คลาส กันก่อนว่ามันหล่อเหลาเพียงใด ..สไตล์การออกแบบตัวรถเหมือนกับย่อส่วนมาจาก เอส-คลาส ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม และการปรับเปลี่ยนสไตล์ของกระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ เช่นเดียวกับไฟหน้าซึ่งเปลี่ยนมาเป็นกรอบเหลี่ยมยาว ไม่ได้แยกเป็นดวงเหมือนกับรุ่น w210 ,w211 และ w212 ซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นการพลิกโฉมเพื่อพ้นจากยุคที่มีแนวคิดการออกแบบของ New Eyes เป็นแม่แบบอย่างแท้จริง

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
รุ่นที่ขายในไทย อี-คลาส อี 220 d Exclusive มาพร้อมกับกระจังหน้าที่ติดตั้งตราสัญลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไว้บนฝากระโปรง ไฟหน้าแบบ LED High Performance และล้ออัลลอยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 18 นิ้ว ลายสิบก้าน ส่วน และ อี 220 d AMG Dynamic ตราสัญลักษณ์จะติดตั้งอยู่ตรงกลางบนกระจังหน้า มาพร้อมกับ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 19 นิ้ว ลายห้าก้านคู่

ในแง่ของมิติตัวถังมากับระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้นอีก 65 มิลลิเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 2,939 มิลลิเมตร ทำให้ช่วยเพิ่มความหรูหรา และโออ่าของพื้นที่ใช้สอยให้ห้องโดยสารมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ช่วงขาสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง ขณะที่ความยาวเพิ่มขึ้นอีก 43 มิลลิเมตร เป็น 4,923 มิลลิเมตร

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
การออกแบบภายใน เบาะที่นั่งถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถตระกูลนี้ เพราะได้คัดเลือกวัสดุชั้นดีและใช้ความประณีตในการตกแต่ง ให้ดูหรูหรา อีกทั้งยังเน้นความรู้สึกสบายสำหรับการเดินทางไกล โดยเบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงได้แบบ40/20/40 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ

สำหรับรุ่น อี 220 d Exclusive ภายในได้รับการตกแต่งสไตล์หรู มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ในขณะที่รุ่น อี 220 d AMG Dynamic จะมาพร้อมกับชุดหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้วจำนวน 2 จอ เป็นอุปกรณ์เสริมในห้องโดยสาร โดยหน้าจอทั้งสองจะติดกันและมีลักษณะลอยตัว แบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือ แผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่าง ๆ ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ wide screen ขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นจออินโฟเทนเมนต์ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกรูปแบบของแผงหน้าปัดได้ 3 แบบ ตามความชอบส่วนตัว ได้แก่ แบบคลาสสิก แบบสปอร์ต และแบบ Progressive ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในเซกเม้นท์นี้มีการติดตั้งจอดังกล่าว นอกจากนี้ยังเพิ่มสุนทรีนภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟซึ่งสามารถสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารได้ถึง 64 สี

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
อีกหนึ่งไฮโลท์ของอี-คลาส คือเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย อาทิ ระบบไฟหน้า MULTIBEAM LED แบบความละเอียดสูง ที่ติดตั้งมาในรุ่น อี 220 d AMG Dynamic หลอดไฟ LED 84 หลอด จะถูกบรรจุภายในเลนส์ โดยหลอดไฟเหล่านี้ให้ความสว่างสูงแต่ไม่รบกวนสายตาของรถคันอื่น ๆ บนท้องถนน การส่องสว่างของโคมไฟ แต่ละข้างจะทำงานอย่างเป็นอิสระ สามารถส่องสว่างหรือดับได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนปรับระดับความสว่างตามสภาพถนน ได้อย่างเหมาะสม โดยทำงานร่วมกับระบบ Active Light ที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกของโลก

ซึ่งจะว่ากันจริง ๆ แล้ว อี-คลาส ใหม่ มี นอกจากหน้าตาที่ดูสวยและทันสมัยขึ้นแล้ว ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย ชนิดที่เป็นยานแม่ลำหนึ่งของวงการยานยนต์เลยทีเดียว แต่อย่างที่กล่าวข้างต้น บางเทคโนโลยีไม่สามารถนำมาใช้ในไทยได้ ด้วยเงื่อนไขหลายอย่าง บวกกับราคาที่อาจทำให้สูงจนเกินไป อาทิ Remote Parking Pilot คือการควบคุมให้ตัวรถสามารถเดินหน้าหรือถอยหลังเข้าจอดในช่องจอดที่ค่อนข้างแคบ โดยที่ผู้สั่งสามารถยืนควบคุมอยู่ข้างนอกรถได้ และเป็นการสั่งผ่านทาง App ที่อยู่ในมือถือไม่ใช่พวงกุญแจ สามารถใช้ได้ทั้งระบบ iOS และAndroid แถมโทรศัพท์มือถือยังเป็นเสมือนกุญแจเปิด-ปิดประตูรถ และสามารถสั่งกดปุ่มสตาร์ทรถได้ด้วย

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
Drive Pilot คือการพัฒนาอีกขั้นของเทคโนโลยี Distronic ในการช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการขับทางไกล โดยจะสามารถรักษาระดับของระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย โดยแปรเปลี่ยนไปตามสภาพเส้นทางและการจราจร อีกทั้งยังสามารถขยับความเร็วในการทำงานได้สูงสุดถึง 210 กิโลเมตร/ ชั่วโมง

นั้นหมายความว่ารถสามารถขับเองอัตโนมัติ (ปล่อยมือจากพวงมาลัยได้) คือระบบนี้จะทำงานร่วมกับกล้อง 2 ตัวที่อยู่ตรงกระจกหน้ารถ และเรดาร์ที่อยู่หน้ารถ กับตัวเซนเซอร์ที่อยู่รอบคัน ตัวนี้ทำให้ตัวรถรู้สถานการณ์ เหตุการณ์รอบตัวรถ และเอามาประมวลเพื่อควบคุมการขับรถแบบอัตโนมัติ โดยตัวกล้องและตัวเซนเซอร์หน้าจะคอยอ่านสิ่งที่เข้าจับคือ ป้ายจราจร (ในเรื่องการควบคุมความเร็ว ถ้าป้ายจำได้ 80 รถจะวิ่งแค่ 80 กิโลเมตร ) เส้นจราจร (รถจะวิ่งได้ตรงตามเส้นจราจร ถ้าเป็นทางโค้งรถก็จะโค้งตาม ) แต่อย่างไรระบบนี้จะใช้ได้ดีบนถนนไฮเวย์ ทางตรงยาว ๆ ขณะที่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง เราน่าจะขับเองดีกว่า ให้รถขับให้

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
ส่วนระบบอื่น ๆ ที่ใหม่ และคนไทยได้มีโอกาสใช้ คือ หน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว (หรือ 31.2 เซนติเมตร) ถึง 2 หน้าจอ ซึ่งเป็นแบบทัชสกีน ที่เรียกว่า Dual Display และแต่ละหน้าจอ มีความละเอียด 1920x720 Pixels ซึ่งจากการวางในลักษณะที่เชื่อมต่อกันนี้จะทำให้การแสดงผลมีลักษณะที่ยาวในแบบ Wide Screen ด้วยพื้นที่ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ตรงบริเวณมาตรวัดรอบเครื่องยนต์มาจนถึงแผงคอนโซลกลาง (อยู่ในรุ่นอี 220 d AMG Dynamic )

นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังติดตั้งปุ่มควบคุมเอาไว้ที่พวงมาลัยด้วยผู้ขับขี่สามารถใช้นิ้วปาด หรือรูดผ่านเพื่อควบคุมการทำงานหรือเลือกฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในตัวรถโดยที่ไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย

สำหรับเครื่องยนต์ที่มาจำหน่ายในไทยเป็นรุ่นเทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร มีกำลังสูงสุด 194 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร และระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 G-TRONIC ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ควบคุมแรงเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์ให้ต่ำลง ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่นุ่มนวลและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
ซึ่งจากการทดลองขับบนถนนในเมืองสิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส ด้วยรถพวงมาลัยซ้าย เล่นเอาเครียดไม่น้อยในช่วงแรก ๆ ที่ต้องปรับตัวให้เข้าถนน และพวงมาลัย โดยเฉพาะเส้นทางในเมืองที่มีถนนแคบ ๆ แต่ก็พอจะจับความรู้สึกได้ว่าเครื่องดีเซล ตัวใหม่นี้ เป็นเครื่องที่สมูทมาก ยิ่งทำงานกับเกียร์ 9 G-TRONIC ทำให้การขับขี่ลื่นไหลไปแบบสบาย ๆ การขับขี่ในเมืองคล่องตัวแม้ตัวรถจะยาว-กว้าง ขึ้น แต่ก็ไม่รู้สึกว่าตัวรถใหญ่ พวงมาลัยควบคุมง่าย แม่นยำ อัตราเร่งตั้งแต่ความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูงไปได้แบบนิ่ง ๆ แรง-เร็ว ทันใจ ในทุกช่วงที่กด ขณะที่ช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวล นั่งสบายทั้งเบาะหน้า -เบาะหลัง บวกกับเครื่องเสียง BURMESTER ที่เปิดฟังตลอดการเดินทางทำให้การขับและนั่งในอี-คลาสใหม่แฮปปี้ มาก ๆ

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ให้ทั้งความแรง ความเรียบหรูไปในตัว และเมื่อทำงานร่วมกับเกียร์ที่ลงตัวมาก ยิ่งขับแล้วยิ่งชอบ ที่สำคัญเสียงเครื่องยนต์แทบจะไม่ได้ยินเลย แม้จะอยู่นอกรถก็ตาม ถือว่าเสียงเครื่องดีเซลรุ่นใหม่นี้เบามาก เหนืออื่นใดโครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์และมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำเพียงแค่ 25.6 กิโลเมตร /ลิตร ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ เคลมไว้ และการปล่อยมลพิษต่ำ กลายเป็นจุดเด่นของอี-คลาส ใหม่ เลยก็ว่าได้

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
ถึงบรรทัดนี้ขอบอกว่า อี-คลาสใหม่ เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตาที่ดูสวย ทันสมัยขึ้น แถมยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมายที่ใส่เข้ามา บวกกับเครื่องยนต์ใหม่ประหยัดน้ำมัน และเมื่อได้ลองขับในช่วงสั้น ๆ ยอมรับว่าเป็นรถที่ขับขี่ง่าย นุ่มนวล นั่งสบาย หรูหรา น่าใช้มาก ถือเป็นการพลิกโฉมให้กับ อี-คลาส ใหม่ คันนี้กันเลยทีเดียว

อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ


อี-คลาส โฉมใหม่ ขับง่าย หรูหรา นั่งสบาย สุดล้ำ
//manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9590000033163




 

Create Date : 04 เมษายน 2559   
Last Update : 4 เมษายน 2559 23:20:16 น.   
Counter : 774 Pageviews.  

เก๋งคอมแพ็กต์ติดเทอร์โบเปิดศึก!...แกะหอยชมคันไหนแรงแซ่บโดน?



เวทีบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย หนึ่งในไฮไลต์ของงานเป็นการเปิดตัวเก๋งคอมแพ็กต์รุ่นใหม่ และที่น่าสนใจกว่าทุกครั้งหลายค่ายรถได้เพิ่มทางเลือกกับตัวแรง ส่งรุ่นเครื่องยนต์ติดเทอร์โบ หรือเรียกกันเล่นๆ ว่า “ติดหอย” ออกสู่ตลาด โดยในงานมีเปิดตัว “ฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์ 1.5 เทอร์โบ” และ “ฮอนด้า ซีวิค 1.5 วีเทค เทอร์โบ” ออกมาชนกันตรงๆ ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีนิสสันและเอ็มจีลุยนำร่องไปแล้ว ดังนั้นจึงกลายเป็นกลุ่มที่มีการแข่งขันร้อนแรงขึ้นมาทันที ทำให้ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” นำข้อมูลเทคนิครถแต่ละรุ่นมาให้ดูกัน ส่วนรุ่นไหน? จะแรงจี๊ด หรือภาพรวมๆ แซ่บโดนใจกว่า เชิญติดตามกันเลย..

เก๋งคอมแพ็กต์ติดเทอร์โบเปิดศึก!...แกะหอยชมคันไหนแรงแซ่บโดน?
       การเปิดตัวของ “ฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์” เป็นการปรับโฉมแบบไมเนอร์เชนจ์ เบื้องต้นเปิดจองกับรุ่นสปอร์ตแฮทช์แบ็ก 5 ประตู แต่อีกไม่นานน่าจะส่งรุ่นซีดาน 4 ประตู(ไทแทเนียม)ตามมา เพราะได้มีการยื่นรายละเอียดราคาและข้อมูล(เหมือนรุ่นแฮทช์แบ็ก) เพื่อติดอีโคสติ๊กเกอร์ไปแล้ว ขณะที่ “ฮอนด้า ซีวิค” เป็นการปรับโฉมใหม่หมดสู่เจนเนอเรชั่นที่ 10 ปกติจะทำตลาดเพียงรุ่นซีดาน 4 ประตูเท่านั้น โดยครั้งนี้ยังได้เพิ่มทางเลือกกับรุ่น 1.5 ลิตร เทอร์โบสู่ตลาดด้วย

       ส่วนเมื่อปลายปีที่แล้วค่ายนิสสันได้มีการปรับโฉม และเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ของเก๋งคอมแพ็กต์ซีดาน “นิสสัน ซิลฟี” และหนึ่งในนั้นมีเครื่องยนต์ DIG Turbo มาให้เลือกด้วย แต่ก่อนหน้านี้นิสสันได้ส่งรุ่นเทอร์โบในเก๋งคอมแพ็กต์แฮทช์แบ็ก “นิสสัน พัลซาร์” ในจำนวน 300 คันสู่ตลาด ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงกว่าสิบคัน และรุ่นพัลซาร์นี้ตามข่าวเตรียมจะถูกถอดออกจากไลน์ผลิตภัณฑ์รถนิสสันในไทย บทความนี้จึงขอไม่นำมาเปรียบเทียบด้วย และอีกรุ่นในตลาดเก๋งคอมแพ็กต์ที่วางเครื่องติดเทอร์โบ “เอ็มจี6” เพื่อเป็นตัวเลือกปกติของรถรุ่นนี้เลย ทั้งในรุ่นแฮทช์แบ็กและซีดาน แต่จะว่าไปแบรนด์ยังมี “เอ็มจี5” ที่วางขุมพลังเทอร์โบ เพียงแต่กำลังแรงม้าและราคายังห่างจากรุ่นอื่นๆ จึงตัดออกไปเช่นกัน

เก๋งคอมแพ็กต์ติดเทอร์โบเปิดศึก!...แกะหอยชมคันไหนแรงแซ่บโดน?
       แน่นอนรุ่นที่ได้รับการจับตามากสุด คงเป็น “ฮอนด้า ซีวิค 1.5 วีเทค เทอร์โบ” ในฐานะเป็นรุ่นยอดนิยมอีกโมเดลในตลาดคอมแพ็กต์คาร์ ที่ชิงกันเป็นผู้นำกับ “โตโยต้า โคโรลลา อัลติส” แต่ครั้งนี้เปิดตลาดใหม่กับตัวเลือกขุมพลังแรง เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC ที่อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า และจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง หรือ Direct Injection สามารถรองรับน้ำมัน E85 พร้อมกับส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่

       เรียกว่าขุมพลังเครื่องยนต์ VTEC Turbo แม้จะมีขนาดเพียง 1.5 ลิตร แต่สมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ 2.4 ลิตรของฮอนด้า แต่งานนี้ต้องมาเจอศึกหนัก เมื่อคู่แข่ง “ฟอร์ด โฟกัส” ใหม่ ได้จับวางเครื่องยนต์ใหม่ อีโคบูสท์ 1.5 ลิตร ที่เพิ่มสมรรถนะความแรงด้วยเทอร์โบชาร์จ พร้อมระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงตรง และระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ โดยรีดกำลังสูงสุดได้ถึง 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร และมาตั้งแต่รอบต่ำ 1,600-5,000 รอบต่อนาที ขณะที่ระบบส่งกำลังเป็นเกียรอัตโนมัติ 6 สปีด และยังสามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้เช่นกัน (ดูรายละเอียดข้อมูลเปรียบเทียบจากตาราง)

       แต่หากดูในตลาดเก๋งคอมแพ็กต์คาร์ยังไม่ถือว่าแรงสุด เพราะยังมี “นิสสัน ซิลฟี DIG Turbo” ที่มากับห้องเครื่องใหญ่กว่าขนาด 1.6 ลิตร หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่น หรือ DIG (Direct Injection Gasoline) ระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้สมรรถนะความแรงสุดๆ เทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรของนิสสัน จากเทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ที่รีดกำลังออกมาได้สูงสุดถึง 190 แรงม้า โดยแรงบิดคงที่แบบ Flat Torque อัตราเท่ากับโฟกัส อีโคบูสท์ แต่มาในรอบที่สูงกว่า ส่วนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ตามสไตล์ของค่ายนิสสัน

เก๋งคอมแพ็กต์ติดเทอร์โบเปิดศึก!...แกะหอยชมคันไหนแรงแซ่บโดน?
       ส่วนรุ่นที่ห้องเครื่องใหญ่สุดต้องเป็น “เอ็มจี6” ที่วางเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร หัวฉีดมัลติพอยต์ อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า นับว่ามีม้าในคอกน้อยกว่าคู่แข่งในตลาด แม้คอกจะใหญ่กว่าก็ตาม โดยส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Dual Clutch และยังรองรับน้ำมัน E85 ได้เหมือนกับคู่แข่งส่วนใหญ่

       ปัจจุบันนอกจากเรื่องของความแรง ค่ายรถยังให้ความสำคัญกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ค่ายรถพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีกำลังแรง หรือ Engine Downsizing ชัดเจนแนวทางนี้เครื่องยนต์อีโคบูสท์ของฟอร์ด และฮอนด้ากับเครื่อง VTEC Turbo ถูกพัฒนามารองรับทิศทางดังกล่าว จะเห็นว่าตามข้อมูลในอีโคสติ๊กเกอร์ ฮอนด้า ซีวิค 1.5 VTEC Turbo มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันดีที่สุด 5.6 ลิตร/ 100 กม. หรือ 17.85 กม./ลิตร รองลงมาจะเป็นฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์ และนิสสัน ซิลฟี 1.6 DIG Turbo ขณะที่เอ็มจี6 ที่บล็อกใหญ่สุดกินน้ำมันสูงสุดเช่นกัน 8.1 ลิตร/ 100 กม. (ดูอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยในตารางประกอบ)

       ในส่วนของเทคโนโลยีและความปลอดภัยเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เรื่องนี้ฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์ ค่อนข้างโดดเด่นในสิ่งที่เพิ่มเข้ามาอย่างเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ อย่างระบบช่วยจอดรถถอยเทียบข้าง และเข้าซองแบบอัตโนมัติ หรือระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ส่วนรุ่นอื่นๆ ติดตั้งมาให้ไม่แตกต่างกันมาก (ในช่วงราคาใกล้เคียงกัน) โดยนิสสัน ซิลฟี อาจจะด้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ในเรื่องของเทคโนโลยีและความปลอดภัยแต่ก็ไม่มากนัก และดีกว่าเอ็มจี6 ในบางรุ่น หรือที่มีราคาต่ำกว่ามาก

เก๋งคอมแพ็กต์ติดเทอร์โบเปิดศึก!...แกะหอยชมคันไหนแรงแซ่บโดน?
บทสรุป... แน่นอนนั่นย่อมทำให้ “นิสสัน ซิลฟี” เคาะราคาออกมาได้อย่างน่าดึงดูดใจ 9.99 แสนบาท และยังเด่นในเรื่องของความแรงสุดๆ จึงน่าจะตอบโจทย์เรื่องขุมพลังเทอร์โบได้ ส่วน “ฟอร์ด โฟกัส” ทั้งราคา เทคโนโลยี-ความปลอดภัย และสมรรถนะความแรง กับราคาที่เคาะออกมาต้องบอกว่าคุ้มค่า ขณะที่ “ฮอนด้า ซีวิค” มาแบบกลางๆ แรงม้าให้มาในระดับไม่สูงหรือต่ำสุด และยังเด่นในเรื่องประหยัดน้ำมัน ผสานกับชื่อชั้นของแบรนด์ จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่น่าจะคิดมากกับคนที่ชื่นชอบอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่ไม่ติดแบรนด์และต้องการตัวเลือกหลากหลาย “เอ็มจี6” ถือว่าน่าสนใจ หากเทียบกับเก๋งคอมแพ็กต์รุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา...

อย่างไรก็ตาม กับรถที่เน้นเรื่องของสมรรถนะความแรง ยิ่งจำเป็นในการที่จะไปทดลองขับก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะยังมีองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะบุคคลิคของรถ ระบบช่วงล่างที่อาจจะเหมือนกัน แต่การเซ็ตย่อมแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อสมรรถนะของรถ ดังนั้นต้องไปลองขับให้รู้ว่า... คันไหน? เหมาะกับความชอบของตนเองที่สุด!

เก๋งคอมแพ็กต์ติดเทอร์โบเปิดศึก!...แกะหอยชมคันไหนแรงแซ่บโดน?




 

Create Date : 01 เมษายน 2559   
Last Update : 1 เมษายน 2559 8:34:14 น.   
Counter : 705 Pageviews.  

Toyota Corolla EU Version ใกล้ถึงเวลาปรับโฉมแล้ว

ในตอนนี้กระแสเรื่องการปรับโฉมของ Toyota Corolla รุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 11 ของสายพันธุ์เริ่มมีให้เห็น โดยต่อจากเวอร์ชันสหรัฐอเมริกาที่มีทั้งตัวถังธรรมดา และรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปีของการรุกตลาดของ Corolla แล้ว ทางยุโรปก็มีการปรับโฉมตัวถังซีดานของ Corolla ด้วยเช่นกัน และคาดว่าเวอร์ชันไทยก็น่าจะมีหน้าตาที่แตกต่างจากนี้ไม่มากนัก

Toyota Corolla EU Version ใกล้ถึงเวลาปรับโฉมแล้ว


Toyota Corolla EU Version ใกล้ถึงเวลาปรับโฉมแล้ว
       งานนี้เรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะเอาเรื่องเลย เริ่มตั้งแต่ไฟหน้าทรงใหม่มาพร้อมกับ DRL หรือ Daytime Running Light แบบ LED กันชนหน้าและกระจังหน้าก็ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน ส่วนด้านท้ายเปลี่ยนไม่เยอะเท่ากับด้านหน้า เพราะโคมไฟยังใช้ทรงเดียวกันทั้ง 2 ชุด เปลี่ยนแต่รายละเอียดของชุดเลนส์ให้ดูสวยและสปอร์ตขึ้น

       ในแง่ของเครื่องยนต์ยังมาได้เปิดเผยออกมาว่าในยุโรปจะมีแบบไหนให้เลือกบ้าง แต่เทคโนโลยีใหม่ที่ติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาก็มีทั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Alert รวมถึงระบบ Pre-Collision

       บ้านเราอดใจรออีกไม่นาน และในเมื่อกระแสการปรับโฉมของ Corolla มาถึงขนาดนี้แล้ว คาดว่าอีกไม่นานคงจะมีความเคลื่อนไหวให้เห็นกัน

Toyota Corolla EU Version ใกล้ถึงเวลาปรับโฉมแล้ว

//manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9590000032424




 

Create Date : 30 มีนาคม 2559   
Last Update : 30 มีนาคม 2559 8:24:08 น.   
Counter : 562 Pageviews.  

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!

กลับมารูดม่านเปิดเวทีกันประจำทุกๆ ต้นปี “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ซึ่งปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 23 มี.ค. - 3 เม.ย.นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “NO BOUNDARIES MOBILITY: นวัตกรรมขับเคลื่อน...ไร้ขีดจำกัด”ที่สะท้อนถึงยานยนต์ทุกวันนี้ได้พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย สามารถทลายข้อจำกัดเดิมๆ ไปมาก ดังนั้นรถรุ่นใหม่ๆ ที่นำมาเปิดตัวในงานจึงยิ่งน่าสนใจ และ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ขอพาไปสำรวจรถเด่นๆ ในงาน เพื่อเป็นแผนที่นำทางให้คุณผู้อ่านก่อนจะไปชมงานจริงกัน...

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
‘อีซูซุ’จัดเต็มปิกอัพ-พีพีวีคู่แข่งส่งรุ่นพิเศษสู้!

สังเวียนตลาดปิกอัพและที่เกี่ยวเนื่องอย่างรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี ได้เปิดศึกส่งรุ่นใหม่มากันครบตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีเหลือเพียง “อีซูซุ มิว-เอ็กซ์” ใหม่ และในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 206 นี้ จึงเป็นเวลาของอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ใหม่ ซึ่งไฮไลต์สำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ และยังมากับชุดเกียร์ออโตเมติก 6 สปีดใหม่ มีให้เลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 2 ล้อ โดดเด่นกับกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมกล้องบันทึกภาพวิดีโอด้านหน้า นอกจากนี้ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบที่สุดแห่งความแรงและสมรรถนะ

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
ขณะที่คู่แข่งสำคัญ “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” มีการดึงความสนใจจากลูกค้าเช่นกัน ด้วยการแนะนำรุ่นตกแต่ง “Fortuner TRD Sportivo” เสริมทัพ โดยมาพร้อมกับชุดแต่งรอบคัน พร้อมปรับช่วงล่าง และอุปกรณ์ตกต่งภายในใหม่ ยกระดับสู่ความเป็นรถอเนกประสงค์สปอร์ตพรีเมียมมากขึ้น

ส่วนปิกอัพอีซูซุยังเพิ่มตัวเลือกกับรุ่นดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ดีไซน์ในโทนดำ-แดงอันเป็นเอกลักษณ์ มีให้เลือกถึง 2 รุ่น ทั้งรุ่น SPEED ปิกอัพในสไตล์เรซซิ่งและรักการแต่งรถ และรุ่น HI-LANDER ในแบบสปอร์ตพรีเมี่ยม พร้อมแนะนำอีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เกียร์ออโตเมติก 6 สปีด พร้อมโหมด REV TRONIC ใหม่ ช่วยให้ขับสนุก เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ให้อารมณ์สปอร์ตเร้าใจ เพื่อมาเสริมทัพดีแมคซ์ 1.9 ดีดีไอ รุ่นเกียร์ธรรมดา ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และยังมี “ทาทา ซีนอน” อีกยี่ห้อที่ส่งเกียร์อัตโนมัติออกมาแสดงในงานนี้ด้วย

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
ฟากค่ายรถอื่นๆ ต่างอัดแคมเปญ หรือก็ทำเวอร์ชั่นพิเศษสู้ อย่างมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ส่งปิกอัพ “ไทรทัน” พร้อมชุดแต่งพิเศษในรุ่น Double Cab Plus GLS-LTD จุดเด่นอยู่ที่ครั้งแรกในปิกอัพกับจอภาพสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (Roof Monitor) และเบาะโดยสารด้านคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง (Power Seat) พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ ฝาครอบใต้กันชนหน้า และบันไดข้างดีไซน์ใหม่ตกแต่งโครเมียม มีให้เลือก 3 สีขาว ดำ และสีพิเศษฟ้า Impulse Blue

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!


เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
อสยูวีฟัดเดือด! น้องใหม่-หน้าเก่าขยับชิงเค้ก

อีกสังเวียนที่ร้อนแรงในปัจจุบัน เห็นจะเป็นกลุ่มรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี หรือครอสโอเวอร์ เพราะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่สู่ตลาดต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวน้องใหม่ “เอ็มจี จีเอส” ลุยกลุ่มตลาดคอมแพ็กต์เอสยูวี ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า ซีอาร์-วี หรือเชฟโรเลต แคปติวา ที่งานนี้ส่งเวอร์ชั่นใหม่ 2016 ด้วยการปรับรูปลักษณ์ด้านหน้า และเพิ่มเติมอุปกรณ์ทันสมัยอีกหลายรายการ รวมถึงที่เพิ่งปรับโฉมไปหมาดๆ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนยีทันสมัยเช่นเดียวกับรถยุโรป รวมถึงเพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 2.2 ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อมาเสริมทัพด้วย

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
สำหรับน้องใหม่ “เอ็มจี จีเอส” (MG GS) เป็นเอสยูวีทีที่ชูดความโดดเด่นของสมรรถนะเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่มีขุมพลังมากถึง 218 แรงม้า มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ผสานกับรูปลักษณ์ความเป็นสปอร์ตพรีเมียม และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย 13 รายการ ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมกับเทคโนโลยีinkaNet(อินคาเน็ต)ที่เชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับกับรถผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ไร้สาย เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่โทรออก-รับสาย และรับ-ส่งข้อความผ่านหน้าจอวิทยุแม้ไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่บนรถราคา 1.21-1.31 ล้านบาท

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
นอกจากนี้ตลาดคอมแพ็กต์เอสยูวีร้อนแรงสุดๆ เมื่อซูบารุปรับตำแหน่งของ “ฟอเรสเตอร์” ใหม่ ลงมาท้าชนตรงๆ เมื่อทำการขึ้นไลน์ประกอบในมาเลเซีย และส่งมาลุยไทยจึงได้รับสิทธิ์พิเศษทางภาษี ส่งผลให้ราคาจากเดิมเริ่มเกือบ 1.7 ล้านบาท ปรับลงมาอยู่ที่ประมาณ 1.3-1.4 ล้านบาท ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ขณะที่รุ่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ ยังนำเข้าจากญี่ปุ่นราคาเดิม พร้อมกับรูปลักษณ์หน้าใหม่สดเหมือนกัน

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
เอสยูวีใหม่อีกรุ่นจากค่ายแดนกิมจิ “ทิโวลี” (TIVOLI) น้องใหม่ล่าสุดจากค่ายซังยอง (SSANYONG)โดยรุ่นที่นำมาจำหน่ายในตลาดในไทยนั้น เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอลเรล 1.6 ลิตร เทอร์โบ 115 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบE Tronic แต่เนื่องจากเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปจากเกาหลี จึงไม่ลงมาชนกับกลุ่มซับคอมแพ็กต์เอสยูวีที่ประกอบในไทยตรงๆ เรียกว่าเป็นอีกทางเลือกของผู้ชื่นชอบความแตกต่างมากกว่า

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
แน่นอนในกลุ่มเอสยูวีขนาดกะทัดรัด ไฮไลต์ย่อมเป็น “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ที่เพิ่งวางจำหน่ายเป็นทางการเมื่อต้นปี จนบรรดาคู่แข่งต่างมีการขยับรับมือ อย่างมาสด้าก็โชว์รถแต่ง “ซีเอ็กซ์-3 เรซซิ่ง” เพื่อสร้างแรงบรรดาใจให้กับลูกค้าในการซื้อชุดแต่งมาเติมความหล่อ ขณะที่นิสสันแนะนำ “จู๊ค คัลเลอร์ สตูดิโอ” (Color Studio) ที่ลูกค้าสามารถเลือกจับคู่ระหว่างสีของตัวรถ กับสีของชุดตกแต่งภายนอกและภายในตามสไตล์ของตนเอง หรือฟอร์ดที่ส่ง “เอคโค่สปอร์ต แบล็กอิดิชั่น” ด้วยการแปลงโฉมภายนอกให้เข้มกว่าเดิม ใช้สีดำสนิท (Piano Black) ตบแต่งบริเวณกระจังหน้า ไฟตัดหมอก กระจกข้าง โครงหลังคา และล้ออัลลอยสีดำขนาด 16 นิ้ว ที่ช่วยให้ตัวรถดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
เก๋งเล็กยังเงียบเหงามีเด่นที่‘วีออส’ขุมพลังใหม่

มากันที่กลุ่มรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง เริ่มจากเก๋งขนาดเล็กที่ยังคงได้รับผลกระทบยาวจากโครงการรถคันแรก และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับรถส่วนใหญ่อยู่ในช่วงท้ายโมเดล และรอปรับเปลี่ยนสู่โครงการอีโคคาร์ระยะที่ 2 ทำให้ไม่มีความเคลื่อนไหวที่ร้อนแรงมากนักส่วนใหญ่จึงเป็นการจัดแคมเปญ หรือปรับแต่งนิดหน่อยเป็นเวอร์ชั่นประจำปีมากกว่า รวมถึงรุ่นพิเศษอย่าง “โตโยต้า ยาริส ทีอาร์ดี ครอส” หรือ “ฟอร์ด เฟียสต้า แบล็ค ลิมิเต็ด” ตลอดจนการเปิดตัวเวอร์ชั่นสำนักแต่ง “นิสโม่” (Nismo) ของค่ายนิสสัน ประเดิมโมเดลแรกกับ “นิสสัน อัลเมรา นิสโม”

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
อย่างไรก็ตาม ยังมีเก๋งเล็กใหม่ที่น่าสนใจ “โตโยต้า วีออส” รุ่นไมเนอร์เชนจ์ การปรับโฉมครั้งนี้ไฮไลต์ไม่ใช่เรื่องของรูปลักษณ์หน้าตา แต่เป็นหัวใจดวงใหม่เครื่องยนต์เบนซินบล็อก 1NR-FBE แบบDOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Dual VVT-iขนาด1.5 ลิตร 108 แรงม้า และยังเปลี่ยนระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ4 จังหวะเดิมมาเป็นแบบ CVT 7 จังหวะ พร้อม Sequential Shift และยังรองรับการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ทำให้วีออสใหม่ขับสนุกและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ราคา 5.99-7.49 แสนบาท โดยมาพร้อมกับรุ่นหรูExclusive ราคา 7.19บาท

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
เก๋งคอมแพ็กต์เปิดศึกหอย! ติดเทอร์โบเติมแรง

ขยับขึ้นมาที่กลุ่มเก๋งคอมแพ็กต์ กระแสเวลานี้คงไม่พ้น “ฮอนด้า ซีวิค” โฉมใหม่ หรือเจนเนอเรชั่นที่ 10 นอกจากรูปลักษณ์ใหม่ทั้งคัน ยังสร้างความฮือฮากับเครื่องยนต์แบบ DOHC ขนาด 1.5 ลิตร VTEC TURBO ใหม่ พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าว ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า เทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร แต่ประหยัดน้ำมันแบบเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร วางจำหน่ายในราคา 1.099 - 1.199 ล้านบาท และยังมีทางเลือกกับเครื่องยนต์บล็อกเดิม 1.8 ลิตร SOHCi-VTEC 141 แรงม้า ราคา 8.69 - 9.59 แสนบาท

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
แต่ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ นอกจากต้องเจอกับคู่แข่งรายเดิม “นิสสัน ซิลฟี/พัลซาร์ เทอร์โบ” แล้ว ยังต้องชนกับรุ่นเทอร์โบน้องใหม่ “ฟอร์ด โฟกัส อีโคบูสท์” ที่เปิดตัวในงานนี้ โดยนอกจากการปรับรูปลักษณ์ใหม่ จุดเด่นยังเป็นเครื่องยนต์อีโคบูสท์ที่มีขนาดเล็ก 1.5 ลิตร ช่วยประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้วยังมีความแรงจากขุมพลังเทอร์โบที่ให้กำลัง 180 แรงม้า เพื่อประสิทธิภาพตอบสนองการขับขี่ได้ดั่งใจ งานนี้ส่งมาชนแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน!กันเลยทีเดียว

ใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็นเก๋งขนาดกลางกลุ่มรถตลาดที่มีผู้เล่นเพียงไม่กี่ราย โดยในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ไฮไลต์จะเป็น “ฮอนด้า แอคคอร์ด” รุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวไป กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 และ 2.4 ลิตร ราคา 1.385 - 1.635 ล้านบาท ส่วนรุ่นไฮบริดจะตามมาในช่วงกลางปีที่จะถึงนี้

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
รถหรู-สปอร์ตมาพรึบราคาสูงสุดทะลุ 40 ล้าน

รถยนต์ที่กำลังมาแรงอีกตลาดเห็นจะเป็นกลุ่มรถหรูและสปอร์ต ซึ่งในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 มีการยกทัพรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวหลายรุ่น ที่ได้รับการจับตามองย่อมเป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส” โฉมใหม่ หรือเจนเนอเรชั่นที่ 10 ที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 194 แรงม้า ที่ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันและการปล่อยก๊าซ CO2 ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆที่ช่วยให้การขับขี่และโดยสารมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยเบื้องต้นอี-คาส ใหม่ทำตลาดในไทยกับ 2 ตัวเลือก ในรุ่น E 220 d Exclusive ราคา 3.99 ล้านบาท และรุ่น E 220 d AMGDynamic ราคา 4.79 ล้านบาท

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
นอกจากนี้ค่ายตราดาวยังยกทัพรถใหม่มาบุกงานมอเตอร์โชว์อีก 6 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น S 500 e และ C 350 e รถยนต์เทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นประกอบในประเทศ (Local production) และ C-Class Coupé ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้เจนเนอเรชั่นล่าสุด ซึ่งทั้งสองรุ่นดังกล่าวได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมด้วยเอสยูวีรุ่นใหม่ GLS, และยนตรกรรมจากแบรนด์ Mercedes-AMG ได้แก่ Mercedes-AMG A45 และ Mercedes-AMG C63 S Coupé

ทางฟากคู่แข่งค่าย บีเอ็มดับเบิลยู มาครบทั้งรุ่นพลังงานทดแทน “บีเอ็มดับเบิลยู330e”ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี eDriveเช่นเดียวกับรุ่นi8 และ X5 xDrive40e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลบีเอ็มดับเบิลยู ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ รุ่นใหม่ล่าสุด 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 88 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุด 252 แรงม้า โดยมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้จากปลั๊กไฟบ้านทั่วไป และขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 40 กิโลเมตร

ส่วนอีกรุ่นเป็นตัวแรง “M2” ที่เลี้ยงม้าไว้ในคอกถึง 370 ตัว จากเครื่องยนต์ทวินเพาเวอร์ เทอร์โบ 3.0 ลิตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.3 วินาที และยังควงแบรนด์ในเครือ “มินิ” มากับรุ่นเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง หรือมินิ คอนเวอร์ทิเบิล (MINI Convertible) วางเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร 136 แรงม้า และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล116 แรงม้า

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
ต่อกันด้วยความแรงของสปอร์ตลือชื่อ “ปอร์เช่ 911 คาเรร่า” (911 Carrera) รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งทำการเปิดตัวในเยอรมันช่วงปลายปี 2015 วางเครื่องยนต์รุ่นใหม่ขนาดความจุ 3.0 ลิตร พร้อมด้วยBi-turbo charging 370 แรงม้า จากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งทางด้านหลัง และรุ่น 911 คาร์เรร่า เอส (911 Carrera S) พลังสูงถึง 420 แรงม้า โดยทั้งสองรุ่นกำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 20 แรงม้า

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
หรือจะแบบเบาๆ ลงมาหน่อย ย่อมเป็นสปอร์ตคูเป้จากแดนปลาดิบ “เลกซัส อาร์ซี200ที” (Lexus RC200t) ที่พัฒนาโครงสร้างตัวถังใหม่มาโดยเฉพาะ ไม่ได้อิงจากพื้นฐานรุ่นใด แชสซีส์สไตล์สปอร์ตแข็งแรงพิเศษ วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 245 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Sport Direct Shift ราคาจำหน่าย 5.49 ล้านบาท

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
แต่ถ้าจะเอาราคาแรงเตรียมสัมผัสโรลส์-รอยซ์ บีสโป๊ก หรือรถสั่งทำพิเศษ ในชื่อรุ่น “คชมงคล” ที่ได้นำเอารถหรูโรลส์-รอยซ์ โกสต์ รุ่นฐานล้อยาวมาตกแต่งพิเศษทั้งภายนอกและภายใน ด้วยการนำสัญลักษณ์ของประเทศไทยอย่าง “ช้าง” มาทำการตกแต่งเป็นคันแรกในโลกเพื่อประเทศไทยโดยเฉพาะ คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณกว่า 40 ล้านบาท และพร้อมกันนี้โรลส์-รอยซ์จะเผยโฉมยนตรกรรมหรู แบบสองประตูเปิดประทุนรุ่น “ดอว์น” เป็นครั้งแรกในประเทศไทยด้วย

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
หรือถ้าจะเอาหรูแบบเบาๆ ต้องมาค่ายรถจากเกาหลี “ฮุนได” ที่เวทีนี้นอกจากเปิดตัวเอ็มพีวี “เอช1” และ “แกรนด์ สตาแรกซ์” รุ่นใหม่แล้ว ยังเปิดตัว “ฮุนได เจเนซีส” (HYUNDAI GENESIS)สปอร์ตซีดานหรูที่โดดเด่นด้านการออกแบบ และติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3.8 ลิตร 308 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
ขณะที่ผู้ชื่นชอบรถแบบแกรนด์ทัวเรอร์ มีรุ่นใหม่เปิดตัวให้เลือกเช่นกันกับ “แอสตัน มาร์ติน ดีบี11” (ASTON MARTINDB11) ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกภายใต้แผนก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของแอสตัน มาร์ติน โดยวางเครื่องยนต์ V12 ความจุ 5.2 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จให้พละกำลังสูงสุด 600 แรงม้า

       >

เลาะเวทีบางกอกฯมอเตอร์โชว์ ชมไฮไลต์รถใหม่-เอสยูวีเดือด!
สำหรับผู้ชื่นชอบความอเนกประสงค์และให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย  ต้องเป็นคันนี้ “วอลโว เอ็กซ์ซี90” (VOLVO XC90) โฉมใหม่  ที่มากับเทคโนโลยีทันสมัยและระบบความปลอดภัยสุดล้ำ  จนเป็นหนึ่งในรถที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ยังมากับขุมพลัง 2,000 ซีซี เทอร์โบชาร์จ มีให้เลือกเครื่องยนต์ดีเซล และรุ่นปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มีกำลังสูงสุดถึง 407 แรงม้า  ราคาอยู่ที่ 4.89-5.99 ล้านบาท

ทั้งหมดเป็นไฮไลต์ของรถใหม่ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 หากชื่นชอบและต้องการเป็นเจ้าของรถประเภทไหน? เชิญไปชมและสัมผัสคันจริงได้ที่อาคารชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 23 มี.ค. - 3 เม.ย.นี้..

//manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9590000029477




 

Create Date : 24 มีนาคม 2559   
Last Update : 24 มีนาคม 2559 22:01:24 น.   
Counter : 694 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]