หุ้นเด่นประจำวันที่ 11 เม.ย. 2557 ส่งท้ายก่อนหยุดยาว        หุ้นเด่นประจำวันที่ 11 เม.ย.2557 ส่งท้ายก่อนหยุดยาว        เริ่มที่บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด        SAMART  “SAMART” จ่อเทกโอเวอร์ ธุรกิจสื่อสารจบดีล Q3                  SAMART เคาะราคาไอพีโอ “วันทูวัน” ที่ 5.40 บาท ระดมทุนขยายธุรกิจต่างประเทศ คาดเข้าเทรด mai 15 พฤษภาคมนี้ ด้าน “วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์” บุกหนักเปิดดีลเกมซื้อกิจการโทรคมนาคม 2-3 แห่ง คาดชัดเจนไม่เกิน Q3 นี้ พร้อมมั่นใจปีนี้รายได้ตามนัด 3 หมื่นล้านบาท อานิสงส์ธุรกิจทุกไลน์ขยายตัว-ทันหุ้น        SVI    “SVI” ผลงานพุ่งแรง 588% ยอดขายแน่นมอง 5 บาท                  SVI ร้อนแรงลุ้นกำไร Q1/2557 พุ่งกระฉูด 588% แตะระดับ 150 ล้านบาท หลังไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนทั้งปีตั้งเป้าฟนยอดขาย 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเดินหน้าขยายกำลังผลิตรอรับออเดอร์ลูกค้าใหม่-ทันหุ้น        SITHAI   กองทุนฝรั่งฮุบ “SITHAI” แตกพาร์นำลูกเข้าเทรด                  SITHAI ซุ่มศึกษานำบริษัทลูกเวียดนามเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทย “สนั่น อังอุบลกุล” ส่งซิกพื้นฐานแกร่งกองทุนฝรั่งเรียงคิวซื้อหุ้น ผุดโปรเจกต์ใหญ่ข้ามชาติดันรายได้ 2 หมื่นล้านบาท พร้อมแตกพาร์จาก 10 บาท เหลือ 1 บาท เพิ่มสภาพคล่อง ส่วนงบไตรมาส 1/2557 สดใส โชว์ยอดขาย 45% ทั้งปีนี้รายได้เข้าเป้า 1.04 หมื่นล้านบาท-ทันหุ้น        PTT “PTT” ผงาดอาเซียนผุดปั๊ม ปักหมุดกำไรปี 57 แสนลบ. PTT ลุยงาน มั่นใจกำไรปี 2557 แรง เห็น 1 แสนล้านบาทชัวร์ หลังสถานการณ์พลิกฟื้น จัดทัพเพิ่มยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการในต่างประเทศ 5 ปี เติบโตปีละ 10-15% จากปีก่อน 6 หมื่นล้านบาท เตรียมควักเงิน 3,000 ล้านบาท ขยายสถานีบริการน้ำมันในอาเซียนใน 5 ปีนี้ ใน 3 ประเทศ ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์-ทันหุ้น        JAS   “JAS” ชูกองทุน 7 หมื่นล้าน โบรกฯ ชี้อนาคต 13 บาท                  JAS คอนเฟิร์มตั้งกองทุน IFF มูลค่า 6-7 หมื่นล้านบาท ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2557 นี้ พร้อมนำเม็ดเงินขยายธุรกิจในประเทศเต็มสูบ แถมมองโอกาสขยายฐานประเทศในเอเชียด้วย ด้าน “พิชญ์ โพธารามิก” ปี 2557 ตั้งเป้ายอดขาย 20-25% หลังหนีบฐานลูกค้าบรอดแบนด์อื้อซ่า-ทันหุ้น        SPCG   “SPCG” ลุ้น Q1 โต 160% กำไรกระฉูด 240 ล้าน                  “เอสพีซีจี” ลุ้น Q1 ฟนกำไร 240 ล้านบาท โต 150-160% คาดมีรายได้ 810 ล้านบาท พุ่ง 55% เชื่อทั้งปีฟาดกำไร 1,700 ล้านบาท เพิ่ม 242% รายได้ 4,200 ล้านบาท โต 70% เก็งที่ประชุมผู้ถือหุ้นไฟเขียวขายหุ้นกู้ คาดปีนี้ปันผล 1.02 บาท แนะซื้อเป้า 28 บาท-ข่าวหุ้น        IVL   “IVL” จ่อเทกโอเวอร์ SASA กรุยทางบุกตุรกี เพิ่มโอกาสขายสินค้า                  IVL จ่อเทกโอเวอร์ SASA ผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์ เปิดช่องทางทำธุรกิจที่ตุรกี โบรกฯ คาดหากถือหุ้นครบ 100% เพิ่มกำลังผลิตได้อีก 8.5% ชี้ SASA มีมูลค่าตามตลาด 3.4 พันล้านบาท-ข่าวหุ้น        GUNKUL  “GUNKUL” ย้ำปีนี้รายได้โต 50% เดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง                  “กันกุล” ปีนี้ลุยทำผลงานทุกภาคส่วนเดินตามแผนที่ได้วางไว้ แถมยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 50% ล่าสุด ผู้ถือหุ้น GUNKUL โหวตรับหุ้นปันผลสัดส่วน 3 : 1 และเงินสด 0.038 บาท มีกำหนดจ่ายวันที่ 9 พ.ค.นี้-ข่าวหุ้น        RML   “RML” ลุ้น Q1 กำไรนิวไฮ 264 ล้าน รายได้พุ่ง 1,700 ล้าน เชียร์ “ซื้อ” เป้า 2.38 บาท “ไรมอนแลนด์” ลุ้นไตรมาส 1/57 กำไรสุทธินิวไฮ 264 ล้านบาท เติบโต 86% จากปีก่อน รับอานิสงส์รับรู้รายได้โอนคอนโดฯ 185 ราชดำริ คาดมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,700 ล้านบาท-ข่าวหุ้น        AOT   “AOT” ทุ่มงบเฉียด 2 หมื่นล. เล็งขยายดอนเมืองระยะที่ 4                  ว่าที่เรืออากาศโทจตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า ขณะนี้มีแนวคิดในการพัฒนาสนามบินดอนเมือง เฟส 4 วงเงินทุน 20,000 ล้านบาท โดยจะมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ในรูปแบบ Juntion Terminal บริเวณที่ว่างระหว่างอาคารจอดรถ 7 ชั้น กับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศวงเงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท-ทันหุ้น        IRCP     “IRCP” จีนสนร่วมลงทุน กวาดรายได้พุ่ง 50%                  “กังวาล กุศลธรรมรัตน์” ซีอีโอ IRCP เล็งบินตรงลงจีน หลังจีนหยอดสนใจร่วมลงทุนคาดชัดเจนปลายเดือนเมษายนนี้ แง้มอยู่ระหว่างเจรจาควบรวมกิจการร่วมกับพาร์ตเนอร์นอกตลาดต่อยอดธุรกิจการให้บริการ เชื่อดันรายได้ปีนี้พุ่งกระฉูด 50% จากเดิมตั้งเป้ารายได้โตแน่ๆ 30% -ทันหุ้น        BANK    “เจพีฯ” หั่นกำไรแบงก์ไทยประเมินไตรมาสแรกปีนี้หด 2%                  ธปท.ยันสถานะการเงินแบงก์แข็งแกร่งสำรองสูง โบรกฯ ไทยคาดกำไรวูบ 5.4% เหตุสินเชื่อหด เจพี มอร์แกน คาดกำไรสุทธิ 9 แบงก์ไทย ไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ลดลง 2% จากงวดเดียวกันปีก่อน เหตุสินเชื่อหด คุณภาพสินทรัพย์ในธุรกิจค้าปลีกกับ เอสเอ็มอีเสื่อมถอย ภาวะต้นทุนการเงินพุ่ง พร้อมคาดผลตอบแทนจากหุ้นกลุ่มแบงก์ 16% สอดคล้องโบรกไทยคาดกำไรวูบ 5.4% ชูกสิกรไทย โตสวนทาง ด้านแบงก์ชาติ ยันภาพรวมธนาคารยังแข็งแกร่ง ขณะที่พบแบงก์ใหญ่โยนบิ๊กล็อตคึกคัก -กรุงเทพธุรกิจ        ตามด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า        BTS                           กลยุทธ์ ลงซื้อ ขึ้นขาย                  แนวรับ        แนวต้าน                  8.50         8.70                  8.40         8.90                  ตัดขาดทุน      8.25 บาท                  มีสัญญาณซื้อ                  ระดับราคาได้มีสัญญาณซื้อของแนวโน้มในระยะสั้นๆเกิดขึ้นในแนวโน้ม Sideway Up ที่มี Channel อยู่ระหว่าง 8.30-8.90 บาทโดยแนวโน้มในระยะสั้นๆคาดว่าจะทยอยขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบน        SAMART                           กลยุทธ์ ทยอยซื้อเล่นรอบ                  แนวรับ         แนวต้าน                  19.00         19.70                  18.80         20.80                  ตัดขาดทุน       18.60 บาท                  กำลังไต่ระดับสูงขึ้นตามสัญญาณซื้อ                  ระดับราคากำลังไต่ระดับสูงขึ้นอีกครั้งเมื่อการพักปรับฐานราคาเสร็จสิ้นลงหลังจากมีสัญญาณซื้อของแนวโน้มในระยะกลางและรอ RSI Break แนวต้าน Triple Top ซึ่งจะทำให้ระดับราคาเข้าสู่ภาวะกระทิงดุทันที        KTB                           กลยุทธ์ สั้นๆ รอ Follow Buy เหนือ 19.10 บาท                  แนวรับ            แนวต้าน                  18.80            19.70                  18.60            20.30                  ตัดขาดทุน          18.50 บาท                  19.10 บาท Break ได้เป็นสัญญาณซื้อ                  สั้นๆ ระดับราคากำลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 19.10 บาท และหาก Break ได้จะเป็นสัญญาณซื้อ และจะมีแนวต้านเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ 20.30 บาทเป็นอย่างน้อย        IRPC                           กลยุทธ์ ซื้อเล่นรอบ                  แนวรับ         แนวต้าน                  3.50          3.64                  3.44          3.74                  ตัดขาดทุน       3.42 บาท   Create Date : 11 เมษายน 2557     0 comment Last Update : 11 เมษายน 2557 22:10:22 น.     Counter : 926 Pageviews.   Share Tweet

สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ Q1/57 และเดือนมีนาคม 57 เดือนมีนาคม ตลาดหุ้นไทยเฉลี่ยปิดที่ 1,376.26 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.84% จากเดือนก่อน เหตุนักลงทุน ตปท.เริ่มทยอยกลับมาซื้อสุทธิในตลาด ผลบวกมาจากนักลงทุนคลายสถานการณ์ความกังวลต่อปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และสถานการณ์ความขัดแย้งด้านการเมืองภายในประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากรัฐบาลที่ประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งผลประกอบการ บจ.ไทย ยังมีกำไรเติบโตเป็นที่น่าพอใจ        SET INDEX ในไตรมาสที่ 1/57 ปรับบวก 5.97% จากสิ้นปี 2556 โดยมีปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์สุทธิเฉลี่ยต่อวันที่ 30,814 ล้านบาท ลดลง 10.92% จากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ดี ภาพรวมในตลาดหุ้นไทยในไตรมาสที่ 1/2557 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 628 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ขณะเดียวกัน กลับเข้ามาซื้อสุทธิในเดือนมีนาคมกว่า 440 ล้านเหรียญสหรัฐ จากมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เริ่มผ่อนคลายลง และปัญหาความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองในประเทศที่สร้างความกดดันต่อตลาดทุนเริ่มมีความผ่อนคลายลงอย่างชัดเจนขึ้น        อย่างไรก็ดี ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนที่สูงกว่า MSCI Emerging market index และ MSCI World Index โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2557 ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค ขณะที่ค่า Forward P/E เดือนมีนาคม 2557 ของตลาดหุ้นไทย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 13.12 เท่า แต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเปลี่ยนแปลงตามทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่ของ mai เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 15.87 เท่า        ในส่วนของผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET และ mai ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า โดยอยู่ที่ 3.13% และ 1.83% ตามลําดับ โดยในไตรมาส 1/2557 นักลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET10 เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 42% เดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 35% และเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 32% อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มซื้อขายหลักทรัพย์ขนาดกลาง และเล็กเพิ่มขึ้นเมื่อภาวะตลาดปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดรองอื่นๆ เช่น ธุรกิจขนส่ง ในบริษัทจดทะเบียน mai ก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นด้วย        ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ SET และ mai ในเดือนมีนาคม 2557 ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนในระดับใกล้เคียงกับการปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์โดย SET INDEX อยู่ที่ 12.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.87% ขณะที่ของ mai อยู่ที่ 177,963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.37%        ส่วนบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 จํานวนบัญชีที่มีการซื้อขายอยู่ที่ 203,355 บัญชี คิดเป็น 20.5% ของจํานวนบัญชีทั้งหมด (active rate) ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีอยู่ที่ 2.61 ล้านบาท โดยจำนวนบัญชีที่มีการซื้อขาย active rate และมูลค่าการซื้อขาย เฉลี่ยต่อบัญชีลดลงจากเดือนมกราคม 2557 ขณะที่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 จํานวนบัญชี Internet ที่มีการซื้อขาย (active account) 128,155 บัญชี ลดลง 19% จากเดือนกุมภาพนธ์ 2556 ขณะที่สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายทาง Internet อยู่ที่ 28.4% ของมูลค่าการซื้อขายรวม หรือ 56.7% ของมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนบุคคล ส่วนตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ TFEX มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ 56,415 สัญญา ลดลง 26.85% จากไตรมาสเดียวกันกับปีที่แล้ว   Create Date : 10 เมษายน 2557     0 comment Last Update : 10 เมษายน 2557 22:02:42 น.     Counter : 607 Pageviews.   Share Tweet

หุ้นบวกแค่ 2 จุด ใกล้หยุดสงกรานต์วอลุ่มเทรดหด ใกล้สงกรานต์ วอลุ่มเทรดเริ่มราย หุ้นไทยรีบาวนนด์แค่ 2  จุด โบรกฯ ชี้ปัจจัยการเมืองกลับมากดดันใหม่หลังสงกรานต์ คาดช่วงที่เหลือก่อนหยุดยาวตลาดทรงตัว        ตลาดหุ้นไทย วันนี้ (9 เม.ย.) ปรับตัวในแดนบวกรีบาวนด์ขึ้นจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 1,382.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด  หรือ 0.19% มูลค่าการซื้อขาย 22,190.54 ล้านบาท ภาพรวมดัชนีเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,389.57 จุด  และต่ำสุดที่ระดับ 1,380.55 จุด        ด้านการซื้อขายสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุน ต่างชาติ ซื้อสุทธิ 1,714.31 ล้านบาท ตามด้วยนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 421.00 ล้านบาท ขณะที่สถาบัน ขายสุทธิ 1,549.01 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 586.29 ล้านบาท        นักวิเคราะห์ประเมินว่า  ตลาดหุ้นไทยรีบาวนด์ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นมาของตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวันจากความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่มองว่า หลังช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้วอาจจะกลับมาเป็นปัจจัยกดดันตลาดอีกครั้ง  ทำให้ช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ คาดว่าตลาดจะทรงตัว เพราะไม่มีปัจจัยการเมืองประเด็นใหม่เข้ามาจนกว่าจะผ่านวันหยุดช่วงสงกรานต์  ทำให้ปัจจัยจากต่างประเทศน่าจะมีอิทธิพลในการกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยมากกว่า  และต้องติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจ และนโยบายการเงินต่อจากนี้อย่างไร โดยให้แนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด        หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่        ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,342.82 ล้านบาท ปิดที่ 220.00 บาท ลดลง 1.00 บาท        KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,225.97 ล้านบาท ปิดที่ 184.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท        PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,035.39 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 0.25 บาท        SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,025.57 ล้านบาท ปิดที่ 162.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท        BBL มูลค่าการซื้อขาย 905.38 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท ลดลง 0.50 บาท   Create Date : 09 เมษายน 2557     0 comment Last Update : 9 เมษายน 2557 21:51:10 น.     Counter : 818 Pageviews.   Share Tweet

ปิดตลาดหุ้นไทยลบ 12 จุด โบรกฯ คาดพุร่งนี้ยังแกว่งในกรอบแคบ หุ้นไทยเทรดแผ่วหลังตลาดสหรัฐฯ ร่วง 2 วัน กดดันการซื้อขาย ฟากโบรกฯ แนะเน้นจับตาปัจจัยต่างประเทศมีอิทธิพลเหนือการเมืองไทย        ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวันที่ 8 เมษายน 2557 ปิดที่ 1,379.34 จุด ลดลง 12.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,330.84 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง -0.91% โดยระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุดที่     1,399.07 จุด และต่ำสุดที่ 1,378.97 จุด โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,361.18 ล้านบาท    นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์  ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุการที่ดัชนี วันที่ 8 เม.ย.57 ปรับตัวลงสวนทางกับการซื้อขายภาคเช้าที่เปิดตลาดมาในแดนบวก เพราะปัจจัยลบในต่างประเทศ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งตัวลงต่อเนื่อง 2 วัน  พร้อมคาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 เม.ย.57 ว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,385 จุด และแนวต้าน 1,400 จุด โดยประเด็นสำคัญยังคงเป็นเรื่องการแกว่งตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หากฟื้นตัวจะหนุนให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์ด้วย ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นเรี่องที่จะต้องมาติดตามกันอีกครั้งหลังวันหยุดสงกรานต์ ทั้งเรื่องการพิจารณาคดีโครงการจำนำข้าว ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.  การนัดชุมนุมครั้งใหญ่ของทั้งกลุ่มสนับสนุน และฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ด้านนักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ ดัชนียังคงแกว่งผันผวน โดยโมเมนตัมตลาดช่วงสั้นยังคงเป็นบวก ถ้าดัชนีสามารถยืนเหนือ 1,380 จุดได้ คาดตลาดมีลุ้นฟื้นตัวจากเก็งตัวเลขส่งออกจีน ในวันที่ 10 เม.ย.57 จะออกมาดี หรือหากติดลบก็จะอยู่ในระดับที่น้อยกว่าตลาดซีกโลกตะวันตก เนื่องจากกระแสคาดการณ์เงินทุนไหลกลับ EMs จากโอกาสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป และรัฐบาลจีนในอนาคตอันใกล้        พร้อมแนะนำหากดัชนีไม่หลุด 1,380 จุดลงมา โมเมนตัมการเก็งกำไรเพื่อลุ้นดัชนีทะลุ 1,400 จุด (แนวต้านเทคนิคอยู่ที่ 1,407-1,416 จุด) ยังสามารถทำได้อยู่ โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงแนะนำให้เลือก “เก็งกำไรหุ้น Laggard ที่มีโมเมนตัมบวก” อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ชะลอการเก็งกำไร ถ้าตลาดปรับถอยแรงและหลุด 1,370 จุดลงมา   Create Date : 08 เมษายน 2557     0 comment Last Update : 8 เมษายน 2557 22:09:15 น.     Counter : 739 Pageviews.   Share Tweet

หุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดบวก 0.79 จุด สัปดาห์หน้าลุ้น 1,400 จุด แนะจับตาเม็ดเงินไหลเข้า หุ้นส่งท้ายสัปดาห์ปิดบวก 0.79 จุด ดัชนีแกว่งแคบทิศทางเดียวกับตลาดในภูมิภาค เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายวันทำการก่อนจะหยุดยาวต่อเนื่อง 3 วัน รวมถึงมีเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่วันเสาร์นี้ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายโดยรวมลดลง เชื่อสัปดาห์หน้ายังมีลุ้นแตะ 1,400 จุด เม็ดเงินยังไหลเข้ากลุ่มแบงก์        ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,392.01 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 31,231.01 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดวันนี้ดัชนีแกว่งผันผวนในกรอบแคบ ทิศทางเดียวกับภูมิภาค นักลงทุนชะลอเข้าตลาดฯ กังวลการเมืองช่วงหยุดยาว 3 วัน และลดความเสี่ยงถือหุ้นข้ามสัปดาห์        ด้านสัดส่วนนักลงทุน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 348.21 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 205.8 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 461.13 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ขายสุทธิ 92.88 ล้านบาท        นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบสลับกัน เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำการหลังหยุดยาวต่อเนื่อง 3 วัน รวมถึงมีเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายโดยรวมลดลง ทั้งนี้ กลุ่มที่มีการปรับตัวลง ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยว ขนส่ง และกลุ่มพลังงาน ส่วนกลุ่มที่สามารถประคอง SET INDEX ไว้ยังคงเป็นกลุ่มของธนาคารพาณิชย์        “วันนี้ซึมเล็กน้อย เนื่องด้วยเป็นวันทำการวันสุดท้าย และหยุดอีก 3 วัน และมีเรื่องของเหตุการณ์การชุมนุมก็อาจจะทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลงไป นอกนั้นปัจจัยอื่นๆ ก็ยังไม่มีอะไรใหม่เข้ามา ส่วนตลาดหุ้นเอเชียก็ทรงตัวออกด้านข้างเหมือนกัน มีติดลบบ้างไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย”        แนวโน้มสัปดาห์หน้า นายชัย กล่าวว่า สมมติฐานบนพื้นฐานที่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น เชื่อว่าตลาดฯ น่าจะยังมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในกลุ่มของธนาคารพาณิชย์ และมองว่าหากยังมีเงินทุนไหลเข้ามาซื้อสุทธิอยู่จะเป็นผลต่อจิตวิทยาให้ดัชนีปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,400-1,420 จุด พร้อมให้แนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,400-1,420 จุด หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่        BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,151.26 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท        PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,860.62 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 1.00 บาท        SUTHA มูลค่าการซื้อขาย 1,392.45 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 1.00 บาท        SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,387.31 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท        KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,337.05 ล้านบาท ปิดที่ 184.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00   Create Date : 04 เมษายน 2557     0 comment Last Update : 4 เมษายน 2557 22:36:21 น.     Counter : 653 Pageviews.   Share Tweet